เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2363 หายไปแล้ว / ตอนที่ 2364 ถูกขัง
ตอนที่ 2363 หายไปแล้ว
ทว่าพอวิญญาณตนนั้นหายไป ตัวอื่นก็พัวพันเข้าไปอีก ฮุ่นหยวนจื่อตกใจจนร้องตะโกนเสียงดัง “เกิดอะไรขึ้น ทำไมสิ่งสกปรกพวกนี้พัวพันแค่ข้า ไม่พัวพันเจ้าเลย”
“บนตัวข้ามีของที่พวกมันไม่กล้าเข้าใกล้” เฟิ่งจิ่วตอบ มองเจ้าสิ่งเหล่านั้นที่พัวพันฮุ่นหยวนจื่อ บอกว่า “ของพวกนี้กลัวแดดกลัวไฟ ท่านรับมือได้กระมัง”
“เมื่อกี้ข้าแค่ไม่ทันระวังตัว เจ้าคิดว่าข้ารับมือสิ่งสกปรกพวกนี้ไม่ได้เชียวหรือ เจ้าคอยดู” ฮุ่นหยวนจื่อร้องตอบ สองมือพลิกหมุน กลิ่นอายในร่างกายพุ่งพล่าน ขณะวาดหมุนสองมือ ภาพค่ายกลแปดทิศปรากฏรอบกายเขา ตัวเขาอยู่ตรงกลางของค่ายกลแปดทิศ
เห็นเพียงกระดานค่ายกลแปดทิศในมือเขาหมุนวน วิญญาณสิบกว่าตนพวกนั้นกรีดร้อง ถูกดูดเข้าไปในกระดานค่ายกลแปดทิศ หายไปอย่างไร้ร่องรอย
เขาเก็บพลังกลับคืนด้วยการหมุนฝ่ามือเข้าตัว พ่นหายใจเบาๆ หันไปมองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง เชิดคางเล็กน้อย เอ่ยด้วยน้ำเสียงย่ามใจ “เป็นอย่างไรบ้าง ข้าไม่ลงมือก็แล้วไป หากลงมือเมื่อใดสะท้านสะเทือนไปทั่วแดน!”
เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก “ใช่แล้ว สะท้านสะเทือนไปทั่วแดนจริงๆ” เอ่ยจบ เธอก็สาวเดินไปข้างหน้า
“นี่ เจ้าระวังหน่อย ที่นี่แปลกประหลาดมาก ปีนั้นข้าเคยมาครั้งหนึ่ง หลงทางอยู่ในนี้แล้ว ถูกขังอยู่นานหลายเดือนกว่าจะได้ออกไป” เขาตะโกนบอกเฟิ่งจิ่ว พลางเดินตามไปติดๆ
“ท่านก็ช่างมีความสามารถ ถูกขังอยู่ในนี้ตั้งหลายเดือนยังกล้าพูดออกมาอีก”
“ข้ากำลังเตือนเจ้า ให้เจ้าระวังตัวหน่อย”
ทั้งสองเดินไปพลาง คุยไปพลาง หมอกหนาที่ค่อยๆ จางไปเริ่มก่อตัวกลับมาบดบังสายตาอีกครั้ง หลังจากที่เงาร่างของพวกเขาหายลับเข้าไปในหมอก ห่างออกไปไม่ไกลข้างหลัง ดวงตาสีแดงเลือดคู่หนึ่งพลันปรากฏ จ้องมองเงาร่างที่ค่อยๆ หายลับเข้าไปในกลุ่มหมอกสองร่างนั้น
สองคนที่เดินไปข้างหน้าราวกับรับรู้ได้พร้อมกัน หยุดเดินและหันไปมองข้างหลังโดยไม่ได้นัดหมาย ปล่อยดวงจิตกวาดสำรวจออกไปในพริบตา เพียงแต่ไม่เจออะไรเลย
“รู้สึกเหมือนมีคนจ้องพวกเราอยู่ใช่หรือไม่” ฮุ่นหยวนจื่อถาม จ้องมองเบื้องหน้าที่ขาวโพลนไปทั้งแถบ พลางถามเฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างๆ
“ใช่ รู้สึกเหมือนมีคนมอง แต่กลิ่นอายนั้นสัมผัสได้ ตอนนี้กลับเหมือนว่าหายไปอีกแล้ว” เธอเอ่ยเสียงเบา อุ้มห้าวเอ๋อร์ที่หยุดร้องไห้แล้ว อีกมือหนึ่งตบหลังเขาเบาๆ
“ระวังหน่อย ที่นี่มีปัญหาจริงๆ” ตาเฒ่าเอ่ยย้ำอีกครั้ง
“ข้ารู้”
เฟิ่งจิ่วรับคำ เดินไปข้างหน้าพร้อมกับเขา หลังจากเดินออกมาได้ระยะหนึ่ง รู้สึกว่าหมอกหนาขึ้นเรื่อยๆ ถึงขั้นยื่นมือออกไปแล้วไม่เห็นนิ้วมือ ทันใดนั้น เสียงหนึ่งดังขึ้นที่ข้างหู เป็นเหมือนเสียงใบไม้เสียดสีกันดังสวบสาบ และเหมือนมีบางสิ่งเคลื่อนไหวผ่านหญ้าไป พอเธอปล่อยดวงจิตกวาดสำรวจไปทางนั้น กลับไม่เจออะไรเลย
หมอกข้างหน้าหนาเกินไป มองไม่เห็นทางเดินที่จะวางเท้า เธอจึงยกแขนเสื้อสะบัด กลิ่นอายขุมหนึ่งทะลักออกจากแขนเสื้อของเธอ ปัดเป่าหมอกด้านหน้าออกไปบางส่วน
“ตาเฒ่า ที่นี่มีหมอกอย่างนี้ตลอดเลยหรือ”
เธอถามขึ้น ทว่าข้างกายกลับไร้เสียงตอบรับ และไม่มีกลิ่นอายของฮุ่นหยวนจื่อแล้วด้วย เมื่อรับรู้ได้ถึงจุดนี้ เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย หันไปมองข้างกายรวมถึงข้างหลังด้วย
“ตาเฒ่า?”
คนตัวโตขนาดนั้นคนหนึ่ง เดินข้างเธอมาตลอดทางจู่ๆ กลับหายไปเช่นนี้แล้ว หายไปเมื่อใดกัน เธอครุ่นคิดอย่างละเอียด ตลอดเส้นทางนี้เหมือนไม่มีความเคลื่อนไหวใดเลย มีแค่เสียงสวบสาบเมื่อกี้เท่านั้น
………………………………….
ตอนที่ 2364 ถูกขัง
เวลานี้ ในอีกด้านหนึ่ง ฮุ่นหยวนจื่อที่อยู่ในหมอกหนามองเงาร่างในเสื้อคลุมสีเขียวอยู่ตลอด เดินตามนางไม่ห่าง หลังจากเดินมาได้ระยะหนึ่ง เขาเอ่ยขึ้น “เฟิ่งจิ่ว เจ้ารู้สึกหรือไม่ว่าที่นี่แปลกๆ หมอกพวกนี้มาจากไหนกัน เหตุใดจึงปกคลุมไปทั่วขนาดนี้ ข้าจำได้ว่าแต่ก่อนตอนมาที่นี่หมอกไม่ได้ปกคลุมไปทั่วขนาดนี้นี่นา!”
เงาร่างด้านหน้าเดินอยู่อย่างเชื่องช้า ราวกับไม่ได้ยินเสียงของฮุ่นหยวนจื่อ เพียงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเท่านั้น
“นี่ ข้ากำลังพูดกับเจ้าอยู่นะ! เจ้าเดินเร็วขนาดนั้นทำไม” เขาเอื้อมมือออกไปจะคว้านาง แต่ใครจะรู้ ครั้นเอื้อมมือออกไปก็เห็นคนข้างหน้าหันกลับมาอย่างกะทันหัน ฉีกปากกว้างเผยโฉมหน้าสัตว์ปีศาจให้เขาเห็น
“ว๊าก!” ตาเฒ่าสะดุ้งตกใจ กรีดร้องออกไปทันที
และห่างจากที่นี่ไปไม่ไกล เฟิ่งจิ่วได้ยินเสียงกรีดร้องของฮุ่นหยวนจื่อรางๆ รีบตะโกนทันที “ตาเฒ่า ท่านอยู่ไหน” เสียงของเธอเปล่งออกไปพร้อมกับกลิ่นอายพลังวิญญาณ กระจายไปทั่วบริเวณอย่างชัดเจน และดังไปถึงฮุ่นหยวนจื่อด้วย
“อยู่ทางนี้!”
มองไม่เห็น รู้แค่ว่าในหมอกมีเสียงของเขาดังมา
เฟิ่งจิ่วเดินไปตามเสียง หลังจากเดินมาได้ระยะหนึ่ง เห็นเพียงในหมอกหนา ฮุ่นหยวนจื่อวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตกใจ “ข้าอยู่นี่!”
เฟิ่งจิ่วที่เดิมทีกำลังสาวเดินไปหาเขา เมื่อเห็นเขาสายตาไหวระริกเล็กน้อย เธอมองดูตาเฒ่าที่วิ่งมา ถามว่า “ท่านไม่เป็นไรกระมัง”
“ไม่เป็นไร เมื่อกี้เจอวิญญาณหลายตัว ถูกข้าเก็บไปหมดแล้ว ได้ยินเจ้าเรียกข้าก็เลยรีบกลับมา”
ขณะอธิบาย สายตาของตาเฒ่าจับจ้องห้าวเอ๋อร์ที่เนื้อตัวนุ่มนิ่มขาวเนียนในอ้อมแขนของเฟิ่งจิ่ว อดกลืนน้ำลายไม่ได้ เอ่ยว่า “เจ้าอุ้มเขามานานคงเหนื่อยแล้วกระมัง ข้าช่วยเจ้าอุ้มดีหรือไม่” สิ้นเสียง เอื้อมมือออกไปจะอุ้มเด็กในมือเฟิ่งจิ่ว
“อืม ท่านอุ้มเถอะ! ระวังหน่อย”
เธอกล่าว ชั่วขณะที่เอื้อมมือออกไปจะส่งเด็กให้ กระบี่คบพยับพลันปรากฏกลางฝ่ามือพุ่งแทงไปที่ชายชรา ความเร็วนั้นไม่เปิดโอกาสให้เขาหลบเลี่ยงได้แม้แต่น้อย ทำได้เพียงมองดูกระบี่พุ่งทะลุหัวใจ และได้แต่กรีดร้องอย่างโหยหวน
“อ๊าก!”
ขณะเดียวกัน รูปร่างหน้าตาของชายชราก็เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่เฟิ่งจิ่วชักกระบี่คมพยับออกและซัดฝ่ามือโจมตีออกไป ชายชรากลายร่างเป็นสัตว์ปีศาจ ไม่ ต้องบอกว่ากลายร่างกลับสู่ร่างเดิมมากกว่า
สัตว์ปีศาจตนนั้นถูกกระบี่แทงทะลุหัวใจยังพยายามหนี กระบี่คมพยับในมือเฟิ่งจิ่วพุ่งออกไป เงื้อฟันจากบนลงล่าง ได้ยินเพียงเสียงพลังกระบี่ดังชิ้ง ไม่นาน เสียงระเบิดกับเสียงกรีดร้องก็ดังตามมา
กลิ่นคาวเลือดฉุนๆ ลอยมาแตะจมูก เธอใช้มือหนึ่งอุ้มเด็กทารก อีกมือเก็บกระบี่กลับมา เธอเชื่อว่าตาเฒ่ายังอยู่แถวๆ นี้ เสียงเมื่อกี้ต้องเป็นเสียงของตาเฒ่าแน่ เพียงแต่ หลังจากตอบกลับมาเสียงเดียวเหตุใดจึงเงียบไปอีกแล้วเล่า
ดูท่าที่นี่ไม่ได้มีเพียงค่ายกลเขาวงกต ยังมีเขตอาคมอยู่ด้วย เดาว่าตอนนี้ตาเฒ่าคงหลงเข้าไปในค่ายกลหรือไม่ก็เขตอาคมนั้นแล้วกระมัง!
เธอรีบสงบสติอารมณ์ ใช้ดวงจิตกวาดสำรวจรอบๆ อย่างละเอียด…
เวลานี้เอง ฮุ่นหยวนจื่อเป็นเหมือนที่เฟิ่งจิ่วคาดเดา เขาถูกขังในค่ายกลอีกแล้ว
“จริงๆ เลย บอกแล้วแท้ๆ ว่าให้ระวังๆ อย่าถูกขังในค่ายกล แต่กลับถูกขังเข้าอีกจนได้ หากแม่หนูนั่นรู้เข้า ต้องหัวเราะเยาะข้าแน่ๆ” เขาพยายามเดินออกจากค่ายกล ปากก็บ่นพึมพำไปด้วย
เมื่อเขาที่อยู่ในค่ายกลเดินชนเขตอาคม ก็อดตะลึงไม่ได้ “เขตอาคมเก็บเสียง”
………………………………….