เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2367 พ่อของเด็ก / ตอนที่ 2368 แฝงตัวเข้าไป
ตอนที่ 2367 พ่อของเด็ก
“ทั้งสองท่าน รู้หรือไม่ว่าตระกูลนั้นไปทางไหน” เฟิ่งจิ่วถามอีก
“นี่…” ทั้งสองลังเลเล็กน้อย ผู้หญิงคนนั้นถาม “คนที่พวกท่านมาตามหาแซ่จัวหรือไม่ จัวจวินเยี่ย”
เฟิ่งจิ่วเผยสีหน้าตื่นเต้นดีใจ “ใช่ๆ ก็คือเขา เขาก็คือพ่อของเด็ก แม่นางเคยเจอเขาหรือ”
ได้ฟังเช่นนั้น ผู้หญิงคนนั้นมองชายหนุ่มข้างกายแวบหนึ่ง ชะงักเล็กน้อย เอ่ยว่า “พวกเราเพียงเคยพบกันไกลๆ ครั้งหนึ่ง รู้ว่าเขามาขอยา เพียงแต่…”
“เพียงแต่?” เฟิ่งจิ่วเผยสีหน้ากังวล “เพียงแต่อะไร”
“เพียงแต่เขาถูกลูกสาวของผู้นำตระกูลหมายตาเข้าแล้ว ตอนนี้ในตระกูลกำลังเตรียมเรื่องแต่งงานอยู่เลย!” หญิงสาวเอ่ย มองเด็กในอ้อมแขนของเฟิ่งจิ่วด้วยแววตาสงสาร
ตาเฒ่าได้ฟังก็ตะลึงงัน ที่แท้เรื่องอันตรายเร่งด่วนที่เจ้าหนูจัวจวินเยวี่ยบอก ก็คือถูกคนอื่นหมายปองรั้งตัวไว้แต่งเป็นเขยเองหรือ เสียแรงที่เขาอุตส่าห์ไปหาเฟิ่งจิ่วมาช่วยเขาอย่างเร่งด่วน หากรู้ว่าเจ้าหนูนั่นเจอเรื่องดีๆ เช่นนี้ เขาคงขี้คร้านจะวิ่งมาถึงที่นี่
เฟิ่งจิ่วได้ยินที่หญิงสาวคนนั้นบอก นัยน์ตาไหวระริกเล็กน้อย นึกไม่ถึงเลยจริงๆ!
ตลอดทางนี้เธอคิดอยู่เสมอ เรื่องที่ตาเฒ่าบอกว่าจัวจวินเยวี่ยขอความช่วยเหลือ เมื่อกี้ที่ใช้เด็กมาอ้างก็เพราะคิดว่า อีกฝ่ายไม่ได้มีความแค้นอะไรกับจัวจวินเยวี่ย หากเห็นแก่ที่เขายังมีลูกเล็กขนาดนี้ น่าจะไม่ทำให้เขาลำบากใจ กลับนึกไม่ถึง ที่แท้ไม่ใช่ทำให้ลำบากใจ แต่เป็นคุณหนูตระกูลเร้นลับตระกูลนี้หมายปองจัวจวินเยวี่ยแล้ว
ฮ่าๆ อย่างนี้ก็น่าสนุกแล้ว
นัยน์ตาของเธอไหวระริก ประกายมืดมนพาดผ่านดวงตา รวดเร็วจนไม่ทันสังเกต
“แม่นาง รบกวนท่านพาพวกข้าไปได้หรือไม่ ให้เด็กได้เจอพ่อของเขา” เฟิ่งจิ่วถาม สายตาคาดหวังมองไปที่หญิงสาว
“แต่ว่าพวกท่านไปก็ไม่มีประโยชน์ คนที่คุณหนูสี่หมายปองไม่มีทางปล่อยเขาไปแน่ อีกอย่างผู้นำตระกูลก็เห็นด้วยกับงานแต่งงานนี้แล้ว พวกท่านไปก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้อยู่ดี”
“อะแฮ่ม!”
ตาเฒ่ากระแอม มองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปกล่าวกับสองคนนั้น “ที่จริงแล้ว พวกข้าเป็นครอบครัวของเขา หากเขาจะแต่งงาน อย่างไรพวกข้าก็ควรอยู่ในงานด้วยกระมัง”
ชายหญิงคู่นั้นมองหน้ากันแวบหนึ่ง ทั้งสองกระซิบปรึกษากันเสียงเบา
“ข้าคิดว่าพาพวกเขาไปไม่เหมาะสม หากคุณหนูสี่รู้เข้า จะต้องระบายอารมณ์กับพวกเราแน่ เจ้าอย่าลืม พวกเราเป็นแค่ญาติห่างๆ หากงานแต่งของนางเกิดปัญหากลางคัน เกรงว่าพอถึงตอนนั้นผู้นำตระกูลไม่ปล่อยพวกเราไปแน่”
“แต่ว่า อย่างไรพวกเขาก็เป็นคนในครอบครัวของจัวจวินเยวี่ย หนำซ้ำเด็กคนนั้นยังเล็กมาก…” หญิงสาวแข็งใจไม่ลง โดยเฉพาะชายชรายังเคยช่วยพวกเขาไว้ด้วย
“พลังของผู้อาวุโสท่านนั้นลึกล้ำยากหยั่งถึง ข้ากังวลว่าพอถึงตอนนั้นเขาไปถึงที่นั่นแล้วจะก่อปัญหาอะไรขึ้นมา อีกอย่าง แม้ตระกูลของเราจะไม่ค่อยได้ไปมาหาสู่กับคนข้างนอก แต่ครั้งนี้คุณหนูสี่แต่งงาน ยังเชิญตระกูลเร้นลับที่ค่อนข้างสนิทกันมาไม่น้อย หากเกิดเหตุชุลมุน เกรงว่า…”
“เรื่องนี้…” หญิงสาวลังเลเล็กน้อย อยากช่วยพวกเขา แต่ไม่รู้จะช่วยอย่างไรดี
เฟิ่งจิ่วกับตาเฒ่าที่ได้ยินพวกเขาสองคนคุยกันมองหน้ากันแวบหนึ่ง ไม่นานก็เห็นตาเฒ่าก้าวเข้าไป ยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “ที่จริงทั้งสองท่านไม่จำเป็นต้องกังวล ขอเพียงพาพวกข้าไปใกล้ๆ ที่นั่น พวกข้าตามหาต่อเองก็ได้ เมื่อถึงตอนนั้นจะไม่บอกใครว่าทั้งสองท่านพาไป จะไม่ทำให้พวกท่านทั้งสองเดือดร้อนไปด้วยแน่นอน”
………………………………….
ตอนที่ 2368 แฝงตัวเข้าไป
ทั้งสองครุ่นคิด สุดท้ายก็รับปาก “อย่างนั้นก็ได้! พวกข้าพาพวกท่านไป ถือว่าตอบแทนบุญคุณที่อาวุโสช่วยชีวิต แต่พวกท่านห้ามพูดถึงพวกข้าเด็ดขาด”
“วางใจเถอะ! ไม่พูดแน่” ชายชรายิ้มตาหยี ไม่ลืมตีอกเพื่อรับประกัน
เฟิ่งจิ่วเองก็เผยรอยยิ้มออกมา ขณะกำลังจะเดินไปกับพวกเขา ก็รู้สึกว่ามือที่ประคองเด็กน้อยไว้เปียกชื้น ฝีเท้าพลันชะงักหยุด อุ้มเด็กออกมาจากแพรป่วนฟ้า
“อ้าว ฉี่อีกแล้ว”
เธอร้องขึ้น พลางเรียกตาเฒ่า “มาๆ ท่านช่วยอุ้มไว้ให้ข้าก่อน ข้าเปลี่ยนผ้าอ้อมให้เขา” เธอยัดเด็กใส่มือของตาเฒ่าตรงๆ พลางหยิบผ้าชิ้นหนึ่งที่ทำมาจากเสื้อเก่าๆ เพื่อให้สามารถมัดเอวได้ออกมาจากถุงฟ้าดิน
ชายหญิงคู่นั้นยืนมองอยู่ข้างๆ เห็นเฟิ่งจิ่วเปลี่ยนผ้าให้เด็ก และใช้สายคาดเอวสองเส้นผูกไว้ที่เอวเพื่อมัดผ้าผืนนั้นไว้ จากนั้นก็ใช้เสื้อเก่าๆ ห่อตัวเด็กแล้วอุ้มขึ้นมา
เห็นเขาที่เป็นผู้ชายคนหนึ่งเคลื่อนไหวอย่างคล่องแคล่ว ทั้งสองอดประหลาดใจไม่ได้ มีผู้ชายไม่กี่คนที่ทำเรื่องอย่างนี้เป็น อีกอย่าง เหตุใดมาตามหาพ่อของเด็ก แล้วแม่ของเด็กไม่มาด้วย
แม้ในใจจะสงสัย แต่ทั้งสองไม่มีใครถาม เพียงรอพวกเขาเปลี่ยนผ้าให้เด็ก จากนั้นก็พาพวกเขาเดินไปยังทิศที่ตั้งของตระกูลพวกเขา…
ประมาณครึ่งวัน พวกเขาพาคนออกจากป่าลึกผืนนั้น บอกพวกเขาว่า “พวกท่านเดินตรงไปตามถนนเส้นนี้ก็จะหาเจอเอง พวกข้าต้องไปก่อนแล้ว”
“ได้ ขอบคุณมาก” เฟิ่งจิ่วกล่าว มองดูสองคนนั้นจากไปก่อน จากนั้นค่อยออกเดินไปพร้อมกับตาเฒ่า
ยามหัวค่ำ ในที่สุดทั้งสองก็เห็นตระกูลที่อยู่ในนี้ ที่นั่นไม่ใช่ป่าลึกแต่อย่างใด แต่เป็นที่ราบผืนใหญ่ เพียงแต่กำแพงสูงตระหง่าน อยู่ข้างนอกมองเห็นเพียงหลังคาบ้านบางส่วนเท่านั้น
ทั้งสองคนมาถึงข้างหน้าก็เคาะประตู คนที่เปิดประตูคือองครักษ์สองคน สองคนนั้นมองพิจารณาชายชรากับเฟิ่งจิ่ว รวมถึงเด็กทารกในแขนเฟิ่งจิ่ว ก่อนถามว่า “พวกท่านสองคนเป็นใคร มาที่นี่มีเรื่องอะไร”
เฟิ่งจิ่วเก็บซ่อนกลิ่นอาย กดข่มพลังลงมา อีกฝ่ายมองไม่ออกว่าพลังของเธออยู่ในระดับใด แต่ชายชรากลับไม่ได้กดข่มพลังไว้ ด้วยเหตุนี้ องครักษ์สองคนนั้นจึงไม่กล้าเสียมารยาทมากเกินไป
“พวกข้ามาหาผู้นำตระกูลของพวกเจ้า” ชายชราเอ่ย มองผ่านประตูที่เปิดกว้างเข้าไปข้างใน เห็นบรรยากาศข้างในเหมือนจะคึกคักไม่น้อย
“ทั้งสองท่านมีเทียบเชิญหรือไม่” องครักษ์ถาม
“เทียบเชิญ มันคืออะไร พวกข้าไม่…”
ตาเฒ่ายังพูดไม่ทันจบก็หยุดไปก่อน เขาถลึงตาจ้องเฟิ่งจิ่วที่จู่ๆ ก็ลงมือสกัดจุดลมปราณสองคนนั้น ถามว่า “นี่เจ้าทำอะไรน่ะ”
“จะเข้าไปไม่ใช่หรือ ทำอย่างนี้เร็วสุดแล้ว” เฟิ่งจิ่วว่า จากนั้นก็เดินผ่านสองคนนั้นเข้าไปข้างใน
ตาเฒ่าเห็นก็รีบตามไป พลางถามว่า “พวกเขายืนนิ่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับ เดาว่าอีกไม่นานก็คงมีคนมาเห็น นี่เจ้าไม่กลัวพวกเขาสั่งคนตามหาเราทั่วจวนหรือ”
“ในเมื่อมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังกลัวเรื่องวุ่นวายอีกรึ ไปกันเถอะ! หาจัวจวินเยวี่ยให้เจอก่อนแล้วค่อยว่ากัน” เธอสาวเดินช้าๆ เก็บแพรป่วนฟ้าแล้ว ใช้มือเปล่าอุ้มห้าวเอ๋อร์
ตาเฒ่าเห็นอย่างนั้นก็ทำได้เพียงเดินตามเธอเข้าไปข้างใน มาถึงข้างใน บ่าวรับใช้ส่วนหนึ่งเห็นพวกเขาก็นึกว่าเป็นแขกในจวน ต่างก็ย่อเข่าทำความเคารพ
เฟิ่งจิ่วอุ้มเด็กทารกสาวเดินเชื่องช้า สีหน้าท่าทางผ่อนคลาย ราวกับกำลังเดินชมดอกไม้อยู่ในบ้านของตนเอง มองไม่เห็นความตื่นตระหนกหรือความลนลานเช่นคนที่แฝงตัวเข้ามาเลยแม้แต่น้อย
………………………………….