เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2375 เจ้าเป็นผู้หญิง / ตอนที่ 2376 คิดบัญชี
ตอนที่ 2375 เจ้าเป็นผู้หญิง
ผู้หญิงคนนี้กลับรูปร่างหน้าตาไม่เลว เพียงแต่ความเย่อหยิ่งตรงหัวคิ้วทำให้เฟิ่งจิ่วไม่ค่อยถูกชะตานางนัก แม้หน้าจะงดงาม แต่กลับไม่คู่ควรกับจัวจวินเยวี่ยจริงๆ
คุณหนูหลัวสี่มองเฟิ่งจิ่ว เห็นเด็กหนุ่มคนหนึ่งยังอุ้มเด็กทารกไว้ด้วย เชิดคางเล็กน้อย ถามว่า “เจ้าเป็นใครอีก”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก มาหยุดยืนข้างกายจัวจวินเยวี่ย มือหนึ่งอุ้มเด็ก อีกมือหนึ่งยังจับมืออวบอ้วนขาวเนียนของห้าวเอ๋อร์ไว้ “จวินเยวี่ย เจ้าบอกคุณหนูหลัวสี่ทีว่าข้าเป็นใคร!”
จัวจวินเยวี่ยที่อยู่ข้างๆ ได้ยิน ก็อดเอียงหน้าหันไปมองเธอไม่ได้ ลอบคิดในใจ ‘นี่นางคิดจะทำอะไร’
ส่วนคุณหนูหลัวสี่ที่ได้ยินคำพูดของเฟิ่งจิ่ว จ้องมองใบหน้าของเฟิ่งจิ่วที่งามกว่าผู้หญิงถึงสามส่วน รวมถึงเด็กทารกในมือ หน้าเปลี่ยนสีไปทันที ชี้ไปที่เธอ “จะ เจ้าเป็นผู้หญิง!”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ เห็นคนของตระกูลหลัวที่กำลังมองเธอด้วยความตกใจระคนสงสัย เธอเอ่ยเสียงนิ่มนวล “ข้าแค่รู้สึกว่า จะใช้คำสาปร่วมใจ อย่างน้อยพวกเจ้าก็ควรสืบประวัติความเป็นมาของคนคนนี้หน่อย ดูว่าเขาแต่งภรรยามีลูกแล้วหรือยัง ไม่อย่างนั้นการใช้วิชาคำสาปร่วมใจโดยความยินยอมแต่ฝ่ายเดียว ไม่แน่อาจตกอยู่ในสถานะที่แม้แต่อนุก็ยังเทียบไม่ได้ อย่างนั้นจะไม่ตกเป็นที่ครหาหรือ”
ผู้นำตระกูลหลัวยามนี้สีหน้าย่ำแย่มาก เขาจ้องเฟิ่งจิ่ว จากนั้นก็หันไปมองเด็กทารก สุดท้ายก็หันไปมองจัวจวินเยวี่ยที่สีหน้าเย็นชา รู้สึกเหมือนมีเลือดตีขึ้นมาบนคอ
ที่แท้ลงทุนลงแรงไปตั้งนาน จัวจวินเยวี่ยผู้นี้กลับแต่งภรรยามีลูกแล้ว? ผู้ชายที่หน้าตางดงามคนนี้เป็นผู้หญิงที่แต่งกายเป็นชาย? เด็กในอ้อมแขนของนางเป็นลูกของพวกเขา?
นึกมาถึงตรงนี้ สีหน้าของเขาเขียวคล้ำ โกรธจนตัวสั่น
หากงานแต่งครั้งนี้สำเร็จจริงๆ อย่างนั้นลูกสาวของผู้นำตระกูลหลัวอย่างเขาก็เป็นได้แค่อนุ? ไม่ ผู้หญิงคนนี้บอกว่าเทียบไม่ได้แม้แต่อนุ อย่างนั้น จัวจวินเยวี่ยผู้นี้ยังมีอนุอีก?
ครั้นนึกได้อย่างนี้ รู้สึกเพียงใบหน้าแก่ๆ ของเขาแสบร้อนไปทั้งดวง แก้วตาดวงใจของเขาต้องยกให้ไปเป็นอนุของคนอื่น? กระทั่งอนุยังเทียบไม่ได้? เขาไม่พูดพร่ำทำเพลง หันไปตะโกนเรียก “ผู้อาวุโสใหญ่!”
“ท่านพ่อ ผู้อาวุโสใหญ่ไม่อยู่ที่นี่”
คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวยืนตอบคำเขาจากข้างหลัง เห็นท่านพ่อเดือดดาล จึงไม่ถามอะไรมาก สถานการณ์ตอนนี้กระจ่างแล้ว เพียงแต่นึกไม่ถึง พ่อและน้องสาวของเขาจะทำเช่นนี้
“ให้เขามาแก้คำสาปร่วมใจเสีย! ไล่พวกเขาออกไปให้หมด!” ผู้นำตระกูลหลังออกคำสั่งทิ้งท้าย จากนั้นก็สะบัดแขนเสื้อจากไปด้วยความโมโห
“อ้าว เจ้าจะไปอย่างนี้เลยหรือ!” ตาเฒ่าตะโกน ทำท่าจะตามไป แต่เฟิ่งจิ่วดึงเขาไว้แล้วส่ายหน้า เห็นอย่างนั้นเขาจึงไม่พูดอะไรอีก
“ทุกท่าน ต้องขออภัย ข้าขอโทษแทนท่านพ่อและน้องสาวของข้าด้วย” คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวก้าวเข้ามา ประสานมือขอโทษพวกเขา
“อืม ในที่สุดก็มีคนมีปัญญาออกมาแล้ว” ชายชราลูบหนวดพยักหน้า หรี่ตาเอ่ยว่า “แต่พวกเจ้าคงไม่คิดว่าแค่ขอโทษคำเดียว เรื่องนี้ก็จะแล้วกันไปหรอกนะ?”
คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวชะงักงัน มองพวกเขา เอ่ยว่า “ท่านพ่อและน้องสาวของข้าเพียงเลอะเลือนไปชั่วขณะ ขอเพียงทุกท่านไม่เอาความ ข้ายินยอมชดใช้ให้พวกท่าน”
“แก้คำสาปร่วมใจก่อนแล้วค่อยว่ากัน” ตาเฒ่าแค่นเสียง ไม่พูดอะไรกับเขาให้มากความอีก
คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวหันไปกำชับคนข้างๆ ให้พวกเขาไปเชิญผุ้อาวุโสใหญ่มา
พวกเฟิ่งจิ่วรออยู่ที่ลานสวน ผ่านไปไม่นาน ก็เห็นชายชราชุดเทาคนหนึ่งเดินสาวเท้าเข้ามาช้าๆ…
………………………………….
ตอนที่ 2376 คิดบัญชี
ชายชรามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง จากนั้นก็เลื่อนสายตาไปจ้องพิจารณาฮุ่นหยวนจื่อ ก่อนจะหันไปมองจัวจวินเยวี่ย “ตามข้ามาเถอะ!” เอ่ยจบ เขาก็หันไปมองคุณหนูหลัวสี่ที่ยืนเหม่อลอยอยู่ด้านหนึ่ง “คุณหนูสี่ ท่านเองก็มาด้วย”
เฟิ่งจิ่วอุ้มเด็กทารกนั่งลงที่โต๊ะหินอ่อนในลานสวน ตาเฒ่ากลับเดินไปเดินมาในลานสวน ผ่านไปไม่นาน ก็เดินไปหยุดยืนนอกห้องที่พวกเขาเข้าไป ชะโงกดูข้างในผ่านทางหน้าต่าง
สายตาของคุณชายตระกูลหลัวทั้งสองจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่ว และเด็กในอ้อมแขนของเธอ อดถามขึ้นไม่ได้ว่า “ไม่ทราบว่าแม่นางชื่ออะไร”
หากไม่ใช่เพราะคำพูดก่อนหน้านี้ของนาง พวกเขายังดูไม่ออกว่าผู้ชายหล่อเหลาตรงหน้าเป็นผู้หญิง เมื่อกี้นางพูดอย่างนั้น แม้จะไม่ได้ชี้ชัด แต่น่าจะหมายถึงตัวนางเองกระมัง
เฟิ่งจิ่วมือหนึ่งอุ้มเด็ก มือหนึ่งยกยันโต๊ะชันคาง หยักยิ้มมุมปากมองผู้ชายตรงหน้า ตอบว่า “ใครบอกเจ้าว่าข้าเป็นผู้หญิง”
พอประโยคนี้ถูกเอ่ยออกไป คนรอบข้างต่างตะลึงงัน โดยเฉพาะคุณชายตระกูลหลัวทั้งสองคนยิ่งมองเธอด้วยความตะลึงงัน “เจ้า เมื่อกี้เจ้าบอกว่า…”
“เมื่อกี้? เมื่อกี้ข้าบอกหรือว่าข้าเป็นผู้หญิง” เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว ใบหน้าหล่อเหลามีแววเจ้าเล่ห์เล็กน้อย ยากแยกแยะจริงๆ ว่าเป็นหญิงหรือชาย
คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยนัยน์ตาไหวระริก “เจ้าไม่ใช่ผู้หญิง? อย่างนั้นเด็ก?”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ กลับไม่ได้พูดอะไรมาก เพราะหางตาเหลือบเห็นประตูห้องที่เปิดออกแล้ว จัวจวินเยวี่ยเดินออกมาก่อน เพียงแต่ สีหน้าซีดขาวกว่าตอนแรกที่เดินเข้าไปมาก
“แก้แล้วหรือ” เฟิ่งจิ่วถามเขา
จัวจวินเยวี่ยพยักหน้า เปิดเสื้อออกเผยให้เห็นหน้าอก “แก้แล้ว”
“ดีมาก ตอนนี้ก็ถึงเวลาคิดบัญชีแล้ว” เธออุ้มเด็กลุกขึ้นยืน ถอนหายใจเบาๆ “พวกเราเดินทางมาไกล ลำบากไม่น้อย การกลับไปมือเปล่าไม่ใช่นิสัยของพวกเราจริงๆ”
ฮุ่นหยวนจื่อได้ยินก็ยกมือลูบหนวด พลางพยักหน้า “อืม ถูกต้องๆ ไม่อาจกลับไปมือเปล่าได้ เพียงแต่ ที่นี่มีของดีอะไรอยู่กันแน่?”
“คนของตระกูลหลัวชำนาญการปลูกยาทิพย์ ภูเขาด้านหลังมีแปลงสมุนไพรแปลงใหญ่” จัวจวินเยวี่ยพูดแทรกขึ้นมา
สามพี่น้องตระกูลหลังเห็นพวกเขายืนคุยกันต่อหน้าพวกเขาทั้งอย่างนี้ ก็อดตะลึงไม่ได้ แม้แต่โจรก็ยังไม่หารือกันอย่างโจ่งแจ้งเช่นนี้ พฤติกรรมเช่นนี้ของพวกเขา คือไม่เห็นพวกเขาอยู่ในสายตา?
เห็นพวกเขาสามคนเดินผ่านพวกเขาไปทั้งอย่างนั้น คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวพยักหน้าส่งสัญญาณ องครักษ์ข้างนอกขวางทางพวกเขาทันที เขาก้าวเข้าไป เอ่ยกับทั้งสามว่า “ทั้งสามท่าน เหตุใดจึงไม่จากไปเสียตั้งแต่ตอนนี้!”
เฟิ่งจิ่วหันไปมองจัวจวินเยวี่ย “สมุนไพรพวกนั้นเจ้ายังไม่ได้รับกระมัง ไม่สู้ ให้คุณชายหลัวผู้นี้ใช้สมุนไพรพวกนั้นมาเป็นของชดเชย”
“ไม่ได้เด็ดขาด!”
คุณหนูสี่ตระกูลหลัวตวาดเสียงเกรี้ยว “ไม่ได้เด็ดขาด! พวกเจ้าอย่าคิดจะเอายาทิพย์ของพวกข้าไปแม้แต่ต้นเดียว!” นางจ้องเฟิ่งจิ่วตาเขียว ในแววตาเต็มไปด้วยความเจ็บใจ
นางน่าจะรู้แต่แรก คนที่โดดเด่นอย่างจัวจวินเยวี่ย จะยังไม่แต่งงานได้อย่างไรกัน แต่เขาไม่เพียงแต่งงานแล้ว แม้แต่ลูกก็ยังมีแล้ว น่าชังยิ่งนัก!
“คุณหนูหลัวสี่ ตอนนี้เจ้าน่าจะคิดหาทางอธิบายกับแขกข้างนอกนั่นว่าทำไมงานแต่งของเจ้าถึงถูกยกเลิกไม่ใช่หรือ เหตุใดยังมีเวลามายืนอยู่ตรงนี้”
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว หรี่ตาเล็ก ใบหน้าแฝงแววเย้ยหยัน “หรือยังตัดใจจากจัวจวินเยวี่ยไม่ได้”
………………………………….