เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2359 ไม่คาดคิด / ตอนที่ 2360 รับเลี้ยง
ตอนที่ 2359 ไม่คาดคิด
ครั้นได้ฟัง เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก เหล่มองฮุ่นหยวนจื่ออย่างหมดคำจะพูด “ตาเฒ่า ท่านไม่ไปเป็นนักเล่าเรื่องช่างน่าเสียดายแล้ว”
“เจ้าไม่เชื่อรึ” ตาเฒ่าถลึงตา “ข้ามีชีวิตอยู่มาปูนนี้แล้ว เรื่องที่ประสบพบเจอมากมายกว่าเจ้า เรื่องราวอย่างนี้ข้าเดาหนึ่งครั้งถูกหนึ่งครั้ง”
“ใช่แล้วๆๆ ท่านร้ายกาจ”
เฟิ่งจิ่วว่า ขี้คร้านจะต่อปากต่อคำกับเขา เพียงเอ่ยว่า “จะหาของกินไม่ใช่หรือ ข้าพาเด็กไปที่ใต้ต้นไม้ต้นนั้นก่อน ท่านหาสัตว์ป่าแถวๆ นี้ไปก็แล้วกัน ระวังตัวด้วย อย่าไปไกลนัก”
เอ่ยจบ เธอรับของที่เป็นของเด็กทารกมาจากมือตาเฒ่า เก็บเข้าไปในห้วงมิติ ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยเดินกลับไปทางเดิม
“แม่หนูไร้มโนธรรมคนนี้ ทิ้งข้าไว้แล้วก็ไปทั้งอย่างนี้เลยรึ” ฮุ่นหยวนจื่อบ่นอุบอิบ พลางเดินไปยังอีกด้านของป่า ตั้งใจว่าจะจับกระต่ายสองตัวหรืองูสองตัวเพื่อถูไถพอให้ผ่านไปหนึ่งมื้อ
ส่วนเฟิ่งจิ่ว หลังจากอุ้มเด็กคนนั้นกลับมาและวางกิ่งไม้กองไว้ใต้ต้นไม้ เห็นรอบๆ ล้วนไม่มีคน จึงอุ้มเด็กหายตัวเข้าไปในห้วงมิติ เธอวางเด็กไว้ที่มุมหนึ่งของห้วงมิติ ตนเองถอดเสื้อเช็ดตัวก่อนสักหน่อย ก่อนจะเปลี่ยนใส่ชุดคลุมสีเขียวตัวใหม่ เห็นเด็กน้อยที่เธอวางไว้ด้านหนึ่งส่งเสียงร้องไห้ขึ้นมาอีกครั้ง เธอจึงเดินเข้าไปอุ้ม
“เอาละๆ ไม่ต้องร้องไห้แล้ว เด็กดี ไม่ต้องร้องแล้ว” เธอปลอบโยนด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เพียงแต่ เด็กน้อยเอาแต่ร้องไห้ไม่หยุด
เธอครุ่นคิด ก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ตรงท้องของเด็กน้อย เอ่ยอย่างนิ่งๆ “เจ้าหนูนี่คงไม่ใช่ว่าหิวแล้วกระมัง แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะนี่” เธอหายตัวออกมาจากห้วงมิติ อุ้มเด็กเดินไปเดินมาอยู่ใต้ต้นไม้ ท่าทางกลัดกลุ้ม
อาหารที่ผู้ใหญ่กินได้ ทารกน้อยอายุไม่กี่เดือนกลับกินไม่ได้ สถานที่อย่างนี้ก็ไม่มีอะไรที่ทารกกินได้เสียด้วยสิ…
“อ๊ะ! นึกออกแล้ว!”
เธอเอาน้ำยาสารอาหารขวดหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ ยิ้มแล้วใช้มือแตะปากน้อยๆ ขอทารก เอ่ยว่า “เจ้าโชคดีมากนะ ที่เจอข้า ยังมีน้ำยาสารอาหารให้ดื่มด้วย”
เธอหาที่นั่ง มือหนึ่งอุ้มเด็ก มือหนึ่งป้อนน้ำยาสารอาหารทีละคำ มองดูท่าทางน่ารักน่าชังของเขาที่อ้าปากกลืนกินเหมือนนกน้อยที่หิวโหย เฟิ่งจิ่วอดหัวเราะเบาๆ ไม่ได้
“เจ้าหนูน้อย ท่าทางของเจ้าน่ารักเสียยิ่งกว่าเสือขาวน้อยเสียอีก”
น้ำยาสารอาหารขวดหนึ่งค่อยๆ ถูกป้อนจนหมด ผ่านไปครู่หนึ่ง ตาเฒ่าเดินกลับมาพร้อมกับไก่วิญญาณสองตัวในมือ พลางเอ่ยกับเฟิ่งจิ่วว่า “ตอนแรกตั้งใจจะจับกระต่ายหรืองูมาสักสองตัว ใครจะรู้ไม่เห็นสักตัว แต่ยังดีที่จับไก่วิญญาณมาได้สองตัว ข้าคิดว่าเนื้อไก่วิญญาณนี้เอามาย่างน่าจะสดใหม่หอมนุ่มมาก เอาๆ มอบหมายให้เป็นหน้าที่เจ้า”
เขาบิดคอของไก่สองตัวนั้น โยนลงบนพื้นจากนั้นก็เดินมาทางเฟิ่งจิ่ว ทำท่าจะอุ้มเด็กน้อยในอ้อมแขนเธอ จะได้ให้เธอไปย่างไก่ได้อย่างสะดวก
“ใช้น้ำล้างมือหน่อย” เฟิ่งจิ่วจ้องมือของเขา “เด็กเพิ่งจะอายุกี่เดือนเอง ร่างกายค่อนข้างอ่อนแอ สองมือของท่านเพิ่งจับไก่มาต้องล้างจึงจะอุ้มเขาได้”
“ได้ๆๆ เจ้านี่ช่างเรื่องเยอะจริงๆ” ตาเฒ่าเอาถุงหนังใส่น้ำออกมาล้างมือ จากนั้นก็เช็ดให้แห้ง ก่อนจะหันไปมองเฟิ่งจิ่ว “คราวนี้ได้แล้วกระมัง”
เห็นอย่างนั้นเฟิ่งจิ่วจึงยื่นเด็กในอ้อมแขนให้เขา พลางเอ่ยว่า “อย่างนั้นท่านอุ้มเขานั่งพักอยู่ตรงนี้ ข้างหน้าไม่ไกลมีลำธาร ข้าเอาไก่สองตัวนี้ไปล้างก่อนค่อยกลับมา”
“ได้ เจ้าไปเถอะ!”
ตาเฒ่าหยอกล้อกับเด็กในอ้อมแขน เห็นเด็กน้อยกำลังจ้องมองเขาด้วยดวงตาสุกใสบริสุทธิ์ พลันนั้น เสียงปู้ดดังขึ้น เขาตัวแข็งทื่อไปทันที
………………………………….
ตอนที่ 2360 รับเลี้ยง
เฟิ่งจิ่วที่เพิ่งเดินออกไปได้ไม่กี่ก้าวได้ยินเสียงนั้นก็ชะงักงันแล้วหันกลับมา มองตาเฒ่าที่หน้าตาย่ำแย่ร่างกายแข็งทื่ออย่างประหลาดใจ เมื่อได้กลิ่นเหม็นกลิ่นหนึ่ง มุมปากของเธอก็กระตุก
“นี่คือ…ถ่ายแล้ว?”
เธอมองเด็กน้อยที่กำลังกะพริบตาปริบๆ อย่างไร้เดียงสาอยู่ในอ้อมแขนของตาเฒ่า ยิ้มๆ พลางถอยหลังเอ่ยว่า “เรื่องนี้ ท่านจัดการเองก็แล้วกัน ข้าเอาไก่สองตัวนี้ไปจัดการก่อน” เอ่ยจบก็รีบสาวเดินจากไป ทิ้งตาเฒ่าให้ยืนตัวแข็งอยู่ตรงนั้น
ตาเฒ่าผ่านไปครู่หนึ่งจึงเพิ่งได้สติ มองเด็กน้อยที่ยังคงเหยียดแข้งเหยียดขา ถลึงตากล่าวว่า “ข้าใช้ชีวิตมาจนอายุปูนนี้ ยังไม่เคยมีใครกล้าถ่าย ถ่าย…เฮ้อ!”
สองคำนั้นเขาพูดไม่ออก แค่คิดว่าสิ่งปฏิกูลของเด็กน้อยเปื้อนร่างกายเขา เขาก็รู้สึกตึงหนังศีรษะไปหมด รีบอุ้มเด็กเดินไปทางด้านล่างลำธารที่เฟิ่งจิ่วอยู่
เฟิ่งจิ่วที่จัดการไก่สองตัวนั้นเสร็จอย่างรวดเร็วเห็นตาเฒ่าอุ้มเด็กเดินมา จึงหัวเราะหยอกล้อ “ตาเฒ่า เจ้าหนูนี่ดีกับท่านเพียงใด ท่านเพิ่งอุ้มเขาเขาก็ทำท่านเลอะไปทั้งตัวอย่างนี้แล้ว เดาว่าท่านก็เพิ่งเคยเจออย่างนี้เป็นครั้งแรกกระมัง”
“เจ้ารีบเอาไก่สองตัวนั้นไปเสียบไม้ย่างเลย ต่อไปเด็กนี่เจ้าเป็นคนเลี้ยงเอง” ตาเฒ่าว่า มือหนึ่งอุ้มเด็ก มือหนึ่งถอดเสื้อออกมารองพื้น ก่อนจะวางเด็กลงบนเสื้อผ้าส่วนที่สะอาด
เฟิ่งจิ่วเห็นแล้วก็ยิ้มๆ “ได้ ท่านล้างไปก่อน อีกเดี๋ยวข้ากลับมา”
กล่าวจบ เธอยิ้มๆ แล้วเดินกลับไปที่ต้นไม้ใหญ่ จุดไฟแล้วเอาไก่สองตัวเสียบไม้ย่างเหนือไฟ ยังโรยเครื่องเทศลงไปด้วยจำนวนหนึ่ง ไม่นาน ก็เห็นตาเฒ่าอุ้มเด็กน้อยห่อผ้าอ้อมเดินกลับมา
“คืนให้เจ้าๆ”
ตาเฒ่ายื่นเด็กน้อยให้เฟิ่งจิ่ว ตนเองนั่งลงข้างกองไฟ หยิบสุราออกมาดื่ม เอ่ยว่า “บรรพบุรุษตัวน้อยแท้ๆ ข้าอายุปูนนี้แล้วยังไม่เคยปรนนิบัติใครเช่นนี้เลย!”
เฟิ่งจิ่วรับเด็กน้อยมา ยิ้มเอ่ย “รอเด็กคนนี้โตเมื่อใด ให้เขาปรนนิบัติท่าน”
ได้ฟังอย่างนั้น ตาเฒ่ามองเธอด้วยความประหลาดใจ “ฟังจากที่เจ้าพูด เจ้าตั้งใจจะเก็บเด็กคนนี้ไว้จริงๆ”
“เป็นท่านที่บอกให้ข้าเลี้ยงเก็บไว้เป็นลูกชายเองไม่ใช่หรือ” เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว มองเขาอย่างแดกดัน
ตาเฒ่าถลึงตา “ข้าบอกให้เจ้าเลี้ยงเจ้าก็เลี้ยงจริงหรือ เจ้าเป็นสาวเป็นนางยังไม่ได้แต่งงาน ข้างกายมีเจ้าหนูน้อยคอยเรียกท่านแม่ นะ นี่ไม่ค่อยดีกระมัง”
“ไม่มีอะไรไม่ดีหรอก กลับไปก็หาแม่นมให้เจ้าหนูนี่คนหนึ่ง จากนั้นก็ให้พวกเหลิ่งซวงช่วยเลี้ยง ข้ามีเวลาว่างก็มาเล่นกับเจ้าหนูนี่ ยามปกติคงไม่มีอะไรเกี่ยวกับข้าเท่าไร” เธอตัดสินใจแต่แรกแล้ว
ในเมื่อไม่รู้ที่มาที่ไปของเด็ก แล้วก็ไม่รู้ว่าครอบครัวของเด็กคนนี้อยู่ที่ไหน อย่างนั้นก็เลี้ยงไว้ก่อนเถอะ! เลี้ยงโตเมื่อใดแล้วค่อยให้เขาไปตามหาด้วยตนเอง ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าหนูนี่ก็น่ารักน่าชังมาก แล้วยังถูกเธอช่วยไว้อีก เก็บไว้ข้างกายก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้
ฮุ่นหยวนจื่อฟังจบก็มองเธออยู่ครู่หนึ่ง สุดท้ายเพียงเอ่ยว่า “ในเมื่อเจ้าก็พูดถึงขนาดนี้แล้ว อย่างนั้นก็เลี้ยงเถอะ! แต่ตอนนี้พวกเราเก็บเด็กไว้ข้างกายไม่ค่อยเหมาะกระมัง”
“นั่นก็ไม่มีทางเลือก” เธอหยิบเสื้อคลุมเก่าๆ ตัวหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ ห่อตัวเด็กไว้ พลางเอ่ยกับฮุ่นหยวนจื่อ “รีบพลิกไก่ย่างเร็ว อย่าให้ไหม้เล่า”
ตาเฒ่าพลิกไก่ย่าง พลางหันไปเหล่มองเด็กน้อยที่เฟิ่งจิ่วอุ้มอยู่แวบหนึ่ง ประหลาดใจเล็กน้อยที่พอเด็กน้อยอยู่ในอ้อมแขนของเฟิ่งจิ่วแล้วไม่ร้องไห้
………………………………….