เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2411 ออกจากเผ่ามาร / ตอนที่ 2412 กลั่นยา
ตอนที่ 2411 ออกจากเผ่ามาร
“ชิ้ง! ปึง!”
พลังดาบเส้นหนึ่งของกวนสีหลิ่นฟาดฟันลงพื้น เศษหินระเบิดกระจาย รอยดาบลึกปรากฏบนพื้นดิน กระแสพลังอันแข็งแกร ร่งรวมถึงแรงกดดันนั่นดีดร่างของผู้ฝึกวิชามารสองคนที่ยืนอยู่ข้างๆ กระเด็นออกไป
สองคนนั้นเซถอยหลังไปอย่างรวดเร็วจนหยุดยืนไม่ได้ เสื้อผ้าบนตัวฉีกขาดเพราะพลังดาบขุมนั้น เผยให้เห็นเสื้อต ตัวใน ขณะเดียวกัน บาดแผลที่เกิดจากการถูกพลังดาบเฉือนก็มีเลือดไหลออกมา และหยดลงจากร่างกายของพวกเขา
พวกเขาหลายคนร่วมมือกันก็ยังไม่อาจพลิกเป็นฝ่ายได้เปรียบ ตรงกันข้าม ยังทำจนบาดเจ็บไปทั้งตัว นี่ทำให้พวกผู้ฝ ฝึกวิชามารยิ่งสู้ก็ยิ่งเดือดดาล กระบวนท่าในการต่อสู้เริ่มสับสนวุ่นวายเพราะเพลิงโทสะในใจ
แต่กลับนึกไม่ถึง ว่านี่จะกลายเป็นโอกาสให้กับกวนสีหลิ่น เขากำลังสังเกตกระบวนท่าของพวกเขา จึงทำเพียงต้านรับ ไม่โจมตี เหมือนกำลังวิเคราะห์อะไรบางอย่าง กระทั่งประกายวาบวับในดวงตา เห็นเพียงเขาเคลื่อนฝีเท้า ดาบใหญ่มือต ตวัดออกไป ครั้นโจมตีก็สามารถสังหารผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งตายได้ในทันที ขณะที่ชักดาบกลับ ยังตวัดออกไปในแนวขว วาง ต้านรับกระบวนท่าจากอีกสองคน จากนั้นก็สังหารอีกคนได้อย่างไม่เปิดโอกาสให้ตั้งตัว
ครั้นเห็นผู้ฝึกวิชามารล้มตายทีละคน อีกสองคนที่เหลืออดลนลานขึ้นมาไม่ได้แล้ว พวกเขาเริ่มรู้สึกถึงอันตราย กล ลัวว่าคนต่อไปจะเป็นพวกเขา
แต่ในนาทีนี้เอง ขณะที่พวกเขาคิดจะถอยกลับไปขอกำลังเสริม เห็นเพียงดาบใหญ่ในมือของกวนสีหลิ่นตวัดฟัน ประกา ายวาบวับที่ส่องจากปลายดาบอันแหลมคมพาดผ่านไปต่อหน้าพวกเขา พวกเขาตกใจจนขนลุกชัน
“คิดจะหนีหรือ? สายเกินไปแล้ว!”
ดาบใหญ่ในมือของกวนสีหลิ่นพลิกหมุน กระบวนท่าเปลี่ยนผัน ดุดันรุนแรงกว่าเดิม เขาไล่บี้พวกเขาไปติดๆ โดยไม่เ เปิดโอกาสให้ได้หายใจ เมื่อสบโอกาสก็สังหารพวกเขาสองคนในดาบเดียวทันที!
“อ๊าก!”
เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้อง เลือดสีแดงสดสาดกระเซ็น ผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นล้มลงไป แทบจะในเวลาเดียวกัน เขาสาวเ เท้ายาวๆ เข้าไปเก็บของจำพวกแหวนมิติบนศพพวกเขามา จากนั้นก็รีบสาวเท้าเข้าไปในป่าโดยไม่รั้งรอ ร่างกายกระโดดเหา าะขึ้นลงสองสามครั้ง ไม่นานก็หายลับไปในป่าผืนนั้นแล้ว…
ครั้นเจ้าแห่งมารมาถึงที่นี่ เวลาก็ผ่านไปประมาณครึ่งก้านธูปแล้ว เขาจ้องศพบนพื้นก่อนจะหรี่ดวงตากระหายเลือด แ แววอันตรายพาดผ่านดวงตาคู่นั้น
“นายท่าน ข้าจะพาคนไล่ตามไปเดี๋ยวนี้ จะต้องจับเขากลับมาได้แน่” หนึ่งในสิบจอมมารใต้อาณัติของเขาเสนอตัว ทำ ำท่าจะพาคนเข้าไปไล่จับกวนสีหลิ่นในป่า แต่กลับได้ยินเสียงของเจ้าแห่งมารดังขึ้นก่อน
“ไม่ต้องแล้ว”
เจ้าแห่งมารหรี่ดวงตาอันตราย เสียงที่เต็มไปด้วยความอำมหิตดังขึ้น “ข้าแระเมินเขาต่ำไปเอง นึกไม่ถึงว่าเขาแค่ คนเดียว กลับสามารถหนีออกจากคุกมืดได้ แต่ไม่เป็นไร หนีไปก็หนีไปเถอะ! แต่จะออกไปจากป่าผืนนี้ได้หรือไม่ ก็ย ยังไม่รู้เลย!
โลกข้างนอกสงบสุขนานเกินไปแล้ว ข้าเองก็อยากจะออกไปเดินเล่นบ้าง ดูว่าสี่สำนักเซียนใหญ่มีพลังและวรยุทธ์เช่นไ ไร? ถึงได้ไม่กล้าทำอะไรผู้หญิงแค่คนเดียว”
ได้ฟังอย่างนั้น ผู้ฝึกวิชามารหลายคนที่อยู่ข้างๆ เขานัยน์ตาไหวระริก เงยหน้ามองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “นายท่าน นไม่เคยก้าวออกจากเผ่ามารมาเกือบร้อยปีแล้ว ตอนนี้นายท่านจะออกไป หากข่าวแพร่ออกไป จะต้องสร้างความปั่นป่วนข้าง งนอกนั่นแน่ แม้เป็นคนจากสี่สำนักเซียนใหญ่ เดาว่าอย่างไรก็ต้องร้อนรนเหมือนมดบนกระทะร้อนอย่างแน่นอน”
“ไปจัดการเถอะ!”
………………………………….
ตอนที่ 2412 กลั่นยา
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาสีเลือดหรี่เล็ก ประกายโหดเหี้ยมพาดผ่านดวงตา “ข้าอยากเห็นท่าทางลนลานทำอะไรไม่ถูก ของคนพวกนั้นจนแทบอดใจรอไม่ไหวแล้ว”
“ขอรับ ข้าจะรีบไปจัดการเดี๋ยวนี้” ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นรับคำ คารวะแล้วก็ถอยออกไป
เจ้าแห่งมารจ้องป่าลึกผืนนั้น มุมปากกระตุกเล็กน้อย ยื่นมือออกไปร่ายเขตอาคมที่นี่ ก่อนจะหมุนตัวจากไป…
สามวันต่อมา
จวนเฟิ่งในเมืองร้อยนทีมีแขกมาเยือนอีกแล้ว ครั้งนี้ผู้มาก็คือจัวจวินเยวี่ยและจัวจวินหยางน้องชายของเขา
เฟิ่งจิ่วให้เหลิ่งหวาจัดแจงเตรียมเรือนที่พักไว้ให้พวกเขาในจวนเฟิ่ง วันนี้เฟิ่งจิ่วที่เพิ่งเสร็จงานเดินไปท ที่เรือนที่พักของพวกจัวจวินเยวี่ย
“ที่นี่ยังพอใช้ได้กระมัง?” เธอสาวเดินเข้ามาในเรือน มองหน้าคนในเรือนแล้วยิ้มถาม
จัวจวินเยวี่ยเห็นว่าเป็นเธอ จึงพยักหน้าให้เล็กน้อย ส่วนจัวจวินหยางกลับเผยยิ้มออกมา “สร้างความลำบากให้ท่าน นแล้ว”
“ไม่เป็นไร อย่างไรคนที่ดูแลพวกเจ้าก็ไม่ใช่ข้า ข้าก็แค่หมอคนหนึ่งเท่านั้น” เธอขยิบตาให้เขา น้ำเสียงซุกซนเล ล็กน้อย
“ขอบคุณท่านมาก” จัวจวินหยางหน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะยิ้มเอ่ยขอบคุณ
“พวกยาต่างๆ นั้นพี่ชายของเจ้าหาได้ครบแล้ว ส่วนยาตัวช่วยตัวอื่นๆ ข้าก็เตรียมพร้อมแล้วเหมือนกัน วันนี้ข้า ตรวจร่างกายเจ้าก่อน กลับไปจะไปผสมยาทาให้เจ้า” เธอยิ้มขณะก้าวเข้ามา หยุดยืนตรงหน้าเขา
จัวจวินเยวี่ยที่ยืนอยู่ด้านหนึ่งเข้ามาช่วย ม้วนขากางเกงของน้อยชายให้เธอตรวจสอบ
ตาเฒ่านั่งดื่นสุราอยู่ด้านหนึ่ง เวลานี้กำลังหรี่ตามองมาทางพวกเขา
เฟิ่งจิ่วตรวจสอบอยู่ครู่หนึ่ง ก็เอ่ยว่า “อืม ไม่เลว ดูท่าเรื่องที่ข้ากำชับเจ้าไว้คราวก่อน เจ้าล้วนทำแล้ว”
จัวจวินหยางพยักหน้า ตอบว่า “ใช่ ข้าแช่ยาสมุนไพรทุกวันเลย”
“เอาล่ะ! พวกเจ้าเพิ่งเดินทางมาถึงวันนี้ ยังไม่ได้พักผ่อนดีๆ วันนี้ก็พักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้ข้าจะเอายามาให ห้พวกเจ้า” เธอเอ่ยขณะมองจัวจวินเยวี่ยและจัวจวินหยาง
“รบกวนท่านแล้ว”
“ข้าจะไปผสมยาให้เจ้าก่อน อยู่ที่นี่ไม่ต้องเกรงใจมาก ทำตัวเหมือนอยู่บ้านตนเองก็พอ ขาดเหลืออะไรก็บอกเหลิ่ง งหวาหรือพวกเหลิ่งซวงได้” เธอกำชับเสร็จก็จากไป
มองดูเธอจากไป หลังจากเงาร่างหายลับออกไปนอกเรือน จัวจวินหยางอดทอดถอนใจไม่ได้ “พี่ใหญ่ พี่สาวเฟิ่งช่างดีกับพ พวกเรานัก”
ถึงแม้ว่านางจะเป็นลูกศิษย์ของท่านปู่ของพวกเขา แต่หากเป็นคนอื่นที่ตอนนี้ประสบความสำเร็จถึงเพียงนี้แล้ว ก็ไม่แ แน่ว่าจะจดจำคำพูดของคนที่ตายไปแล้วไว้ในใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะดูแลพวกเขาถึงขนาดนี้
จัวจวินเยวี่ยไม่พูดอะไร เพียงช่วยเขาเอาขากางเกงลง
ตาเฒ่าที่อยู่ด้านหนึ่งกลับยิ้มบอกว่า “ก็นั่นสิ ถึงแม้ว่าแม่หนูคนนี้จะนิสัยเจ้าเล่ห์เพทุบาย ทำอะไรตามอารมณ์ แต่นิสัยใจคอเช่นนี้ของนางกลับว่าไม่ได้จริงๆ”
“รอวันใดที่ขาของข้าเดินได้แล้ว ข้าจะต้องตอบแทนพี่สาวเฟิ่งอย่างแน่นอน” จัวจวินหยางเอ่ย น้ำเสียงมุ่งมั่น
“ฮะๆ” ตาเฒ่าลูบหนวดหัวเราะเบาๆ เหล่มองเขาแวบหนึ่ง หยอกล้อว่า “เจ้าน่ะ! ไม่ต้องคิดถึงเรื่องนี้แล้ว ข้างกายแ แม่หนูเฟิ่งมีคนมากมาย ไม่ขาดคนอย่างเจ้าหรอก”
พวกเขาสามคนพูดคุยสัพเพเหระกันอยู่ในเรือน ในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วเข้าห้องกลั่นยาเพื่อกลั่นยาและผสมยาให้ กับจัวจวินหยางแล้ว เพราะขาของเขาไม่ได้เพิ่งมีอาการอย่างนี้ อยากจะรักษาให้หายก็ต้องใช้เวลา และการควบคุมป ประสิทธิภาพของยาก็ต้องทำอย่างมั่นใจมากด้วย
และนี่ก็เป็นเหตุผลที่ว่าเหตุใดหลังจากที่ยาครบแล้ว เธอยังต้องรอเขามาถึงที่นี่ก่อนแล้วค่อยกลั่นยาให้เขาน นั่นเอง