เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2175 ตั้งตารอให้กลับมา / ตอนที่ 2176 นายท่านกลับมาแล้ว
ตอนที่ 2175 ตั้งตารอให้กลับมา
“ตอนนี้ยังเช้าอยู่ ไม่สู้ไปดื่มสุราที่ถ้ำของข้าก่อนแล้วค่อยกลับเถิด?”
ซ่งหมิงเอ่ย รู้สึกว่าฟ้ายังไม่มืด กอปรกับเธอจะกลับก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร ตรงกันข้ามหากเธอไปแล้ว กว่าจะได้เจอกันอีกครั้งคงใช้เวลาอีกนาน
เฟิ่งจิ่วมองดูสีท้องฟ้า ตอบว่า “ข้ากลับก่อนดีกว่า! ข้ากังวลว่าทางนั้นจะมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือไม่” เธอมองเขา ยิ้มเอ่ยว่า “เจ้าลงจากเขาเมื่อใดก็เรียกพวกเขาไปรวมตัวกันดื่มสุราที่นั่นกับข้า วันนี้ข้าคงไม่อยู่ต่อแล้ว”
“ก็ได้!”
ไม่ได้เจอกันนาน ยามนี้ครั้นเธอจะไปก็อดอาลัยอาวรณ์ไม่ได้ ทว่าเมื่อคิดว่าเขายังได้เจอเธอหนึ่งครั้ง ขณะที่อีกสามคนกลับไม่ได้เจอเธอสักครั้งด้วยซ้ำ เขาจึงปล่อยวาง บอกยิ้มๆ ว่า “อย่างนั้นเจ้ากลับไปเถิด! ผ่านไปช่วงหนึ่งข้าจะต้องเรียกพวกเขาสามคนไปหาเจ้าด้วยกันแน่”
เฟิ่งจิ่วหยิบแกนเคลื่อนย้ายจี๋กวงมาวางกลางฝ่ามือแล้วเปิดออก เธอท่องชื่อในใจ นาทีต่อมาก็หายวับไปในพริบตา
เฟิ่งจิ่วหายไปต่อหน้าต่อตาเช่นนี้ ซ่งหมิงอดทอดถอนใจด้วยความชื่นชมไม่ได้ “ช่างเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆ ไม่น่าเล่า ไป๋ชิงเฉิงถึงขั้นเอาตนเองไปเดิมพันอย่างนั้น”
เฟิ่งจิ่วมาที่สำนักตะวันฉายเพียงสองวันก็ก่อเรื่องถึงขนาดนี้แล้ว นึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเขาก็อดส่ายหน้าไม่ได้ ไม่นานเขาก็เดินลงจากยอดเขาไป
ในอีกด้านหนึ่ง ณ เมืองร้อยนที หน้าประตูหอยาสวรรค์ ศพมากมายเกลื่อนเต็มพื้น เลือดสีแดงสดกระจายไปทั่ว รวมถึงกลิ่นคาวเลือดที่ฉุนเสียดแทงจมูก ทำให้ผู้คนรอบๆ อดพะอืดพะอมไม่ได้ โดยเฉพาะยิ่งเห็นศพและอวัยวะภายในทะลักออกมาเต็มพื้นอย่างนี้
หลังจากผ่านการต่อสู้อันดุเดือด คนของสำนักปัญจพิษเหลือเพียงไม่กี่คน แม้แต่ปราชญ์เซียนชายวัยกลางคนก็ถูกกวนสีหลิ่นทำร้ายบาดเจ็บ เลือดสีแดงสดไหลเป็นทางไม่ขาดสาย น่าสะพรึงกลัวยิ่งนัก
เห็นว่าคนของตนเองเหลือไม่มาก ปราชญ์เซียนชายวัยกลางคนก็ฉวยโอกาสตอนพักหายใจรีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว พลางตวาดสั่งด้วยความเจ็บใจ “ถอย!” เขาถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว สายตากลับจ้องกวนสีหลิ่นอย่างเคียดแค้น
“ความแค้นที่ตัดแขน ข้าจะมาเอาคืนอย่างแน่นอน! กวนสีหลิ่น เจ้ารอดูเถิด!”
ไกลออกไป เสียงของชายวัยกลางคนดังมา กวนสีหลิ่นไม่ได้ไล่ตามไป แต่กลับหันไปมองเหลิ่งหวากับพวก “พวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง? ไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
เหลิ่งหวากับตู้ฝานกำลังจะตอบ ก็ได้ยินเสียงร้องด้วยความตกใจของหยางเสี่ยวเอ้อร์ดังมาจากข้างใน
“แย่แล้วๆ เขาอาเจียนเป็นเลือดตลอดเลย ข้าห้ามเลือดให้เขาไม่อยู่แล้ว!”
ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนที่อยู่ข้างนอกรีบพุ่งตัวเข้าไปข้างใน เห็นเพียงกู้โม่ หนึ่งในหัวหน้าองครักษ์ตระกูลเฟิ่งทั้งแปดนอนอยู่บนพื้น เขาอาเจียนเป็นเลือด หน้าเขาซีดเผือด ตรงหน้าอกยังมีกระบี่หักปักคาอยู่ ลมหายใจรวยรินราวกับจะสิ้นใจได้ทุกเมื่อ ทุกคนเห็นแล้วก็ตกตะลึง
“กู้โม่!”
“กู้โม่!”
ทุกคนตะโกนเรียก ยืนล้อมอยู่รอบตัวเขา หลัวอวี่ควานหายาออกมาป้อนเขา แต่กลับถูกฟั่นหลินห้ามไว้ก่อน
“กินไม่ได้ กระบี่ที่ปักคาอกเขาไว้มีพิษ!! ตอนนี้ยาอะไรก็ช่วยเขาไม่ได้แล้ว มีแต่จะทำให้เขาตายเร็วขึ้น!” ฟั่นหลินกำมือของหลัวอวี่ที่กำลังจะยัดยาเข้าปากของกู้โม่ ก่อนเอ่ยว่า “อุ้มเขาเข้าไปก่อน! หากนายท่านกลับมาทัน อาจมีวิธีช่วยเขาได้!”
ได้ยินอย่างนั้น กวนสีหลิ่นที่อยู่ด้านหนึ่งพลันตระหนัก ไม่น่าเล่าพวกเขาต่อสู้กันอยู่ข้างนอกนี้ตั้งนานเฟิ่งจิ่วก็ยังไม่ปรากฏตัว ที่แท้นางก็ไม่อยู่ที่หอยาสวรรค์?
“ใช่ๆ! นายท่านบอกว่าจะกลับมาวันนี้! ขอเพียงนายท่านกลับมา กู้โม้จะต้องมีทางรอดแน่!” หลัวอวี่เอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ รีบร่วมแรงกับคนอื่นประคองเขาเข้าไปข้างใน
………………………………….
ตอนที่ 2176 นายท่านกลับมาแล้ว
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วเพิ่งเข้ามาในเมืองร้อยนที เธอมุ่งหน้าไปยังหอยาสวรรค์ซึ่งตั้งอยู่บนถนนตะวันตกทันที ทว่าเพิ่งจะถึงถนนตะวันตก ยังไม่ทันเดินเข้าไปถึงด้านใน เธอก็ได้กลิ่นคาวเลือดจางๆ กระจายไปกลางอากาศ
เหตุใดจึงมีกลิ่นคาวเลือดอยู่ด้วย? หนำซ้ำยังเป็นกลิ่นที่กระจายอยู่กลางอากาศด้วย? เธอคิดอย่างสงสัย อดกังวลไม่ได้ ด้วยเหตุนี้จึงรีบสาวเท้าเข้าไป ระหว่างทางได้ยินเสียงชาวบ้านข้างทางพูดคุยถกเถียงกัน
“คนตายไปไม่น้อย เหตุใดหอยาสวรรค์มักมีเรื่องกับคนอย่างนี้?”
“ต้องมีคนตายไปไม่น้อยแน่ สู้กันดุเดือดขนาดนั้น พลังของทั้งสองยังร้ายกาจเพียงนั้นด้วย พวกเจ้าดูหอยาสวรรค์เพิ่งเปิดกิจการมานานสักแค่ไหนกันเชียว? แต่กลับมีเรื่องบ่อยๆ อย่างนี้ จากที่ข้าดู เรื่องอย่างวันนี้คงจะไม่ได้เกิดเป็นครั้งสุดท้าย วันหน้าจะต้องมีอีกแน่ ชีวิตคนเรายังอีกยาวไกลนี่นา! พวกเจ้ารอดูเถิด!”
“เพราะฉะนั้น คนกลัวชื่อเสียง หมูกลัวอ้วน หากมีชื่อเสียงมากเกินไปก็มีภัยมาถึงตัวง่าย ไม่เป็นเสี้ยนหนามในสายตาคนอื่น ก็มีความแค้นกับคนรอบตัว หอยาสวรรค์เป็นอย่างนี้แล บางคนเห็นคนอื่นได้ดีไม่ได้ เจ้าไม่หาเรื่องพวกเขา ไม่ใช่ว่าพวกเขาจะไม่หาเรื่องเจ้า!”
ครั้นได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วหน้าเครียดขึ้นมาทันที
มีคนตายไม่น้อย? หมายถึงคนในหอยาสวรรค์ของเธองั้นหรือ? เธอน่าจะรู้แต่แรกแล้วว่าศัตรูของตลาดมืดจะต้องแข็งแกร่งมากแน่ๆ นึกไม่ถึงครั้นมาถึงก็ก่อเรื่องเอิกเกริกถึงเพียงนี้ หนำซ้ำยังเป็นตอนที่เธอไม่อยู่อีกด้วย
ถนนภายใต้แสงไฟมากมาย เธอไม่มีแก่ใจเดินชม รีบพุ่งตัวไปข้างหน้า กระทั่งมาถึงหน้าประตูหอยาสวรรค์ เห็นประตูใหญ่ที่ปิดสนิท รวมถึงรอยเลือดที่ยังไม่ทันได้เก็บกวาด
“นายท่าน!” องครักษ์ตระกูลเฟิ่งสองคนปรากฏตัวหน้าประตู เห็นเธอกลับมาก็รีบร้องเรียกด้วยความดีใจ “นายท่าน ท่านกลับมาแล้ว กู้โม่ได้รับบาดเจ็บ อาการสาหัสมาก!”
ครั้นได้ยินอย่างนั้น เธอเม้มปาก รีบก้าวเข้าไปผลักประตูใหญ่เดินเข้าไป และมุ่งหน้าไปยังหลังร้านทันที
“นายท่าน!”
“นายท่าน!”
“นายท่าน!”
องครักษ์ตระกูลเฟิ่งคนหนึ่งที่ได้รับบาดเจ็บเห็นเธอกลับมา ก็พากันทยอยปรากฏกายคารวะ
เหลิ่งหวากับพวกที่อยู่หลังร้านกำลังร้อนใจ ครั้นได้ยินเสียงขานเรียกก็ลิงโลด รีบเดินออกมาดู “นายท่าน! ท่านกลับมาเสียที!”
“กู้โม่เป็นอย่างไรบ้าง?” เฟิ่งจิ่วถามพวกเหลิ่งหวาที่เดินออกมาดู
“พิษร้ายแรง ถูกแทงหน้าอก ฟั่นหลินไม่กล้าชักดาบออก บอกว่ากลัวจะทำให้เส้นชีพจรเสียหายจนห้ามเลือดไม่อยู่และมีอันตรายถึงชีวิต” เหลิ่งหวารีบอธิบายสถานการณ์ให้ฟัง
“คนอื่นๆ เป็นอย่างไรบ้าง?” เธอถามอีก รีบสาวเดินเข้าไปข้างใน ก่อนจะแปลกใจที่เห็นพี่ชายของเธออยู่ด้วย “ท่านพี่ ท่านมาตั้งแต่เมื่อใด?”
“นอกจากองครักษ์ตระกูลเฟิ่งที่ตายไปสองคน คนอื่นแม้บาดเจ็บเหมือนกัน แต่กู้โม่บาดเจ็บหนักที่สุด” เหลิ่งหวารายงาน
กวนสีหลิ่นเห็นว่าเป็นเธอ จึงพยักหน้าบอก “ข้าเองก็เพิ่งมาถึงไม่นาน พอมาถึงก็เห็นว่ามีคนกำลังเล่นงานพวกเหลิ่งหวาอยู่”
“นายท่าน คนของสำนักปัญจพิษมีปราชญ์เซียนหนึ่งคน รวมถึงผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินและกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุดจำนวนหนึ่ง โชคดีที่พี่ใหญ่กวนเข้ามาช่วย”
เฟิ่งจิ่วได้ยินอย่างนั้นก็พยักหน้า “ข้าไปดูอาการของกู้โม่ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากัน” เธอเดินมาหยุดข้างเตียง มองกู้โม่ที่หน้าซีดขาว แต่ยังคงมีสติอยู่ ถามว่า “สติยังแจ่มชัดอยู่หรือไม่?”
“นะ นายท่าน…” เสียงของกู้โม่อ่อนแรง ลมหายรวยรินราวกับจะสิ้นใจ
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งพูดอะไร” เธอวางนิ้วลงบนข้อมือของเขาเพื่อตรวจอาการ
ฟั่นหลินที่อยู่ด้านหนึ่งเอ่ยว่า “พวกข้ากลัวว่าเขาจะทนรอนายท่านกลับมาไม่ไหว จึงใช้พลังวิญญาณปกป้องชีพจรหัวใจของเขาไว้” หากไม่ทำอย่างนี้ กู้โม่คงทนไม่ไหวนานแล้ว
………………………………….