เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2067 โจรเหนือโจร / ตอนที่ 2068 ด้วยกันเถิด
ตอนที่ 2067 โจรเหนือโจร
ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าเห็นดวงตาดำขลับของเด็กหนุ่มจ้องไหสุราตาเป็นมัน ก็อดมุมปากกระตุกไม่ได้ ฝืนยิ้มก่อนเอ่ยว่า “ไม่เป็นไร ในเมื่อมีวาสนาได้พบกัน หมูย่างตัวนี้ยกให้พวกท่านก็แล้วกัน ยังมีสุราไหใหญ่นั่น พวกนั้นเอาไปเถิด!”
หมูป่าไม่มีแล้วพวกเขายังไปล่าได้ใหม่ สุราไม่มีแล้วพวกเขายังออกไปซื้อได้อีก หากทรัพย์สมบัติบนตัวพวกเขาหมดไป นั่นต่างหากคือการได้ไม่คุ้ยเสีย!
“น้ำใจยิ่งใหญ่ยากปฏิเสธ ในเมื่อพวกเจ้าพูดถึงขนาดนี้แล้ว เช่นนั้นพวกข้าก็จะรับไว้!” เธอยิ้มตาหยี ก่อนหันไปมองจัวจวินเยวี่ยที่อยู่ด้านหนึ่ง
จัวจวินเยวี่ยก้าวไปข้างหน้า อุ้มไหสุราไหนั่นขึ้นมาเก็บใส่ห้วงมิติ ก่อนจะเดินกลับไปที่หมูย่าง จากนั้นก็ยกหมูย่างกลับไปกับเฟิ่งจิ่วคนละตัว
กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังเดินตามออกมา กลืนน้ำลายมองตามหมูป่าที่ถูกยกออกไป หน้าตาเสียดาย ทว่าในเวลานี้ เด็กหนุ่มชุดเขียวที่เดินอยู่ข้างหน้าพลันหันกลับมา พวกเขาตกใจจนต้องชะงักเท้า
“ไม่ต้องส่ง พวกเจ้าอยู่ต่อเถิด!” เฟิ่งจิ่วโบกมือให้พวกเขาอย่างเบิกบานใจ ก่อนจะหามหมูป่าเดินกลับไปหาตาเฒ่าพร้อมกับจัวจวินเยวี่ย
กลุ่มคนที่อยู่ข้างหลังยืนเหม่อมองพวกเขาอยู่ตรงนั้น เนิ่นนานจึงเพิ่งได้สติ หนึ่งในนั้นพึมพำเบาๆ ว่า “เจ้าหนุ่มชุดเขียวนั่นเหมือนโจรมากกว่าพวกเราเสียอีก! นี่มันโจรเหนือโจรชัดๆ!”
“พี่ใหญ่ หมูป่าที่เราล่ามาอย่างยากลำบากถูกแย่งไปทั้งอย่างนี้ ซ้ำยังเสียสุราไหใหญ่ไปอีกหนึ่งไหด้วย” ชายอีกคนเอ่ยอย่างเสียดาย สายตาจับจ้องไปยังทิศทางที่สองคนนั้นเดิจากไป แม้จะเดินไปไกลแล้ว แต่พวกเขาก็ยังได้กลิ่นหอมของเนื้อย่างอยู่…
“ไม่ได้เรื่อง!”
ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าถลึงตาจ้องพวกเขา “ของเหล่านั้นล้วนเป็นของนอกกาย ไม่มีก็แค่หาใหม่ ชีวิตและทรัพย์สินของพวกเขารักษาไว้ได้ก็ดีมากแล้ว พวกเขาอยากได้เนื้อย่างกับสุรา ยกให้พวกเขาไปก็สิ้นเรื่อง”
“พี่ใหญ่ พี่น้องสองคนของเราที่เฝ้ายามอยู่ถูกตีหมดสติไปแล้ว ไม่ตายขอรับ” ชายอีกสองคนรีบสาวเท้ากลับเข้ามา ประคองชายสองคนที่หมดสติกลับมาด้วย
“ไม่ตายก็ดีแล้ว พาคนเข้าไปในถ้ำเสีย” เขาโบกมือสั่ง
“พี่ใหญ่ อย่างนั้นพวกเราจะกลับไปล่าหมูป่าอีกหรือไม่? เหล่าพี่น้องของเราไม่ได้กินเนื้อมาครึ่งเดือนกว่าแล้ว” ชายคนหนึ่งทำใจกล้าถามขึ้น
“กลับไปอีก? เจ้าคิดว่าระยะทางที่กลับไปล่าสัตว์ใกล้มากหรือ? หากใกล้เจ้าเด็กบัดซบสองคนนั้นคงไม่กลับมาเอาของไปจากเราหรอก” ชายวัยกลางคนที่เป็นหัวหน้าหงุดหงิด “มียาเลี่ยงอาหารกันอยู่มิใช่รึ? กินยาเลี่ยงอาหารเข้าไปก็พอ!”
ครั้นเห็นเขาบันดาลโทสะ แต่ละคนต่างไม่กล้าพูดอะไรอีก
ในอีกด้านหนึ่ง ตาเฒ่าที่กำลังพักผ่อนอยู่ในถ้ำฮัมเพลงเบาๆ พลางพึมพำ “แม่หนูน้อยนั่น ไม่ฟังคำข้า ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าแถวนี้ไม่มีสัตว์ป่าก็ไม่เชื่อ ข้าไม่เชื่อหรอกว่าพวกเจ้าออกไปแล้วจะเอาสัตว์ป่ากลับมาได้”
ทว่า ขณะที่เขากำลังพึมพำกับตนเองอยู่ พลันนั้น จมูกพลันขยับขึ้นลง เขาเดินตามกลิ่นออกไปข้างนอก เห็นสองคนที่กำลังหามหมูย่างกลับมา ก็อดเบิกตาด้วยความตกตะลึงไม่ได้
“ซี๊ด! แม่หนูน้อย เจ้ายกสัตว์ป่ากลับมาได้จริงหรือ?” เขาวิ่งเข้าไปหาด้วยความตื่นเต้น อดถามไม่ได้ว่า “พวกเจ้าไปเอามาจากที่ใด? ซ้ำยังย่างเสร็จแล้วด้วย? นี่คงไม่ได้ไปแย่งใครกลับมาหรอกกระมัง?”
เขาจำคำพูดของสองคนตอนเดินออกไปก่อนหน้านี้ได้รางๆ นี่คงไม่ได้ไปแย่งใครกลับมาจริงๆ หรอกกระมัง? แม่หนูน้อยนี่ ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
………………………………….
ตอนที่ 2068 ด้วยกันเถิด
“จะเป็นไปได้อย่างไรกัน?”
เฟิ่งจิ่วแย้งเสียงสูง ยิ้มตาหยีมองเขา “ท่านดูข้าเหมือนคนที่จะไปแย่งของของใครมาหรือ? หมูย่างนี้คนอื่นเขายกให้ แถมยังให้สุรามาอีกหนึ่งไห”
ได้ยินอย่างนั้น ตาเฒ่าเหล่มองเธอด้วยสายตาประหลาด หน้าตาเหมือนไม่เชื่ออย่างเห็นได้ชัด “คนอื่นเขายกให้?” เหตุใดเขาไม่เคยรู้มาก่อนว่าคนที่นี่เป็นมิตรและใจดีขนาดนี้?
“ก็ยกให้น่ะสิ” เฟิ่งจิ่วเอ่ย ยกหมูย่างเข้ามาตั้ง ก่อนจะหยิบดาบสั้นออกมาเฉือนเป็นชิ้นเล็กๆ ยื่นให้ตาเฒ่า “มาๆ ชิมดู ใช่แล้ว ยังมีสุราด้วย” เธอหันไปมองทางจัวจวินเยวี่ย
จัวจวินเยวี่ยนัยน์ตาแฝงรอยยิ้ม หยิบสุราไหนั้นออกมาวางไว้ด้านหนึ่ง ก่อนจะได้ยินตาเฒ่าร้องด้วยความตะลึง
“นึกไม่ถึงว่าจะได้สุรามาด้วย พวกเจ้าไม่เลวเลยนี่! ทำได้อย่างไรกันแน่? ข้าเดินทางอยู่ข้างนอกมาหลายปีขนาดนี้ เหตุใดยังไม่เคยเจอเรื่องดีๆ เช่นนี้มาก่อน?” เขาหยิบน้ำเต้าสุราของตนเองออกมาจากห้วงมิติเพื่อเติมสุรา หลังชิมสุราก็แจ๊บปากเสียงดัง “แม้จะเทียบกับสุราเดิมของข้าไม่ได้ แต่ก็เป็นสุราวิญญาณชั้นดี”
เฟิ่งจิ่วเฉือนเนื้อชิ้นหนึ่งส่งให้จัวจวินเยวี่ย พลางเอ่ยว่า “หมูป่าตัวใหญ่ขนาดนี้พอให้เรากินได้หลายวันแล้ว อีกเดี๋ยวกินไม่หมดก็เก็บไว้ อยากกินเมื่อใดเอาออกมาย่างก็ได้แล้ว”
“สุราวิญญาณไหนี้ยกให้ข้าหรือ?” ฮุ่นหยวนจื่อถามด้วยความดีใจ พลางเทสุราเหล่านั้นใส่ในน้ำเต้าของตนเอง น้ำเต้าสุราของเขาเป็นอาวุธวิเศษ อย่าว่าแต่สุราหนึ่งไหเลย แม้จะสิบไหก็ยังใส่ได้หมด เขาไม่ได้ไปซื้อสุรานานแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่ต้องขาดสุราอยู่ข้างในนี้
“ให้ท่านก็ได้ ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรอยู่แล้ว” เฟิ่งจิ่วเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ ก่อนจะเฉือนเนื้อชิ้นใหญ่แล้วกินอย่างเอร็ดอร่อย
ทั้งสามคนกินเนื้อและดื่มสุราอยู่ตรงนี้ หลังจากพักผ่อนหนึ่งคืนก็ออกเดินทางอีกครั้งในเช้าวันถัดมา
ตลอดเส้นทางนับว่าเงียบสงบ เพียงแต่นอกจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนล้วนเหมือนกันแล้ว ยิ่งเดินเข้าไปข้างใน บนผิวพื้นดินก็มีไอร้อนลอยขึ้นมาด้วย
“ใกล้ถึงแล้วๆ เห็นไหม ภูเขาลูกนั้น” ตาเฒ่าปาดเหงื่อ ชี้ไปยังภูเขาไฟลูกใหญ่ที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลข้างหน้า “หญ้าเพลิงฉายนั่นน่าจะอยู่บนไหล่เขาลูกนั้น พวกเราไปหาที่ไหล่เขาตรงนั้นกันเถิด! ไม่แน่ว่าที่นั่นอาจมีศิลาเพลิงอยู่ด้วยก็ได้ ไม่ต้องรอจนถึงภูเขาไฟปะทุครั้งหน้า”
เฟิ่งจิ่วเงยหน้ามองไป เห็นไอร้อนที่ลอยขึ้นเหนือภูเขาไฟลูกนั้นรางๆ อดถามไม่ได้ “พวกเราขึ้นไปอย่างนี้จะไม่อันตรายเกินไปหรือ? แม้ลาวาจะอยู่ใต้แกนโลก แต่หากขึ้นไปบนไหล่เขา…”
“วางใจเถิด! ไม่เป็นไรหรอก เจ้าดู ตรงนั้นก็มีคนอยู่บนไหล่เขา” ชายชราชี้ไปยังคนที่กำลังปีนป่ายขึ้นไปบนไหล่เขา
เห็นอย่างนั้นเฟิ่งจิ่วจึงพยักหน้า “ก็ได้! อย่างนั้นก็ขึ้นไปดู หากมีอะไรผิดปกติต้องรีบไปจากที่นี่ทันที”
“รู้แล้วๆ เรื่องนี้ยังต้องให้เจ้ามาบอกข้าอีกหรือ?”
ด้วยประการฉะนี้ ทั้งสามจึงมุ่งหน้าไปยังภูเขาไฟลูกนั้น นอกจากเศษศิลาเพลิงก้อนเล็กๆ จนถึงก้อนเล็กมาก กลับไม่เจอศิลาเพลิงก้อนใหญ่เลย ทว่า ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้ คนจากกลุ่มคนสิบกว่ากลุ่มที่รับหน้าที่เฝ้าอยู่ด้านล่างเขาต่างจ้องพิจารณาเขา ราวกับกำลังคาดเดาที่ไปที่มาของพวกเขาอยู่
“พวกเราจะขึ้นไปทั้งสามคนเลยหรือ? หรือว่าจะเหลือคนไว้ข้างล่างหนึ่งคน?” ฮุ่นหยวนจื่อหันไปถามเฟิ่งจิ่ว หากเหลือคนไว้ข้างล่างหนึ่งคน ก็ต้องเป็นจัวจวินเยวี่ยอย่างไม่ต้องสงสัย อย่างไรเขาก็จะขึ้นไปอยู่แล้ว เฟิ่งจิ่วยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เฟิ่งจิ่วมองรอบๆ ก่อนเอ่ยว่า “ขึ้นไปด้วยกันเถิด!”
………………………………….