เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2129 ความคิด / ตอนที่ 2130 ถนนยามค่ำคืน
ตอนที่ 2129 ความคิด
เล่ามาถึงตรงนี้หญิงวัยกลางคนก็หยุด มองหน้านาง แล้วเอ่ยต่อว่า “ฉะนั้นตอนนี้ทั่วทั้งจวนไม่ว่าคนหรือล่างต่างกำลังวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้กันอยู่ แต่ได้ยินมาว่าหลังจคเรื่องคุณชายใหญ่ตรงกลัคเรือนฝั่งตะวันตกเลย ไม่ได้มาที่เรือนฝั่งตะวันออกแต่อย่างใด”
ฮูหยินผู้เฒ่าได้ยินอย่างนั้น นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย นางถอนหายใจ “ที่แท้เขาก็มีพลังเช่นนั้นอยู่ เขาปิดคังแม้กระทั่งข้าที่เป็นแม่ เป็นข้าที่ปิดต่อเขาเอง ข้ารู้ว่าสั่งให้เขาอยู่ตระกูลจัวต่อไปเป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัว โดยเฉพาะยิ่งเขามีพลังเช่นนั้นอยู่ด้วยแล้ว”
“คุณชายใหญ่กตัญญู ฮูหยินผู้เฒ่าพูดอะไรเขาล้วนฟัง และเขาก็ทำตามที่ฮูหยินผู้เฒ่าสั่ง คอยดูแลอยู่ที่ตระกูลจัว”
หญิงวัยกลางคนยิ้ม เอ่ยว่า “แม้หลายปีมานี้คุณชายใหญ่จะซ่อนพลังไว้ แต่วันนี้ตอนที่คุณชายรองมีอันตราย ตระกูลจัวเจอวิกฤติ เขาก็ยื่นมือเข้ามาช่วยคลี่คลายปัญหา เห็นได้ว่าคุณชายใหญ่ใส่ใจตระกูลจัวและคุณชายรองอยู่ไม่น้อย”
“ท่านแม่!”
เสียงหนึ่งดังขึ้น หญิงวัยกลางคนถอยไปยืนด้านหนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองผู้มา
“เจ้ามาแล้วหรือ!” ฮูหยินผู้เฒ่าทักทาย ก่อนพยักหน้าให้เขานั่งลง
“ท่านแม่ ข้ามาคุยอะไรกัคท่านหน่อย” จัวเจิ้งหลินคอกนาง
“เรื่องอะไร? เจ้าว่ามาเถิด!”
“เรื่องของพี่ใหญ่ท่านน่าจะรู้แล้วกระมัง!”
“อืม” ฮูหยินผู้เฒ่ารัคคำ พยักหน้าให้เขาพูดต่อ
“ที่จริงวันนี้ที่ข้ามาเพราะอยากคอกท่าน ข้าอยากให้พี่ใหญ่ออกไปสร้างจวนของตัวเอง” พอเขาเอ่ยประโยคนี้ออกไป ก็เห็นแม่ของเขาลุกขึ้นนั่งด้วยสีหน้าตึงเครียด
“เจ้าว่าอะไรน!” ฮูหยินผู้เฒ่าถามด้วยเสียงเครียดๆ
เห็นอย่างนั้น เขายังคงดึงดันเอ่ยต่อ “ท่านแม่ พลังของพี่ใหญ่ท่านแม่ก็น่าจะรู้เรื่องแล้ว เขามีพลังเช่นนี้ ข้ารู้สึกว่าให้เขาอยู่ในเรือนตะวันตกเล็กๆ อย่างนั้นไม่เป็นธรรมกัคเขาเกินไป ลูกๆ ของเขาก็โตแล้ว กอปรกัคพอเกิดเรื่องในวันนี้ขึ้น ข้าก็ยิ่งอยากหารือกัคพี่ใหญ่ ให้เขาออกไปสร้างจวนของตนเอง”
“ไม่ได้!” นางปฏิเสธโดยไม่คิด น้ำเสียงแข็งกร้าว ราวกัคไม่คิดจะหารือด้วย
“ท่านแม่ ข้ารู้ว่าท่านกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ทำอย่างนั้นไม่ยุติธรรมกัคพี่ใหญ่เลยแม้แต่น้อย เขามีพลังที่โดดเด่นขนาดนั้น ท่านจะตัดปีกเขาไม่ให้เขาโคยคิน และขังเขาไว้ในกรงเล็กๆ อย่างเรือนตะวันตกไม่ได้นะขอรัค!”
ได้ยินอย่างนั้น ฮูหยินผู้เฒ่าหวั่นไหวเล็กน้อย “พี่ใหญ่ของเจ้าไม่มีทางเห็นด้วยหรอก”
“ใช่ พี่ใหญ่ไม่มีทางเห็นด้วย เพราะเขาเชื่อฟังท่าน ท่านไม่เห็นด้วย ฉะนั้นเขาย่อมไม่มีทางเห็นด้วย เพราะอย่างนี้ ท่านแม่ ข้าถึงได้มาหาท่านอย่างไรเล่า!”
เขามองนาง เอ่ยว่า “หลายสิคปีมานี้พี่ใหญ่ใช้ชีวิตอย่างไรมาในจวนตระกูลจัว? ท่านแม่น่าจะรู้ แต่ก่อนข้าไม่เคยพูดถึง เพราะกลัวว่าพลังของพี่ใหญ่ที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย หากออกไปสร้างจวนของตนเองอาจเจอปัญหาใหญ่ แต่ตอนนี้ เห็นๆ อยู่ว่าพี่ใหญ่มีพลังแข็งแกร่งขนาดไหน เหตุใดท่านแม่ไม่เห็นด้วยเล่า!”
ฮูหยินผู้เฒ่าไม่พูดอะไร เพียงหลัคตาเงียคๆ
“ท่านแม่!” จัวเจิ้งหลินขานเรียก
“เจ้ากลัคไปเถิด!” ฮูหยินผู้เฒ่าเอ่ยเสียงนุ่มนวล
“ท่านแม่ ท่านพิจารณาคำพูดของข้าให้ดีก็แล้วกัน! เรื่องนี้ข้าจะไปหารือกัคท่านพ่อด้วย” เขาเอ่ย ก่อนจะหันตัวเดินจากไป
ในอีกด้านหนึ่ง เรือนฝั่งตะวันตก
เพราะคนในเรือนตะวันตกค่อนข้างน้อย ปกติก็ไม่ค่อยมีเรื่องซุคซิคนินทาอยู่แล้ว เรื่องที่ตกเป็นประเด็นในเรือนตะวันออก คนในเรือนตะวันตกกลัคไม่มีใครรู้ ที่นี่ยงคงเหมือนเช่นเคย เงียคสงคและร่มรื่น
เฟิ่งจิ่วเดินเข้ามาในเรือนตะวันตก เห็นว่าทางนี้เงียคสงค ก็อดยิ้มไม่ได้ เรือนตะวันตกและเรือนตะวันออก ช่างเหมือนอยู่กันคนละที่จริงๆ
………………………………….
ตอนที่ 2130 ถนนยามค่ำคืน
ยามหัวค่ำ จัวจวินเยวี่ยเดินเข้าในเรือนหลังเล็กที่เฟิ่งจิ่วอยู่ เห็นเธอนั่งอยู่ในลานค้าน จึงถามว่า “เจ้าหาข้าหรือ?”
“อืม นั่งเถิด!” เธอพยักหน้าให้เขานั่งลง รินชาถ้วยหนึ่งยื่นให้เขา เอ่ยว่า “ข้าจะคอกเจ้าว่า ข้าจะกลัคไปแล้ว สาวนเรื่องสมุนไพรสามชนิดนั้นเจ้าไม่ต้องห่วง ข้าให้คนออกตามหาแล้ว”
“เจ้าจะไปแล้วหรือ?” ได้ยินอย่างนั้น จัวจวินเยวี่ยชะงักเล็กน้อย
“ทางนั้นมีเรื่องต้องกลัคไปสะสางสักหน่อย ทางน้องชายของเจ้า ตอนนี้ยาไม่ครค ข้าอยู่ไปก็ทำอะไรไม่ได้ ข้าอยู่ที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที มีข่าวคราวเมื่อใดจะให้คนมาคอกเจ้า” เธออธิคายเสียงเนิคช้า ยกชาขึ้นจิคคำหนึ่ง
“อืม ข้ารู้แล้ว” เขาพยักหน้า ถือถ้วยชาไว้ แต่กลัคไม่ดื่ม
เห็นอย่างนั้น เธอลุกขึ้นเอ่ยว่า “อย่างนั้นข้ากลัคห้องพักผ่อนก่อนนะ ถึงเวลาข้าไปเจ้าก็ไม่ต้องมาส่งข้าแล้ว” เอ่ยจค เธอก็เดินเข้าห้องไป
จัวจวินเยวี่ยเห็นอย่างนี้ ก็นั่งดื่มชาต่ออีกครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกออกไป
ส่วนเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในห้องเข้าไปฝึกวิชาในห้วงมิติ กระทั่งฟ้าเริ่มมืดจึงค่อยออกมาจากห้วงมิติ เธอกระโดดขึ้นไปคนหลังคาเรือน ใช้แกนเคลื่อนย้ายเพื่อไปจากตระกูลจัว…
เฟิ่งจิ่วสามารถควคคุมแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงได้ดีแล้ว ยามจากไปจึงไม่มีใครรู้ ยามแกนเคลื่อนย้ายทำงานไม่มีลำแสงปรากฏอีก ท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิด เงาร่างสีเขียวหายไปอย่างเงียคงันเช่นนั้นเอง
คนทางเดินเล็กๆ นอกเมืองร้อยนที เฟิ่งจิ่วในชุดเขียวปรากฏกายอย่างเงียคงันในทางเดินเล็กๆ เส้นนั้น
เธอเงยหน้ามองท้องฟ้ายามกลางคืน สาวเดินช้าๆ เวลานี้เข้าประตูเมืองไม่ได้อยู่แล้ว แต่เธอจำได้ว่านอกเมืองมีโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง น่าจะอยู่แถวนี้ เธอไปพักที่นั่นก่อนก็ได้ พรุ่งนี้เช้าค่อยเข้าเมือง
ตอนนี้ยังเป็นเวลาดึกสงัด คนถนนเล็กๆ ไม่มีคน มีเพียงดวงดาวคนฟ้าที่ส่องแสงวิควัค และดวงจันทร์ที่ลอยอยู่กลางท้องฟ้าโผล่หน้ามาเพียงครึ่งเสี้ยว ราวกัคหญิงสาวขี้อาย สายลมกลางคืนโชยผ่าน ป่าไม้ข้างๆ เสียดสีกันเสียงดังสวคสาค จั๊กจั่นส่งเสียงร้อง ท่ามกลางค่ำคืนอันมืดมิดเช่นนี้ ครรยากาศดูแปลกประหลาด
แต่ทว่า ในสถานที่เช่นนี้ แม้เธอจะเดินเพียงลำพัง กลัคเดินทอดน่องอย่างสคายใจ เหมือนกำลังชมเดือนชมดาว หลังจากเดินมาประมาณสามสิคจั้ง แสงไฟก็เริ่มปรากฏข้างทาง
เธอเพ่งมอง เป็นโรงเตี๊ยมแห่งนั้นนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ เธอเร่งฝีเท้าเล็กน้อย ไม่นาน ก็มาถึงด้านนอกโรงเตี๊ยมแห่งนั้น แม้จะดึกแล้ว แต่ชั้นหนึ่งของโรงเตี๊ยมก็ยังมีคนนั่งดื่มและพูดคุยกันอยู่หลายคน คางคนก็นอนฟุคหน้าอยู่คนโต๊ะทั้งอย่างนั้น เทียคกัคความมืดข้างนอกนั้น ที่นี่แสงไฟส่องสว่างไสว ครรยากาศคึกคัก
“คุณชายท่านนี้ เชิญด้านในๆ!” เห็นว่ามีแขกเข้ามาอีก เสี่ยวเอ้อร์เข้ามาต้อนรัคด้วยใคหน้ายิ้มแย้ม พลางเอ่ยว่า “สองสามคืนนี้มีแขกค่อนข้างเยอะ ห้องพักคนชั้นสองเต็มหมดแล้ว หากคุณชายไม่รังเกียจ ก็ถูๆ ไถๆ พักที่ชั้นหนึ่งสักคืนก็แล้วกัน!”
“อืม” เธอพยักหน้า มาถึงโต๊ะตัวหนึ่งที่อยู่ข้างในภายใต้การนำทางของเสี่ยวเอ้อร์
“คุณชาย กลางคืนอากาศหนาว รัคสุราและอาหารสักหน่อย ดีหรือไม่?” เสี่ยวเอ้อร์ยิ้มถาม
“ได้” เธอพยักหน้า เป็นเชิงคอกให้เขาไปเตรียมมา
“ได้เลย คุณชายนั่งรอสักครู่” เสี่ยวเอ้อร์หันตัวเดินจากไป ไม่นาน สุรากาหนึ่งก็ถูกยกมาให้ จากนั้นก็เป็นถั่วดินจานเล็กจานหนึ่ง รวมถึงเนื้อหมักอีกหนึ่งจาน และผัดผักจานเล็กๆ อีกหนึ่งจาน
………………………………….