เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2251 เฟิ่งจิ่วหายไปแล้ว / ตอนที่ 2252 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2251 เฟิ่งจิ่วหายไปแล้ว / ตอนที่ 2252 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
ตอนที่ 2251 เฟิ่งจิ่วหายไปแล้ว
ต้วนเยี่ยในเวลานี้ มือกำกระบี่แน่น กลีบปากเม้มเข้าหากันเล็กน้อย ใบหน้าอ่อนเยาว์เปื้อนเลือดเต็มไปหมด ดวงตาแดงก่ำเล็กน้อย จ้องปีศาจเลือดที่ถูกผู้อาวุโสเซียนหลายคนรุมโจมตีเขม็ง
“อย่าฆ่ามัน! ข้าต้องการให้มันมีชีวิตอยู่!” น้ำเสียงเย็นๆ ของต้วนเยี่ยเปล่งออกมา ผู้อาวุโสเซียนคนนั้นได้ยินก็อึ้ง
“ต้วนเยี่ย เจ้าบาดเจ็บไม่น้อย ไปนั่งตรงนั้นก่อนแล้วค่อยคุยกัน” ผู้อาวุโสเซียนจากสำนักเมฆาหยกเตือน ก่อนจะประคองเขาไปนั่งที่ด้านหนึ่ง ใครจะรู้ ต้วนเยี่ยกลับกุมมือเขาไว้แน่น
“อาจารย์อา” ต้วนเยี่ยมองเขา กุมมือข้างหนึ่งของเขาแรงๆ มองหน้าเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ ขานเรียกด้วยน้ำเสียงปนสะอื้น
เห็นสีหน้าต้วนเยี่ยเป็นอย่างนี้ ผู้อาวุโสเซียนจากสำนักเมฆาหยกก็อดหน้าเครียดไม่ได้ ถามว่า “เจ้าเป็นอะไร? บอกอาจารย์อา” เขารู้จักต้วนเยี่ยดี เด็กหนุ่มคนนี้เป็นลูกศิษย์ที่เยี่ยมยอดที่สุดของศิษย์พี่ของเขา แต่นึกไม่ถึงเวลานี้เด็กหนุ่มกลับดวงตาแดงก่ำ น้ำเสียงก็สะอื้นแล้ว เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่?
“มันเปิดประตูแห่งความมืด แล้วทำให้เฟิ่งจิ่วหายตัวไปแล้ว” เลือดลดในร่างของต้วนเยี่ยปั่นป่วน เขาในเวลานี้ ทั้งหวาดกลัว ทั้งกังวล และโทษตัวเอง
เขากลัวว่าเฟิ่งจิ่วจะตายเพราะเขา เขากังวลว่านางจะกลับมาไม่ได้อีก เขายิ่งโทษตัวเอง เพราะหากไม่ใช่เพื่อช่วยเขา นางก็คงไม่ได้ต้องถูกดูดเข้าไปในหลุมนั่น
ผู้อาวุโสเซียนได้ยินก็ยักคิ้ว เขามองหน้าต้วนเยี่ย น้ำเสียงที่เปล่งออกมาแฝงไว้ด้วยความระมัดระวังที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่รู้ตัว “ฟะ เฟิ่งจิ่ว? คงไม่ใช่ภูตหมอเฟิ่งจิ่วหรอกกระมัง?”
“เป็นนาง” ต้วนเยี่ยตอบ ประโยคเดียว เพียงสองคำ ทำให้ผู้อาวุโสเซียนคนนั้นนิ่งค้างไป เสียงที่เปล่งออกมาสูงขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
“อะไรนะ! เป็นนางจริงๆ หรือ? นะ นางถูกดูดเข้าไปในประตูแห่งความมืด? แย่แล้วๆ ครั้งนี้แย่แล้ว” เขาหน้าเปลี่ยนสีไปทันที เดินกลับไปกลับมาอยู่ที่เดิมด้วยความลนลาน
พวกเขามาก็เพราะรู้ว่าเฟิ่งจิ่วก็คือเฟิ่งซิง เดิมทีมาเพราะต้องการมาหานางที่หอยาสวรรค์เมืองร้อยนที แต่ใครจะคิด กลับเจอเหตุการณ์นี้ระหว่างทางเข้า? ประตูแห่งความมืดของปีศาจเลือดนั่น…นะ นี่จะทำอย่างไรดี!
ทว่า ในขณะที่จิตใจของเขากำลังสับสนวุ่นวาย เสียงกรีดร้องหนึ่งดังขึ้น เขาได้สติรีบเงยหน้าขึ้นไปดู เห็นภาพที่เหล่าผู้อาวุโสเซียนกำลังสังหารปีศาจเลือดตนนั้นพอดี หัวใจของเขาสั่นสะท้าน พึมพำเบาๆ ว่า “ครั้งนี้แย่แล้วจริงๆ…เกิดเรื่องใหญ่แล้ว…”
ต้วนเยี่ยเองก็เห็นภาพที่ปีศาจเลือดตัวนั้นถูกฆ่า กลีบปากขยับเล็กน้อย แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ครึ่งคำ ผู้อาวุโสเซียนทั้งหลายรวดเร็วมาก พวกเขาร่วมมือกันหลายคน ไม่ทันไรก็สังหารปีศาจเลือดตนนั้นได้แล้ว รวดเร็วจนเขายังไม่ทันได้ตั้งตัว
ตอนนี้เขาเป็นห่วงแค่ว่า เฟิ่งจิ่วที่ถูกดูดเข้าไปในประตูแห่งความมืดจะถูกเคลื่อนย้ายไปที่ใด เขาห่วงเพียงว่าเข้าไปในนั้นแล้ว จะเป็นหรือตายกันแน่? นางจะยังรอดกลับมาได้หรือไม่? หรือว่าพวกเขาจะเข้าไปตามหานางได้หรือไม่?
“เหอะ! คนของพรรคมารยิ่งอยู่ยิ่งกำเริบเสิบสานขึ้นเรื่อยๆ แล้ว! นึกไม่ถึงจะกล้าออกมาก่อความวุ่นวาย คิดว่าคนของสี่สำนักเซียนอย่างพวกเรามีไว้เพื่อวางประดับเฉยๆ หรือ?” ผู้อาวุโสเซียนผู้หนึ่งสบถ ด้วยพลังของพวกเขาร่วมมือกันสังหารปีศาจเลือดตนนั้น แทบไม่ต้องออกแรงมากมาย
“เพียงเสียดาย พวกเรามาช้าไปก้าวหนึ่ง ปล่อยให้มันสังหารผู้ฝึกตนไหมากมายขนาดนี้ หากมาถึงเร็วกว่านี้สักหนึ่งก้านธูป บางที อาจไม่ต้องมีคนมากมายขนาดนี้ตายด้วยน้ำมือของปีศาจเลือด” ผู้อาวุโสเซียนคนหนึ่งทอดถอนใจ ส่ายหน้ามองศพที่นอนเกลื่อนพื้น
คนอื่นที่ได้ยินได้แต่เงียบงัน มองดูเลือดที่นองเต็มพื้น อดไม่ได้ที่จะรู้สึกทอดถอนใจเช่นกัน เวลานี้คล้ายกับนึกอะไรขึ้นมาได้ หันไปมองผู้อาวุโสเซียนจากสำนักเมฆาหยก
………………………………….
ตอนที่ 2252 เกิดเรื่องใหญ่แล้ว
เมื่อหันไป พวกเขาอดคิดอย่างสงสัยไม่ได้ ผู้อาวุโสเซียนผู้นั้นเป็นอะไรไป? เหตุใดสีหน้าดูผิดปกติเช่นนั้น? พวกเขามองหน้ากัน ก่อนจะลอยตัวลงมาจากกลางอากาศ จากนั้นเดินไปทางนั้น
“ขอบคุณผู้อาวุโสเซียนทั้งหลายที่ช่วยชีวิต” เจ้าเมืองลู่รีบเอ่ย ประสานมือให้ผู้อาวุโสเซียนทั้งหลาย เพื่อคารวะขอบคุณ
พวกเขาโบกมือ “ไม่เป็นไร พวกเราเองก็บังเอิญผ่านทางมา เพียงแต่อย่างไรก็ยังมาช้าไปก้าวหนึ่ง ปล่อยให้ปีศาจเลือดนั่นฆ่าคนไปมากมายขนาดนี้”
เจ้าเมืองลู่ได้ฟัง หันไปมองศพที่เต็มพื้น เอ่ยอย่างเศร้าโศก “เหล่าผู้อาวุโสเซียนวางใจ ผู้แซ่ลู่จะทำพิธีศพให้พวกเขาอย่างสมเกียรติ” เขาเองก็นึกไม่ถึงว่าผู้ฝึกวิชามารนี่ก็คือปีศาจเลือด ยิ่งนึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์คืนนี้จะเลวร้ายถึงเพียงนี้ ไม่เพียงมีผู้ฝึกตนตายไปหลายคน แม้แต่พวกเขาเองก็เกือบตายอยู่ตรงนี้แล้ว กระทั่งภูตหมอท่านนั้นก็ยังถูกดูดเข้าไปในหลุมน้ำวนด้วย ตอนนี้ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร
พวกเขาฟังเจ้าเมืองลู่เอ่ยอย่างนั้นก็พยักหน้า ก่อนจะเดินไปหาผู้อาวุโสเซียนจากสำนักเมฆาหยก ครั้นมาหยุดยืนข้างเขาก็มองต้วนเยี่ยแวบหนึ่ง ก่อนถามว่า “สหายเฒ่า เป็นอะไรไป? ดูสีหน้าท่านเหมือนไม่ค่อยปกติ?”
“แย่แล้วๆ ครั้งนี้แย่แล้วจริงๆ เกิดเรื่องใหญ่แล้ว” ผู้อาวุโสเซียนคนนั้นส่ายหน้าขณะพึมพำ สกานถารณ์ในตอนนี้เป็นสถานการณ์ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน
“อะไรแย่แล้ว? ท่านพูดมาให้ละเอียดหน่อย” ผู้อาวุโสเซียนคนหนึ่งถาม
“ต้วนเยี่ย เจ้าออกไปฝึกฝนนอกสถานที่กับพวกอาจารย์อาของเจ้าไม่ใช่หรือ? เหตุใดมาอยู่นี่ได้?” ผู้อาวุโสเซียนจากสำนักเมฆาหยกอีกคนถาม ค่อนข้างสงสัยที่ต้วนเยี่ยมาอยู่ที่นี่
“อาจารย์อา ข้ามากับเฟิ่งจิ่ว” เสียงของต้วนเยี่ยฟังดูค่อนข้างว่างเปล่า เขาในตอนนี้ สมองสับสนวุ่นวาย แทบไม่สนใจบาดแผลบนตัวที่กำลังเลือดไหล
“อางจารย์อาต้วน อย่างไรก็ทำแผลบนตัวของท่านก่อนดีหรือไม่ ข้ากลัวว่าหากปล่อยไว้อย่างนี้ ร่างกายจะรับไม่ไหว” ลู่ซีเหยียนก้าวเข้ามาเตือนเสียงเบาๆ แม้รู้ว่าการเข้าไปสอดแทรกขณะที่เหล่าผู้อาวุโสเซียนกำลังพูดคุยกันอยู่จะเป็นการเสียมารยาท แต่นางเห็นร่างกายของเขาไหวเอน สีหน้าก็ยิ่งอยู่ยิ่งซีด จึงเป็นห่วงว่าร่างกายของเขาจะรับไม่ไหว
เหล่าผู้อาวุโสเซียนได้ยินอย่างนั้นก็หันไปมองบาดแผลบนตัวต้วนเยี่ย เห็นว่าร่างกายล้วนเต็มไปด้วยบาดแผลเล็กใหญ่ ตรงปากแผลยังมีเลือดไหลอีกด้วย เลือดนั่นซึมเสื้อผ้าของเขาจนเปียกชุ่ม หน้าของเขาก็ซีดเพราะเสียเลือดไปมาก ร่างกายสั่นไหว คล้ายใกล้จะล้มลงไปแล้ว ด้วยเหตุนี้หนึ่งในนั้นกลุ่มจึงเอ่ยว่า “เข้าไปก่อนเถิด! ทำแผลเสร็จแล้วค่อยว่ากัน”
“ผู้อาวุโสเซียนทุกท่าน เชิญทางนี้”
เจ้าเมืองลู่อดทนต่อบาดแผล เชิญพวกเขาไปยังเรือนด้านหน้า เวลานี้ องครักษ์และคนรับใช้ในจวนที่ตอนแรกซ่อนตัวไม่กล้าออกมาค่อยๆ ปรากฏตัว เข้ามาประคองคนบาดเจ็บไปข้างหน้า
อี้ซิวหรานที่ถือกระบี่ยืนอยู่ข้างหลังนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตามไปด้วย เขาเองก็อยากรู้ว่าผู้อาวุโสเซียนจากสำนักต่างๆ พวกนี้จะมีวิธีสืบรู้สถานการณ์ตอนนี้ของเฟิ่งจิ่วหรือไม่?
เมื่อเข้าไปในประตูแห่งความมืดนั่นแล้ว ด้วยพลังของเฟิ่งจิ่ว น่าจะไม่เป็นอะไรถึงจะถูก แต่อย่างไรก็ไม่รู้ว่าเบื้องหลังประตูแห่งความมืดมีอะไรรอคอยอยู่? ประตูแห่งความมืดนั่นเคลื่อนย้ายนางไปยังสถานที่แบบใด? นางยังมีโอกาสกลับมาอีกหรือไม่?
เรื่องเหล่านี้ แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้คำตอบ บางที ทำได้เพียงสืบจากปากของคนในสำนักเซียนพวกนี้แล้ว
เมื่อมาถึงข้างหน้า ลู่ซีเหยียนและหร่วนหรูช่วยพวกเขาทำความสะอาดและพันแผล หลังจากทำแผลให้พวกเขาเสร็จแล้ว คนรับใช้ยกน้ำชามาให้แล้วก็ถูกกันออกไป เหลือเพียงผู้อาวุโสเซียนพวกนั้นกับพวกเจ้าเมืองลู่ที่อยู่ในห้องรับแขก
………………………………….