เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2313 ขอแค่ภักดี / ตอนที่ 2314 หมายเลขแทน
ตอนที่ 2313 ขอแค่ภักดี
“ง่ายมาก เพราะข้าไม่ถูกชะตาเจ้า ย่อมต้องถูกคัดออกอยู่แล้ว” เฟิ่งจิ่วตอบอย่างไม่สะทกสะท้าน
ผู้ฝึกตนพวกนั้นเมื่อได้ยินคำตอบก็เดือดดาล “แค่นี้หรือ แค่นี้ก็คัดพวกเราออกหรือ ไม่ยุติธรรม! ในหมู่พวกเรามีคนที่พลังแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก มีสิทธิ์อะไรรับพวกเขาแต่ไม่รับพวกเรา”
พวกเขารออยู่นอกเมืองมานานกว่าครึ่งเดือนแล้ว แต่กลับได้รับผลลัพธ์เช่นนี้ พวกเขาไม่ยอม!
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วเหล่มองพวกเขาแวบหนึ่ง “หมายความว่าพวกเจ้าไม่อยากไป” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เย็นเยียบ แต่กับทำให้คนพวกนั้นขนลุก รู้สึกกระสับกระส่ายเล็กน้อย
“หากพวกเจ้าไม่อยากไป อย่างนั้นก็อยู่ต่อเป็นคู่ซ้อมมือให้พวกเขา ข้าเองก็อยากเห็นว่าพลังต่อสู้ของพวกเขาเป็นอย่างไร!” เธอเอ่ยเสียงเนิบช้า เห็นพวกเขาแต่ละคนหน้าเปลี่ยนสีไปทันที
“เหอะ! ที่นี่ไม่รับข้า ย่อมต้องมีที่อื่นรับข้าอยู่แล้ว! คิดว่าพวกข้าอยากอยู่ในเมืองของพวกเจ้านักหรือ” หนึ่งในนั้นแค่นเสียง สะบัดแขนเสื้อเดินออกไป
“ใช่แล้ว! พวกเราก็ไปกันเถอะ!”
มีคนทยอยเดินตามออกไป เพียงแต่พวกเขาต่างมีสีหน้าเดือดดาลและไม่จำยอม
กู่เสียงเดินตามหลังพวกเขา เมื่อพวกเขาออกไปนอกเมืองแล้วก็ปิดเขตอาคมที่เปิดออก ก่อนจะกลับเข้ามาข้างในยืนเงียบๆ อยู่ด้านหนึ่ง มองดูพวกคนที่ถูกนายท่านคัดเลือกให้อยู่ต่อ
ความจริง ไม่เพียงแค่เขา คนอื่นๆ ในตระกูลกู่ต่างก็ไม่เข้าใจ เหมือนที่ผู้ฝึกตนคนเมื่อกี้ว่า บางคนตอบคำถามเหมือนกัน อีกทั้งในกลุ่มคนที่จากไปมีคนที่พลังแข็งแกร่งกว่าคนพวกนี้มาก แต่กลับไม่ถูกคัดเลือก
แม้แต่พวกเขาเองก็ไม่เข้าใจว่าทำไมนายท่านจึงเลือกคนพวกนี้ แต่กลับสั่งให้คนมากมายขนาดนั้นจากไป หากเป็นพวกเขา ย่อมต้องเก็บคนพวกนั้นไว้ พลังต่อสู้ที่เพิ่มมากขึ้นเช่นนั้นจึงจะสามารถสูสีกับกลุ่มอำนาจอื่นๆ ได้
มองดูเจ็ดสิบห้าคนนั้น เธอก้าวเข้ามาหยุดยืนตรงหน้าพวกเขา เสียงที่แฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณและแรงกดดันเปล่งออกจากปาก
“เงื่อนไขที่ข้ามีต่อพวกเจ้านั้นง่ายมาก หนึ่ง ต้องจงรักภักดี นับตั้งแต่ที่พวกเจ้าเข้ามาในเมืองเฟิ่ง พวกเจ้าก็ได้กลายเป็นคนของข้าเฟิ่งจิ่ว ต้องจดจำสถานะของตนเองไว้ตลอดเวลา อย่าได้ทำเรื่องทรยศหักหลังข้าเป็นอันขาด ไม่อย่างนั้น ข้าจะทำให้พวกเจ้าอยู่ไม่สู้ตาย”
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง สายตากวาดมองทุกคน ก่อนเอ่ยเสียงเนิบช้าต่อว่า “สอง สามัคคีรวมใจเป็นหนึ่ง อย่าให้เกิดเรื่องการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นภายในเด็ดขาด สาม เรื่องที่พวกเจ้าเคยกระทำเพื่อเอาชีวิตรอดในอดีตข้าจะไม่ซักไซ้ถือสา แต่นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป คนที่ฆ่าผู้บริสุทธิ์โดยไร้คำสั่งของข้า จะต้องถูกลงโทษสถานหนัก!
กลายเป็นลูกน้องของข้า ก็ต้องทำตามกฎเกณฑ์ของข้า ทำตามวิธีการของข้า ข้าบอกพวกเจ้าได้อย่างมั่นใจเลยว่า ขอเพียงพวกเจ้าภักดีต่อข้า ข้าเฟิ่งจิ่ว ไม่มีทางเอาเปรียบพวกเจ้าแน่!”
ฟังจบ คนพวกนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะคุกเข่าข้างเดียวอย่างนอบน้อม “ข้าน้อยคารวะนายท่าน! นับตั้งแต่นี้ พวกข้าจะภักดีกับนายท่านไปตลอดชีวิต ไม่มีวันทรยศหักหลัง! หากผิดคำสัตย์ในวันนี้ นายท่านลงโทษได้ตามเห็นสมควร!”
อยู่ข้างในนี้ เพราะค่ายกลและเขตอาคมเป็นเหตุ พวกเขาไม่อาจเอ่ยคำสาบานต่อฟ้าดิน ด้วยเหตุนี้ แต่ละคนจึงทำได้เพียงแสดงความภักดีด้วยวิธีนี้
หากผิดคำสาบานในวันนี้ พวกเขายอมถูกลงโทษตามเห็นสมควร นั่นก็หมายความว่าพวกเขาได้มอบชีวิตของตนเองให้กับเขาแล้ว
“ล้วนลุกขึ้นมาเถอะ!”
เฟิ่งจิ่วโบกมือ มองดูเหล่าผู้ฝึกตนเจ็ดสิบห้าคนที่ยืนเรียงแถวกัน แต่ละคนร่างกายเหยียดตรงผึ่งผาย ทั่วร่างเต็มไปด้วยไอพิฆาต นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย
………………………………….
ตอนที่ 2314 หมายเลขแทน
เหล่าคนที่ถูกทอดทิ้งมายังแผ่นดินลอยฟ้าผืนนี้ แม้ว่าจะมีวรยุทธ์อยู่แค่ระดับกำเนิดวิญญาณ แต่พลังต่อสู้กลับไม่ใช่สิ่งที่คนข้างนอกสามารถเปรียบเทียบได้ เธอกลับคิดว่าภายหน้าหากทลายเขตอาคมและค่ายกลที่นี่ได้ หากพากลุ่มผู้ฝึกตนที่ล้วนมีวรยุทธ์ระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุดอย่างนี้ออกไป จะก่อให้เกิดความแตกตื่นขนาดไหนกัน
ยิ่งไปกว่านั้น พูดถึงคนพวกนี้ที่อยู่ตรงหน้า ผู้ฝึกตนระดับกำเนิดวิญญาณขั้นสูงสุดมีเพียงส่วนน้อย ส่วนมากล้วนเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินและและปราชญ์เซียนทั้งนั้น คนพวกนี้ ไม่ว่าอยู่ไหนล้วนนับได้ว่าเป็นคนระดับแนวหน้า ยามนี้กลับมาอยู่ใต้อาณัติของเธอทั้งหมดแล้ว
จะว่าไปแล้วการเข้ามาอยู่ที่นี่ ก็นับว่าเป็นโชคดีในโชคร้ายของเธอเช่นกัน สามารถสร้างกองกำลังอันแข็งแกร่งเช่นนี้ขึ้นมาได้ อีกทั้งกองกำลังนี้ยังไม่หยุดเพียงเท่านี้ เธอเชื่อว่าอีกไม่นาน จะต้องมีคนพากันมาสมัครเข้ากองกำลังของเธอเรื่อยๆ อย่างแน่นอน
“พวกเจ้าเจ็ดสิบห้าคน บวกกับ…” เธอเงียบไปครู่หนึ่ง หันไปมองเหล่าคนตระกูลกู่ ก่อนออกคำสั่งว่า “พวกเจ้าเองก็เข้าร่วมกลุ่มด้วย ข้าจะแบ่งกลุ่มให้พวกเจ้าใหม่ ต่อไป ให้จับกลุ่มกลุ่มละสิบคน”
“ขอรับ” คนตระกูลกู่ขานรับ ก่อนเดินเข้าไปยืนเรียงแถว ส่วนผู้นำตระกูลเฒ่ากับผู้อาวุโสใหญ่ขณะกำลังเดินไปเข้าแถวด้วย กลับถูกเฟิ่งจิ่วเรียกไว้
“อาวุโสกู่ อาวุโสใหญ่ พวกท่านสองคนไม่จำเป็นต้องเข้าร่วมแล้ว ข้ามีเรื่องอื่นมอบหมายให้พวกท่านแทน”
“ขอรับ” ทั้งสองรับคำ กลับไปยืนนิ่งอยู่ข้างกายเฟิ่งจิ่ว
นอกจากหญิงวัยกลางคนพวกนั้นและเด็กเล็กรวมถึงเด็กโต รวมจำนวนคนที่ยืนเรียงแถวกันอยู่มีทั้งหมดหนึ่งร้อยคน ด้วยเหตุฉะนี้ เฟิ่งจิ่วจึงแบ่งพวกเขาออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละสิบคน
“เจ้า เจ้า แล้วก็พวกเจ้า ออกจากแถวมา” เฟิ่งจิ่วเลือกคนให้ออกมาจากแถว
ผู้ฝึกตนที่ถูกเลือกก้าวออกจากแถว จากนั้นยืนรอเงียบๆ
เฟิ่งจิ่วมองพวกเขาแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “พวกเจ้าสิบคนเป็นหัวหน้าของแต่ละกลุ่ม จงรับผิดชอบสมาชิกในกลุ่มของตนเองให้ดี ต้องดูแลควบคุมตั้งแต่คำพูดและกฎเกณฑ์ทั่วไป แต่ก่อนพวกเจ้าชื่ออะไรข้าไม่อยากรู้ ต่อไปข้าให้อาวุโสกู่มอบแผ่นป้ายให้พวกเจ้า หลังจากได้รับแผ่นป้าย นั่นก็คือรหัสชื่อของพวกเจ้าในอนาคต”
“ขอรับ”
ทุกคนนัยน์ตาไหวระริก ต่างขานรับพร้อมกัน สำหรับการใช้รหัสแทนชื่อนี้ พวกเขายินยอมอย่างมาก เพราะเมื่อทำเช่นนี้ ไม่ว่าในอดีตพวกเขาจะเคยเป็นอย่างไรมา ล้วนไม่จำเป็นต้องพูดถึงอีกต่อไป
“กลุ่มหนึ่งพาพวกเขาไปทำความรู้จักสถานที่หน่อย” เฟิ่งจิ่วหันมองกลุ่มหนึ่ง หัวหน้าของกลุ่มหนึ่งก็คือคนของตระกูลกู่
“ขอรับ” พวกเขารับคำ ก่อนจะพาคนอื่นๆ ออกไปเพื่อทำความคุ้นเคยกับที่นี่ก่อน
“อาวุโสใหญ่ ท่านไปกำชับที ให้ในครัวเตรียมอาหาร หากคนไม่พอก็ให้พวกเขาไปช่วย” เอ่ยจบ เธอหันไปเอ่ยกับผู้นำตระกูลเฒ่าว่า “อาวุโสกู่ ท่านตามข้ามา”
ด้วยเหตุนี้ ทุกคนแยกย้ายกันไป เหล่าผู้ฝึกตนที่เพิ่งเข้ามาใหม่เห็นสถานที่ในนี้ ต่างก็อดตื่นตาตื่นใจไม่ได้ ต่อไป ที่นี่ก็คือบ้านของพวกเขาแล้ว! อยู่ในนี้ ไม่มีผู้ฝึกวิชามารแม้แต่คนเดียว อยู่ในนี้ พวกเขาไม่ต้องคอยระแวดระวังคนอื่นแล้ว
ทุกคนในตอนนี้ไม่มีใครรู้เลยว่าแผนการขั้นต่อไปของเฟิ่งจิ่วคืออะไร พวกเขาล้วนไม่รู้ว่านายท่านที่พวกเขายอมรับในวันนี้ ในอีกไม่นานคิดจะทลายเขตอาคมและค่ายกลที่ขังพวกเขาไว้ที่นี่ และเปิดหน้าต่างบานใหม่ให้แก่พวกเขา…
ขณะเดียวกัน ในอีกด้านหนึ่ง ในเมืองอื่นของยอดเขาที่เหลือ
ผู้ฝึกวิชามารระดับผู้อาวุโสเซียนหรี่ตา จ้องผู้ฝึกวิชามารข้างล่าง “อะไรนะ แค่เวลาเพียงครึ่งเดือน เมืองภูเขานิลแห่งนั้นก็กลายเป็นเมืองเฟิ่งแล้ว ยังรับคนเพิ่มเข้าไปอีกไม่น้อยด้วย”
………………………………….