เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2295 ทำตามแผน / ตอนที่ 2296 แผ่นดินสะท้านภูเขาสะเทือน
ตอนที่ 2295 ทำตามแผน
กู่เสียงที่ยืนอยู่นอกป่าอสูรสัมผัสได้เพียงกลิ่นอายที่พลุ่งพล่านในเสี้ยวนาทีนั้น ราวกับตรงหน้ามีลมสายหนึ่งม้วนพัด ทว่าเมื่อเขาเพ่งมอง มันก็หายไปแล้ว รอบข้างกลับมาเป็นปกติ
ผ่านไปไม่นาน ก็เห็นนายท่านในชุดสีเขียวเดินออกมาจากค่ายกล เห็นเขาออกมาอย่างปลอดภัย กู่เสียงยิ้มกว้าง รีบสาวเท้ายาวๆ เดินเข้าไปหา “นายท่าน ท่านเปลี่ยนค่ายกลแล้วจริงหรือ?”
คนอื่นเข้าไปยังต้องหลงทางอยู่ข้างใน เขากลับใช้เวลาไม่นานก็เปลี่ยนแปลงค่ายกลใหญ่นี้ได้แล้ว ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆ!
เฟิ่งจิ่วกลืนยาเม็ดหนึ่งลงไป จากนั้นขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังเร้นลับเพื่อกระตุ้นฤทธิ์ยา ค่ายกลใหญ่นี้สร้างขึ้นโดยสี่จักรพรรดิเซียน ถึงแม้เธอจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย แต่ก็ใช้กลิ่นอายพลังไปไม่น้อย โชคดีที่การเปลี่ยนแปลงค่ายกลนั้นทำได้ในเวลาอันสั้น ไม่ได้ทำให้สี่จักรพรรดิเซียนแตกตื่น
เพียงแต่ เธอรู้ว่านี่เป็นเรื่องที่ไม่ช้าก็เร็วก็ต้องเกิดขึ้น แม้การที่เธอเปลี่ยนแปลงค่ายกลไม่ได้ทำให้สี่จักรพรรดิเซียนที่เฝ้าสี่มุมสวรรค์อยู่แตกตื่น การเปิดเขตอาคมก็สามารถทำได้โดยหลบเลี่ยงดวงจิตของพวกเขา แต่ภายหน้ายามที่เธอจะทลายค่ายกลใหญ่ที่ปกคลุมแผ่นดินลอยฟ้าผืนนี้ จะต้องทำให้สี่จักรพรรดิเซียนแตกตื่นอย่างแน่นอน
“อืม เข้าไปเถอะ!” เฟิ่งจิ่วเอ่ยกับเขา พาเขาเข้าไปในป่าอสูรผ่านอุโมงค์ใต้ดินอีกเส้นหนึ่ง
ห่างออกไปจากที่นี่ไม่ไกลนัก กำลังคนกลุ่มหนึ่งกำลังมุ่งหน้ามายังป่าอสูร ผู้ฝึกวิชามารที่เป็นหัวหน้ากลุ่มราวกับสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาหยุดฝีเท้า มองรอบๆ อย่างแปลกใจ
“เป็นอะไรไป? มีปัญหาอะไรหรือ?” ผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างหลังถาม หันไปมองรอบๆ ไม่ได้รู้สึกถึงสิ่งผิดปกติใดเลย
“ระวังหน่อย เมื่อกี้ข้ารู้สึกเหมือนมีคลื่นพลังสายหนึ่งสะท้อนออกมา”
ผู้ฝึกวิชามารที่เป็นหัวหน้าเตือน ลอบรู้สึกประหลาดใจลึกๆ ข้างใน หันไปกำชับกลุ่มคนข้างหลัง “ครั้งนี้พวกเราออกมาก็เพื่อเข้าไปล่าสัตว์ในป่าอสูร ทุกคนจงตั้งสติให้มั่น! จะได้ไม่เข้าไปข้างในแล้วร้องไห้หาพ่อแม่!”
มีคนหัวเราะเสียงดังขึ้นมา “ใครมันจะไปร้องไห้ได้น่าอนาถเช่นนั้น? กลุ่มของพวกเรามีพลังต่อสู้แข็งแกร่งกว่ากลุ่มอื่นๆ แม้จะมีใครร้องขอชีวิต ก็คงเป็นกลุ่มอื่นมากกว่ากระมัง”
ได้ฟังเช่นนั้น ทุกคนพากันหัวเราะครืน มีคนเอ่ยขึ้นว่า “น่าแปลก อีกสองกลุ่มออกมาพร้อมกับพวกเรา เหตุใดจึงไม่เห็นพวกเขาเลย?”
“หากไม่อยู่ข้างหน้าพวกเรา ก็คงอยู่ข้างหลังพวกเรา เดาว่าคงอยู่ไม่ไกลกันมาก” ผู้ฝึกวิชามารอีกคนว่า
“เอาล่ะๆ หยุดพูดมากกันได้แล้ว ไปกันเถอะๆ! ไม่ได้กินเนื้อมาหลายวันแล้ว คราวนี้ จะต้องล่ากลับไปให้ได้” ผู้ฝึกวิชามารที่เป็นหัวหน้าเอ่ย สาวเท้ายาวๆ เดินไปข้างหน้า จากนั้นคนข้างหลังก็ตามเขาไป
แต่ทว่า เฟิ่งจิ่วที่เข้าไปในป่าอสูรได้มอบรองเท้าตามเมฆให้กู่เสียงคู่หนึ่ง กำชับว่า “เมื่อถึงเวลาแล้วให้ล่อสัตว์ร้ายไปที่ขอบเขตอาคม จำไว้ให้ดี เมื่อถึงเวลาให้ใช้รองเท้าตามเมฆวิ่ง ไม่ต้องสู้กับสัตว์ร้ายพวกนั้น แค่วิ่งให้พวกมันตามก็พอแล้ว”
กู่เสียงได้ยินแผนการของเฟิ่งจิ่วก็อดเหงื่อไหลเต็มหน้าผากไม่ได้ “นายท่าน วิธีนี้จะได้ผลจริงหรือ? จากที่นี่ไปถึงป่าภูเขานิลต้องใช้เวลาเดินทางถึงสองวัน นี่จะล่อสัตว์ร้ายพวกนี้ออกไปหมด ฟังดูแล้ว…”
“วางใจเถอะ! เจ้าแค่ทำตามที่ข้าบอกก็พอแล้ว จำไว้ วิ่งให้สุดชีวิต ไปถึงข้างหน้ายังต้องอาศัยพลังเร้นลับของเจ้ามาเปิดเขตอาคมด้วย” เฟิ่งจิ่วตบไหล่เขา เทน้ำยาในขวดทาบนตัวกู่เสียง
………………………………….
ตอนที่ 2296 แผ่นดินสะท้านภูเขาสะเทือน
ดมกลิ่นหอมของยา รู้สึกว่ากลิ่นหอมมาก เพียงแต่ เขากลับไม่รู้ว่ายานี้ใช้ทำอะไร ด้วยเหตุนี้จึงถาม “นายท่าน ทายานี้ก็จะล่อสัตว์ร้ายมาได้หรือ? นี่เป็นยาอะไรหรือ? ร้ายกาจขนาดนั้นเชียวรึ?”
มือของเฟิ่งจิ่วชะงัก ใบหน้าเผยรอยยิ้มแปลกๆ เอ่ยอย่างเนิบช้าว่า “ยานี้เมื่อทาบนตัวเจ้า! สามารถออกฤทธิ์ต่อเนื่องได้สองถึงสามวัน อีกทั้งกลิ่นจะไม่หายไป จะหายไปหลังจากผ่านไปสองสามวันแล้วเท่านั้น”
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโรยยาที่เหลือลงบนแขนเสื้อตนเองด้วย ก่อนเอ่ยว่า “ส่วนฤทธิ์ยาน่ะหรือ! เมื่อสัตว์ร้ายพวกนั้นได้กลิ่นนี้แล้วก็จะเกิดความรู้สึกตื่นเต้น พวกมันจะไล่ตามกลิ่นนี้อย่างไร้สติ ฉะนั้นข้าถึงได้บอกเจ้าว่าจงวิ่งให้เร็วเข้าไว้”
กู่เสียงได้ยินแล้วก็นิ่งเป็นหุ่นไก่ ร่างกายแข็งทื่อ ชายฉกรรจ์ตัวใหญ่อย่างเขาได้แต่มองเฟิ่งจิ่วอย่างตกตะลึงและเหลือเชื่อ “ตะ ตื่นเต้น? นายท่าน ความตื่นเต้นนี้คงไม่ใช่อย่างที่ข้าเข้าใจหรอกกระมัง?”
“ใช่แล้ว เป็นอย่างที่เจ้าคิดนั่นล่ะ”
เฟิ่งจิ่วยิ้มตาหยีตอบ กลิ่นนี้ก็คือยาน้ำที่สามารถทำให้สัตว์ตัวผู้เกิดอาการคึกขึ้นมาได้ หนำซ้ำ แม้จะอยู่ห่างออกไปหลายสิบจั้งก็ยังได้กลิ่นนี้ สัตว์ร้ายเหล่านี้ส่วนมากล้วนมีเพศผู้มากกว่าอยู่แล้ว ยามนี้ยิ่งถูกกระตุ้นด้วยน้ำยาของเธอ เดาได้เลยว่าจะต้องเป็นภาพที่บ้าคลั่งมากอย่างแน่นอน
ได้ยินอย่างนั้น กู่เสียงตัวสั่นสะท้าน เขามองนายท่านเทน้ำยาลงบนเสื้อผ้าตนเองอย่างไม่สะทกสะท้าน ทำเอาเขาเบิกตากว้าง “นะ นายท่าน ท่านก็ช่างใจเหี้ยมเหลือเกิน ท่านทำอย่างนี้ไม่คิดจะเหลือทางหนีทีไล้ให้พวกเราแล้วหรือ? ถ้าหาก ถ้าหากถูกไล่ทันจะทำอย่างไร?”
นาทีนี้ เขารู้สึกอยากร้องไห้ขึ้นมาแล้ว นายท่านทำไมถึงได้…ทำไมถึงได้ทำอะไรบ้าคลั่งขนาดนี้? เขาไม่กล้าคิดเลยว่าหากล่อสัตว์ร้ายฝูงใหญ่มาแล้วถูกไล่ทันจะมีจุดจบเช่นไร…
“เพราะฉะนั้น! ข้าถึงได้ให้รองเท้าตามเมฆกับเจ้าคู่หนึ่งอย่างไรเล่า? แต่เจ้าก็ต้องวิ่งสุดชีวิตเช่นกันนะ หากวิ่งช้า ฮี่ๆ จะเกิดอะไรขึ้นข้ายังไม่กล้าแม้แต่จะจินตนาการเลย”
เขายิ้มเหมือนหมาจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ แต่กลับทำให้โกรธไม่ลง เพราะอย่างไรแม้แต่เขาเองก็ยังสาดน้ำยานั้นลงบนตัวด้วยแล้ว จะทำอย่างไรได้อีกเล่า?
“เอาล่ะ ไปกันเถอะๆ! จำไว้ให้ดี ล่อไปทางป่าภูเขานิล แต่ที่สำคัญกว่าก็คือ อีกเดี๋ยวอย่าลืมใช้พลังวิญญาณช่วยข้าเปิดเขตอาคมด้วยเล่า ไม่อย่างนั้น พวกเราสองคนก็ต้องถูกขังไว้ในนี้แล้ว” เธอยิ้มๆ พาเขาเดินลึกเข้าไปในป่า
เวลาผ่านไปประมาณหนึ่งก้านธูป เสียงสะเทือนเลื่อนลั่นดังออกมาจากในป่ารางๆ คล้ายเกิดการจลาจลขึ้น ชั่วขณะหนึ่ง เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังก้องมาจากทุกทิศของป่า เหล่าสัตว์ร้ายที่ซุ่มซ่อนอยู่ในป่าแห่งนี้ได้กลิ่นที่กระจายอยู่ในอากาศ ดวงตาแดงก่ำอย่างไร้สาเหตุ แต่ละตัวเข้าสู่สภาวะคึกจนบ้าคลั่ง
“โฮก!”
“กรรซ์!”
“โฮก!”
เสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังประสานกันเป็นจังหวะสูงต่ำดังก้องไปทั่วผืนป่า ฝีเท้าของสัตว์ป่าฝูงนั้นราวกับน้ำที่ไหลจากภูเขาสูงลงมาสู่พื้นดิน ค่อยๆ มารวมตัวกัน กลายเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่ทะลักสู่มหาสมุทรก็ไม่ปาน เสียงนั้นรวบรวมจากน้อยก็กลายเป็นมาก ราวกับฝูงสัตว์ร้ายนับหมื่นกำลังทะยานเข้ามา ล้มภูเขาพลิกมหาสมุทร แผ่นดินสะท้านภูเขาสะเทือน…
ฟังเสียงเคลื่อนไหวอันน่าพรั่นพรึงนั้น กู่เสียงได้แต่หน้าซีดเผือด ใบหน้าไร้สีเลือด ปากสั่นเทา สองขาอ่อนแรงจนแทบทรุดลงไป…
………………………………….