เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2063 ข้าอยากปล้นกลับ / ตอนที่ 2064 ทรัพย์สมบัติถูกปล้น
ตอนที่ 2063 ข้าอยากปล้นกลับ
เพราะตามหาอย่างละเอียดจึงเจอศิลาเพลิงหลายก้อนในพื้นที่บริเวณนี้ดังคาด เฟิ่งจิ่วกับตาเฒ่าดีใจเนื้อเต้น ทั้งสองคนยังแข่งกันอีกด้วยว่าใครจะหาได้มากกว่ากัน
แม้อากาศที่นี่จะร้อนอบอ้าวเล็กน้อย แต่เพราะอารมณ์ดีพวกเขาจึงพูดคุยกันอย่างเบิกบาน เสียงหัวเราะดังก้องไปทั่ว ย่อมดึงดูดความสนใจคนที่อยู่แถวๆ นี้ด้วย
พวกคนที่จับตาดูพวกเฟิ่งจิ่วอยู่มีสามกลุ่ม หนึ่งกลุ่มในนั้นไม่รู้ว่าเพราะจำฮุ่นหยวนจื่อได้หรืออย่างไร หลังจากเห็นใบหน้าของคนที่ย่อตัวลงไปขุดศิลาเพลิงบนพื้น ก็โบกมือสั่งถอยทัพไปเงียบๆ
ส่วนคนอีกสองกลุ่มหลังเห็นพวกเขาสามคนขุดเจอศิลาเพลิง อีกทั้งพวกเขามีกันเพียงสามคน เห็นว่าเป็นโอกาสดี พวกเขาย่อมไม่ยอมพลาด ด้วยเหตุนี้ จึงเกิดความคิดจะช่วงชิงสิ่งของมา
ไม่ว่าจะเป็นเฟิ่งจิ่ว ฮุ่นหยวนจื่อหรือแม้แต่จัวจวินเยวี่ย ต่างก็รู้แต่แรกแล้วว่ามีคนกำลังซุ่มมองพวกเขาอยู่ตรงนั้น เพียงแต่พวกเขาไม่สนใจเท่านั้น หลังจากที่พวกเขาเก็บศิลาเพลิงที่หาเจอขึ้นมาหมดแล้ว พวกเขานับดูคร่าวๆ รวมกันแล้วก็ได้ประมาณยี่สิบก้อน ใหญ่หน่อยก็ขนาดเท่ากำปั้น เล็กหน่อยก็ขนาดเท่าก้อนกรวด
“เอาล่ะ ไปกันเถิด! แม้จะเล็กไปหน่อย แต่ข้างหน้าน่าจะยังมีอยู่” ตาเฒ่ายิ้มตาหยี รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกำลังตามล่าหาสมบัติอยู่
เฟิ่งจิ่วโยนศิลาเพลิงในมือเล่น มองฮุ่นหยวนจื่อและจัวจวินเยวี่ยเอ่ยว่า “ระหว่างทางถูกปล้นมาไม่รู้กี่หน พวกเจ้าว่าของสิ่งนี้จะถูกใครหมายตาอีกหรือไม่?”
ที่จริง เวลานี้เธอกลับคิดจะปล้นพวกนั้นคืนเสียอีก บนตัวของคนโจรปล้นทรัพย์พวกนั้นจะต้องมีทรัพย์สินไม่น้อยแน่ นึกมาถึงตรงนี้ เธอก็เกิดรู้สึกไม่อยากจากไปเสียดื้อๆ
“นี่อากาศก็ร้อนแล้ว ถ้าอย่างไรพวกเราหาที่พักแล้วค่อยไปต่อกันเถิด!”
ได้ยินอย่างนั้น ฮุ่นหยวนจื่อกับจัวจวินเยวี่ยมองเธอแวบหนึ่ง จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก ตาเฒ่าครุ่นคิด ก่อนจะชี้ไปด้านหนึ่ง “ที่นี่ร้อนอบอ้าว แม้แต่ที่นั่งก็ยังไม่มี ไปดูทางนั้นดีหรือไม่?”
เฟิ่งจิ่วมองตามที่เขาชี้ ก่อนเห็นคนที่กำลังซ่อนตัวอยู่พอดี อดยิ้มมุมปากไม่ได้ “เจ้าเป็นใคร? เหตุใดต้องทำตัวลับๆ ล่อๆ?”
สิ้นเสียง คนสองกลุ่มนั้นยืนขึ้น เพียงแต่ไม่ได้สนใจพวกเฟิ่งจิ่ว ทว่ากลับหันไปสู้กันเองก่อน
“เหยื่อกลุ่มนี้พวกข้าหมายตาไว้ก่อนแล้ว!” หัวหน้าของหนึ่งในนั้นตวาดเสียงกร้าว
“พื้นที่นี้พวกข้าคุมอยู่! คนอยู่ที่นี่ ของย่อมเป็นของพวกข้าอยู่แล้ว!”
“ทำไม? จะสู้หรือ? อย่าลืมเล่าว่าเราเคยสู้กันมาก่อน!”
“ก็ได้! อย่างนั้นแย่งของพวกนั้นมาก่อนแล้วค่อยแบ่งกัน แบ่งเท่าๆ กันให้จบ กันไป!”
คนสองกลุ่มปรึกษากันอยู่ตรงนั้น ครั้นเงยหน้ามองไป ก็ได้ยินเสียงของทั้งสามดังมารางๆ
“นี่เจ้าคิดจะทำอะไรแผลงๆ อีก? คนพวกนี้ตั้งใจดักปล้นอยู่นะ เจ้าคงไม่ได้คิดประเคนของให้พวกเขาหมดหรอกระมัง?”
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน? ข้าแค่คิดว่าอย่างไรคนพวกนี้ก็มาถวายตัวถึงที่แล้ว สู้ปล้นพวกเขา อย่างไรก็ดีกว่าถูกพวกเขาปล้นอยู่แล้วนี่!” เฟิ่งจิ่วพูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา
“เจ้ามั่นใจหรือ? อีกฝ่ายมีจำนวนคนไม่น้อยเลยนะ” แม้พวกเขาจะไม่กลัวคนพวกนั้น แต่หากคิดจะสู้จริงๆ ก็ดูเหมือนว่า…
“จะไปยากอะไร?” เธอยิ้มเจ้าเล่ห์ดวงตาเป็นประกาย เอ่ยว่า “ที่นี่อุณหภูมิสูง ฤทธิ์ยาทำงานเร็ว ท่านดูสิ พวกเขาล้มลงไปหมดแล้ว”
ตาเฒ่าได้ยินเสียงล้มดังมาจากทางนั้นอย่างต่อเนื่อง จึงหันไปดู ยามเห็นภาพนั้นก็ตะลึงงัน “นี่พวกเขาเป็นอะไรกันไปหมด?” เมื่อกี้ยังดีๆ อยู่เลย จู่ๆ ก็…
………………………………….
ตอนที่ 2064 ทรัพย์สมบัติถูกปล้น
เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยีพลางตบมือ ก่อนจะสาวเท้าเดินเข้าไปอย่างเบิกบาน “ท่านลืมไปแล้วหรือว่าข้าทำมาหากินอะไร? เรื่องเล็กแค่นี้ไม่เห็นถึงกับต้องใช้กำลังเลยนี่”
ตาเฒ่ามุมปากกระตุก พึมพำเบาๆ “จะลืมได้อย่างไร? เจ้าก็โจรดีๆ นี่เอง”
จัวจวินเยวี่ยเห็นภาพตรงหน้าก็หยักยกมุมปากเล็กน้อย เผยรอยยิ้มน้อยๆ ออกมา เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินตามไป
พวกคนที่ล้มลงไปต่างหมดสติ เฟิ่งจิ่วกลับไม่ได้สังหารพวกเขา เพียงกวาดสิ่งของบนตัวของพวกเขาจนราบคาบ สุดท้ายยังยืนสำรวจสิ่งของที่ปล้นมาได้อยู่ตรงนั้นอีก
“จิ๊ๆ คนพวกนี้อะไรก็มีหมด ดูท่าคงปล้นคนมาไม่น้อย แต่ก็มีความสามารถกันแค่นี้เอง เหตุใดใช้ชีวิตดีๆ อยู่ในนี้ได้?” เธอส่ายหน้าพลางพึมพำ ก่อนจะเก็บของเหล่านั้น
ตาเฒ่าเห็นเธอเก็บของเพียงลำพังก็ถมึงตาถาม “เจ้าจะไม่แบ่งให้พวกข้าหน่อยหรือ? จะกวาดเรียบคนเดียวหมดเลยรึ?”
“อ้าว? ท่านจะเอาหรือ? ข้านึกว่าท่านเป็นภูเขาไท่ซานแห่งสำนักเซียน คงไม่อยากได้ของต่ำทรามพวกนี้ ท่านว่าหากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป จะไม่เป็นการทำให้ชื่อเสียงของท่านเสื่อมเสียหรอกหรือ?”
ได้ยินอย่างนั้น ตาเฒ่าสะบัดเสียง “ข้าไม่สนใจหรอก!”
“ถึงไม่สนใจก็ไม่มีส่วนของท่านให้หรอก เมื่อครู่ใครกันยังคิดจะขัดขวางข้า? ท่านไม่ได้กระดิกนิ้วทำอะไรด้วยซ้ำ แต่ว่านะ…” เธอหันไปมองจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ด้านหนึ่งพร้อมกับยิ้มตาหยี ยื่นมือไปตบไหล่เขา “เขากลับควรได้ส่วนแบ่งสักหน่อย”
“เจ้า เจ้าลำเอียง!” ตาเฒ่าอัดอั้นตันใจ ไม่เข้าใจว่าคนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ต้อนรับอย่างเขา พอเป็นนางเหตุใดกลับถูกเมินเฉยอย่างนี้?
“ลำเอียงที่ไหน เมื่อครู่จวินเยวี่ยช่วยข้าเก็บของบนตัวคนพวกนั้นอยู่ตลอด” เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยี เอ่ยกับจัวจวินเยวี่ยที่ยังประคองสิ่งของมากมายไว้ในมือ “ถุงฟ้าดินและแหวนห้วงมิติพวกนั้นเจ้ารับไว้เถิด เก็บไว้แต่งภรรยาในวันข้างหน้า”
ได้ยินอย่างนั้น จัวจวินเยวี่ยมุมปากกระตุก ยื่นของในมือไปข้างหน้า “ไม่ต้องแล้ว เจ้าเก็บไว้เถิด!”
“รับไว้ๆ ติดตามข้าอยู่ดีกินดีแน่นอน” เธอตบไหล่เขาพร้อมกับเอ่ยอย่างภาคภูมิ ท่วงท่าไร้ซึ่งอิริยาบถอ่อนหวานเฉกเช่นหญิงสาว มีเพียงความเถรตรงและใจกว้างดุจชายหนุ่มเท่านั้น
ตาเฒ่าเห็นอย่างนั้นก็นึกหมั่นไส้ เขาลูบหนวด พลางนึกเสียดายยิ่ง อดเสียดสีจัวจวินเยวี่ยไม่ได้ “บอกแล้วอย่างไรว่าเจ้ามันไม่ต่างจากท่อนไม้? สมบัติถูกยัดใส่มือขนาดนี้ยังไม่รู้จักเก็บไว้อีก ไม่เคยได้ยินหรือว่าไม่รับไว้ก็เสียเปล่าน่ะ?”
จัวจวินเยวี่ยชำเลืองมองตาเฒ่าอย่างเอือมระอา ก่อนจะเก็บของเหล่านั้น พลางหันไปเอ่ยกับเฟิ่งจิ่ว “ขอบใจมาก”
“ขอบใจอะไรกัน ไปเถิด! ข้างในยังมีสมบัติอีก”
เธอยิ้มร่า ยามเดินผ่านคนที่กำลังหมดสติอยู่บนพื้น เธอยกเท้าเหยียบมือของคนคนนั้น มือที่กำลังกำมีดอยู่คลายออกเพราะความเจ็บ ซ้ำยังมีเสียงกระดูกหักดังมารางๆ เพียงแต่คนคนนั้นกลับฝืนทนไว้ ไม่ส่งเสียงออกมาสักนิด
ตาเฒ่ากับจัวจวินเยวี่ยเห็นอย่างนั้นก็ไม่พูดอะไร ทั้งสามเดินไปข้างหน้าอย่างสบายใจราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านตนเอง บางทีอาจเพราะของที่ได้มาจากการปล้น แม้อุณหภูมิรอบกายจะสูง แต่รอยยิ้มบนใบหน้ากลับกว้างกว่าเดิม
หลังจากที่พวกเขาสามคนเดินออกไปได้ไม่ไกล ชายคนที่ถูกเหยียบมือเมื่อครู่ลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าตื่นตะลึง ในกลุ่มคนพวกนี้มีเขากับชายอีกคนที่พลังค่อนข้างสูง แม้ยาพวกนั้นจะทำให้พวกเขาหมดสติ แต่กลับฟื้นขึ้นมาหลังผ่านไปไม่นาน
แต่ที่ต่างจากชายอีกคนก็คือ หลังจากเขาฟื้น เขารู้สึกแค้นใจที่ถูกปล้นทรัพย์ จึงคิดจะลอบเล่นงานอีกฝ่าย ใครจะรู้…
………………………………….