เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1971 เจ้าหอ / ตอนที่ 1972 กำจัดทิ้งแล้ว
ตอนที่ 1971 เจ้าหอ
ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงยืนดูเหตุการณ์อยู่จากจุดที่ค่อนข้างไกลจากหอยาสวรรค์ และยืนดูสี่คนที่ล้อมหอยาสวรรค์เอาไว้
ในสี่คนนั้นมีสองคนที่ดูเหมือนชายวัยกลางคน หนึ่งในนั้นเหมือนเป็นผู้หญิงอายุประมาณสามสิบปีกว่า ส่วนอีกคนก็คือชายชราชุดเทาที่กำลังยืนเอามือไพล่หลังอยู่
ทั้งสี่มีพลังที่ไม่ธรรมดา แรงกดดันรอบกายน่าสะพรึงกลัว พวกเขาสี่คนแยกกันยืนอยู่ที่สี่มุมของหอยาสวรรค์ ป้องกันไม่ให้คนของหอยาสวรรค์หนี เห็นได้ชัดว่าพวกเขาจะต้องนำตัวชายชราที่ได้รับบาดเจ็บไปให้ได้
เพียงแต่ แม้จะล้อมหอยาสวรรค์ไว้แล้ว แม้พลังของพวกเขาจะไม่ธรรมดา แม้รู้ว่าชายชราที่พวกเขาต้องการตัวอยู่ในหอยาสวรรค์ แต่พวกเขากลับยืนอยู่ข้างนอกนี้ ไม่ได้บุกเข้าไปแย่งตัวคน ทว่ารอให้คนของหอยาสวรรค์มอบตัวคนออกมาเอง เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็ไม่อยากเป็นศัตรูกับหอยาสวรรค์เช่นกัน
ยามสี่คนที่ยืนล้อมสี่ทิศเหนือหลังคาหอยาสวรรค์ได้กลิ่นหอมของยาที่กระจายอยู่ในอากาศ นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย ประกายประหลาดใจและตกตะลึงพาดผ่านดวงตา
กลิ่นหอมของยาที่เข้มข้นขนาดนี้ อีกทั้งยังกระจายไปทั่วทั้งเมืองร้อยนที กลิ่นหอมเช่นนี้ไม่ธรรมดา หอยาสวรรค์แห่งนี้มีที่มาที่ไปอย่างไรกัน? และนักเล่นแร่แปรธาตุที่สร้างยาที่มีกลิ่นหอมเช่นนี้ขึ้นมา เป็นใครกัน?
เพราะในใจลึกสงสัย จึงได้เกิดความหวาดกลัวขึ้นมา ขอเพียงอีกฝ่ายยอมมอบตัวคนที่พวกเขาต้องการ เช่นนั้นพวกเขาอาจไม่ต้องเป็นศัตรูกับอีกฝ่ายก็ได้
ด้านในหอยาสวรรค์ ผู้นำตระกูลหยางมองดูเฟิ่งจิ่วกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่สาวเท้าเดินออกมาอย่างแช่มช้า ประกายซับซ้อนพาดผ่านดวงตา ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเขาก็ยังคงอดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหาและเสนอแนะ “พวกคนข้างนอกมีพลังที่ไม่ธรรมดา ข้าขอบังอาจแนะนำพวกท่าน หากไม่ได้มีสัมพันธ์ใดกับชายชราที่ได้รับบาดเจ็บผู้นั้น ก็อย่าหาปัญหาใส่ตัวดีกว่า”
หยางเสี่ยวเอ้อร์ที่อยู่ข้างๆ มีสีหน้ากังวล แต่นางไม่พูดอะไร เพียงมองพวกเขาเงียบๆ
ได้ยินคำแนะนำของผู้นำตระกูลหยาง เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ชายชราผู้นั้นเป็นคนรู้จักของข้าพอดี เรื่องนี้เกรงว่าข้าจะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้” เธอตอบ มองพวกเขาพ่อลูกแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “วันนี้ต้อนรับไม่ทั่วถึง และไม่รู้ว่าอีกเดี๋ยวจะเกิดเรื่องใดขึ้นบ้าง พวกท่านอยู่ในหอกึงไม่ปลอดภัย อย่างไรกลับไปก่อนดีกว่า”
“เช่นนั้น พวกข้าพ่อลูกก็ขอลา” ผู้นำตระกูลหยางประสานมือเอ่ย ลากลูกสาวกลับไป เพราะอย่างไรเขาก็รู้ดี หากสองฝ่ายสู้กันขึ้นมาจริงๆ พวกเขาอยู่ที่นี่ไม่ปลอดภัยจริงๆ หากถูกเข้าใจว่าเป็นคนของหอยาสวรรค์ เช่นนั้นก็คงยุ่งยากแล้ว
“อ๊ะ พี่หญิงเฟิ่ง…พี่เหลิ่งหวา พวกท่านต้องระวังตัวด้วยนะ!” หยางเสี่ยวเอ้อร์ตะโกน ก่อนจะถูกพ่อของนางลากออกไป
ในขณะที่ฝูงชนรอบข้างกำลังมุงดูอยู่ และสี่คนนั้นเพ่งมองไปที่หอยาสวรรค์ ก็เห็นพ่อลูกตระกูลหยางสาวเดินออกมาจากข้างในเร็วๆ จากนั้นก็ไปยืนดูอยู่ห่างๆ เหมือนคนอื่น
ไม่นาน มีคนสองคนเดินออกมาจากประตูหอยาสวรรค์ สองคนนี้ก็คือเหลิ่งหวากับตู้ฝานซึ่งเป็นผู้ดูแลของที่นี่ หลังจากนั้น เงาร่างหนึ่งดำหนึ่งแดงก็เดินเคียงไหล่ออกมาจากข้างใน ยืนอยู่หน้าหอยาสวรรค์ แหงนหน้ามองสี่คนนั้น
“ข้าก็คือเจ้าของหอยาสวรรค์ ทั้งสี่ท่านมาตามหาใครหรือ?”
เฟิ่งจิ่วยืนอยู่ข้างกายเซวียนหยวนโม่เจ๋อ น้ำเสียงเย็นใสแฝงแววเกียจคร้าน เธอมองชายชราชุดเทาที่อยู่ข้างหน้า เพียงตวัดมองแวบเดียว ก็ดูออกแล้วว่าอีกฝ่ายเป็นปราชญ์เซียนขั้นสูงสุด ส่วนอีกสามคน สองคนเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขั้นสูงสุด ส่วนอีกคนเป็นปราชญ์เซียนขั้นกลาง
“นี่หรือเจ้าของหอยาสวรรค์เป็นผู้หญิงจริงๆ ด้วยหรือนี่!”
………………………………….
ตอนที่ 1972 กำจัดทิ้งแล้ว
ฝูงชนจ้องมองหญิงชุดแดงที่กำลังพูดอยู่ ต่างอดร้องด้วยความตะลึงไม่ได้ ชั่วขณะหนึ่ง สายตาทั้งหมดจับจ้องไปที่เงาร่างสีแดงสะดุดตา
นั่นเป็นหญิงสาวที่นับเป็นโฉมสะคราญนางหนึ่ง หน้าตางดงามล่มเมือง รูปร่างหน้าตาเช่นนั้นไม่ว่าผู้ใดเห็นล้วนต้องตกตะลึงนึกว่าเป็นเทพธิดา ยิ่งไม่ต้องพูดถึงบุคลิกที่โดดเด่นเป็นเอกลักษณ์นั่น
ในโลกผู้ฝึกเซียน ผู้หญิงหน้าตางดงามไม่น้อย สำหรับพวกเขาที่เห็นหญิงงามจนชินนั้นเรียกว่ามีภูมิคุ้มกันนานแล้ว แต่ยามเห็นหญิงสาวนางนี้ พวกเขาก็ยังอดตะลึงตาค้างไม่ได้ ยิ่งอดไม่ได้ที่จะลอบอุทาน ช่างเป็นโฉมสะคราญล้ำยุคจริงๆ
ชุดสีแดงสะดุดตาขับเน้นให้ดวงหน้าที่งดงามของนางยิ่งดูน่าดึงดูด เรือนร่างอรชรนั่น อิริยาบถที่ดูผ่อนคลายเกียจคร้านยามเคลื่อนไหวนั่น เสน่ห์ชวนหลงใหลในดวงตานั่น รวมถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จางๆ ที่ประดับไว้บนกลีบปาก สิ่งเหล่านั้นล้วนส่องประกายเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ ชวนให้ใจสั่นและกลั้นหายใจอย่างอดไม่ได้
นี่เป็นหญิงสาวที่งดงามมากนางหนึ่ง เป็นหญิงงามที่มีเสน่ห์ดึงดูดในทุกท่วงท่า และอิริยาบถ…
ทว่า หญิงที่งามล่มเมืองขนาดนี้ กลับมีแววเย่อหยิ่งและทะนงตนปรากฏอยู่ตรงกลางหว่างคิ้ว ความมั่นใจที่สะท้อนออกมาจากข้างในอย่างนั้น ยิ่งทำให้นางดูต่างจากคนอื่น
ผู้หญิงอย่างนี้น่ะหรือ ที่เป็นเจ้าของหอยาสวรรค์ ยาเหล่านั้น ล้วนมาจากฝีมือของนาง?
นึกมาถึงตรงนี้ นอกจากตกตะลึงแล้ว ทุกคนยังรู้สึกว่าเหลือเชื่อด้วย เดิมพวกเขานึกว่านักเล่นแร่แปรธาตุที่หลอยาเหล่านั้นขึ้นมา จะต้องเป็นชายชราผมหงอกขาวแน่นอน กลับนึกไม่ถึง ว่าจะเป็นโฉมงามทรงเสน่ห์เช่นนี้
ไม่เพียงแต่ฝูงชนรอบด้านตกตะลึง และรู้สึกเหลือเชื่อ แม้แต่สี่คนที่ล้อมหอยาสวรรค์ไว้ครั้นเห็นหญิงงามในชุดแดง ต่างก็ตกตะลึงไปตามๆ กัน
ผู้หญิงคนนี้กลับดูงามเพริศพริ้งและเย็นชาได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งบุคลิกที่เป็นเอกลักษณ์เช่นนั้น แม้แต่พวกเขาที่เคยพบเห็นผู้คนมามากมายก็ยังไม่เคยเจอมาก่อน
ส่วนเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่ยืนอยู่ข้างเฟิ่งจิ่วกลับสวมหน้ากากสีเงิน เขาไม่ได้เผยใบหน้าให้เห็น แต่รังสีอันแข็งแกร่งรอบกายเขากลับยังคงทำให้สี่คนนั้นยำเกรงได้ เพราะพวกเขาสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันตรายรางๆ
หากหญิงชุดแดงสะดุดตาคนนั้นทำให้พวกเขาหวาดระแวง เช่นนั้นชายชุดดำที่สวมหน้ากากก็ทำให้พวกเขาหวาดกลัว ชายคนนั้นยืนอยู่ข้างหญิงชุดแดง แม้จะไม่ได้เผยกลิ่นอาย แต่พวกเขาก็ยังคงสัมผัสได้ถึงอันตราย อันตรายมาก
อีกสามคนหันมองชายชราชุดเทา รอให้เขาตัดสินใจ
ชายชราชุดเทาเห็นอย่างนั้นก็ตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “เมื่อครู่มีคนผู้หนึ่งบุกเข้าไปในหอยาสวรรค์ของท่าน หวังว่าท่านเจ้าหอจะส่งคืนคนผู้นั้นให้กับพวกเรา”
“อ้อ? คนเมื่อครู่น่ะหรือ?” เฟิ่งจิ่วม้วนปอยผมที่ร่วงลงมาด้านหน้าเล่น ยิ้มๆ “คนผู้นั้นถูกพิษร้ายแรง อวัยวะภายในเสียหายหนัก ไม่มีทางรอดได้แล้วไม่ใช่หรือ?”
“นายของเรามีคำสั่ง หากมีชีวิตอยู่ก็ต้องได้เห็นคน หากตายไปแล้วก็ต้องได้เห็นศพ! อย่างไรท่านเจ้าหอก็คืนคนให้พวกเราเสียดีกว่า” ชายชราชุดเทาเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ ขมวดคิ้วมุ่น
หากไม่ใช่ว่าเกรงกลัวพวกเขา มีหรือจะมัวเสียเวลาพูดมากอยู่อย่างนี้? หากเป็นคนอื่น พวกเขาคงใช้กำลังไปนานแล้ว
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ยิ้ม “อย่างนั้นก็ช่างไม่บังเอิญเสียเลย คนผู้นั้นทำลายการเปิดกิจการของหอยาสวรรค์ของพวกเรา จึงถูกลูกน้องของข้ากำจัดไปแล้ว ถึงพวกท่านจะอยากเห็นศพ ก็เกรงว่าจะไม่สามารถเห็นได้แล้ว”
………………………………….