เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2235 สหายต้วน / ตอนที่ 2236 วิ่งไปไหนแล้ว
ตอนที่ 2235 สหายต้วน
ครั้นนึกมาถึงตรงนี้เขาก็ทอดถอนใจ ลอบส่ายหน้ากับตนเอง ทำอะไรซี้ซั้วเกินไปแล้ว นางไม่ใช่ไม่รู้เสียหน่อยว่าตอนนี้นางถูกผนึกพลังวิญญาณ ทั้งยังทิ้งเหล่าสัตว์วิญญาณไว้เฝ้าหอยาสวรรค์หมดแล้ว หากผู้ฝึกวิชามารที่เจอมีพลังแข็งแกร่งกว่านาง นางจะทำอย่างไร?
คนอื่นเมื่อมีระดับวรยุทธ์เช่นนางตอนนี้ล้วนไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องทางโลก ไม่สนใจผู้อื่น นางกลับดี ชอบยุ่งเรื่องของคนอื่นนัก
ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูพาพวกเขาสองคนท่องเที่ยวรอบเมือง ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูไม่รู้แผนการของเฟิ่งจิ่ว นึกว่านางไม่เคยมาเมืองธาราภูมิ จึงได้สนใจที่นี่และท่องเที่ยวนานอยู่กว่าครึ่งค่อนวัน
ส่วนต้วนเยี่ยที่รู้แผนการของเฟิ่งจิ่วดีแม้จะบอกว่าติดตามมาเที่ยวด้วย แต่ก็คอยเฝ้าระวังตลอดทาง ดูว่ามีใครสังเกตหรือไม่ กระทั่งผ่านยามเที่ยงวันไป พวกเขาจึงค่อยมุ่งหน้าไปจวนเจ้าเมือง
“อาจารย์อาต้วน ภูตหมอ ข้างหน้านี้ก็คือจวนเจ้าเมืองแล้ว” ลู่ซีเหยียนเอ่ยแนะนำ มือหนึ่งแคล้องแขนหร่วนหรูที่อยู่ข้างๆ เดินไป
เฟิ่งจิ่วกับต้วนเยี่ยมองไปข้างหน้า เห็นเพียงหน้าประตูจวนเจ้าเมืองมีผู้ฝึกตนทยอยกันเข้าไปไม่ขาดสาย เฟิ่งจิ่วจึงถาม “คนพวกนั้นที่เข้าไปล้วนเป็นคนในจวนของพวกเจ้าหรือ?”
ลู่ซีเหยียนส่ายหน้า เอ่ยว่า “ไม่ใช่ เพราะมีผู้ฝึกวิชามารปรากฏตัวในเมือง ท่านพ่อของข้าจึงติดป้ายประกาศ เชิญเหล่าผู้แข็งแกร่งในเมืองมาช่วยจับผู้ฝึกวิชามารคนนั้น คนพวกนี้น่าจะมาเพราะผู้ฝึกวิชามารนั่นกระมัง!”
“อ้อ? พ่อของเจ้าติดป้ายประกาศหรือ!” เธอมองนาง ก่อนถามด้วยความสงสัย “วรยุทธ์ของพ่อของเจ้าอยู่ระดับใดหรือ?” เหตุใดผู้ฝึกวิชามารเพียงคนเดียวยังรับมือไม่ได้? ในเมื่อเป็นเจ้าเมือง ก็ควรจะมีระดับวรยุทธ์ที่ไม่ธรรมดาถึงจะถูก
“ท่านพ่อของข้าเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินขั้นกลาง เพียงแต่ เรื่องที่เขาต้องสะสางมีมากมายเกินไป ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นก็เที่ยวก่อคดีในเมืองอีก ท่านพ่อของข้าไม่สามารถรับมือได้ด้วยตัวคนเดียว ฉะนั้นจึงได้เชิญผู้แข็งแกร่งหลายท่านมาช่วย”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า วรยุทธ์ของเจ้าเมืองคนหนึ่งอยู่ในระดับเซียนเหินก็ไม่เลวแล้ว ผู้นำตระกูลหลายคนทางนี้ส่วนมากพลังล้วนติดอยู่ในระดับนี้
พวกเขาเดินตามลู่ซีเหยียนเข้าไปข้างใน ครั้นเข้าไปถึงข้างใน เดินไปได้ระยะหนึ่งก็เห็นมีคนไม่น้อยกำลังยืนถกเถียงกันเรื่องผู้ฝึกวิชามาร รวมถึงพูดคุยเรื่องของพวกเขากันเล็กน้อย
ในลานบ้านมีคนมาก ลู่ซีเหยียนจึงเอ่ยว่า “อาจารย์อาต้วน พวกเราทางไปทางนั้นกันเถิด! ทางนั้นเป็นทางเดินเล็กไม่มีคน ข้าพาพวกท่านไปพักก่อนแล้วค่อยไปบอกท่านพ่อ”
พวกเขากำลังจะเดินไปอีกทาง พลันนั้น ผู้ฝึกตนชายวัยกลางคนคนหนึ่งเหลือบมองว่าอย่างไม่ตั้งใจ ครั้นเห็นใบหน้าเด็กกว่าวัยของต้วนเยี่ย ก็อดเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจไม่ได้
“สหายต้วน! สหายต้วน!”
คนผู้นั้นเบียดออกมาจากกลุ่มคนด้วยสีหน้าตื่นเต้น วิ่งไปหาต้วนเยี่ย มาหยุดอยู่ตรงหน้าเขามองอยู่ครู่หนึ่ง บอกว่า “โอ้ เป็นสหายต้วนจริงหรือ! ข้านึกว่ามองผิดไป นึกไม่ถึงว่าเป็นท่านจริงๆ”
เสียงของผู้ฝึกตนคนนั้นก้องกังวาน พอเขาเอ่ยจบ ความสนใจของทุกคนล้วนถูกดึงดูดมา ยามนี้สายตาของทุกคู่ล้วนถูกดึงดูดมาที่ใบหน้าอ่อนเยาว์ของต้วนเยี่ย พวกเขาลอบสงสัย เด็กหนุ่มคนนี้ดูอายุไม่มาก ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินคนนั้นเห็นเด็กหนุ่มเหตุใดจึงตื่นเต้นขนาดนี้?
ด้วยเหตุนี้ คนที่รู้จักผู้ฝึกตนคนนั้นจึงถาม “สหายหง ไม่รู้ว่าสหายน้อยผู้นี้คือ?”
ผู้ฝึกตนคนนั้นหัวเราะตอบ “ฮ่าๆๆ พวกท่านไม่รู้จักกระมัง! ท่านนี้คือสหายต้วนเยี่ยจากสำนักเมฆาหยก เขากราบเข้าไปเป็นศิษย์สำนักเมฆาหยกได้ไม่ดีกี่ปี พลังพัฒนารวดเร็วมาก ตอนนี้เป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินระดับสูงสุดแล้ว”
………………………………….
ตอนที่ 2236 วิ่งไปไหนแล้ว
ทุกคนได้ยินก็สูดหายใจ เด็กหนุ่มคนนี้ดูเหมือนอายุไม่มาก แต่กลับเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดแล้ว? พวกเขาจ้องสำรวจขึ้นลง กลับค้นพบว่ากลิ่นอายพลังของเขาไม่ได้อยู่ในระดับเซียนเหินขั้นสูงสุด อดสงสัยไม่ได้ จึงหันไปมองผู้ฝึกตนคนนั้น
“เจ้าคงไม่ได้จำผิดหรอกกระมัง? เด็กหนุ่มคนนี้ดูอายุไม่มากนี่! เขามีพลังอยู่ระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดแล้วหรือ?”
“จะจำผิดได้อย่างไร? ครั้งที่แล้วเขาเคยช่วยข้า!” ผู้ฝึกตนหงยิ้มอธิบาย หันไปมองต้วนเยี่ยแล้วบอกว่า “สหายต้วน เจ้ายังจำข้าได้กระมัง? ครั้งที่แล้วเจ้าเคยช่วยข้า”
ต้วนเยี่ยฟังพวกเขาคุยกันคนนั้นทีคนนี้ที โดยเฉพาะสุดท้ายก็ถูกคนล้อมเข้ามาจนอยู่ตรงกลาง ทั้งถามทั้งจ้องพิจารณา อดขมวดคิ้วเล็กน้อยไม่ได้ หันไปมองเฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างๆ ทว่าครั้นหันไปมอง คิ้วที่ขมวดก็ยิ่งขมวดแน่นขึ้นอีก
เฟิ่งจิ่วเล่า? ผู้หญิงคนนั้นวิ่งไหนแล้ว?
“ดูคนไม่อาจดูจากรูปร่างหน้าตาได้จริงๆ! ดูไม่ออกเลยว่าสหายจะเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินแล้ว คนหนุ่มรุ่นหลังน่ากลัวจริงๆ!”
“ใช่แล้วๆ สมแล้วที่เป็นผู้มีพรสวรรค์ของสำนักเมฆาหยก หนึ่งในสี่สำนักเซียนใหญ่ อนาคตสดใสไร้ขีดจำกัดจริงๆ!”
“สหายต้วนเองก็คงมาเพราะเรื่องผู้ฝึกวิชามารนั่นกระมัง? ข้าว่าแล้ว ในเมื่อสหายต้วนเป็นคนของสำนักเมฆาหยก ประจวบเหมาะกับผ่านทางมาที่นี่ จะต้องไม่นิ่งดูดายอย่างแน่นอน”
“ถูกต้องแล้ว สำนักเมฆาหยกเป็นหนึ่งในสำนักเซียนใหญ่ สหายต้วนมีพลังแข็งแกร่งเช่นนี้ มีท่านอยู่ที่นี่ ผู้ฝึกวิชามารจะต้องอกสั่นขวัญหายไม่กล้าออกมาอีกเป็นแน่”
ทุกคนสลับกันพูดคนละประโยคสองประโยค ต้วนเยี่ยจึงขมวดคิ้วกล่าว “ทุกท่าน ข้ายังมีธุระ ขอตัวก่อน” เขาหันตัวจะไป แต่กลับไม่เห็นลู่ซีเหยียนแล้ว เห็นเพียงหร่วนหรูยืนอยู่มุมหนึ่งที่ด้านหลัง จึงเดินไปหา
“นางเล่า?” เขาขมวดคิ้วถาม
“อาจารย์ต้วน ซีเหยียนไปเชิญท่านพ่อของนางแล้ว” หร่วนหรูรีบตอบ
“ไม่ได้ถามถึงนาง” ต้วนเยี่ยหน้าดำคร่ำเครียด สายตากวาดมองรอบๆ ก็ไม่เห็นเงาร่างของเฟิ่งจิ่ว
เห็นต้วนเยี่ยหน้าเครียด นางอึ้งงันถอยหลังไปหนึ่งก้าว ตอบเสียงเบาๆ ว่า “ภูตหมอข้าเองก็ไม่รู้ เมื่อครู่พวกเขาต่างก็เบียดเสียดกันเข้ามา ข้าจึงถอยไปยืนข้างๆ จากนั้นกว่าจะได้สติ ก็ไม่เห็นภูตหมอแล้ว”
ต้วนเยี่ยกำลังจะไปตามหา ก็ได้ยินเสียงของลู่ซีเหยียนดังมา
“ท่านพ่อ เขาก็คืออาจารย์อาต้วนเจ้าค่ะ”
ต้วนเยี่ยหันกลับไป ก็เห็นลู่ซีเหียนกำลังพาพ่อของนางสาวเท้าก้าวใหญ่ๆ เดินมาทางนี้ เห็นอย่างนี้ เขารู้ดีว่าตนเองคงปลีกตัวออกไปไม่ได้แล้ว จึงหันไปหาหร่วนหรูที่อยู่ข้างๆ “เจ้าคุ้นเคยกับจวนเจ้าเมืองแห่งนี้หรือไม่?”
หร่วนหรูตอบ “คุ้นเคย ข้ากับซีเหยียนสนิทกันมาก หลังกลับมาข้าก็อยู่ที่นี่ตลอด”
“อย่างนั้นเจ้าไปตามหานางที ดูว่านางไปไหนแล้ว” เขากำชับ
“เจ้าค่ะ”
นางรับคำ ก่อนจะหันตัวเดินออกไป ลึกๆ ข้างในลอบประหลาดใจ อาจารย์อาต้วนช่างห่วงใยภูตหมอนัก หรือว่าภูตหมอจะเป็นญาติของอาจารย์อาต้วน? จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่บอกว่าภูตหมอชื่อแซ่อะไรเลย
ในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วกำลังเดินไปตามทางเดินเส้นเล็กๆ พลางชื่นชมทิวทัศน์ในจวนเจ้าเมือง เมื่อครู่คนทางนั้นกรูกันเข้ามา ล้วนพากันเบียนเธอออกห่างจากต้วนเยี่ย เห็นข้างๆ ต้วนเยี่ยมีแต่คนลุมร้อมพูดคุยกับเขา ลู่ซีเหยียนกับหร่วนหรูก็ยังถูกเบียดไปอีกด้าน เธอจึงปลีกตัวออกมาก่อน
ขณะเดินไปตามทางเดินเส้นเล็กๆ อากาศและสภาพแวดล้อมอันเงียบสงบทำให้จิตใจผ่อนคลายลงตามไปด้วย ในตอนที่เธอตั้งใจจะนั่งลงข้างๆ บ่อน้ำตรงภูเขาจำลองเพื่อชมปลา หางตาก็เหลือบเห็นตรงมุมหนึ่งของภูเขาจำลอง ชายชุดคลุมสีดำคนหนึ่งกำลังนอนอยู่ตรงนั้น
………………………………….