เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2349 นางกลับมาแล้ว / ตอนที่ 2350 ไม่เอาเปรียบ
ตอนที่ 2349 นางกลับมาแล้ว
ได้ยินคำตอบของนายท่าน ชายชรานิ่งอึ้ง “อ้อ อย่างนั้นก็แสดงว่า นายท่านไม่ได้ชอบภูตหมอเฟิ่งจิ่ว”
“นั่นเป็นเรื่องที่ไปไม่ได้!” เขาพูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด
ชายชราได้ฟังก็ถอนหายใจโล่งอก “อย่างนั้นก็ดีแล้ว อย่างนั้นก็ดี ข้ายังคิดว่าเพราะนายท่านรู้ว่าภูตหมอเป็นคนช่วยท่านในตอนนั้น จึงได้เปลี่ยนจากความรู้สึกขอบคุณมาเป็นรักและชื่นชมเสียอีก”
อี้ซิวหร่านฟังจบ รู้สึกเพียงหน้ามืดทะมึน นี่มันตรรกะบ้าบอคอแตกอะไรกัน
“นายท่าน ที่จริงท่านไม่ชอบนางนั้นถูกแล้ว หากท่านชอบภูตหมอจริงๆ อย่างนั้นจะกลายเป็นรักข้างเดียว คนอื่นเขาไม่มีทางชอบท่าน”
ชายชราเริ่มพร่ำบ่นขึ้นมาอีก มองข้ามใบหน้าเขียวคล้ำของอี้ซิวหร่าน เอ่ยด้วยน้ำเสียงลึกซึ้งว่า “เรื่องของภูตหมอเฟิ่งจิ่วพวกเราเองก็รู้ไม่น้อย ข้างกายนางมีผู้ชายโดดเด่นมากมาย โดยเฉพาะคู่หมั้นของนางที่ชื่อเซวียนหยวนโม่เจ๋อ นั่นก็เป็นคนที่ยอดเยี่ยมมากคนหนึ่งทีเดียว”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอีกว่า “อีกทั้งได้ยินมาว่าแม้สองคนนี้จะไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน แต่มีความรักลึกซึ้งมาก แม้นายท่านคิดจะฝืนเข้าไปแทรกกลาง ก็ทำไม่ได้ ฉะนั้นตอนที่นายท่านยังไม่หวั่นไหว ข้าจึงอยากเกลี้ยกล่อมให้มาก จะได้ไม่เดินหน้าแล้วไร้หนทางกลับคืน”
อี้ซิวหร่านหน้าดำคล้ำไปทั้งดวงแล้ว เขาตวัดมองชายชราที่พล่ามไม่หยุดด้วยสายตาเยือกเย็น “อะไรที่เรียกว่าเดินหน้าแล้วไร้หนทางกลับคืน เมื่อกี้ข้าบอกแล้วไม่ใช่หรือ ข้าไม่ได้ต้องตาผู้หญิงคนนั้น อีกอย่าง นายท่านเจ้าข้าคนนี้ไม่ดีตรงไหน อะไรที่เรียกว่านางไม่มีวันชอบข้า เซวียนหยวนโม่เจ๋อเป็นใครอีก จะโดดเด่นเพียงใดก็ยังโดดเด่นเหนือข้าได้อีกหรือ”
ชายชราขยับกลีบปาก อยากจะพูดอะไร แต่กลับกลัวว่าจะกระทบกระเทือนจิตใจเขา สุดท้ายจึงถอนหายใจเบา “ในใจของข้านายท่านนั้นยอดเยี่ยมและโดดเด่นที่สุด ไม่มีผู้ใดเทียบนายท่านได้แล้ว”
เพียงแต่ ไม่ยอมรับไม่ได้ว่าข้างกายภูตหมอเฟิ่งจิ่วนั้นไม่ว่าจะเป็นเซวียนหยวนโม่เจ๋อ หรือลูกศิษย์ของผู้เฒ่าเทียนจีอย่างคุณชายโม่เฉิน หรือแม้แต่พี่ชายบุญธรรมของนางกวนสีหลิ่น แล้วยังมีชายหนุ่มหล่อเหลาสี่คนนั้นที่มาจากสี่สำนักเซียนใหญ่ แต่ละคนล้วนไม่คนธรรมดา
จะว่าไปแล้วก็แปลก ไม่รู้ว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่ คนพวกนั้นล้วนมารวมตัวอยู่ข้างกายนาง ปกป้องนาง คุ้มกันนางอย่างนั้น
นึกมาถึงตรงนี้ เขาคิดถึงข่าวที่แพร่กระจายอยู่ในช่วงนี้ ลังเลเล็กน้อย มองนายท่าน ก่อนเอ่ยว่า “นายท่าน ได้ยินมาว่าภูตหมอเฟิ่งจิ่วก็คือเฟิ่งซิง เรื่องนี้นายท่านคิดเห็นว่าอย่างไร”
ได้ยินคำถาม อี้ซิวหร่านขมวดคิ้ว เงียบไปครู่หนึ่ง “เฟิ่งซิงคือบุคคลผู้มีดวงชะตายิ่งใหญ่ คนที่อยู่ข้างกายนางล้วนได้รับผลดีไม่ว่ามากหรือน้อย อีกอย่าง คนอย่างนี้ ดีที่สุดอย่าเป็นศัตรูด้วย”
ชายชราเหลือบมองนายท่านแวบหนึ่ง ลอบคิดในใจ เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่าคำพูดสุดท้ายของนายท่านคือสิ่งที่เขาอยากพูดที่สุดกันนะ
ไม่เป็นศัตรู เช่นนั้นก็เป็นมิตร
“นายท่าน ภูตหมอคงยังไม่รู้กระมังว่าท่านคือเจ้าวิหารราตรี” จู่ๆ ชายชราก็โพล่งถามออกไปอย่างไม่ทันตั้งตัว
อี้ซิวหร่านหน้าเปลี่ยนสี ก่อนยิ้มเอ่ยว่า “ไม่รู้ แล้วอย่างไรเล่า” เขาสะบัดชายเสื้อ พูดขึ้นว่า “เอาละ เรื่องข้างล่างมอบหมายให้เจ้าไปจัดการ ข้าเองก็ควรจะไปดูที่หอยาสวรรค์สักหน่อย”
นี่ก็รอนางมาหนึ่งปีแล้ว ในที่สุดก็กลับมา
“นายท่าน นายท่าน…” ชายชราร้องเรียก แต่กลับเห็นเขาสาวเท้ายาวเดินออกไป ไม่นานก็หายลับไปจากครรลองสายตา…
เห็นอย่างนี้ชายชราอดส่ายหัวไม่ได้ “ท่าทางเช่นนี้ เห็นชัดว่าโดนพิษของภูตหมอเฟิ่งจิ่วเข้าแล้วก็ยังไม่ยอมรับ”
………………………………….
ตอนที่ 2350 ไม่เอาเปรียบ
ผ่านไปอีกสองวัน
เช้าตรู่ของวันนี้ ฮุ่นหยวนจื่อที่ได้ยินว่าเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้วรีบเร่งมาที่หอยาสวรรค์ ทันทีที่เข้ามา ก็ดึงเหลิ่งหวามาถาม “ได้ยินว่าแม่หนูเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว อยู่ไหน ข้ามีเรื่องด่วนหานาง”
“ผู้อาวุโส นายท่านของข้ากำลังกลั่นยาอยู่ในห้องกลั่นยา มีเรื่องเร่งด่วนอะไรก็ล้วนต้องรอนางออกมาก่อนแล้วค่อยคุยกัน ถ้าอย่างไรท่านนั่งรอครู่หนึ่ง ดื่มชาก่อน นายท่านออกมาข้าจะพาท่านไปหานาง” เหลิ่งหวายิ้มอ่อนโยน พาเขาไปนั่งที่ห้องรับรองแขก
ฮุ่นหยวนจื่อได้ฟังเช่นนั้นก็ขมวดคิ้ว นั่งลงแล้วพูดขึ้นว่า “ได้ยินว่าเพิ่งกลับมาไม่กี่วันไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงยุ่งงวดกับการกลั่นยาเช่นนี้ ข้ารู้ว่าหอยาสวรรค์ของพวกเจ้าพักนี้มีปัญหามากมาย นางกลับมากลับยังสามารถสงบสติอารมณ์กลั่นยาอยู่ในห้องได้”
“นายท่านกลับมาก็ลงมือจัดการปัญหาไปไม่น้อย กลั่นยานั้นเพิ่งเริ่มเมื่อวานตอนเย็น เมื่อคืนทั้งคืนก็ไม่ได้ออกจากห้องกลั่นยาเลย ข้าเดาว่าวันนี้นายท่านน่าจะออกมาแล้ว” เหลิ่งหวาอธิบาย ก่อนจะสั่งคนให้ยกน้ำชามาให้ฮุ่นหยวนจื่อ
“ผู้อาวุโสฮุ่นหยวน เชิญดื่มชา” ไป๋ชิงเฉิงยกน้ำชามาให้ วางไว้บนโต๊ะด้านหน้าฮุ่นหยวนจื่อ ขณะกำลังจะถอยออกไป ก็ได้ยินเสียงประหลาดใจของเขาดังมา
“เจ้าก็คือผู้แซ่ไป๋ชื่ออะไรแล้วนะ จากสำนักตะวันฉาย” ฮุ่นหยวนจื่อเคาะสมองทำท่าคิด ผ่านไปครู่หนึ่งก็ยังนึกชื่อนั้นไม่ออก
“ผู้อาวุโส ผู้น้อยไป๋ชิงเฉิงเจ้าค่ะ” นางก้มหน้าตอบอย่างมีมารยาท
“อ้อ ชื่อไป๋ชิงเฉิงหรือ มาๆ เงยหน้าให้ข้าดูหน่อย” ฮุ่นหยวนจื่อยิ้มตาหยีเอ่ย
ไป๋ชิงเฉิงลังเลเล็กน้อย เวลานี้ ก็ได้ยินเสียงของเหลิ่งหวาดังมา
“ผู้อาวุโสฮุ่นหยวนพูดเจ้าไม่ได้ยินหรือ เงยหน้าให้ผู้ผู้อาวุโสดูหน่อย” น้ำเสียงของเหลิ่งหวาเรียบเฉย แตกต่างจากความอ่อนโยนในยามปกติ
ก็ไม่แปลก รู้ว่าไป๋ชิงเฉิงผู้นี้เคยทำให้นายท่านลำบากใจ ซ้ำยังคิดเล่นงานนายท่านอีก เขาจะมีสีหน้าดีๆ ให้นางดูที่ไหนกัน!
“เจ้าค่ะ” ไป๋ชิงเฉิงหน้าซีดเล็กน้อย ก่อนจะเงยหน้าขึ้น เพียงแต่ เวลานี้นางรู้สึกตกต่ำอัปยศ
นางที่เคยเป็นหญิงสาวผู้สูงส่งทะนงตน ยโสโอหังอย่างยิ่ง เวลานี้ กลับต้องตกอยู่ในสภาพเช่นนี้ ถูกสั่งให้เงยหน้าก็ต้องเงยหน้า ความรู้สึกอัปยศนี้ มีเพียงนางที่เคยสัมผัสด้วยตนเองจึงรับรู้ได้ถึงความอดสูนั่น
“หึๆๆ หน้าตาไม่เลว นับว่าไม่ผิดต่อชื่อชิงเฉิง เพียงแต่ เทียบกับแม่หนูเฟิ่งยังห่างกันอีกไกล” ฮุ่นหยวนจื่อยกชาขึ้นจิบ พลางหันไปเอ่ยกับไป๋ชิงเฉิงอย่างวิพากษ์วิจารณ์
นางปรับสีหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ชิงเฉิงเป็นเพียงบ่าวรับใช้ของนายท่าน ย่อมไม่อาจเทียบกับนายท่านได้อยู่แล้ว”
“ข้าจะบอกให้เจ้าแล้วกัน! เจ้าก็อย่าวางมาดคุณหนูใหญ่ตระกูลไป๋กับฐานะศิษย์สำนักตะวันฉายไม่ลงนักเลย ติดตามแม่หนูเฟิ่งจิ่วได้ก็ถือว่าเป็นโชคของเจ้า ขอแค่เข้าตานาง นางไม่เอาเปรียบเจ้าแน่ ทำงานให้ดีเถอะ!”
ได้ยินอย่างนั้น ไป๋ชิงเฉิงอดมองฮุ่นหยวนจื่อแวบหนึ่งไม่ได้ รู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมา เผยรอยยิ้ม “เจ้าค่ะ ขอบคุณผู้อาวุโสที่สั่งสอน ผู้น้อยจะไม่ทำให้นายท่านผิดหวังแน่นอน”
เหลิ่งหวาที่อยู่ด้านหนึ่งอดมองนางแวบหนึ่งไม่ได้ เห็นสีหน้านางไม่เหมือนเสแสร้ง นัยน์ตาไหวระริก เอ่ยว่า “เจ้าถอยไปก่อนเถอะ!”
“เจ้าค่ะ” นางคารวะ ก่อนจะถอยออกไป
“พ่อหนุ่มเหลิ่งหวา เจ้ามานี่ๆ นั่งลงๆ บอกข้าสินายท่านของเจ้ากลับมาได้อย่างไร นางหายตัวไปก็หนึ่งปีแล้ว หนึ่งปีนี้ไปทำอะไรมา”
………………………………….