เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2015 เจ้าสมควรได้รับ ตอนที่ 2016 ได้มาจากที่ใด
ตอนที่ 2015 เจ้าสมควรได้รับ ตอนที่ 2016 ได้มาจากที่ใด
ตอนที่ 2015 เจ้าสมควรได้รับ
“อาเฟิง เจ้ามานี่ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่? เจ้าอธิบายให้พวกข้าฟังที” คุณชายรองไฉได้สติ ข่มความตะลึงในใจแล้วหันไปตะโกนเรียกไฉเฟิง
เวลานี้ แม้แต่พวกฝานอี้ซิวก็หันไปจับจ้องชายหนุ่มที่รูปร่างหน้าตาไม่มีอะไรโดดเด่นผู้นี้เป็นตาเดียว นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเขาที่พลิกสถานการณ์กลับมา และช่วยชีวิตทุกคนไว้ได้
“อาเฟิง เจ้าทำข้าตกใจแทบตาย ข้านึกว่าเจ้าตกใจกลัวจนเป็นบ้าไปแล้วจริงๆ นึกไม่ถึงว่าที่แท้ก็เป็นแค่แผนการของเจ้า! เจ้าคิดวิธีนี้ออกได้อย่างไร? เจ้ามียาที่ยอดเยี่ยมเช่นนั้นได้อย่างไรกัน? คนพวกนั้นล้วนเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหิน นึกไม่ถึงกลับทำให้พวกนั้นหมดแรงขัดขืนได้อย่างนั้น”
“พี่อาเฟิง ท่านสุดยอดไปเลย!”
“พี่อาเฟิง โชคดีที่มีท่าน ไม่อย่างนั้นพวกเราแย่แน่”
เสียงร้องด้วยความตื่นเต้นดีใจของทุกคนดังขึ้น ดึงสติของไฉเฟิงกลับมา เขาหันไปมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองท่านลุงสองของเขา “ท่านลุงสอง แผนการนี้ข้าไม่ได้เป็นคนคิด ยาก็ไม่ใช่ของข้า คนที่ช่วยทุกคนไม่ใช่ข้า แต่เป็นเสี่ยวจิ่ว”
ไฉเฟิงชี้ไปที่เด็กหนุ่มซึ่งกำลังยืนเช็ดดาบสั้นอยู่ตรงนั้น “เป็นแผนการของเสี่ยวจิ่ว เสี่ยวจิ่งเอายาห่อนั้นให้ข้า หากไม่ใช่เขา ข้าว่าพวกเราคงไม่รอดแล้ว”
“เป็นเสี่ยวจิ่ว?”
ทุกคนต่างพากันหันไปจ้องเด็กหนุ่มที่มีใบหน้าสงบและรอยยิ้มใสซื่อ เด็กหนุ่มที่ดูไม่มีอะไรโดดเด่นเลยอย่างนั้น เหตุใดจึง…
ครั้นเห็นทุกคนหันมองมาที่เธอ เฟิ่งจิ่วที่กำลังยืนเช็ดดาบสั้นส่งยิ้มใสซื่อให้พวกเขา ก่อนจะก้มหน้าเช็ดดาบสั้นของเธอต่อ
“ขอรับ เป็นเสี่ยวจิ่ว เขาเป็นคนให้ยา แล้วก็เป็นคนวางแผนด้วยขอรับ” ไฉเฟิงยืนยันอีกครั้ง เขามองท่านลุงสองของเขา เอ่ยว่า “เสี่ยวจิ่วบอกว่า เขาช่วยทุกคนผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้ไปได้ แต่ของบนตัวทหารรับจ้างพวกนั้นต้องเป็นของเขาทั้งหมด”
ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนก็ตะลึงอีกครั้ง แต่ละคนหันไปจ้องเด็กหนุ่มชุดเขียว ของทุกอย่างเป็นของเขา? อย่างนั้นก็ไม่มีส่วนของพวกเขางั้นหรือ?
แต่ทว่าหากคิดดูให้ดี หากไม่ใช่เขาช่วยคิดแผนการและเอายาห่อนั้นออกมา บางที ตอนนี้พวกเขาอาจไม่เหลือแม้กระทั่งชีวิตแล้วก็ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงของอย่างพวกทรัพย์สมบัติเลย คิดดูแล้ว เขายื่นข้อเสนอนี้มาก็ถือว่าเหมาะสมแล้ว อย่างน้อย เขาก็แค่ยื่นข้อเสนอว่าจะเอาของของพวกทหารรับจ้าง ไม่ได้อยากได้ของของพวกเขา
พวกเขารอดชีวิตมาได้เพราะเขา แม้จะรู้ว่ากลุ่มทหารรับจ้างแมงป่องมีทรัพย์สินมหาศาล แต่พวกเขาก็ไม่คิดโลภ เพราะอย่างไรอีกฝ่ายยังอายุน้อยแต่กลับมากแผนการเช่นนี้ หนำซ้ำยังมียาที่ยอดเยี่ยมอย่างนั้นติดตัวอีกด้วย คนเช่นนี้ พวกเขาทำได้เพียงผูกมิตร ไม่อาจตั้งตนเป็นศัตรูด้วยได้
“สหายฝาน พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร?” คุณชายรองไฉหันไปถามพวกฝานอี้ซิว
“พวกเราไม่คัดค้าน” ฝานอี้ซิวตอบ หันไปมองเด็กหนุ่มชุดเขียว “หากไม่ใช่เสี่ยวจิ่ว พวกเราก็คงไม่รอด ทรัพย์สินพวกนี้ พวกเราย่อมไม่คิดโลภอยากได้ เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เสี่ยวจิ่วควรได้รับ”
คุณชายรองไฉพยักหน้า “ข้าก็คิดเช่นนี้เหมือนกัน” เขาเอ่ย ก่อนจะสั่งให้คนไปเก็บรวบรวมถุงฟ้าดินและแหวนห้วงมิติ รวมถึงดาบและกระบี่ที่คนเหล่านั้นกำไว้ในมือมากองรวมกันเป็นสองกองเล็กๆ
“เสี่ยวจิ่ว ขอบคุณเจ้ามากที่คิดแผนช่วยชีวิตพวกข้า เหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่เจ้าสมควรได้รับ” คุณชายรองไฉเอ่ย จากนั้นก็ทำท่าผายมือ ให้เขาไปเก็บทรัพย์สมบัติทั้งหมด
เฟิ่งจิ่วมองทุกคนแวบหนึ่ง ก่อนจะเผยยิ้ม สาวเดินไปอย่างช้าๆ
………………………………….
ตอนที่ 2016 ได้มาจากที่ใด
เธอเก็บแหวนห้วงมิติและถึงฟ้าดินรวมถึงป้ายหยกห้อยเอวของทหารรับจ้างพวกนั้น ส่วนอาวุธเหล่านั้น กลับหันไปเอ่ยกับหัวหน้าตระกูลไฉว่า “อาวุธมอบให้ข้าก็ไม่มีประโยชน์ ของพวกนี้ให้ทุกคนเก็บไว้เถิด! บางทีอาจได้ใช้ประโยชน์ก็ได้”
“ได้อย่างไรกัน ของพวกนี้ล้วนเป็นของเจ้า…” คุณชายรองไฉพูดยังไม่ทันจบ ก็ถูกเฟิ่งจิ่วตัดบทก่อน
“ข้าเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ อีกอย่างข้าคนเดียวใช้ไม่เยอะถึงเพียงนี้” เธอยิ้มๆ หันไปมองไฉเฟิง ก่อนยื่นแหวนห้วงมิติให้เขาวงหนึ่ง “พี่ไฉ อันนี้ให้ท่าน”
“ไม่ได้ๆ ข้าจะรับไว้ได้อย่างไรกัน พวกเรารอดมาได้ก็ไม่ง่ายแล้ว ของพวกนี้เจ้าเก็บไว้เถิด! ข้ารับไว้ไม่ได้” ไฉเฟิงโบกมือ พลางถอยหลัง ไม่ยอมรับไว้ แม้เฟิ่งจิ่วจะคะยั้นคะยอให้เขารับไว้ เขาก็ยังคงยืนยันจะไม่รับ
สุดท้าย เฟิ่งจิ่วจึงได้แต่เก็บไว้ด้วยความเอือมระอา “อย่างนั้นก็ได้! หากไม่เอาข้าก็จะเก็บไว้เอง กลับถึงในเมืองเมื่อใดจะหาที่ขายแล้วแลกเป็นเงินเสีย” เธอยิ้มตาหยี
คุณชายรองไฉสั่งให้ทุกคนเลือกอาวุธทหารเหล่านั้นคนละชิ้น ยามเห็นศพและกลิ่นคาวเลือดที่กระจายเต็มพื้นนั้น เขาหันไปสั่งทุกคน “ที่นี่รั้งอยู่นานไม่ได้ พวกเราต้องรีบไป หาที่สะอาดแล้วค่อยพักผ่อน”
“ขอรับ” ด้วยเหตุนี้ ทุกคนจึงรีบออกเดินทางต่อ หลังออกจากที่แห่งนี้ซึ่งเต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือด พวกเขาก็หาที่ที่ไม่มีกลิ่นคาวเลือดเพื่อนั่งพัก
“เสี่ยวจิ่ว เจ้ามียาอย่างนั้นอยู่อีกหรือไม่?” คุณชายรองไฉถาม คิดในใจว่านั่นเป็นยาอะไรกัน? สามารถทำให้ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินถูกเล่นงานได้ด้วย เกรงว่าจะไม่ใช่คนธรรมดากลั่นขึ้นมา
“ไม่มีแล้ว” เธอยักไหล่ตอบ
“อย่างนั้นเจ้าได้ยานั่นมาจากที่ใด?” คุณชายรองไฉถามอีกครั้ง คิดว่าหากรู้ว่าซื้อมาจากที่ใด วันหลังกลับไปพวกเขาก็จะได้ไปซื้อพกไว้ป้องกันตัวบ้าง
“หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที” เฟิ่งจิ่วยิ้มตอบ
“หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที?” คุณชายรองไฉมองเขาด้วยสายตาประหลาดใจ ก่อนหันไปมองคนในตระกูลไฉที่อยู่ข้างๆ จากนั้นก็บอกเฟิ่งจิ่วว่า “หอยาสวรรค์นี้พวกข้าไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน”
พวกฝานอี้ซิวที่นั่งอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร แต่กลับครุ่นคิดอยู่เงียบๆ ในหมู่พวกเขาฝานอี้ซิวรู้สึกประหลาดใจที่สุด
เขามองเฟิ่งจิ่ว ถามว่า “เมืองร้อยนทีหรือ? แต่ก่อนข้าไม่เคยได้ยินว่าเมืองร้อยนทีมีที่ใดชื่อหอยาสวรรค์อยู่ด้วย!”
หญิงสาวที่อยู่ข้างๆ เอ่ยต่อ “บ้านของศิษย์พี่ใหญ่อยู่ที่เมืองร้อยนที”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก บ้านของฝานอี้ซิวอยู่ที่เมืองร้อยนที? คนแซ่ฝานในเมืองร้อยนทีดูเหมือนมีไม่มาก เงาของคนผู้หนึ่งผุดขึ้นมาในสมอง เพียงแต่ไม่นานก็จางหายไป
“หอยาสวรรค์เพิ่งเปิดได้ไม่นาน ขายจำพวกยาน้ำ ยาเม็ด ยาผงและยาที่ใช้กันทั่วไป ก็เหมือนกับยาที่ข้าเอาออกมาใช้วันนี้ เป็นของดีชั้นเยี่ยม เพียงแต่ราคาก็แพงมาก หนำซ้ำไม่ใช่ว่ามีเงินอย่างเดียวแล้วจะซื้อได้”
“อ้อ? เงินซื้อไม่ได้? แล้วต้องทำเช่นไร?” คนข้างๆ ถาม พลางมองเฟิ่งจิ่วด้วยความประหลาดใจ
“ยาสมุนไพร และต้องเป็นสมุนไพรที่มีอายุหลายร้อยปีด้วย พวกเขารับสมุนไพรที่มีอายุอย่างน้อยห้าร้อยปีขึ้นไป ตอนนี้ชื่อเสียงของหอยาสวรรค์กระจายไปทั่วแล้ว มีคนไปขอซื้อยาหลังได้ยินชื่อเสียง ข้าเองก็บังเอิญโชคดีได้ยาห่อนี้มาพอดีเหมือนกัน”
“ที่แท้ก็อย่างนี้เอง” ทุกคนกระจ่างในที่สุด ในใจนึกฉงนฉงายต่อหอยาสวรรค์แห่งนี้นัก คิดในใจว่าออกจากป่าภูเขาไฟไปเมื่อใดจะต้องหาโอกาสไปดูให้ได้
………………………………….