เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2061 ไร้ต้นไม้ใบหญ้า / ตอนที่ 2062 โชคดีผิดธรรมชาติ
ตอนที่ 2061 ไร้ต้นไม้ใบหญ้า
“อ้อ?” ยังมีทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งกว่าหัวหน้ากลุ่มคนนั้นอีกหรือ?” ตาเฒ่าถามด้วยความสนใจ
“อืม ทหารรับจ้างคนหนึ่งในนั้นเป็นผู้ฝึกพลังเร้นลับ ระดับวรยุทธ์สูงมาก เขาสังหารหัวหน้าของอีกฝ่ายในดาบเดียว” จัวจวินอธิบาย นึกในใจว่าแม้เขาไม่ได้เห็นดาบนั้นกับตาตนเอง แต่ดูจากสถานการณ์แล้วต้องเป็นอย่างนั้นแน่นอน
ได้ยินอย่างั้น ตาเฒ่าลูบหนวดตนเอง เหลือบมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง “มีผู้แข็งแกร่งอยู่ทางนั้นจริงๆ ด้วย หนำซ้ำคนที่มีพลังแข็งแกร่งยังชอบซ่อนตัวเสียด้วย”
เฟิ่งจิ่วทำราวกับมองไม่เห็นตาเฒ่า เธอตบหัวเจ้ากลืนเมฆา เจ้ากลืนเมฆาลุกขึ้นยืน สาวเท้าก้าวไปข้างหน้า
ตาเฒ่าเห็นก็กระโดดขึ้นขี่หลังสัตว์พาหนะตาม จากนั้นทั้งสามก็เดินทอดน่องเข้าไปในป่า
สองวันต่อมา
ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้บริเวณภูเขาไฟมากขึ้น ไม่เพียงต้นไม้รอบๆ เริ่มบางตาลง แม้แต่อุณหภูมิในอากาศก็ยิ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ
เพราะอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ เจ้ากลืนเมฆาจึงเริ่มเดินอย่างเหนื่อยหอบ เฟิ่งจิ่วเก็บมันเข้าไปในห้วงมิติ และเดินด้วยตนเอง ตาเฒ่าเองก็เก็บสัตว์คู่พันธสัญญาเข้าห้วงมิติเช่นกัน ทั้งสามสาวเดินช้าๆ
“บริเวณนี้ร้อนขนาดนี้เลยหรือ?” เฟิ่งจิ่วถาม แม้แต่ยามเดินก็ยังสัมผัสได้ถึงความร้อนบนพื้นดินได้รางๆ ภายใต้อากาศอันร้อนอบอ้าวเช่นนี้ เหงื่อของเธอไหลเป็นสาย ตลอดทางดื่มน้ำไปไม่น้อย
“ที่นี่เข้าใกล้ปากปล่องภูเขาไฟแล้ว ตอนนี้ยังมีต้นไม้อยู่บ้าง หากเดินไปข้างหน้าอีกนิด ก็จะไม่เห็นแม้แต่ต้นไม้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงพวกต้นหญ้าหรืออะไรทำนองนั้น แถบนี้ขนาดสัตว์ป่ายังไม่มากันเลย”
ตาเฒ่าอธิบาย พลางยกแขนเสื้อขึ้นปาดเหงื่อ และเอ่ยว่า “แต่ในพื้นที่บริเวณนี้หากเจ้าสังเกตหินสีดำที่อยู่ในโคลนใต้เท้าให้ดีๆ อาจเจอหินสีดำที่เรืองแสงได้ นั่นก็คือศิลาเพลิง มันเป็นของธาตุไฟ จึงมีประโยชน์กับผู้ฝึกเซียนที่เป็นธาตุไฟมากเชียวล่ะ”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วก้มมองพื้นใต้เท้าของตนเอง ผิวดินล้วนแห้งสนิท หนำซ้ำพื้นดินบริเวณนี้ไม่มีหญ้าขึ้นสักเส้นเดียว กระทั่งหินสีดำเรืองแสงที่ตาเฒ่าพูดถึงยิ่งไม่มีวี่แวว
“ภูเขาไฟที่นี่ปะทุสามเดือนครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะลาวาเหล่านั้นพวกเจ้าต้องระวังให้ดี อย่าปล่อยให้มันกระเด็นมาโดนได้ หากโดนลาวาของที่นี่กระเด็นใส่ไม่ว่าหมอที่ไหนก็ช่วยไม่ได้ พิษไฟของมันร้ายแรงมาก หากไม่ระวังอาจถึงขั้นตายได้”
ตาเฒ่าอธิบายให้ฟัง พลางเตือนพวกเขาสองคน เอ่ยเสริมอีกว่า “แต่ที่นี่นอกจากศิลาเพลิง ยังมีสมบัติล้ำค่าอีกหนึ่งอย่างอยู่ด้วย”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมองเขา ถามด้วยความสงสัย “สมบัติล้ำค่าอะไร?”
“บนไหล่เขาของปล่องภูเขาไฟมียาทิพย์ชนิดหนึ่งชื่อว่าหญ้าเพลิงฉาย ว่ากันว่าหญ้าเพลิงฉายชนิดนี้สรรพคุณหลากหลาย เป็นของล้ำค่าหายาก เป็นยาทิพย์ที่ร้อยปีจะงอกหนึ่งต้น เปี่ยมไปด้วยพลังวิญญาณ มันดูดซึมสารประกอบของศิลาเพลิงในภูเขาไฟแห่งนี้เป็นอาหารได้ด้วยตนเอง มันยังเคลื่อนย้ายไปที่อื่นเองได้อีกด้วย กระทั่งหลังจากภูเขาไฟปะทุเสร็จมันก็จะกลับมาปรากฏอยู่บริเวณไหล่เขาอีกครั้ง ผ่านมาหลายปีแล้วก็ยังมีคนเคยเห็นเพียงไม่กี่คนเท่านั้น”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ประหลาดใจเล็กน้อย “เคลื่อนย้ายได้ด้วยตนเอง? ไม่ใช่ว่ามันถือกำเนิดวิญญาณยาแล้วหรอกหรือ?”
ตาเฒ่าได้ยินก็มองเธอแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “ภูเขาไฟแห่งนี้สามเดือนจะปะทุครั้งหนึ่ง มีเวลาสร้างวิญญาณยาให้มันเสียที่ไหน? ได้ยินมาว่ายาทิพย์ชนิดนี้เป็นอย่างนี้อยู่แล้ว อีกอย่างมีแค่ที่นี่ที่เดียว ที่อื่นคิดจะหาก็หาไม่เจอ”
“แสดงว่า ท่านมาที่นี่ก็เพื่อตามหามัน?” เฟิ่งจิ่วยักคิ้วมองเขา
………………………………….
ตอนที่ 2062 โชคดีผิดธรรมชาติ
“ฮ่าๆ ถูกต้องแล้ว ข้ามาเพื่อตามหามัน” เขายิ้มตาหยีขณะยกมือลูบหนวด เอ่ยว่า “หญ้าเพลิงฉายนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่ง เรียกว่าหญ้าเซียน ได้ยินมาว่ามีสรรพคุณเป็นยาอายุวัฒนะช่วยรักษาบาดแผลภายในทั้งปวง รวมถึงช่วยให้การฝึกวรยุทธ์ของผู้ฝึกเซียนที่เป็นธาตุไฟมีพัฒนาการอย่างมากด้วย ข้าย่อมอยากหามันกลับไปไว้ต้นหนึ่ง เผื่อได้ใช้บ้าง”
เฟิ่งจิ่วมองเขาอย่างหมดคำจะพูด ตาเฒ่าคนนี้เหตุใดจึงมีความคิดไม่เหมือนคนอื่นนัก? อยู่ๆ ก็วิ่งมาตามหาหญ้าเซียนในนี้ เพียงเพราะเผื่อได้ใช้เนี่ยนะ? เขาคิดว่าตนเองอายุไม่ยืนพอ? หรือคิดว่าตนเองอาจได้รับบาดเจ็บจนเป็นอันตรายถึงชีวิตจึงคิดจะหาเตรียมไว้บ้าง?
“ซี้ด!”
พลันนั้น เธอสูดปากเบาๆ รู้สึกเหมือนเหยียบโดนอะไรบางอย่าง เธอขยับเท้าออกดูเล็กน้อย ก็เห็นหินสีดำปลายแหลมแทงขึ้นมาจากพื้นดิน หินสีดำปลายแหลมก้อนนั้นยังส่องแสงระยิบระยับด้วย
“เอ๊ะ?”
เธออุทาน ย่อตัวลงไปด้วยความประหลาดใจ ขุดเอาหินสีดำปลายแหลมก้อนนั้นออกมา ตาเฒ่าและจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ข้างๆ เดินเข้ามา ครั้นเห็นเธอขุดหินสีดำก้อนนั้นออกมา สายตาของทั้งสองมีแววตะลึงพาดผ่าน
นึกไม่ถึง แค่เดินเธอก็เหยียบโดนศิลาเพลิงแล้ว โชคชะตานี้ช่างผิดธรรมชาตินัก
“นี่คงเป็นศิลาเพลิงที่ว่ากระมัง? ก็ไม่ได้ส่องประกายอะไรมากนักนี่!” เธอหยิบหินสีดำที่เพิ่งขุดออกมาไว้ในมือ ศิลาเพลิงก้อนนี้มีขนาดเท่าไข่ไก่ ทว่ามีปลายที่แหลมมาก เจ้าหินก้อนเล็กๆ นี้ฝังอยู่ใต้ดิน ซึ่งก็คือหินก้อนที่ปลายแหลมของมันโผล่พ้นดินขึ้นมา แหละเฟิ่งจิ่วเดินไปเหยียบมันทำให้รู้สึกเจ็บจี๊ดที่ใต้เท้า
“นี่ก็คือศิลาเพลิง มีก้อนที่ใหญ่กว่าก้อนที่อยู่ในมือของเจ้า แล้วก็มีก้อนที่เล็กกว่าก้อนที่อยู่ในมือของเจ้าด้วยเหมือนกัน” ชายชราตอบ ยิ้มตาหยีมองเธอ “ดูจากโชคชะตาที่ดีผิดธรรมชาติของเจ้า ข้าคิดว่าพาเจ้าไปหาหญ้าเพลิงฉายด้วย จะต้องหาเจอสักต้นแน่ๆ”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วโยนศิลาเพลิงในมือเล่น พลางมองตาเฒ่าพร้อมกับเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “หากข้าเจอ ข้าไม่ยกให้ท่านหรอกนะ”
“หากเจ้าเจอ ย่อมต้องเป็นของเจ้าอยู่แล้ว ข้าเอาของมาแลกกับเจ้าก็ได้” ฮุ่นหยวนจื่อเอ่ย มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง “วางใจเถิด! ข้าไม่เอาเปรียบเจ้าหรอก”
“ตรงนี้ก็มีศิลาเพลิงอยู่ก้อนหนึ่ง” จู่ๆ เสียงของจัวจวินเยวี่ยก็ดังมา ดึงความสนใจของทั้งสองให้หันไปทางนั้น
“อยู่ไหนๆ?” ตาเฒ่ารีบวิ่งไปหา เห็นจัวจวินเยวี่ยโค้งคัวลงไปขุดศิลาเพลิงขนาดเท่ากำปั้นก้อนหนึ่งขึ้นมา
ตาเฒ่าเห็นแล้วก็อดอิจฉาไม่ได้ น้ำเสียงยามเอ่ยวาจาแฝงแววน้อยเนื้อต่ำใจ “พวกเจ้าสองคนรังแกคนแก่สายตาไม่ดีใช่หรือไม่? ขนาดแค่เดินยังหาเจอ เหตุใดข้าไม่เจอบ้าง?”
ได้ยินอย่างนั้น จัวจวินเยวี่ยเหลือบมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนโยนศิลาเพลิงขนาดเท่ากำปั้นในมือให้เขา “ให้ท่าน”
ตาเฒ่าชะงักงัน มองดูศิลาเพลิงขนาดเท่ากำปั้นในอ้อมแขน เขาตะลึง “เจ้าไม่เอาหรือ? นี่ของดีเชียวนะ”
“แถวๆ นี้น่าจะยังมีอีก ค่อยหาใหม่ก็ได้” จัวจวินเยวี่ยตอบ ก่อนจะชะลอฝีเท้าเดินไปรอบๆ พลางสังเกตว่ามีจุดไหนที่ดูผิดปกติบ้าง
“จะว่าไปก็ใช่” ตาเฒ่าพยักหน้า ก่อนจะเก็บศิลาเพลิงก้อนนั้น แล้วตามหาอยู่ไม่ไกล
เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นก็ก้มหน้ามองศิลาเพลิงในมือตนเองแวบหนึ่ง จากนั้นก็เดินตามหาแถวๆ นั้นด้วย เหมือนอย่างที่จัวจวินเยวี่ยเอ่ย แถวๆ นี้น่าจะไม่ได้มีแค่ศิลาเพลิงสองก้อนนี้
แต่ทว่า ขณะที่พวกเขากำลังตามหาอยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ และตะโกนร้องด้วยความดีใจเป็นระยะ กลับมีใครบางคนกำลังจับตามองพวกเขาอยู่อย่างเงียบเชียบเช่นกัน…
………………………………….