เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2241 ฉีกมาหนึ่งชิ้น / ตอนที่ 2242 สั่งสอน
ตอนที่ 2241 ฉีกมาหนึ่งชิ้น
“จะเป็นคนธรรมดาได้อย่างไร? เจ้าเมืองลู่บอกแล้วไม่ใช่หรือ? เป็นภูตหมอ อย่างนี้ก็แสดงว่าน่าจะเป็นหมอ”
“ฮ่าๆๆ แม้แต่หมอก็มาด้วยแล้ว นี่คิดจะทำอะไรกัน? เจ้าเมืองลู่ หรือแม่นางคนนี้ยังช่วยจับผู้ฝึกวิชามาได้ด้วย?”
ได้ยินวาจาดูแคลนอย่างไม่ปิดบังของคนพวกนี้ เจ้าเมืองลู่อดขมวดคิ้วไม่ได้ เขาหันไปมองภูตหมอ เห็นเธอกำลังดื่มสุรา ราวกับไม่ได้ยินคำพูดดูแคลนของผู้ฝึกตนพวกนั้น
แม้เธอจะไม่สนใจ แต่ถึงอย่างไรเธอก็เป็นแขก หนำซ้ำยังเป็นแขกของเขา เขาไม่อาจปล่อยให้คนพวกนี้หมิ่นเกียรติของเธออย่างนี้ได้ ด้วยเหตุนี้ เขาหน้าตาเคร่งขรึม เอ่ยกับทุกคนว่า “ทุกท่านอาจยังไม่ทราบ ภูตหมอไม่ใช่คนธรรมดา นาง…” ยังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกตัดบทเสียก่อน”
“แม่นาง ที่แท้ก็ชื่อเฟิ่งจิ่วเองหรือ! อย่างนั้นข้าเรียกเจ้าว่าจิ่วเอ๋อร์ดีหรือไม่?”
คำว่าจิ่วเอ๋อร์ทำให้เฟิ่งจิ่วที่เพิ่งดื่มสุราเข้าไปสำลักออกมา พ่นใส่หน้าของอี้ซิวหรานที่ชะโงกหน้าเข้ามาหาเธอพอดี
อี้ซิวหรานนิ่งอึ้ง รู้สึกเพียงว่าสุราที่ถูกพ่นใส่หน้ากำลังไหลหยดลงมา เขาที่ไม่เคยถูกกระทำเช่นนี้รู้สึกเพียงสมองขาวโพลนไปหมด ด้วยสัญชาตญาณ เขายื่นมือออกไปดึงชายเสื้อของเธอขึ้นมาเช็ดหน้าตนเอง
เฟิ่งจิ่วที่เห็นอย่างนั้นมุมปากกระตุก ภาพที่คนคนนี้เอาชายเสื้อของเธอไปเช็ดหน้า ให้ความรู้สึกคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด เมื่อก่อน เหมือนว่าเธอจะเคยทำอย่างนี้กับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ และนาทีนี้ เมื่อถึงตาเธอสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยตนเอง ความรู้สึกเช่นนี้ ช่างงดงามจริงๆ
ต้วนเยี่ยเหล่มองชายชุดคลุมสีดำแวบหนึ่ง ขมวดคิ้วโดยไม่รู้ตัว คนคนนี้เป็นใครอีก? เฟิ่งจิ่วไปมีเรื่องกับเขาเมื่อใดกัน?
หากเฟิ่งจิ่วรู้สิ่งที่เขาคิด จะต้องร้องตะโกนว่าตนเองถูกใส่ร้ายแน่นอน ทั้งที่อี้ซิวหรานเป็นฝ่ายเข้าหาเธอก่อนแท้ๆ
คำพูดของเจ้าเมืองลู่ถูกขัดจังหวะด้วยเหตุการณ์นี้ เขาอึ้งค้างเช่นกัน ครั้นได้สติ ก็หันไปกระซิบบอกลูกสาวที่นั่งอยู่ข้างๆ “นี่มันเรื่องอะไรกัน? พวกเขารู้จักกัน?”
ด้วยเหตุนี้ ลู่ซีเหยียนเล่าเรื่องที่เฟิ่งจิ่วเจออี้ซิวหรานที่ข้างหลังจวนให้เขาฟัง ไม่เพียงเท่านั้น นางยังถามอีกว่า “ท่านพ่อ คนคนนี้เป็นใคร? ท่านรู้จักหรือ?”
“มาเพราะป้ายติดประกาศในวันนี้เช่นกัน เหมือนจะบอกว่าแซ่อี้นะ เป็นผู้ฝึกเซียนคนหนึ่ง” เจ้าเมืองลู่ตอบ สายตาจับจ้องไปที่อี้ซิวหราน กล้าเกี้ยวพาราศีภูตหมอแล้วยังมีชีวิตอยู่ คนคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะ!
อี้ซิวหรานเช็ดหน้าเสร็จ ก็มองชายเสื้อสีแดงในมือตนเองอย่างอึ้งๆ จากนั้นหรี่ตา เผยรอยยิ้มมึนเมาออกมา “จิ่วเอ๋อร์ กลิ่นนี้หอมนัก ไม่สู้ มอบชายเสื้อนี้ไว้เป็นที่ระลึกแก่ข้าเถิด!” เอ่ยจบ มือของเขาออกแรงดึง ได้ยินเพียงเสียงแขวก ชายเสื้อของเฟิ่งจิ่วถูกฉีกหายไปหนึ่งแถบ
ทุกคนที่ดูอยู่พลันตะลึงค้าง คนคนนี้ตั้งใจมาทำให้เรื่องยุ่งกว่าเดิมกระมัง หรือว่ามาผสมโรง? ต่อหน้าผู้ฝึกตนมากมายขนาดนี้ รวมถึงต่อหน้าเจ้าเมืองลู่ นึกไม่ถึงเขากลับกล้าเกี้ยวพาคนอื่นเขา หนำซ้ำยังฉีกเสื้อของคนอื่นเขามาเป็นของที่ระลึกอีก?
ทุกคนแข็งทื่อเหมือนหิน แม้แต่พวกเขาที่ใช้ชีวิตมาจนอายุปูนนี้แล้ว ก็ยังไม่เคยเห็นใครหน้าไม่อายขนาดนี้มาก่อน
ต้วนเยี่ยหน้าเครียดทันที เขาลุกขึ้น กลิ่นอายพลังวิญญาณในร่างพวยพุ่ง ตวัดฝ่ามือใส่ชายชุดคลุมสีดำ ขณะเดียวกันก็ตวาดเสียงกร้าว “รนหาที่ตาย!”
อี้ซิวหรานกำลังถือชายเสื้อของเฟิ่งจิ่วอย่างยิ้มๆ รู้สึกได้ว่าฝ่ามือลมพุ่งเข้ามา แววตาแฝงรอยยิ้มของเขาจ้องมองเฟิ่งจิ่ว เงาร่างกลับถอยไปข้างหลังในพริบตา หลบเหลี่ยงการจู่โจมของต้วนเยี่ย…
………………………………….
ตอนที่ 2242 สั่งสอน
เงาร่างสองร่างรวมพลังเหาะขึ้น กระโดดขึ้นไปต่อสู้กันบนหลังคา
ส่วนด้านล่าง เฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่หยิบชุดกระโปรงที่ถูกฉีกขึ้นมามองดู เห็นชุดกระโปรงดีๆ ตัวหนึ่งต้องมาถูกทำลายอย่างนี้ โดยเฉพาะเมื่อชายเสื้อแถบนั้นยังไปตกอยู่ในมือของอี้ซิวหรานด้วยแล้ว
เธอโยนชุดกระโปรงในมือขึ้นลงเบาๆ หรี่ตามองขึ้นไปบนหลังคา ต้วนเยี่ยมีวรยุทธ์ระดับเซียนเหินขั้นสูงสุด ส่วนอี้ซิวหรานในชุดดำนึกไม่ถึงว่าสู้กับเขาก็ยังไม่เสียเปรียบ หึๆ น่าสนใจไม่น้อย
นัยน์ตาสุกใสมีประกายมืดมนพาดผ่านหนึ่งสาย มุมปากหยักยิ้มที่เหมือนจะยิ้มแต่ก็ไม่ยิ้มจ้องมองสองคนข้างบน มือหนึ่งถือถ้วยสุรา อีกมือหนึ่งเคาะโต๊ะเป็นระยะอยู่อย่างนั้น
คนอื่นไม่พูดอะไรอีก เพียงจ้องมองสองคนข้างบน ประหลาดใจกับพลังของชายชุดดำคนนั้น พวกเขารู้จักต้วนเยี่ย นั่นเป็นคนดังมีพรสวรรค์ในสำนักเมฆาหยกเชียวนะ แต่ชายชุดดำเล่าเป็นใครกัน? กลับสามารถสู้กับต้วนเยี่ยได้โดยไม่ตกเป็นรอง?
“ภูตหมอ ถ้าอย่างไร ข้าพาท่านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า?” ลู่ซีเหยียนมาถามเธอ ถึงอย่างไรก็เป็นผู้หญิง ชุดกระโปรงถูกคนฉีกขาดไปส่วนหนึ่ง อย่างไรก็ดูไม่ค่อยดี
“ไม่จำเป็น” เฟิ่งจิ่วเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ “อีกเดี๋ยวข้าค่อยกลับไปเปลี่ยนก็ได้”
ลู่ซีเหยียนเห็นดังนั้นจึงกลับไปนั่งข้างพ่อของนาง มองขึ้นไปบนหลังคา เห็นอาจารย์อาต้วนสู้กับคนคนนั้น คล้ายว่าจะทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บไม่ได้ จึงรู้ว่าพลังของอีกฝ่ายน่าจะสูงกว่าเขา
ประมือกันครู่หนึ่ง ต้วนเยี่ยก็รู้ว่าพลังของคนคนนี้สูงกว่าตนเอง เขาเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหิน อย่างนั้น คนคนนี้ก็ต้องเป็นปราชญ์เซียน? ช่างเป็นปราชญ์เซียนที่ซ่อนตัวเก่งจริงๆ ไม่นึกว่าจะไม่เผยกลิ่นอายของปราชญ์เซียนออกมาให้เห็นแม้แต่นิดเดียว
เพียงแต่ เห็นคนคนนี้ฉีกชายกระโปรงของเฟิ่งจิ่ว เขากลับทำอะไรเขาไม่ได้ ลึกๆ ข้างในจึงมีไฟโทสะก่อตัวขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ ส่งผลให้ยิ่งลงมือแรงขึ้น ชั่วขณะหนึ่ง ท่าร่างเปลี่ยนผัน ฝ่ามือลมก็เปลี่ยนไปเช่นกัน เขาที่รอบกายเต็มไปด้วยพลังวิญญาณอันพุ่งพล่านซัดฝ่ามือออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว เห็นเพียง ฝ่ามือที่เกิดจากกลิ่นอายพลังวิญญาณจากเล็กกลายเป็นใหญ่ จากหนึ่งกลายเป็นสอง ฝ่ามือหลายชั้นซัดใส่คนคนนั้นด้วยความเร็วปานสายฟ้าฟาด
“บึ้ม! บึ้มๆๆๆ!”
ฝ่ามือลมซัดออกไป ฝ่ามือแรกถูกหลบได้ แต่หลายฝ่ามือที่ซัดตามออกไปติดๆ กลับกระแทกโดนตัวอี้ซิวหรานอย่างจัง เห็นเพียงสีหน้าสบายใจของอี้ซิวหรานพลันเปลี่ยนสี ร่างกายถูกซัดปลิวออกไป
“พรืด!”
เลือดคำหนึ่งพุ่งออกจากปาก ร่างกายร่วงลงมาจากหลังคา ร่วงตกลงมากระแทกกับกำแพง จากนั้นก็กระเด็นตกลงมาบนพื้นอีก เกิดเป็นเสียงดังสนั่น
“ซี้ด!”
เขาสูดปาก ลุกขึ้นนั่งบนพื้น ยกมือเช็ดคราบเลือดที่มุมปาก จากนั้นก็เงยหน้ามองต้วนเยี่ยที่เหาะลงมา สายตาไหวระริกด้วยความตะลึงพรึงเพริด
ผู้ชายคนนี้เป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับเซียนเหิน แต่พลังต่อสู้กลับน่าสะพรึงเช่นนี้ เขาไม่คาดคิดเลยว่าด้วยพลังระดับปราชญ์เซียนของตนเองจะถูกเซียนเหินผู้หนึ่งซ้อมจนมีสภาพเช่นนี้!
ตอนนั้นพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเฟิ่งจิ่ว เขายอมรับ! แต่หากต้องพ่ายแพ้ด้วยน้ำมือของเจ้าหน้าอ่อนคนนี้ ใจเขากลับเต็มไปด้วยไฟโทสะ คิดอยากจะสู้กันอีกครั้ง!
เมื่อไรกันที่เขาผู้เป็นถึงเจ้าวิหารราตรีกลายเป็นคนที่จะถูกใครกำราบก็ได้อย่างนี้ หรือว่าแต่ละคนที่อยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่วล้วนเป็นตัวประหลาด? แต่ละคนล้วนเป็นคนมีพรสรรค์ผิดมนุษย์?
ต้วนเยี่ยเหาะลงมาจากข้างบน มาหยุดอยู่ตรงหน้าอี้ซิวหราน น้ำเสียงเย็นๆ ดังขึ้น “เจ้ากล้าแตะต้องนาง หากรนหาที่ตายข้าก็จะสงเคราะห์ให้!”
ขณะที่คิดจะสั่งสองผู้ชายที่ไม่รู้ฟ้าสูงดินต่ำคนนี้ เสียงของเฟิ่งจิ่วก็ดังขึ้นมา…
………………………………….