เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2233 สหาย / ตอนที่ 2234 ความคิด
ตอนที่ 2233 สหาย
“สาเกของพวกท่านไม่ขายข้างนอกหรือ?” ต้วนเยี่ยถาม
เถ้าแก่ยิ้มตอบ “ใช่แล้ว สุราในหอของเราดื่มได้เพียงในนี้ ไม่ขายออกไปข้างนอก”
“หากแลกด้วยสิ่งของเล่า?” เฟิ่งจิ่วถาม เขย่าถ้วยสุราในมือไปมา
เถ้าแก่ชะงัก “เรื่องนี้…ไม่เคยมีก่อน ข้า…” เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกตัดบทก่อน
“เถ้าแก่” เสี่ยวเอ้อร์วิ่งมา ถึงแขนเสื้อของเขา ก่อนกระซิบข้างหูเขาสองสามประโยค
ฟังจบ เถ้าแก่ตื่นตกใจ หันไปมองผู้หญิงชุดแดงหน้าตางดงามแวบหนึ่ง ยิ้มเอ่ยว่า “ที่แท้แม่นางก็เป็นสหายของนายท่านข้า นายท่านกำชับแล้ว มอบให้แม่นางสองไห” เอ่ยจบ ก็หันไปกำชับเสี่ยวเอ้อร์ “เจ้าไปเอาสุราในห้องเก็บสุรามาสองไห”
“ขอรับ” เสี่ยวเอ้อร์รับคำ จากนั้นก็รีบวิ่งออกไป
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว “สหาย? นายท่านของเจ้าเป็นใคร?” เหตุใดเธอไม่รู้ว่าตนเองรู้จักคนอย่างนี้ด้วย?
ต้วนเยี่ยชำเลืองมองเฟิ่งจิ่ว ลอบคิดในใจ ไม่ต้องเดาก็รู้ คนคนนี้ต้องเป็นผู้ชายแน่
ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูที่ฟังอยู่พลันตะลึง พวกนางล้วนเป็นคนในเมือง ย่อมรู้กฎห้ามขายสุราข้างนอกของหอไป๋เซียงแห่งนี้ แม้เป็นคนมีหน้ามีตาในเมืองมาขอซื้อ สุรานี้ไม่ขายให้ก็คือไม่ขายให้จริงๆ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ามอบให้เปล่าๆ
ดูท่า แม้ไม่รู้ว่าภูตหมอเป็นผู้วิเศษมาจากไหน แต่คงจะมีความสามารถอยู่ไม่น้อยจริงๆ
เถ้าแก่ได้ยินเฟิ่งจิ่วว่าอย่างนั้นก็นิ่งอึ้ง ยิ้มเอ่ยว่า “แม่นานงจะไม่รู้ได้เช่นไรว่านายท่านของข้าเป็นใคร?” ขณะกล่าว เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเสริมว่า “แม้ไม่รู้จริงๆ แต่ในเมื่อนายท่านของข้าบอกว่าเป็นสหาย เช่นนั้นย่อมต้องเป็นคนรู้จัก แม่นางรับสุรานี้ไว้ก็พอ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มมุมปาก เอ่ยว่า “นายท่านของเจ้าอยู่ที่นี่กระมัง? ในเมื่อเป็นสหาย เช่นนั้นมีเหตุผลอะไรให้ไม่พบ? ไม่สู้เถ้าแก่ไปบอกเขาสักหน่อย ข้าอยากคุยกับสหายอย่างเขา”
เถ้าแก่ยิ้ม “ได้ อย่างนั้นแม่นางรอสักครู่” เขาค้อมกายแล้วจากไป
ขณะเดียวกัน ในห้องใต้หลังคาของหอไป๋เซียง ผู้ชายสวมหน้ากากในชุดคลุมสีดำกำลังนั่งพิงเฉียงอยู่บนตั่งเตี้ย ในมือควงถ้วยสุราเล่นอยู่ สีหน้าเหมือนกำลังครุ่นคิด ไม่รู้ว่าคิดสิ่งใดอยู่
หากเฟิ่งจิ่วเห็นเขาในตอนนี้ จะต้องจำได้แน่ เขา ไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเจ้าวิหารราตรีผู้นั้นนั่นเอง
“นายท่าน เหตุใดต้องมอบสุราให้ภูตหมอ? นางทำลายเรื่องดีๆ ของเรามากมายแท้ๆ ในเมื่อรู้ว่านางอยู่ที่นี่ เหตุใดไม่หาโอกาสจัดการนางเสีย?” ชายชราที่ยืนอยู่ข้างๆ ขมวดคิ้วถาม ในสายตาเต็มไปด้วยความคับข้องใจ
เจ้าวิหารผู้นั้นควงถ้วยสุราในมือเล่น ช้อนตาขึ้นเล็กน้อย “จัดการนาง? หึ อย่างนั้นจะไปมีความหมายอะไร?”
ชายชรานิ่งอึ้ง อะไรคือไม่มีความหมาย? ภูตหมอเป็นศัตรูของพวกเขาไม่ใช่หรือ? เขายังไม่เคยเห็นใครมอบสุราให้ศัตรู หากมอบสุราพิษให้ก็อีกเรื่อง แต่นี่อีกฝ่ายคือภูตหมอ สุราที่มอบให้ก็ไม่มีพิษ ไม่รู้ว่านายท่านคิดอะไรอยู่กันแน่?
แม้ในใจจะรู้สึกว่าวิธีการของนายท่านแปลกๆ แต่อย่างไรเขาก็เป็นเจ้านาย เขาไม่ควรตั้งคำถามมากไป ด้วยเหตุนี้ จึงยืนเงียบอยู่ข้างๆ ไม่พูดอะไร และคิดในใจว่า บางทีนายท่านอาจมีแผนการอื่นอยู่แล้ว
เวลานี้ เสียงของเถ้าแก่ดังมาจากข้างนอก “นายท่าน แม่นางชุดแดงผู้นั้นต้องการพบท่าน”
ได้ฟังเช่นนั้น ชายชุดคลุมสีดำในห้องใต้หลังคาชะงักมือที่กำลังควงถ้วยสุราเล่น แววตาไหวระริก
………………………………….
ตอนที่ 2234 ความคิด
เขาจิบสุราคำหนึ่ง เอ่ยว่า “บอกนางว่าข้าไปแล้ว และบอกนางว่าหากคราวหน้ามีโอกาส จะไปเยี่ยมที่หอยาสวรรค์”
เถ้าแก่ที่อยู่ข้างนอกได้ยินก็รับคำ “ขอรับ”
ชั้นสอง เสี่ยวเอ้อร์กำลังอุ้มสุราสองไหมาวางบนโต๊ะ เอ่ยว่า “แม่นาง โปรดรับสุราสองไหนี้ไว้” จากนั้นก็ถอยออกไป
เฟิ่งจิ่วโบกมือ เก็บสุราสองไหเข้าไปในห้วงมิติ ไม่นาน ก็เห็นเถ้าแก่เดินกลับมา
“แม่นาง ต้องขออภัย นายท่านของข้าเพิ่งไป เขาบอกว่าหากคราวหน้ามีโอกาส ค่อยไปเยี่ยมแม่นางที่หอยาสวรรค์”
เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก รู้จักหอยาสวรรค์? คนคนนี้เป็นใครกันแน่? หรือว่าเคยไปซื้อยาที่หอยาสวรรค์ แล้วเคยเห็นเธอ?
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็คิดเงินเถิด!” เธอบอกกับเถ้าแก่ พยักหน้าให้เขาคิดเงินอาหารที่พวกเขากิน
“หึๆ แม่นาง นายท่านของข้าสั่งไว้ว่ามื้อนี้เลี้ยงแม่นาง”
เฟิ่งจิ่วยิ้มแย้ม “แต่ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายท่านของเจ้าเป็นใครก็จะให้เขาเลี้ยงแล้ว อย่างไรนี่ก็ฟังดูไม่ค่อยเหมาะสม ยิ่งไปกว่านั้น เขามอบสุราให้ข้าสองไหแล้ว อาหารมื้อนี้อย่างไรก็ต้องจ่ายเงิน”
เวลานี้เอง ต้วนเยี่ยลุกขึ้นหยิบถุงใส่เงินตุงๆ ใบหนึ่งแล้ววางบนโต๊ะ “ถือว่านี่เป็นเงินค่าอาหารก็แล้วกัน!” เขาเดินมาหยุดข้างเฟิ่งจิ่ว เอ่ยว่า “ไปเถิด!”
“อืม” เธอพยักหน้า ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเขา
ส่วนพวกลู่ซีเหยียนเมื่อเห็นอย่างนั้นก็รีบตามไป ครั้นมาถึงข้างนอก ลู่ซีเหยียนมองต้วนเยี่ยแวบหนึ่ง ก่อนถามเฟิ่งจิ่วว่า “ภูตหมอ ถ้าอย่างไรข้าพาพวกท่านเดินเที่ยวรอบๆ ดีหรือไม่? เมืองธาราภูมิมีหลายที่ที่ทิวทัศน์ไม่เลว”
“ดีเลย! อย่างไรตอนนี้ก็ว่างอยู่พอดี” เฟิ่งจิ่วรับคำ มองหอน้ำชาที่อยู่ด้านตรงข้าม ก่อนเอ่ยกับพวกเขาว่า “รอข้าเดี๋ยว” เอ่ยจบก็เดินไปที่หอน้ำชา บอกเถ้าแก่ว่าไม่ต้องเตรียมห้องไว้ให้แล้ว
เห็นเฟิ่งจิ่วไม่อยู่ ลู่ซีเหยียนมองต้วนเยี่ยที่อยู่ข้างๆ ลังเลเล็กน้อย ก่อนถามว่า “อาจารย์อาต้วน พวกท่านจะไปไหนหรือ? ท่านออกมาฝึกวิชาข้างนอกใช่หรือไม่?”
ต้วนเยี่ยเหลือบมองนาง ไม่ตอบกลับย้อนถาม “พวกเราไปเป็นแขกที่จวนเช่นนี้ จะไม่เป็นการไม่เหมาะสมหรือ?”
“ไม่แน่นอนๆ” นางรีบตอบ
“แต่ทำไมข้าได้ยินมาว่าพักนี้เมืองธาราภูมิไม่ค่อยสงบนัก แต่ละตระกูลรวมถึงจวนเจ้าเมืองล้วนระมัดระวังกันเป็นพิเศษ ไปเป็นแขกที่จวนในเวลานี้ จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้พวกเจ้าจริงๆ หรือ?”
ลู่ซีเหยียนที่ได้ยินอย่างนั้นชะงักงันไปเล็กน้อย “อาจารย์อาต้วนรู้เรื่องนี้ด้วยหรือ?” เห็นเขามองนาง นางจึงรีบตอบ “คืออย่างนี้ เพราะหลายวันมานี้มีผู้ฝึกเซียนหญิงตายไปหลายคน ท่านพ่อของข้าเพิ่มกำลังทหาร เพียงแต่ตอนนี้ก็ยังจับตัวคนคนนั้นไม่ได้ แต่ละตระกูลเองก็มีลูกหลานให้เป็นห่วง จึงต้องระวังเป็นพิเศษ แต่เรื่องนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการไปเป็นแขกที่บ้านข้าของอาจารย์อาต้วนกับภูตหมอแน่นอน ข้าคิดว่าท่านพ่อของข้าจะต้องดีใจมากแน่ๆ ที่พวกท่านมา”
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ วันนี้ก็รบกวนพวกเจ้าพาพวกข้าเดินเที่ยวรอบๆ ด้วย” เฟิ่งจิ่วเดินยิ้มเข้ามาต่อบทสนทนา
“แน่นอน” ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูยิ้มรับด้วยความยินดี
ส่วนต้วนเยี่ยมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง เมื่อครู่ยังพูดอยู่ว่าเมื่อคืนไม่ได้พักผ่อนดีๆ วันนี้หาที่พักนอนพักผ่อนดีๆ สักวันแท้ๆ ตอนนี้กลับจะไปเดินเที่ยวแล้ว นี่คงไม่ได้คิดจะทำอะไรอีกหรอกกระมัง?
เขาพลันฉุกคิดได้ สายตาหันไปจับจ้องลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรู ผู้หญิงสองคนอายุสิบหกสิบเจ็ดปี หน้าตางดงามยังไม่พอ บุคลิกยังโดดเด่นมากด้วย ที่สำคัญที่สุดคือล้วนเป็นผู้ฝึกเซียนหญิง
………………………………….