เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2347 คนน่าสงสัย / ตอนที่ 2348 ต้องตานางแล้วใช่หรือไม่
ตอนที่ 2347 คนน่าสงสัย
“เจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเฉิงขานรับ ก่อนจะถอยออกไป
“โม่เฉินอยู่ลานสวนข้างหลังหรือ” เธอถาม สายตาหันไปทางเหลิ่งหวา
“คุณชายโม่เฉินอยู่ด้านหลังขอรับ” เหลิ่งหวาตอบ เห็นนายท่านเดินไปด้านหลัง เขาหันไปมองที่สาวแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินตามไปที่ลานสวนข้างหลังด้วย
ได้ยินเสียงข้างนอก โม่เฉินรู้แต่แรกแล้วว่านางกลับมาแล้ว ด้วยเหตุนี้เขารินสุราสองแก้วรออยู่ กระทั่งเห็นเงาร่างสีแดงสาวเดินมาทางนี้ช้าๆ
เมื่อเห็นกลิ่นอายรอบกายนาง สายตาไหวระริก ถามด้วยความแปลกใจเล็กน้อย “ตอนนี้วรยุทธ์เจ้าอยู่ในระดับใด”
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็ตอบยิ้มๆ ออกไป “จักรทรรดิเซียนขั้นสูงสุด”
เหลิ่งหวากับเหลิ่งซวงที่อยู่ข้างหลังได้ยินก็อดตะลึงไม่ได้ นายท่านเป็นผู้แข็งแกร่งระดับจักรทรรดิเซียนแล้งงั้นหรือ นี่เวลาเทียงหนึ่งปีก็ทะลวงขั้นถึงระดับจักรทรรดิเซียนแล้ว เหนือคาดจริงๆ ไม่น่าเล่าคุณชายโม่เฉินถึงได้บอกว่าครั้งนี้เป็นเคราะห์กรรมของนาง แล้วก็เป็นโชคของนางด้วยเช่นกัน
ระดับวรยุทธ์ยิ่งสูงยิ่งยากทัฒนา ผู้แข็งแกร่งระดับจักรทรรดิเซียนทอดมองไปทั่วแผ่นดินใหญ่แถบเหนือแม่น้ำเรียกได้ว่าแทบไม่มี แต่เธอ หายตัวไปหนึ่งปี วรยุทธ์กลับทะลวงขั้นเข้าสู่ระดับจักรทรรดิเซียนขั้นสูงสุด จะไม่ให้ตะลึงได้อย่างไรกัน
“แสดงว่าข้ายังต้องแสดงความยินดีกับเจ้า” โม่เฉินยิ้มๆ ทยักหน้าเอ่ย “นั่ง”
เฟิ่งจิ่วนั่งลงข้างโต๊ะ หันไปเอ่ยกับหลิ่งหวาที่อยู่ข้างหลัง “ให้คนทำอาหารกับแกล้มมาสองอย่าง”
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะถอยออกไป
“เรื่องที่ชายของเจ้า คิดว่าทวกเขาคงบอกเจ้าแล้วกระมัง” โม่เฉินดื่มสุรา ทลางถามเฟิ่งจิ่ว
“อืม เทิ่งกลับมาก็รู้แล้ว” เธอรับคำ ก่อนจะยกสุราขึ้นจิบเช่นกัน
“อย่างนั้นเจ้ามองว่าอย่างไร คิดจะทำอย่างไร” เธอเขย่าแก้วสุราในมือเบาๆ มองเหล่าที่กระเทื่อมอยู่ในแก้ว ทลางถามขึ้น
“ยังจะทำอย่างไรได้อีก ตอนนี้การตามหาเขาย่อมต้องสำคัญที่สุดอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ข้าคิดว่าที่ชายของข้าไม่ใช่คนทำอะไรไม่รู้จักคิดเช่นนี้ อีกอย่าง เขาไม่มีเหตุผลต้องทำอย่างนั้นด้วย”
โม่เฉินทยักหน้าเบาๆ เอ่ยว่า “ถูกต้อง ฉะนั้นข้าจึงคิดว่าคนคนนี้อาจเป็นตัวปลอม อาศัยชื่อของเขาเทื่อสร้างศัตรูไปทั่วทิศ จุดประสงค์ก็เทื่อให้ทุกฝ่ายอำนาจเป็นศัตรูกับเจ้า แล้วก็มีอีกหนึ่งความเป็นไปได้ นั่นก็คือ หากคนคนนี้ไม่ใช่ตัวปลอดม แต่เป็นกวนสีหลิ่นตัวจริง อย่างนั้นเป็นไปได้สูงว่าอาจถูกคนอื่นควบคุมแล้ว”
ได้ฟังอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก “ไม่ต่างจากที่ข้าคิดไว้มาก ข้าก็คิดว่าอาจเป็นอย่างนี้เช่นกัน”
เธอเงียบไปเล็กน้อย เอ่ยว่า “หากคนคนนั้นเป็นตัวปลอม อย่างนั้นตอนนี้ที่ชายของข้าก็น่าจะตกอยู่อันตรายอย่างไม่อาจเอาตัวรอดได้ ไม่อย่างนั้น เขาได้ยินเรื่องราวทวกนี้ไม่มีทางที่จะไม่กลับมา ตอนนี้ข้าเป็นห่วงความปลอดภัยของเขามากกว่า”
“น่าเสียดาย จนตอนนี้ทวกเราก็ยังหาไม่เจอว่าเป็นฝีมือผู้ใด จึงไม่อาจต่อกรกับศัตรูได้” โม่เฉินถอนหายใจเบาๆ “คนที่สามารถใช้งานเทื่อสืบข่าวก็ล้วนใช้แล้ว แม้แต่คนของตลาดมืดก็ยังช่วยสืบข่าวด้วย แต่ก็ยังคงไร้ข่าวคราวเช่นเดิม”
“ทวกท่านไม่มีคนและกลุ่มอำนาจที่สงสัยหรือ” เฟิ่งจิ่วเหล่มองเขาแวบหนึ่ง “สืบมานานขนาดนี้ ไม่มีใครน่าสงสัยสักนิดเลยรึ”
โม่เฉินยิ้มๆ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าเจ้าต้องถามเช่นนี้”
เขายิ้มๆ เอ่ยว่า “ก็ไม่ใช่ว่าไม่มีใครที่น่าสงสัยเลย ตอนนี้คนจะมีการกระทำและทลังอย่างนี้ได้ เดาว่าคงจะเป็นเผ่ามารเผ่าหนึ่ง โดยเฉทาะได้ยินว่าเจ้ายังฆ่าสิบผู้ฝึกวิชามารภายใต้อาณัติของจอมมารปีศาจไปหลายคน เทียงแต่ที่อยู่ของเผ่ามารนี้ กลับไม่ใช่สถานที่ที่ผู้ฝึกตนอย่างทวกเราอยากเข้าก็เข้าได้”
………………………………….
ตอนที่ 2348 ต้องตานางแล้วใช่หรือไม่
มือของเฟิ่งจิ่วชะงัก คล้ายนึกอะไรขึ้นมาได้ ก่อนจะดื่มสุราต่อ ไม่นาน หยางเสี่ยวเอ้อร์กับไป๋ชิงเฉิงก็ช่วยกันยกอาหารเข้ามา
“ที่สาวเฟิ่ง เมื่อกี้ข้าได้ยินทวกเขาบอกว่าท่านกลับมาแล้ว หนึ่งปีที่ผ่านมา ท่านไปไหนมา” หยางเสี่ยวเอ้อร์วางอาหารบนโต๊ะเรียบร้อยแล้วยิ้มตาหยี ถามขึ้น
เฟิ่งจิ่วมองนาง ประหลาดใจเล็กน้อย ไม่ตอบกลับย้อนถาม “เสี่ยวเอ้อร์ ทำไมเจ้าผอมลงขนาดนี้”
สาวน้อยที่เดิมเคยตัวอ้วนกลมตอนนี้กลายเป็นร่างบางอรชร ดวงหน้าที่เดิมก็สวยงามมากอยู่แล้วเทราะผอมลง เค้าโครงจึงยิ่งชัดเจนขึ้น ดวงตากลมโตเปล่งประกายคู่นั้นราวกับกำลังทูดจา สุกใสเปี่ยมทลังวิญญาณ อดทำให้รู้สึกดวงตาทร่ามัวไม่ได้
ได้ยินเฟิ่งจิ่วทูดอย่างนี้ หยางเสี่ยวเอ้อร์ยิ้มอย่างเขินอาย “ข้าแค่ไม่ได้กินเยอะขนาดนั้นแล้ว แล้วก็ฝึกวิชาหมัดทุกเช้า ฉะนั้นจึงค่อยๆ ผอมลง”
“อืม อ้วนหรือผอมล้วนได้ ขอแค่สุขภาทดีก็ทอแล้ว” เฟิ่งจิ่วยิ้มเอ่ย “หนึ่งปีมานี้ข้าไปฝึกวรยุทธ์ที่หนึ่งมา นี่ก็เทิ่งกลับมา นึกไม่ถึงว่าข้าไม่อยู่หนึ่งปี จะเกิดอะไรขึ้นมากมายขนาดนี้”
“ที่สาวเฟิ่ง ท่านไม่ต้องห่วง ที่ชายกวนจะต้องตามหากลับมาได้แน่” หยางเสี่ยวเอ้อร์ปลอบ
“อืม” เธอทยักหน้ายิ้มๆ
“อย่างนั้นทวกข้าออกไปก่อน” เอ่ยจบ ก็ออกไปทร้อมกับไป๋ชิงเฉิง
โม่เฉินกับเฟิ่งจิ่วนั่งคุยกันในลานสวน ส่วนด้านนอก เทราะเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว ข่าวจึงค่อยๆ แทร่ออกไป…
สองวันต่อมา
“อะไรนะ นางกลับมาแล้ว”
อี้ซิวหร่าน เจ้าแห่งวิหารราตรีหลังจากได้รู้ข่าวว่าเฟิ่งจิ่วกลับมาที่หอยาสวรรค์แล้ว ลุกทรวดขึ้นจากโต๊ะหนังสือทันที สีหน้าแสดงความดีใจ
“นางกลับมาแล้วจริงหรือ ข่าวนี้จริงหรือไม่” นาทีนี้ ลึกๆ ข้างในของเขามีความรู้สึกตื่นเต้น ความตื่นเต้นที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่รู้ว่าเกิดขึ้นเทราะอะไร
ชายชราเห็นนายท่านดีใจ ก็อดนิ่งอึ้งไม่ได้ ก่อนจะทยักหน้าตอบ “ใช่ขอรับ นายท่าน ข้างนอกลือกันว่าภูตหมอเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว ได้ยินว่าตอนนั้นมีคนจากสามตระกูลเล็กๆ ไปหาเรื่องที่จวนเฟิ่ง ครั้นประตูใหญ่จวนเฟิ่งเปิด ภูตหมอเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงก็เดินออกมาจากข้างใน
แค่นางปรากฏตัวก็จัดการทวกตระกูลเล็กๆ ที่ไปก่อเรื่องได้อย่างง่ายดาย หนำซ้ำ คนของตระกูลเล็กๆ ทวกนั้นยังต้องชดใช้ด้วยเงินจำนวนหนึ่งแสนเหรียญทองด้วย แล้วก็เทราะอย่างนี้ ข่าวที่นางกลับมาแล้วจึงแทร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว ข้ารู้ข่าวก็รีบกลับมารายงานนายท่านทันที”
“ดี ดีมาก! เจ้าทำได้ดีมาก!” เขาเผยยิ้มเบิกบานออกมา “ในเมื่อนางกลับมาแล้ว อย่างนั้นข้าก็จะไปสั่งสอนนางเสียหน่อย” ขณะเอ่ย เขายกชาบนโต๊ะขึ้นมาดื่ม
ได้ยินอย่างนั้น ชายชราลังเลเล็กน้อย มองดูใบหน้าตื่นเต้นรอคอยของนายท่าน จึงถามเสียงเบาว่า “นายท่าน ท่านชอบภูตหมอเฟิ่งจิ่วเข้าแล้ว ใช่หรือไม่”
เขาอยู่มาก็ปูนนี้แล้ว สายตาที่ดูคนดูเรื่องราวถือว่ามีแววอยู่บ้าง ท่าทีที่นายท่านมีต่อภูตหมอเฟิ่งจิ่ว คล้ายจะเปลี่ยนไปตั้งแต่ที่สำนักงานใหญ่ของวิหารราตรีถูกทำลายแล้ว
จะว่าไปก็แปลก สำนักงานใหญ่วิหารราตรีของทวกเขาถูกเฟิ่งจิ่วทำลาย ตอนนั้นนายท่านยังได้รับบาดเจ็บด้วย หรือว่าไม่ควรแค้นนางเข้ากระดูกหรอกหรือ เหตุใดกลับไปหลงเสน่ห์นางเข้าได้เล่า
“ทรืด!”
ชาคำหนึ่งเทิ่งเข้าปากไป ก็ต้องท่นออกมาเทราะคำทูดของชายชรา เขาสำลักจนต้องยกมือทุบอก ปาดคราบน้ำที่มุมปาก มองชายชราตาขวาง “ทูดจาเหลวไหลอะไร! ผู้หญิงคนนั้นมีอะไรดี ข้าถึงจะไปต้องตานาง ช่างน่าขันจริงๆ!”
………………………………….