เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2395 คนตระกูลไป๋ / ตอนที่ 2396 ซุ่มโจมตี
ตอนที่ 2395 คนตระกูลไป๋
จัวจวินเยวี่ยลุกขึ้นเปิดประตู เมื่อประตูถูกเปิด ชายชราคนนั้นค้อมกายให้จัวจวินเยวี่ย จากนั้นก็เดินมาคุกเ เข่าตรงหน้าเฟิ่งจิ่ว น้ำเสียงแก่ชราสั่นเทาฟังดูไร้ที่พึ่งพิง “คุณชาย ได้โปรดช่วยพวกเราด้วย”
ทั้งสามคนในห้องนิ่งเงียบ
ฮุ่นหยวนจื่อมองชายชราแวบหนึ่ง ชายชราคนนี้มีวรยุทธ์ณะดับปราชญ์เซียน แต่ในกลุ่มชายชุดดำคืนนี้ก็มีคนที่ มีวรยุทธ์ระดับปราชญ์เซียนเช่นกัน แต่ที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงก็คือ ชายชราคนนี้กลับสายตาเฉียบแหลม เขากลับดูออก ว่าในสามคนนี้ เฟิ่งจิ่วที่เก็บตัวเงียบไม่ค่อยแสดงตัวก็คือคนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุด
เฟิ่งจิ่วเอนตัวพิงไปข้างหลัง สีหน้าดูเฉื่อยชาผ่อนคลาย มือหนึ่งควงแก้วชาบนโต๊ะเล่น พลางเอ่ยอย่างไม่ยี่หระ “พว วกเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่ดีไม่ใช่หรือ มีอะไรให้ช่วยอีก”
“พวกข้ามีวาสนาที่คุณชายช่วยชีวิตไว้จึงยังรอดมาได้ แต่หากคุณชายจากไป พวกข้าต้องถูกฆ่าตายกลางทางแน่นอน”
ชายชราน้ำตาคลอเบ้า เอ่ยว่า “ข้าแก่แล้ว ตายไปก็ไม่เสียดาย แต่เด็กสองคนนั้นเป็นต้นกล้าที่เหลืออยู่เพียงสอ องคนของตระกูลไป๋ ตระกูลไป๋ของข้าแลกด้วยชีวิต ถึงได้คุ้มกันพวกเขาสองคนหนีออกมาได้ พวกเขาเป็นเพียงความหวังส สุดท้ายที่เหลืออยู่ของตระกูลไป๋เรา ขอร้องคุณชายได้โปรดช่วยเด็กสองคนนั้นด้วย ให้พวกเขาไปหาพี่สาวของพวกเขาท ที่เมืองร้อยนทีอย่างปลอดภัย”
พอเฟิ่งจิ่วได้ยินชายชราบอกว่าพวกเขาเป็นคนของตระกูลไป๋ก็ยักคิ้ว ความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว ทว่านั่นเป็นเ เพียงความคิดที่เกิดขึ้นชั่วขณะเพราะคำพูดของเขาเท่านั้น แม้แต่ตัวเธอยังลอบส่ายหัวกับตนเอง รู้สึกว่าโลกนี้ ไม่มีเรื่องบังเอิญขนาดนั้น
แต่ใครจะรู้ พอฟังไปถึงประโยคสุดท้ายกลับได้ยินเขาบอกว่าจะไปหาพี่สาวของพวกเขาที่เมืองร้อยนที เฟิ่งจิ่วมองชา ายชราอย่างลึกซึ้งแวบหนึ่ง ถามว่า “ท่านบอกว่าท่านเป็นคนของตระกูลไป๋? จะพาเด็กสองคนนั้นไปหาพี่สาวของพวกเขา าที่เมืองร้อยนที?”
“ใช่แล้ว ข้าเป็นปู่รองของเด็กสองคนนั้น เด็กสองคนนั้นเป็นฝาแฝด แล้วก็เป็นลูกชายคนเล็กของผู้นำตระกูลไป๋เร รา คนโตชื่อไป๋อวิ๋นฉี คนเล็กชื่อไป๋อวิ๋นหลิน พี่สาวของพวกเขาชื่อไป๋ชิงเฉิง เพราะเหตุผลบางอย่าง ตอนนี้จึงต้องต ติดตามภูตหมออยู่ที่หอยาสวรรค์ในเมืองร้อยนที”
พูดมาถึงตรงนี้ น้ำเสียงชราของชายชราแฝงแววเศร้าโศก เขาก้มหน้า ด้วยเหตุนี้จึงไม่เห็นสีหน้าของเฟิ่งจิ่วกับฮุ่นห หยวนจื่อในตอนนี้
“ตระกูลประสบเคราะห์กรรมถูกฆ่าล้างโคตร ตอนนี้ตระกูลไป๋เหลือเพียงข้าและเด็กสองคนนั้น กับชิงเฉิงที่อยู่ในหอยา สวรรค์ของภูตหมอในเมืองร้อยนทีแล้ว ขอร้องคุณชายช่วยคุ้มครองพวกเราในการเดินทางครั้งนี้ด้วย ขอเพียงสามารถส่ งเด็กสองคนไปเจอพี่สาวของพวกเขาที่หอยาสวรรค์อย่างปลอดภัย และขอร้องภูตหมอให้ปกป้อง ครึ่งชีวิตที่เหลือของ ข้าจะขอเป็นวัวเป็นม้าตอบแทนบุญคุณคุณชาย”
เอ่ยจบ เขาก้มตัวโขกหัวให้เฟิ่งจิ่วอย่างนอบน้อม ส่วนเฟิ่งจิ่วในตอนนี้กำลังมองชายชราที่โขกหัวอย่างอึ้งงัน น ไม่ได้บอกให้เขาลุกขึ้นมา เพียงมองเขาเงียบๆ อยู่อย่างนั้น
เธอคิดไม่ถึงว่าช่วยคนครั้งนี้กลับช่วยไปถึงน้องชายคู่หนึ่งของไป๋ชิงเฉิงแล้ว เรื่องในตระกูลของไป๋ชิงเฉิง เธอไม ม่รู้เลยแม้แต่น้อย ภายหลังก็ไม่ได้ให้คนไปตามสืบข่าว นึกไม่ถึง ตอนนี้กลับถูกคนฆ่าล้างตระกูลไปเสียแล้ว?
ตระกูลไป๋ถือเป็นตระกูลใหญ่ในท้องที่ หนำซ้ำยังเป็นตระกูลที่มีเส้นสาย เหตุใดจู่ๆ ก็ถูกฆ่าล้างตระกูลได้เล่า อี กอย่าง เกรงว่าข่าวนี้น่าจะยังไม่แพร่ออกไปกระมัง! ไม่อย่างนั้นจะต้องก่อให้เกิดคลื่นลูกใหญ่มากแน่ๆ
หากไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวข้องก็ว่าไปอย่าง แต่ตอนนี้รู้แล้วว่าเป็นคนของตระกูลไป๋ ทั้งยังเกี่ยวข้องกับเธอไม่ มากก็น้อย ตอนนี้ตระกูลไป๋เหลือกันอยู่เพียงไม่กี่คน หากเธอไม่ช่วย ดูจะไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไร
หลังจากทบทวนตลบหนึ่ง เธอจึงเอ่ย “ลุกขึ้นมาเถอะ! พรุ่งนี้ออกเดินทางไปพร้อมกับพวกข้า”
………………………………….
ตอนที่ 2396 ซุ่มโจมตี
ได้ยินคำตอบของเธอ ชายชราเงยหน้ามองเฟิ่งจิ่วด้วยความดีใจ ก่อนจะกล่าวขอบคุณ “ขอบคุณคุณชายมากๆ!”
จัวจวินเยวี่ยส่งชายชราออกไป ประตูห้องปิดลงอีกครั้ง พอกลับมานั่งที่โต๊ะ ก็เห็นตาเฒ่าลูบหนวดจ้องเฟิ่งจิ่ว
“เจ้าจงเกลียดจงชังไป๋ชิงเฉิงนั่นมากไม่ใช่รึ ทำไมยังคิดจะช่วยคนตระกูลไป๋อีก”
“ข้าจงเกลียดจงชังนางมากหรือ” เฟิ่งจิ่วเหล่มองเขา เอ่ยว่า “ที่ข้าสั่งให้นางทำงานระดับล่างที่หอยาสวรรค์ก็ แค่เพราะอยากจะลดความหยิ่งทะนงตนของนางลงบ้าง ไม่ได้เจอกันหนึ่งปี กลับไปครั้งนี้นางกลับดูรื่นหูรื่นตามากกว ว่าตอนที่อยู่ในสำนักตะวันฉายขึ้นมากแล้ว”
เธอหยุดพูดไปครู่หนึ่ง ยกชาขึ้นจิบหนึ่งคำ “อีกอย่าง ท่านไม่ได้ยินที่เขาบอกหรือ ตระกูลไป๋ถูกฆ่าล้างตระกูลแล ล้ว เหลือเพียงต้นกล้าไม่กี่ต้น ในเมื่อพี่สาวของพวกเขาเป็นคนของข้า หากช่วยได้ก็ย่อมต้องช่วยหน่อย อย่างไร เดินทางกับพวกท่านสองคนก็ว่างจนน่าเบื่อจะแย่ ได้ยืดเส้นยืดสายบ้างก็ไม่เลว”
ตาเฒ่าได้ยินเช่นนั้นก็มุมปากกระตุก ส่วนจัวจวินเยวี่ยกลับไม่พูดอะไร เพียงยกชาขึ้นจิบ ราวกับไม่ได้ยินที่เธอ พูด
ทั้งสามนั่งดื่มชาในห้องครู่หนึ่ง พูดคุยกันอีกไม่นานก็แยกย้ายกันไปพักผ่อน
กระทั่งเช้าตรู่วันต่อมา ท่านปู่รองตระกูลไป๋ที่ตื่นมารอพวกเฟิ่งจิ่วแต่เช้าไม่เห็นพวกเขาลงมาเสียที หลังจากถามค ครั้งแล้วครั้งเล่าจนมั่นใจว่าพวกเขายังไม่ออกไป จึงนั่งรอที่ชั้นล่างอย่างวางใจ
ตาเฒ่ากับจัวจวินเยวี่ยที่ตื่นก่อนแล้วเดินเล่นอยู่ในโรงเตี๊ยม มีเพียงเฟิ่งจิ่วที่นอนจนถึงเที่ยงแล้วค่อยตื่น นเพราะถูกเสียงร้องไห้ของเด็กทารกปลุกตื่น
หลังจากป้อนอาหารให้เด็ก จากนั้นก็เปลี่ยนผ้าอ้อมให้เขา ก็อุ้มลงมาที่ชั้นล่าง เห็นพวกเขานั่งกินอาหารและพูด ดคุยกันอยู่ที่ชั้นล่าง เธอจึงเดินไปหา
“ตื่นแล้วหรือ ข้าให้เสี่ยวเอ๋อร์ต้มโจ๊กให้พวกเจ้า เจ้ากินหน่อย แล้วก็ป้อนเด็กด้วย” ตาเฒ่าว่า ก่อนจะกวักมือ อเรียกเสี่ยวเอ้อร์ให้เขายกโจ๊กที่ต้มเสร็จแล้วมา
“คุณชาย” ท่านปู่รองไป๋ประสานมือคารวะเฟิ่งจิ่ว
“คุณชาย” เด็กน้อยสองคนก็ประสานมือคารวะเฟิ่งจิ่วตามท่านปู่รองของพวกเขาอย่างเคารพนอบน้อม
“นั่งเถอะ! อยากกินอะไรก็สั่ง เอาอาหารไปกินระหว่างทางด้วย พวกข้าไม่ได้แวะพักบ่อยนัก” เธอเอ่ย พยักหน้าให้พ พวกเขานั่งลง ส่วนตนเองก็อุ้มเด็กนั่งลงด้วย
ถึงแม้เฟิ่งจิ่วจะบอกให้พวกเขานั่งลงกินข้าวด้วยกัน แต่ท่านปู่รองกลับไม่กล้าให้เด็กสองคนนั้นตีตนเทียบเท่าเธอ อ จึงพาทั้งสองไปนั่งอีกโต๊ะ บอกกับเฟิ่งจิ่วว่า “พวกข้าเพิ่งกินไป แล้วก็เตรียมอาหารแห้งบางส่วนไว้กินระหว่างท ทางแล้วด้วย”
เฟิ่งจิ่วเองก็ไม่ได้พูดอะไรมาก หลังจากป้อนอาหารให้เด็ก ตนเองก็กินด้วย หลังจากนั้นทุกคนก็ออกเดินทาง มุ่งหน้ าไปยังเมืองร้อยนที
ระหว่างทางขณะผ่านเมืองบางแห่ง พวกเขาหยุดพักครู่หนึ่ง เฟิ่งจิ่วปลีกตัวออกไปครู่หนึ่ง ตามหาฐานที่ตั้งของกลุ่มอำน นาจใต้อาณัติเธอในเมืองแห่งนั้น ให้พวกเขาไปสืบเรื่องตระกูลไป๋ แล้วส่งข่าวไปที่หอยาสวรรค์
แต่ทว่า ขณะที่เฟิ่งจิ่วเข้าไปในเมือง พวกฮุ่นหยวนจื่อรอเธออยู่ที่นอกเมือง คนชุดดำกลุ่มหนึ่งกลับปรากฏตัว ล้ อมพวกเขาไว้จนมิด
มองดูคนชุดดำสามสิบกว่าคนนั้น แต่ละคนล้วนมีวรยุทธ์อยู่ในระดับเซียนเหิน ในนั้นยังมีผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์ เซียนรวมอยู่ด้วย ฮู่นหยวนจื่อลูบหนวดหรี่ตา
“จิ๊ๆ ช่างเลือกเวลาได้เหมาะสมจริงๆ ซ้ำยังพาคนมาไม่น้อยเสียด้วย! ดูพลังของแต่ละคนสิ แม้แต่ข้าเห็นแล้วก็ยังก กลัว”
เด็กสองคนที่อยู่ข้างๆ พอเห็นคนพวกนั้นปรากฏตัว สีหน้าพลันซีดเผือด หดตัวซ่อนอยู่ข้างหลังท่านปู่รองไป๋ สองมื อกำเสื้อของเขาไว้แน่น