เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2389 ขอร้อง / ตอนที่ 2390 ของล้ำค่าสิบต้น
ตอนที่ 2389 ขอร้อง
เมื่อเห็นอย่างนั้น ทุกคนต่างตะลึงอึ้งค้าง บรรพจารย์ตระกูลหลัวรู้จักชายชราคนนั้น? หนำซ้ำดูจากสีหน้าของบรร รพจารย์ตระกูลหลัวแล้ว ทำไมจึงดูกลัวเขาเหมือนงูพิษหรือสัตว์ร้ายก็ไม่ปาน
เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นก็ยักคิ้วด้วยความประหลาดใจ
ฮุ่นหยวนจื่อเดินมายืนข้างเฟิ่งจิ่ว มองบรรพจารย์ตระกูลหลัวที่มีท่าทีระแวดระวัง ลูบหนวดยิ้มๆ “ตาแก่ ข้าเองก ก็นึกไม่ถึงเหมือนกันว่าเจ้าจะเป็นบรรพจารย์ของตระกูลหลัว! หากรู้แต่แรก จะต้องยุ่งยากขนาดนี้เสียที่ไหน”
เขารู้แค่ว่าเจ้าแก่นี่แซ่หลัว แต่ใครจะรู้ว่าเขาเป็นบรรพจารย์ของตระกูลหลัวเล่า
มองฮุ่นหยวนจื่อ กอปรกับมองเฟิ่งจิ่ว สุดท้ายสายตาหันไปจับจ้องที่ผู้นำตระกูลหลัว เขาตวาดลั่น “พวกเจ้าไปมีเรื องกับตาเฒ่าตัวซวยนี่ได้อย่างไรกันแน่! บอกข้ามาตามตรงเดี๋ยวนี้!”
เขาโมโหแล้ว! มีเรื่องกับใครไม่มี กลับไปมีเรื่องกับฮุ่นหยวนจื่อคนนี้ ตาแก่นี้ใช่คนที่จะมีเรื่องด้วยง่ายๆ เส สียที่ไหน สิบกว่าปีก่อนพวกคนที่เจอเขามีแต่ยอมรับในความซวยของตนเองเท่านั้น มีใครกล้าสู้กับเขาเสียที่ไหน
ตาเฒ่านี่เขาไม่ได้เจอหลายปีแล้ว ใครจะรู้วันนี้กลับเจอเขาในตระกูลหลัวอย่างนี้ หากรู้แต่แรกว่าเป็นเขา เขา าคงจะซ่อนตัวไม่ยอมออกมาแล้ว!
“ตาแก่อย่างเจ้านี่นะ ดูพูดจาเข้าสิ ตัวซวยอะไรที่ไหนกัน เจ้าพูดอะไรไว้หน้าข้าหน่อย” ฮุ่นหยวนจื่อแค่นเสียง คล้ายไม่พอใจกับคำว่าตาเฒ่าตัวซวยเป็นอย่างมาก
คนของตระกูลหลัวรวมถึงคนของตระกูลเร้นลับพวกนั้นที่ยืนดูอยู่ ต่างก็อดตะลึงไม่ได้ สายตาของแต่ละคนหันไปทาง งผู้นำตระกูลหลัว
ผู้นำตระกูลหลัวได้ยินคำพูดของท่านบรรพจารย์ของเขาหัวใจก็หนักอึ้งจมดิ่ง เขาเงยหน้ามองบรรพจารย์ เห็นสีหน้าเ เขาเหมือนโมโห จ้องมองมาด้วยสายตาเกรี้ยวโกรธ ทำให้เขาต้องกลืนคำพูดที่กำลังจะพูดลงไป
“ผู้อาวุโสใหญ่! ท่านอธิบาย!” บรรพจารย์ของตระกูลหลัวตวาดเสียงเกรี้ยว ตวัดมองไปทางผู้อาวุโสใหญ่
ผู้อาวุโสใหญ่ที่ถูกขานชื่อสะดุ้ง มองบรรพจารย์ตระกูลหลัวแวบหนึ่ง จากนั้นก็หันไปมองผู้นำตระกูลหลัว สุดท้ายก ก็ก้าวออกมา ยืนข้างบรรพจารย์ตระกูลหลัว กระซิบเล่าเหตุการณ์ให้เขาฟังคร่าวๆ
ฟังผู้อาวุโสใหญ่เล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ สีหน้าของบรรพจารย์ตระกูลหลัวดำมืด สายตาคมกริบปนผิดหวังตวัดมองไป ปที่ผู้นำตระกูลหลัว เขาส่ายหน้า จากนั้นก็เอ่ยเสียงขรึม “ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป! ถอดตำแหน่งผู้นำตระกูลของเขา เสีย! ให้ลูกชายคนโตของเขาหลัวจี้เซิ่งสืบทอดตำแหน่งต่อ! เด็กๆ! เอาตัวเขาออกไป ให้เขาหันหน้าเข้ากำแพงทบทวนต ตนเองและสำนึกผิด!”
สิ้นเสียง ตระกูลหลัวเต็มไปด้วยเสียงฮือฮา ต่างเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ ผู้นำตระกูลหลัวเองก็เงยหน้ามองบร รรพจารย์ตระกูลหลัวด้วยความตะลึง แววตาเหมือนไม่อยากเชื่อ
เขายังอายุน้อยอย่างนี้ จะถอยลงจากตำแหน่งผู้นำตระกูลได้อย่างไร หนำซ้ำยังต้องถอยลงจากตำแหน่งด้วยวิธีนี้?
หลัวจี้เซิ่ง คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวที่ได้ยินคำพูดของบรรพจารย์ก็ตกตะลึงไม่แพ้กัน เขารีบคัดค้าน “ท่านบรรพจารย์ จี้เซิ่งอายุยังน้อยไม่อาจรับหน้าที่นี้ไหว ท่านพ่อของข้าแม้จะมีความผิด แต่ตอนนี้ก็ถูกลงโทษแล้ว สองมือได้ร รับบาดเจ็บ ท่านบรรพจารย์ได้โปรดให้อภัยสักครั้งด้วยเถอะขอรับ”
“ใช่แล้ว ท่านบรรพจารย์ ตอนนี้แขนสองข้างของผู้นำตระกูลถูกคุณชายท่านนั้นทำร้ายจนมีสภาพอย่างนี้ แม้ตอนแรกจะเป ป็นตระกูลหลัวของเราที่ทำไม่ถูก เรื่องนี้ก็ควรแล้วกันไป ท่านบรรพจารย์ได้โปรดเมตตาสักครั้งเถอะ!”
คนของตระกูลหลัวต่างพากันขอร้อง เพราะอย่างไรวรยุทธ์ของท่านผู้นำตระกูลก็อยู่ในระดับปราชญ์เซียนขั้นกลาง มี เขาเป็นผู้นำตระกูลจึงจะสามารถกำราบคนข้างล่างได้ ส่วนหลัวจี้เซิ่งแม้จะโดดเด่น แต่ก็วรยุทธ์และความเด็ดขาดก็ยั งเทียบพ่อของเขาไม่ได้ เพื่อตระกูลหลัว พวกเขาทำได้เพียงขอให้ท่านบรรพจารย์เมตตาสักครั้ง
“เหอะ!”
บรรพจารย์ตระกูลหลัวแค่นเสียง ไม่พูดอะไร เพียงหันไปมองเฟิ่งจิ่วกับฮุ่นหยวนจื่อ
………………………………….
ตอนที่ 2390 ของล้ำค่าสิบต้น
เมื่อทุกคนเห็นอย่างนั้น ต่างก็หันไปมองเฟิ่งจิ่วฮุ่นหยวนจื่อ คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวเดินมาหยุดตรงหน้าฮุ่นหยวนจ จื่อ หมายจะเอ่ยปากขอร้อง “ผู้อาวุโส…” ทว่า เพิ่งเอ่ยปากก็ถูกฮุ่นหยวนจื่อขัดแล้ว
“เรื่องภายในบ้านของพวกเจ้าข้าไม่สนใจแล้ว ไม่ต้องมาพูดกับข้าๆ”
เขาโบกมือ หันไปมองบรรพจารย์ตระกูลหลัว “ตาแก่หลัว ในเมื่อเจ้าออกมาแล้ว อย่างนั้นก็รีบสะสางเรื่องนี้เสีย พวก กข้าไม่มีเวลาอยู่ที่นี่นานนักหรอกนะ”
สีหน้าของบรรพจารย์ตระกูลหลัวดำคล้ำลงหลายส่วน ตวัดมองคนของตระกูลหลัวที่ยืนอึ้งอยู่ข้างๆ “ยังมัวยืนเฉยท ทำไม เอาตัวเขาออกไป!”
“ขอรับ” คนของตระกูลหลัวเห็นสีหน้าของบรรพจารย์เคร่งเครียดกว่าเดิม ก็รีบเอาตัวผู้นำตระกูลหลัวออกไป
คุณชายใหญ่ตระกูลหลัวขยับปากจะพูด แต่สุดท้ายก็ไม่พูดอะไร
“ทุกท่าน ตระกูลหลัวของเราไม่สะดวกที่จะต้อนรับทุกท่าน เชิญทุกท่านกลับไปก่อนเถอะ!” บรรพจารย์ตระกูลหลัวหันไปเอ่ ยกับเหล่าผู้นำตระกูลเร้นลับ บอกให้พวกเขาพาคนกลับไปก่อน
ด้วยเหตุนี้ พวกเขาประสานมือคารวะพาคนของพวกเขาจากไป สนามประลองกันกว้างใหญ่ เพียงไม่นานก็เหลือแค่คนของตระกูล ลหลัวไม่กี่คนและพวกเฟิ่งจิ่ว
“ไป ไปเอายาที่พวกเขาต้องการมาให้ที่เรือนหน้า!” บรรพจารย์ตระกูลหลัวเอ่ย ก่อนจะหันไปพูดกับพวกเขา “ข้าพาพวก เจ้าไปเด็กยาทิพย์สิบอย่างในสวนร้อยโอสถก็แล้วกัน!”
“ต้องอย่างนี้สิ ทำอย่างนี้แต่แรกก็หมดเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ” ตาเฒ่าลูบหนวดอย่างพอใจ หันไปมองเฟิ่งจิ่วกับจัวจ จวินเยวี่ยที่อยู่ด้านหนึ่ง
สายตาของบรรพจารย์ตระกูลหลัวมองผ่านจัวจวินเยวี่ย หยุดจ้องที่เฟิ่งจิ่ว ถามว่า “ยังไม่ทราบว่าท่านชื่ออะไร” ” เขาเป็นใครมาจากไหน หรือหลายปีที่เขาไม่ได้ออกไป คนหนุ่มสาวข้างนอกล้วนแข็งแกร่งจนน่ากลัวขนาดนี้แล้วหรือ
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก มองบรรพจารย์ตระกูลหลัว เอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้า “เฟิ่งจิ่ว”
เฟิ่งจิ่ว? ไม่เคยได้ยินชื่อนี้เลย แต่วันหลังต้องสั่งให้คนไปสืบประวัติของเฟิ่งจิ่วผู้นี้ว่าเป็นผู้แข็งแกร่ง งมาจากที่ใดกันแน่
เขาพยักหน้า ทำท่าผายมือให้พวกเขา “ทุกท่าน เชิญทางนี้”
มีเขานำทางไปยังสวนร้อยโอสถของตระกูลหลัวด้วยตนเอง คนของตระกูลหลัวไม่กล้าพูดมาก เพียงหวังว่าพวกเขาจะไม่รู้จ จักยาทิพย์ ไม่รู้จักสมุนไพรล้ำค่าเหล่านั้นที่พวกเขาปลูกไว้ในสวน
ทว่าหลังจากที่เฟิ่งจิ่วก้าวเท้าเข้าไปในสวน และเดินวนในนั้นอย่างไม่เร่งรีบ สายตากวาดสำรวจสมุนไพรในนี้คร่าว วๆ หนึ่งรอบแล้ว เธอก็เลือกสมุนไพรหายากที่ในห้วงมิติของเธอไม่มีมาสิบชนิด
ครั้นวางสมุนไรพสิบต้นนั้นไว้ตรงหน้าบรรพจารย์ตระกูลหลัว เห็นเพียงมุมปากของบรรพจารย์ตระกูลหลัวกระตุกเล็กน น้อย มองเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาพิจารณาอีกครั้ง เอ่ยด้วยน้ำเสียงประหลาดใจระคนปวดใจ “คุณชายมีความรู้เรื่องยาหรือ”
“รู้บ้างเล็กน้อย” เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ ได้ยาทิพย์หายากมาสิบอย่าง อารมณ์นับว่าไม่เลว
เขาขุดเอายาทิพย์ที่มีค่าและมีจำนวนน้อยที่สุดในสวนตระกูลหลัวมาสิบชนิด ยังบอกว่ารู้เรื่องบ้างเล็กน้อย? บรร รพจารย์ตระกูลหลัวลอบถากถางในใจ รู้สึกว่าเด็กหนุ่มคนนี้เหมือนฮุ่นหยวนจื่ออย่างมาก ล้วนใจจืดใจดำ
เฟิ่งจิ่วเก็บยาทิพย์เหล่านั้นใส่ห้วงมิติ เดินไปที่ห้องโถงด้านหน้าพร้อมกับพวกเขา เก็บเอายาทิพย์ที่จัวจวินเย ยวี่ยต้องการไปด้วย
“นี่ก็ดึกแล้ว ไม่สู้ทุกท่านพักที่นี่สักคืน พรุ่งนี้ค่อยไปเป็นอย่างไร” บรรพจารย์ตระกูลหลัวถามพวกเขา
“ไม่ดีกว่า พวกข้าไม่รบกวนแล้ว” เฟิ่งจิ่วตอบ ไม่คิดจะอยู่ที่นี่ต่อไป