เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2237 อี้ซิวหราน / ตอนที่ 2238 มีอะไรให้เรียกข้า
ตอนที่ 2237 อี้ซิวหราน
เธอยักคิ้วเอียงตัวหันไปมอง เห็นเพียงคนคนนั้นใช้มือหนึ่งเป็นหมอน มือหนึ่งวางไว้ข้างตัว ขาข้างหนึ่งเหยียดตรง ขาข้างหนึ่งงอขึ้น นอนหรี่ตาครึ่งหนึ่งพักผ่อนอย่างสบายใจ
คนคนนั้นหน้าตาล้ำเลิศ ด้านล่างคิ้วกระบี่คู่หนึ่งคือดวงตาที่หรี่ลงครึ่งหนึ่ง เพราะอีกฝ่ายหรี่ตาครึ่งหนึ่งเธอจึงมองเห็นแววตาของเขาได้ไม่ชัด ทว่า สันจมูกสูงๆ กลีบปากบางๆ รวมถึงโครงหน้าเรียวแหลมนั่น เมื่ออยู่รวมกันแล้วกลับกลายเป็นดวงหน้าที่แลดูแข็งกร้าวทว่าหล่อเหลาโดดเด่นมีเสน่ห์เช่นชายชาตรี
ที่แปลกที่สุดก็คือ บุคลิกที่ดูคุ้มดีคุ้มร้ายนั่น กลับทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยอย่างอธิบายไม่ถูก ทว่า คนคนนี้ เธอมั่นใจได้เลยว่าเธอไม่เคยเจอ
“จ้องข้าทำไม?”
เสียงอันง่วงงุนฟังดูแหบพร่ามีเสน่ห์ดังขึ้น ขณะที่เสียงนั้นดังขึ้น ดวงตาคู่นั้นลืมขึ้นและจ้องมองมาทางเฟิ่งจิ่ว ครั้นเห็นเธอ สายตาไหวระริกเล็กน้อย ประกายตะลึงในความงามพาดผ่านในดวงตา ไม่นานคนทั้งคนลุกขึ้นนั่งอยู่บนภูเขาจำลอง
เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างชัดเจน คนคนนี้น่าจะเพิ่งเคยเจอเธอเป็นครั้งแรก เพราะสายตาที่เขามองมาที่เธอเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าเป็นแววตาตะลึงในความงามยามเห็นเธอเป็นครั้งแรก คนคนนี้ไม่ได้ต่างอะไรจากคนที่เคยเจอเธอในอดีตเลย
ชายหนุ่มนั่งจ้องเฟิ่งจิ่วจากบนภูเขาจำลองครู่หนึ่ง ก่อนจะกระโดดลงมา สาวเดินมาหาเฟิ่งจิ่วทีละก้าว ใบหน้าประดับด้วยรอยยิ้มชวนลุ่มหลง จ้องหน้าเธอนิ่ง “แม่นาง ไม่ทราบว่าแม่นางชื่ออะไรหรือ?”
สีหน้าอย่างนั้น พฤติกรรมเช่นนั้น รวมถึงแววตาและวาจาที่พูดออกมา ทำให้เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก อดละสายตาออกไปอย่างเอือมระอาไม่ได้ ถึงขนาดไม่อาจทำใจให้มองตรงๆ
คนคนนี้กำลังยั่วยวนเธอ? ดูแววตานั่นที่ส่งมาราวกับหญิงในหอนางโลมก็ไม่ปาน โดยเฉพาะเมื่อคนตรงหน้าเป็นชายชาตรีอย่านี้ ความแปลกประหลาดนั่น ทำให้ความรู้ความเข้าใจที่ผ่านมาของเธอเปลี่ยนไปหมด
“แม่นาง อายแล้วหรือ?” เห็นเฟิ่งจิ่วหันไปมองทางอื่น ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆ เอ่ยว่า “จะว่าไปก็เสียมารยาทแล้ว ข้าควรแนะนำตัวเองก่อน”
“ข้าแซ่อี้ อี้ซิวหราน อายุยี่สิบเจ็ดปี ยังไม่ได้แต่งงาน ไม่ทราบว่าแม่นาง…” ยังไม่ทันพูดจบ ก็เห็นหญิงสาวชุดแดงผู้เลอโฉมตรงหน้าหันตัวออกเดินทันที เห็นอย่างนั้นสายตาของเขาก็ไหวระริก ปากหยักโค้งขึ้นเล็กน้อยจนแทบไม่สังเกตเห็น และรีบสาวเดินตามไปทันที
“แม่นาง ข้ายังพูดไม่จบ แม่นาง ข้าตกหลุมรักท่านตั้งแต่แรกพบ ข้าอี้ซิวหรานหน้าตาหล่อเหลาโดดเด่น บุคลิกไม่ธรรมดา คู่ควรกับแม่นาง แม่นางคิดว่าอย่างไร?”
ฟังวาจาเรื่อยเปื่อยที่ดังอยู่ข้างหู เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อย ชะงักเท้าเหล่มองคนที่กำลังพูดพล่ามอยู่ข้างๆ จ้องพิจารณาเขาตั้งแต่หัวจรดเท้า “อี้ซิวหราน?”
“ใช่แล้ว ข้าเอง” เขาพยักหน้ายิ้มๆ จ้องมองเธอด้วยแววตาเร่าร้อน
“หนีออกมาจากหอนายโลมไหนกัน? ไม่รู้หรือว่าที่นี่คือที่ไหน?”
อี้ซิวหรานมุมปากกระตุกทันที ขันทีน้อย?
เขาก้มหน้ามองตัวเอง ถามว่า “คนมากพรสวรรค์หน้าตาบุคลิกโดดเด่นเช่นข้า หอนายโลมแห่งไหนจะกล้ารับไว้? แม่นางล้อเล่นแล้ว”
ทางด้านนั้น หร่วนหรูตามหามาถึงที่นี่แล้ว นางเห็นเหตุการณ์นี้พอดี รีบก้าวเข้ามาหา ทว่าเพิ่งจะเข้าใกล้ก็ได้ยินน้ำเสียงเย็นชาของภูตหมอดังขึ้น
“ไม่ได้หนีมาจากหอนายโลม แล้วเจ้าจะขยิบตาให้ข้าทำไมนักหนา? หรือว่าเจ้าเป็นโรคลมชัก?”
เฟิ่งจิ่วมองดูรอยยิ้มมุมปากที่แข็งค้างของชายหนุ่มด้วยสีหน้าเรียบเฉย ก่อนจะแค่นเสียงเอ่ยว่า “โรคลมชักเป็นอาการป่วย ต้องรักษา”
………………………………….
ตอนที่ 2238 มีอะไรให้เรียกข้า
หร่วนหรูได้ยินอย่างนั้นก็มองชายหนุ่มแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันกลับมามองเฟิ่งจิ่วอีก ก่อนจะรีบก้าวเข้ามา หยุดยืนข้างกายเฟิ่งจิ่ว “ภูตหมอ เมื่อครู่อาจารย์อาต้วนกำลังตามหาท่านอยู่” นางหันไปมองชายหนุ่มคนนั้นด้วยความสงสัย คนคนนี้กำลังเกี้ยวพาภูตหมอหรือ? หากอาจารย์อาต้วนรู้เข้า จะต้องมีเรื่องกันแน่ๆ
นึกมาถึงตรงนี้ นางรีบเอ่ยว่า “ข้าคุ้นเคยกับจวนนี้ดี ถ้าอย่างไรให้ข้าพาภูตหมอเดินชมรอบๆ ดีหรือไม่? หรือจะไปหาอาจารย์อาต้วนข้างหน้า?”
“ข้าจะนอนกลางวัน เจ้าพาข้าไปที่ห้องพักแขกเถิด!” เฟิ่งจิ่วเอ่ย เหล่มองอี้ซิวหรานแวบหนึ่ง ก่อนจะสาวเดินตามหร่วนหรูไป
เห็นเฟิ่งจิ่วไปแล้ว อี้ซิวหร่านสีหน้าไหวระริก บุคลิกท่าทางของเขากลายเป็นคนละคนหลังจากที่นางเดินออกไปไกลแล้ว เขาจ้องมองเงาร่างที่ค่อยๆ ไกลออกไปอย่างขบคิด ไม่รู้ว่านึกอะไรขึ้นมาได้ มุมปากหยักยกเล็กน้อย เผยรอยยิ้มแปลกๆ ออกมา
หร่วนหรูที่พาเฟิ่งจิ่วเดินออกมาระยะหนึ่งหันกลับไปมองข้างหลัง เห็นชายหนุ่มไม่ได้ตามมา จึงถาม “ภูตหมอ คนคนนั้นไม่ได้ทำอะไรท่านกระมัง?”
“เปล่า” เฟิ่งจิ่วตอบ มองไปข้างหน้า พลางถาม “คนคนนั้นก็เป็นแขกของท่านเจ้าเมืองหรือ?”
“แต่ก่อนไม่เคยเห็นเขา ข้าคิดว่าคงเพิ่งมาวันนี้วันแรก อาจเป็นผู้ฝึกตนที่มาตามป้ายประกาศนั่น” หร่วนหรูตอบ
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า ไม่พูดอะไรอีก ทั้งสองเดินทอดน่องไปช้าๆ คุยสัพเพเหระกันบ้าง กระทั่งมาถึงลานบ้านข้างหลังจึงค่อยหยุดเดิน
“ภูตหมอ ท่านพักที่เรือนนี้ก็แล้วกัน! ข้างๆ เป็นเรือนของซีเหยียน ข้าอยู่กับนาง หากมีเรื่องอะไรก็มาหาพวกข้าได้” หร่วนหรูบอกเบาๆ พาเธอเข้าไปข้างใน “อีกเดี๋ยวท่านดูว่าขาดอะไรไปบ้าง ข้าจะบอกซีเหยียนให้สั่งคนเอามาให้”
เฟิ่งจิ่วสำรวจเรือนนี้ จากนั้นก็เข้าไปดูข้างใน เอ่ยว่า “ไม่ต้อง เท่านี้ก็ดีมากแล้ว” เธอไม่ได้จะอยู่ที่นานเสียหน่อย
“อย่างนั้นท่านพักผ่อนก่อน ข้าไปบอกซีเหยียนกับอาจารย์อาต้วนที่อยู่ด้านหน้าสักหน่อย พวกเขาจะได้ไม่เป็นห่วง” นางค้อมกายเล็กน้อย ก่อนจะถอยออกไป พร้อมกับดึงเอาประตูปิดลงด้วย
เฟิ่งจิ่วเห็นนางออกไปแล้ว ก็เดินไปนั่งที่ขอบเตียง ถอดรองเท้าออกเอนกายลงบนเตียง ดึงผ้าห่มขึ้นมาห่มจากนั้นก็หลับไป
เหมือนอย่างที่ต้วนเยี่ยบอก เมื่อคืนไม่ได้พักผ่อนดีๆ วันนี้ก็เดินเที่ยวไปครึ่งค่อนวัน ตอนนี้ครั้นได้เอนกาย ไม่นานก็หลับลึกไปอย่างรวดเร็ว…
ต้วนเยี่ยที่อยู่ข้างหน้าหลังจากได้เจอเจ้าเมือง พูดคุยกันอยู่ครู่หนึ่ง ก็มาถึงเรือนที่เฟิ่งจิ่วอยู่ภายใต้การนำทางของลู่ซีเหยียนและหร่วนหรู เห็นในเรือนเงียบสนิท ก็รู้ว่าคนข้างในยังไม่ตื่น ด้วยเหตุนี้เขากลับหยุดฝีเท้าไม่เดินเข้าไปรบกวนข้างใน
“อาจารย์อาต้วน ถ้าอย่างไรข้าพาท่านไปพักผ่อนที่ห้องก่อนก็แล้วกัน!” ลู่ซีเหยียนเอ่ย “บางทีค่ำหน่อยภูตหมออาจตื่นแล้ว”
ต้วนเยี่ยมองแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “ที่นี่ยังมีห้องอีกไม่ใช่หรือ? ข้าพักที่นี่ก็ได้แล้ว”
ทั้งสองนิ่งอึ้ง ที่นี่มีห้องว่าง แต่ถึงอย่างไรชายหญิงต่างกัน เขาจะพักอยู่เรือนเดียวกับภูตหมอ? เหมือนจะไม่ค่อยดีกระมัง?
“ทำไม? ไม่ได้หรือ?” ต้วนเยี่ยมองลู่ซีเหยียน
“เปล่าเจ้าค่ะๆ” นางรีบโบกมือ “แน่นอนว่าพักที่นี่ได้ เพียงแต่ ข้ากังวลว่าจะไม่สะดวกหรือไม่?”
“ไม่หรอก”
ครั้นได้ฟังคำตอบ หร่วนหรูดึงแขนเสื้อของลู่ซีเหยียนเงียบๆ ลู่ซีเหยียนตระหนักได้จึงรีบเอ่ยว่า “เช่นนั้นอาจารย์อาต้วนก็พักที่นี่ไปก่อน ข้ากับหร่วนหรูอยู่เรือนข้างๆ หากอาจารย์อาต้วนมีเรื่องใดก็เรียกข้าได้”
………………………………….