เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 1981 ไม่อยู่ในหอ / ตอนที่ 1982 ไม่มีราคา
ตอนที่ 1981 ไม่อยู่ในหอ
ทั้งสามออกทางประตูหลัง มุ่งหน้าไปกินข้าวที่หอสุรา ส่วนคนในหอยาสวรรค์ต่างกำลังยุ่งอยู่ ทุกอย่างล้วนดำเนินไปอย่างมีระบบระเบียบ…
ทว่าหลังจากที่พวกเขาออกไป เซียนจื๋อสุ่ยก็มาถึงหอยาสวรรค์ เขาได้กลิ่นหอมของยาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว จึงออกตามหาจนมาถึงที่นี่ เมื่อกี้ตอนที่เฟิ่งจิ่วประมือกับชายชราที่เป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินขั้นสูงสุด เขาก็ยืนมองอยู่ในมุมที่อยู่ไม่ไกลนัก
เพราะเห็นกับตาจึงเชื่อ ว่าผู้หญิงที่อายุน้อยขนาดนั้น กลับมีระดับวรยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ แต่จะว่าไปแล้ว คนที่เซวียนหยวนโม่เจ๋อต้องตาต้องใจ จะเป็นผู้หญิงธรรมดาได้อย่างไรกันเล่า!
หลังจากเดินเข้ามาในหอยาสวรรค์ และเห็นยาที่จัดวางอยู่ข้างในนี้ก็ตกตะลึง นึกไม่ถึงจริงๆ ยาในนี้ล้วนเป็นของชั้นยอด ยาเม็ดและยาน้ำเหล่านี้ ล้วนเป็นของล้ำค่าที่สามารถช่วยชีวิตได้ในยามคับขันทั้งสิ้น
เซียนจื๋อสุ่ยในชุดสีเทาเก็บซ่อนระดับวรยุทธ์ยามเดินอยู่ข้างใน ดูไปเหมือนคนธรรมดาทั่วไป เพียงแต่ สิ่งที่ต่างจากชายชราทั่วไปก็คือเส้นผมของเขาหงอกขาว ดูแล้วเหมือนมีกลิ่นอายของเซียน
หลังจากที่เขาเดินดูที่ชั้นหนึ่ง ก็เดินไปลงทะเบียนและขึ้นไปเดินดูที่ชั้นสอง หลังจากที่เซียนจื๋อสุ่ยขึ้นไปที่ชั้นสอง เหลิ่งหวากับตู้ฝานอ่านประวัติของเขาบนสมุดลงทะเบียน ก่อนจะตกตะลึง
“เซียนจื๋อสุ่ย? นี่อาจารย์ของเจ้าตำหนักยมราชไม่ใช่หรือ?”
ทั้งสองคุยกันเสียงเบา พวกเขารู้จักเซียนจื๋อสุ่ยผู้นี้ เขาอาศัยอยู่ในจวนหลิงซึ่งอยู่ข้างจวนเฟิ่ง เป็นอาจารย์ของเจ้าตำหนักยมราช และครั้งนี้ที่เจ้าตำหนักจะออกเดินทาง ก็เป็นเพราะอาจารย์ของเขาต้องการให้เขาติดตามไปด้วย นายท่านเคยพบเซียนจื๋อสุ่ยแล้ว แต่พวกเขายังไม่เคยพบ จึงทำให้รู้ว่าเซียนจื๋อสุ่ยก็คือคนเมื่อกี้
“ฮุยหลางติดตามอยู่ตลอดไม่ใช่หรือ? หากเป็นเขา ฮุยหลางก็น่าจะอยู่แถวๆ นี้” เหลิ่งหวาเอ่ย กวาดตามองรอบๆ ก็เห็นเงาร่างอันคุ้ยเคยนั่งพักอยู่ที่มุมห้อง
ทั้งสองสาวเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าเขา เหลิ่งหวาขานเรียก “ฮุยหลาง เจ้ามาทำอะไรตรงนี้?”
“ข้ามากับเซียนจื๋อสุ่ย เขาเดินดูอยู่ข้างในนี้ ข้าจึงนั่งพักตรงนี้” ฮุยหลางตอบอย่างเหนื่อยอ่อน “ติดตามเซียนจื๋อสุ่ยน่าเบื่อมาก เหตุใดงานนี้จึงมาตกอยู่ที่ข้ากันนะ!”
ได้ยินอย่างนั้น ตู้ฝานกับเหลิ่งหวามองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนถามขึ้นพร้อมกัน “เจ้าหมายความว่าชายชราชุดเทาผู้นั้นก็คือเซียนจื๋อสุ่ย? คนที่ผมหงอกขาวนั่นน่ะหรือ?”
“ใช่น่ะสิ! ทำไมรึ?” ฮุยหลางถาม ลุกขึ้นถามเสียงเบา “หรือว่าเขาหาเรื่องพวกเจ้า?”
ทั้งสองทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ก็ไม่เชิงหัวเราะก็ไม่เชิง ตู้ฝานยิ้ม “จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? เมื่อกี้พวกข้าเห็นเขาขึ้นไป หากเป็นเขาจริง พวกข้าจะได้ต้อนรับเป็นพิเศษ!” ถึงอย่างไรก็เป็นอาจารย์ของเจ้าตำหนัก ย่อมไม่อาจปฏิบัติเสมือนกับคนทั่วไปได้
“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ข้าขึ้นไปดูสักหน่อย” เหลิ่งหวาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล ก่อนจะหันตัวเดินขึ้นไปที่ชั้นสอง
เห็นอย่างนั้น ฮุยหลางขยับเข้าใกล้ตู้ฝาน “ตู้ฝาน ภูตหมอกับนายท่านของข้าอยู่บนชั้นใต้หลังคาใช่หรือไม่? ข้าขึ้นไปได้รึไม่?” เมื่อกี้เขานั่งดูอยู่ตรงมุมกับเซียนจื๋อสุ่ย จึงได้เห็นเหตุการณ์ที่ภูตหมอลงมือด้วย หากไม่ใช่เพราะต้องคอยติดตามเซียนจื๋อสุ่ย เขาคงออกไปสมทบกับพวกเขาด้วยแล้ว
“เจ้าไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาไม่อยู่ในหอแล้ว” ตู้ฝานยิ้มตอบ ตบไหล่เขา “นายท่านของเจ้าสั่งให้เจ้าทำอะไร เจ้าก็ทำตามเสียดีๆ เถิด” สิ้นเสียง เขาก็หมุนตัวเดินไป
ฮุยหลางถอนหายใจ หยุดครุ่นคิดครู่หนึ่ง จากนั้นก็เดินขึ้นไปที่ชั้นสอง…
………………………………….
ตอนที่ 1982 ไม่มีราคา
วันนี้ที่หอยาสวรรค์เปิดกิจการ เมืองร้อยนทีแตกตื่นไปทั้งเมือง แทบจะเรียกได้ว่าภายในชั่วข้ามคืน ตลาดตะวันตกที่ตอนแรกไม่มีใครเฉียดผ่านมาเลยกลับกลายเป็นสถานที่ที่คึกคักมากที่สุด ร้านรวงสองแถวข้างทางเหล่านั้นก็ถูกแย่งกันจับจอง บนถนนใหญ่และตามตรอกซอกซอย มีแผงลอยมาวางขายมากมาย แม้แต่กำแพงตรงหัวมุมถนนที่เคยปิดกั้นถนนสายนี้ไว้ ก็ถูกทุบทิ้งเพื่อให้คนสามารถสัญจรผ่านได้ เรียกได้ว่า หอยาสวรรค์ได้เปลี่ยนตลาดตะวันตกที่เคยเงียบร้างแห่งนี้ ให้กลายเป็นพื้นที่คึกคัก
เฟิ่งจิ่วกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อรวมถึงโม่เฉินที่มากินข้าวในหอสุราเสร็จก็มาชมทิวทัศน์ทะเลสาบสีเขียว ที่นั่นไม่เพียงสามารถนั่งเรือชมทะเลสาบ แต่ยังนั่งลิ้มรสชาและดีดพิณใต้ป่าไผ่ เรียกได้ว่าเป็นสถานที่ที่เงียบสงบผ่อนคลายที่หนึ่งเลยทีเดียว
ทั้งสามนั่งลิ้มรสชาและพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ริมทะเลสาบ กระทั่งท้องฟ้าเริ่มมืด โม่เฉินจึงค่อยลุกขึ้นกล่าวลา ส่วนเซวียนหยวนโม่เจ๋อกับเฟิ่งจิ่วก็กลับไปที่หอยาสวรรค์
“นายท่าน ชายชราผู้นั้นฟื้นแล้วขอรับ” ทันทีที่เข้าไปในหอยาสวรรค์ เหลิ่งหวาก็มารายงาน
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า หันมองเซวียนหยวนโม่เจ๋อ “ท่านขึ้นไปพักผ่อนรอข้าบนชั้นใต้หลังคาดีหรือไม่?”
“อืม” เซวียนหยวนโม่เจ๋อพยักหน้า ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นใต้หลังคา
เฟิ่งจิ่วพาเหลิ่งหวาไปที่เรือนรับรองด้านหลัง ครั้นเข้าไปในห้อง ฟั่นหลินกำลังดูแลอยู่ข้างใน เห็นเธอเข้ามาจึงลุกขึ้น “นายท่าน เขาฟื้นแล้วขอรับ”
“ได้ป้อนยาให้เขาดื่มหรือไม่?” เฟิ่งจิ่วถาม พลางเดินมาหยุดข้างเตียง มองดูชายชราบนเตียงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมามองเธอ
“ท่านปู่ถาน” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยีจ้องชายชรา เห็นแววตาประหลาดใจและตกตะลึงของเขาอย่างชัดเจน “นึกไม่ถึงว่าพวกเราจะพบกันอีกแล้ว”
“เป็นเจ้า?” เห็นได้ชัดว่าชายชราจำเธอได้ เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าเด็กหนุ่มในตอนนั้น เหตุใดจึงได้กลายเป็นหญิงสาวไปแล้ว? หมายความว่าเธอปลอมตัวเป็นผู้ชายงั้นหรือ?
“ข้าเอง เฟิ่งจิ่ว”
เธอยิ้มตอบ นั่งเก้าอี้ข้างเตียงมองเขา “ท่านรู้สึกอย่างไรบ้าง? ดีขึ้นไหม?” ขณะถาม เธอยื่นมือไปตรวจชีพจรของเขาอย่างเป็นธรรมชาติ เพื่อตรวจอาการข้างในร่างกายของเขา
“ที่แท้ก็เป็นเจ้าที่ช่วยข้าไว้” เขาพึมพำ ในที่สุดก็รู้แล้วว่าเหตุใดเขาที่ควรตายไปแล้ว เหตุใดจึงยังมีชีวิตอยู่ ที่แท้นางก็ช่วยเขาไว้ เพียงแต่ หากนางช่วยเขา แล้วพวกคนที่ไล่ล่าเขาก็ต้อง…
“ไม่ได้ ข้าอยู่ที่นี่ไม่ได้” เขาพยายามลุกขึ้น แต่กลับถูกเฟิ่งจิ่วกดไว้
“ท่านไม่ต้องห่วง อยู่ที่นี่ท่านจะปลอดภัย คนพวกนั้นทำร้ายท่านไม่ได้หรอก” เฟิ่งจิ่วบอกเขา พลางเอ่ยว่า “ข้าอุตส่าห์ลงทุนไปมากมายกว่าจะช่วยชีวิตท่านไว้ได้ ตอนนี้อาการบาดเจ็บของท่านยังไม่หายดี ยังลงจากเตียงไม่ได้”
“แต่ว่า…”
“วางใจเถิด! อยู่ต่อได้ไม่เป็นไร” เธอยิ้มๆ ก่อนจะหันไปกำชับฟั่นหลินที่อยู่ข้างๆ “ได้ให้ท่านปู่ถานดื่มยาน้ำแล้วหรือไม่?”
“ยังขอรับ” ฟั่นหลินตอบ ก่อนจะหยิบยาน้ำขวดนั้นยื่นให้เธอ พลางประคองชายชราขึ้นมาให้เขานั่งพิงหัวเตียง
เฟิ่งจิ่วบิดเปิดฝาขวด ก่อนจะยื่นไปข้างหน้า “ท่านปู่ถาน ดื่มสิ่งนี้เถิด! ดีต่อร่างกายของท่าน”
ผู้อาวุโสถานมองดูยาน้ำที่มีสีใสสะอาดอย่างตกตะลึง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธ “ของอย่างนี้มีค่าเกินไป ข้ารับไว้ไม่ได้” แค่เห็นก็รู้แล้วว่ายาขวดนี้ราคาต้องไม่ธรรมดาแน่นอน เขาจะดื่มของอย่างนี้ลงไปได้อย่างไรกัน! ของที่มีค่าขนาดนี้ ไม่รู้ว่านางได้มาอย่างยากลำบากขนาดไหน จะให้มาสิ้นเปลืองกับเขาได้อย่างไรกัน
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “สิ่งนี้ข้ากลั่นขึ้นมาเอง ไม่มีราคา”
………………………………….