เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2285 พากู่เสียงไปด้วย / ตอนที่ 2286 ล่อศัตรูมาหาถึงที่
ตอนที่ 2285 พากู่เสียงไปด้วย
“ใช่แล้วนายท่าน พวกข้าอยู่ที่นี่หากไม่ออกไปก็ไม่ได้รับบาดเจ็บ ท่านเก็บไว้เองเถอะ!” ชายชราอีกคนเสริมทับ
เฟิ่งจิ่วยิ้ม เอายาพวกนั้นใส่มือผู้นำตระกูล อธิบายว่า “ของพวกนี้ข้ามี ให้พวกท่านเก็บไว้ ก็เก็บไว้เถอะ! จำไว้ให้ดีเล่า ระหว่างนี้ไม่ต้องออกไปล่าสัตว์แล้ว พักฟื้นร่างกายให้หายดีก่อน รอข้ากลับมา”
ผู้นำตระกูลรับยาพวกนั้นไว้ เนิ่นนานจึงค่อยพยักหน้า “ได้ พวกข้าฟังนายท่าน นายท่านอยู่ข้างนอกลำพัง จะต้องระวังตัวให้มาก”
ขณะเอ่ย ผู้นำตระกูลยังคงรู้สึกว่าไม่เหมาะสม จึงกล่าว “นายท่าน เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน! ให้กู่เสียงไปกับท่าน ทำอย่างนี้หากท่านมีเรื่องอะไรจะได้คอยช่วยเหลือท่านได้”
ชายฉกรรจ์คนหนึ่งก้าวออกมาข้างหน้า เอ่ยว่า “นายท่าน ผู้นำตระกูลพูดถูก ให้ข้าออกไปกับท่านเถอะ! จะได้คอยช่วยเหลือท่านได้”
เฟิ่งจิ่วครุ่นคิดเล็กน้อย ก่อนตอบว่า “ก็ดีเหมือนกัน อย่างนั้นก็ให้เขาออกไปกับข้าก็แล้วกัน!” เธอรับคำยิ้มๆ
เพราะไม่เร่งรีบออกเดินทาง เฟิ่งจิ่วจึงพักที่นี่ก่อน ประมาณสองวันต่อมาจึงค่อยออกไปพร้อมกับกู่เสียง…
ระหว่างทาง ทั้งสองเดินเคียงไหล่ กู่เสียงมองนายท่านที่เดินทอดน่องอย่างสบายใจ อดถามไม่ได้ว่า “นายท่าน พวกเราจะไปไหนหรือ?”
“เดินไปเรื่อยๆ” เฟิ่งจิ่วตอบ โยนขนนกเคลือบหลากสีที่เอวออกไป เขย่งปลายเท้ากระโดดขึ้นไปนั่ง ก่อนหันมาเอ่ยกับกู่เสียงว่า “ตามมา” สิ้นเสียง ก็บินไปข้างหน้า
กู่เสียงรีบขี่พาหนะบินตามไปอย่างรวดเร็ว มองดูขนนกเคลือบหลากสีที่นายท่านนั่งอยู่ เขาลอบตะลึงในใจ ขนนกเคลือบหลากสีนี้เขาเคยได้ยินมาก่อน เพียงแต่ของสิ่งนี้อยู่ที่แผ่นดินใหญ่แถบใต้แม่น้ำไม่ใช่หรือ? เหตุใดมาอยู่ในมือนายท่านได้?
ลึกๆ ข้างในรู้สึกประหลาดใจ ยิ่งติดตามนายท่านนาน ก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาลึกลับยากค้นหา
ทั้งสองเหาะเหินอยู่กลางอากาศ โดยเฉพาะเฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหน้ายังนั่งอยู่บนขนนกเคลือบหลากสี พาหนะชิ้นนี้ส่องแสงเรืองรองสะดุดตา เรียกได้ว่าคนข้างล่างล้วนสามารถมองเห็นเธอที่อยู่เหนือท้องฟ้าได้แม้จะอยู่ไกล
ผู้ฝึกวิชามารสองคนหมายหัวเฟิ่งจิ่วที่นั่งอยู่บนขนนกเคลือบหลากสี ด้วยเหตุนี้ ทั้งสองกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้ที่กิ่งก้านสาขาสมบูรณ์ หนึ่งในนั้นง้างธนูเล็งเป้าไปที่เฟิ่งจิ่ว
“ฟิ้ว!”
พลันนั้น เสียงลูกธนูแหวกอากาศดังฟิ้วพุ่งไปที่เฟิ่งจิ่ว กู่เสียงที่อยู่ข้างหลังเห็นอย่างนั้นก็กลั้นหายใจ รีบตะโกนเตือนออกไป “นายท่านระวัง!” เขาจะเข้าไป แต่กลับได้ยินนายท่านตะโกนกลับมาเสียงใส
“ไม่ต้องเข้ามา!”
เฟิ่งจิ่วตะโกนลั่น เธอที่เดิมทีนั่งอยู่บนขนนกเคลือบหลากสีก้มตัว หลบลูกธนูแหลมๆ ลูกนั้น ขณะเดียวกันก็บอกกู่เสียงว่า “ลงไปข้างล่าง!”
“ขอรับ!” กู่เสียงได้สติ รีบขี่กระบี่บินลงจากเหนือท้องฟ้า พุ่งลงไปกลางป่า ตามหาคนพวกนั้นที่เล่นงานพวกเขา
ส่วนธนูลูกนั้นที่ตอนแรกเฟิ่งจิ่วหลบพ้นแล้ว กลับตีโค้งพุ่งกลับมาหาเฟิ่งจิ่วอีกครั้ง เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นนัยน์ตาไหวระริก กระตุกมุมปาก “อาวุธวิเศษ?”
เธอใช้มือข้างหนึ่งยันขนนกเคลือบแล้วตีลังกาลุกขึ้นยืน เผชิญหน้ากับธนูลูกนั้น ชั่วพริบตาที่ธนูลูกนั้นกำลังจะพุ่งเข้ามาถึง เธอยกมือสองข้างขึ้น กลิ่นอายพลังเร้นลับขุมหนึ่งไหลเวียนกลางฝ่ามือทั้งสองข้าง เสี้ยวนาทีที่ธนูลูกนั้นพุ่งตรงมาที่หัวคิ้วของเธอ สองมือของเธอออกแรงคว้าธนูลูกนั้นไว้แน่น ไม่ให้มันเคลื่อนไหวเข้ามาได้อีกแม้แต่นิดเดียว
รู้สึกเพียงธนูแหลมลูกนั้นมีกำลังมหาศาล ราวกับต้องการจะสลัดพันธนาการจากมือของเธอ…
………………………………….
ตอนที่ 2286 ล่อศัตรูมาหาถึงที่
เธอพลิกฝ่ามือคว้าจับ สลายกลิ่นอายพลังวิญญาณในธนูแหลมลูกนั้น ก่อนจะมองลงไปข้างล่าง เห็นเพียงผู้ฝึกวิชามารคนนั้นพอเห็นเธอรับลูกธนูไว้ได้ ก็ง้างคันธนูยิงลูกธนูลูกที่สองและลูกที่สามตามมาติดๆ
ธนูแหลมสองลูกแหวกอากาศจู่โจมเข้ามาอย่างรวดเร็ว เฟิ่งจิ่วเหาะลงไป กระโดดจากขนนกเคลือบหลากสีลงบนพื้น ธนูสองลูกนั้นก็ยิงลงตามมาด้วย
เธอล่อธนูสองลูกนั้นมาถึงข้างหน้าต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ก่อนจะโฉบผ่านไป หนึ่งในสองลูกธนูนั้นยิงปักเข้าไปในต้นไม้ ก่อนที่อีกหนึ่งลูกจะถูกเธอที่โผล่มาจากหลังต้นไม้คว้าไว้และสลายกลิ่นอายพลังเร้นลับ
เธอเก็บธนูทั้งสามลูกไว้ในมือ เห็นกู่เสียงที่อยู่ข้างหน้าเริ่มสู้กับผู้ฝึกวิชามาร จึงตามไปข้างหน้าด้วย
ผู้ฝึกวิชามารทั้งสองล้วนเป็นปราชญ์เซียน สองรุมหนึ่ง กู่เสียงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของพวกนั้นอยู่แล้ว เห็นเช่นนั้น กลิ่นอายพลังเร้นลับบนตัวเธอพุ่งพล่าน โฉบไหวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วดุจภูตผี เห็นเพียงประกายเยือกเย็นเส้นหนึ่งพาดผ่าน ธนูลูกหนึ่งพุ่งออกจากมือของเธอ ยิงเข้าที่จุดตันเถียนของหนึ่งในสองผู้ฝึกวิชามารด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
“อึก!”
ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นแค่นเสียง เบิกตากว้างจ้องเธออย่างไม่อยากเชื่อ ร่างกายเซถอยไปข้างหลัง สุดท้ายก็ล้มลงไปข้างหลัง กระตุกสั่นอยู่ไม่นานก็ตายไป
เห็นผู้ฝึกวิชามารคนนั้นตายไป อีกหนึ่งคนที่เหลือตกตะลึง หันไปมองเฟิ่งจิ่วด้วยความหวาดกลัว รีบถอยหลังอย่างรวดเร็ว ตีลังกาครั้งหนึ่ง หมายจะหนีเข้าไปในป่า
กู่เสียงเห็นอีกฝ่ายคิดหนี ถือกระบี่ในมือไล่ตามไป กลับได้ยินเสียงของเฟิ่งจิ่วดังมา
“ไม่ต้องตาม”
เขาหันกลับไปมอง เห็นเพียงมือข้างหนึ่งของนายท่านง้างสูง ธนูแหลมสองลูกหมุนคว้างอยู่กลางฝ่ามือของเธอ ก่อนจะพุ่งตามผู้ฝึกวิชามารคนนั้นไปพร้อมกับกลิ่นอายพลังเร้นลับอันแข็งแกร่ง
เขาเพียงกะพริบตาครั้งเดียว ก็เห็นธนูแหลมสองลูกนั้นพุ่งทะลุร่างกายของผู้ฝึกวิชามารคนนั้น จากที่ไกลๆ มองเห็นเพียงเลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นล้มคะมำพื้น จากนั้นก็แน่นิ่งไป…
กู่เสียงมองภาพนั้นด้วยความตะลึงอ้าปากค้าง ก่อนหันกลับไปมองเฟิ่งจิ่วอย่างเหลือเชื่อ “นะ นายท่าน?” เขาเป็นเพียงเทพนักรบมิใช่หรือ? ทะ ทำไมร้ายกาจขนาดนี้? อีกฝ่ายแม้เป็นผู้ฝึกวิชามาร แต่ก็เป็นผู้ฝึกวิชามารระดับปราชญ์เซียน เหตุใดหลบธนูสองลูกนั้นไม่ได้เล่า?
“ยังมัวอึ้งอะไรอยู่?” เฟิ่งจิ่วมองเขา กำชับว่า “ไปกวาดเอาของที่มีประโยชน์บนตัวพวกเขามาให้หมด”
“อ้อ ได้ๆ ข้าจะไปเดี๋ยวนี้” กู่เสียงรู้สึกเพียงสมองสับสนวุ่นวายไปหมด ผู้นำตระกูลให้เขาออกมาปกป้องนายท่าน แต่ดูท่าทางพลังของนายท่านคงไม่ต้องให้เขาปกป้องแล้ว!
เขาค้นของบนตัวผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้น ก่อนจะยื่นให้เฟิ่งจิ่ว ยิ้มกว้างเอ่ยว่า “นายท่าน ผู้ฝึกวิชามารสองคนนี้มีแหวนมิติหนึ่งวง แล้วก็ถุงฟ้าดินสองถุง ข้างในนอกจากอาวุธวิเศษแล้วก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก กลับเป็นธนูคันนี้ที่ไม่เลว ถือเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่ธรรมดาชิ้นหนึ่ง”
เฟิ่งจิ่วมองแวบหนึ่ง รับธนูไปดู ยกมือไล่ไอมารบนธนูคันนั้นออกไป จากนั้นก็ยื่นให้เขา บอกว่า “เจ้าเก็บของทั้งหมดไว้ ธนูเล่มนี้เจ้าก็พกไว้ใช้”
กู่เสียงมองดูธนูเล่มนั้นที่ถูกไล่ไอมารออกไปทั้งอย่างนั้น อดมองเฟิ่งจิ่วไม่ได้ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่พูด
โดยปกติแล้ว ของที่ผู้ฝึกวิชามารใช้ล้วนมีไอมารติดอยู่ ผู้ฝึกเซียนอย่างพวกเขาหากใช้นานแล้วก็จะถูกกัดกินจิตวิญญาณได้ และการจะไล่ไอมารพวกนั้นออกไปได้ กลับต้องมีพลังเหนือกว่าผู้ผึกวิชามารซึ่งเป็นเจ้าของเก่าเท่านั้น
………………………………….