เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2413 ไม่ได้สนิทกันมาก / ตอนที่ 2414 ตัดข้างล่างทิ้งเสีย
ตอนที่ 2413 ไม่ได้สนิทกันมาก
หลังจากที่เฟิ่งจิ่วเข้าไปในห้องกลั่นยาได้ไม่นาน อี้ซิวหร่านที่ไม่ได้กลับมาหลายวันก็มาถึงจวนเฟิ่ง ทันทีที่ เข้ามาก็ถามว่า “ได้ยินว่าเฟิ่งจิ่วกลับมาแล้ว? นางอยู่ไหน”
บ่าวรับใช้ในจวนเห็นเขาก็บอกว่าเฟิ่งจิ่วอยู่ในห้องกลั่นยา ด้วยเหตุนี้เขาจึงสาวเท้ายาวๆ เดินมาที่เรือนกลั่ นยา เห็นเพียงนอกประตูเรือนมีเหลิ่งซวงและผู้ฝึกตนอีกคนยืนเฝ้าอยู่
“นายท่านของเจ้ากลับมาแล้วหรือ” อี้ซิวหร่านถาม ดวงตาสอดส่ายเข้าไปในเรือน
เหลิ่งซวงมองอี้ซิวหร่านที่เริ่มมีหนวดเคราตรงหน้าแวบหนึ่ง ตอบว่า “กลับมาแล้ว”
“ข้าจะพบนาง” อี้ซิวหร่านว่า ก้าวเท้าไปข้างหน้าก้าวหนึ่ง แต่กลับถูกมือคู่หนึ่งขวางไว้
“นายท่านกลั่นยาอยู่ นางไม่ออกมา ใครก็เข้าไปไม่ได้” เหลิ่งซวงเอ่ย ดวงตาเย็นชางดงามจับจ้องไปที่ตัวเขา เอ่ย ว่า “นายท่านสั่งไว้ หากท่านกลับมาก็ให้รอนาง นางจะพบท่าน”
ได้ฟังอย่างนั้น สายตาของอี้ซิวหร่านไหวระริก แววตาเหมือนประหลาดใจ “นางจะพบข้า? นางจะพบข้าทำไม นางยังจำข้า าได้หรือ”
พูดมาถึงตรงนี้ จู่ๆ ก็เกิดอารมณ์ดีขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
เห็นมุมปากของคนตรงหน้าหยักยกขึ้นเล็กน้อย เหลิ่งซวงเอ่ยด้วยใบหน้าไร้อารมณ์ “ท่านรอข้างนอกก่อน นายท่านเสร็จ ธุระก็จะพบท่านเอง เรื่องอื่น ถึงตอนนั้นท่านถามนางเองก็ได้แล้ว”
“นายท่านของเจ้าเข้าไปนานแค่ไหนแล้ว จะออกมาเมื่อใด” อี้ซิวหร่านถาม น้ำเสียงอ่อนลงหลายส่วน
“เพิ่งเข้าไป ออกมาเมื่อใดบอกได้ไม่แน่ชัด”
“อย่างนั้นก็ได้! ข้าค่อยมาใหม่” เขากลับไม่ได้รั้งอยู่ต่อ เพียงหมุนตัวเดินกลับไป ตั้งใจว่าจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื อผ้าก่อนแล้วค่อยมาใหม่
เพียงแต่ เขากลับนึกไม่ถึง เฟิ่งจิ่วเมื่อได้เข้าห้องกลั่นยาแล้ว กลับอยู่ข้างในนานถึงขนาดนั้น กระทั่งหัวค่ำข ของวันต่อมาถึงค่อยออกจากห้องกลั่นยา
เห็นเธอออกมา เหลิ่งซวงเดินเข้าไปหา “นายท่าน น้ำเตรียมพร้อมแล้ว จะอาบเลยหรือไม่”
“อืม” เธอรับคำ พลางเดินออกไปข้างนอก
“นายท่าน คุณชายอี้กลับมาแล้ว รออยู่ข้างนอก” เหลิ่งซวงคอยรายงานอยู่ข้างๆ เธอ
เฟิ่งจิ่วเดินออกมาข้างนอก เห็นเงาร่างที่กำลังนั่งเฉียงหลับอยู่บนต้นไม้ อีกฝ่ายสวมใส่เสื้อคลุมสีม่วง รัดสาย ยคาดเอวหยก หยกห้อยเอวสีเลือดชิ้นหนึ่งห้อยพู่ระย้าพวงหนึ่งไว้ ทั่วเรือนร่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายสูงสง่า ดูรื่น นหูรื่นตาราวกับคุณชายตระกูลผู้ดีคนหนึ่ง
อาจเพราะสายตาเพ่งพิจารณาของเธอดึงดูดความสนใจของเ เขาลืมตาโพลง ดวงตาที่แฝงประกายดุดันตวัดสบเข้ากับสายตาของ งเธอ พริบตาหนึ่งปรากฏแววดีใจ ก่อนที่ประกายดุดันในดวงตาจะหายไปพร้อมกับรอยยิ้มเต็มใบหน้าที่เข้ามาแทนที่
“เฟิ่งจิ่ว? ในที่สุดก็ออกมาแล้ว” เขาตีลังกาลงมาจากต้นไม้ ทิ้งตัวลงบนพื้นอย่างมั่นคง สาวเดินไปหาเธอด้วยฝีเ เท้าอันมั่นคง
“ไม่เจอกันนาน ยังจำข้าได้หรือไม่” เขายักคิ้วเล็กน้อย ดวงตาสาดฉายประกายลึกล้ำ
“อี้ซิวหร่าน” เธอเอ่ยด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ถามว่า “หรือว่า เจ้าไม่ได้ชื่อนี้”
เขาได้ยินก็หัวเราะในลำคอ “ข้าก็คืออี้ซิวหร่าน แล้วก็ชื่อนี้ด้วย ทำไม เจ้าจำข้าได้ แต่กลับไม่มั่นใจ? หรือ อว่าข้าในตอนนี้หล่อเหลาน่ามองกว่าหนึ่งปีก่อนแล้ว”
“ข้าจำได้ว่าข้าไม่ได้สนิทกับเจ้ามาก แล้วเจ้ามาหาข้าทำไม” เธอสาวเดินไปทางเรือนของเธอ พลางถามอย่างเนิบช้า
อี้ซิวหร่านนัยน์ตาไหวระริก ย้อนถามว่า “จะไม่สนิทได้อย่างไร อย่างไรก็ผ่านความเป็นความตายมาด้วยกัน ยิ่งไปกว่านั น ตอนพบกันครั้งแรกข้าก็เคยบอกเจ้าแล้ว พวกเราเคยเจอกัน”
………………………………….
ตอนที่ 2414 ตัดข้างล่างทิ้งเสีย
“งั้นหรือ ทำไมข้าจำไม่ได้เล่า”
เธอเหล่มองเขาแวบหนึ่ง เอ่ยว่า “ถึงไม่รู้ว่าทำไมเจ้าต้องตีสนิทข้า แต่ข้าขอบอกเจ้า ข้าไม่ชอบเก็บคนที่มีคว วามคิดแอบแฝงไว้ข้างกายมากที่สุด หากเจ้าคิดไม่ซื่อ อย่างนั้นก็รีบไปเสียดีกว่า อยู่ให้ห่างข้า ภายหน้าจะได้ไม ม่ต้องตกอยู่ในกำมือข้า ข้าไม่มีทางออมมือให้เด็ดขาด”
อี้ซิวหร่านถอนหายใจ เอ่ยอย่างทีเล่นทีจริงว่า “เจ้าระแวงมากเกินไปแล้วกระมัง ข้าจะไปมีเจตนาแอบแฝงอะไรได้ ข้าไ ไม่ขอเงินทอง ไม่ขอชื่อเสียง ไม่ขออำนาจ หากจะบอกว่ามีเจตนาแอบแฝงอะไรจริง อย่างนั้นก็คงเป็นตัวเจ้า ใครใช้ให้เจ จ้าเกิดมาหน้าตาน่ามองขนาดนี้เล่า”
“ข้าได้ยินพวกเหลิ่งหวาบอกว่า เจ้าอยู่ที่นี่ระยะหนึ่งแล้ว ในเมื่อเป็นอย่างนี้ น่าจะรู้ว่าข้าเป็นใคร แล้ว วก็น่าจะรู้แล้วว่าข้ากับจวนหลิงข้างๆ นี้เกี่ยวข้องกันอย่างไร ฉะนั้น ข้าขอเตือนเจ้า ความคิดใดที่ไม่ควรมีก ก็อย่ามี”
“เหอะ ข้าก็แค่พูดไปอย่างนั้นเอง ด้วยวรยุทธ์และนิสัยอย่างข้า มีหรือจะมองคนแค่เปลือกนอก” เขาแค่นเสียง เอ่ย ว่า “ใช่แล้ว ครั้งนี้ข้ากลับมาได้ยินเรื่องหนึ่งมาด้วย”
เห็นเธอไม่คิดจะถามด้วยซ้ำ เขาอดทำตาขวางไม่ได้ ก่อนเอ่ยเสริมว่า “เกี่ยวกับเรื่องเผ่ามาร”
เฟิ่งจิ่วชะงักเท้า หันมองเขา “เผ่ามาร?”
น้ำเสียงของเขาทุ้มต่ำลงเล็กน้อย ใบหน้าดูหนักอึ้ง เอ่ยว่า “ใช่ เป็นเผ่ามาร ข้าได้ยินมาว่าเผ่ามารปล่อยข่าวอ ออกมา อีกไม่นานเหยียบสี่สำนักเซียนใหญ่ให้ราบเป็นหน้ากลอง เพราะเจ้าแห่งมารที่ไม่เคยก้าวเท้าออกจากเผ่ามารมานับ ร้อยปีจะออกมาแล้ว”
เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้ว “ข่าวน่าเชื่อถือหรือไม่”
“แน่นอน”
เฟิ่งจิ่วเม้มปาก หันไปสั่งเหลิ่งซวง “ไป ให้คนสืบเรื่องที่เขาพูด รู้ข่าวแล้วรีบมาบอกข้า”
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงรับคำ ก่อนจะหมุนตัวไปอย่างรวดเร็ว
อี้ซิวหรานเบ้ปาก “ไม่เชื่อข้า? ไม่เชื่อข้าแล้วยังถามข้าอีก?”
เฟิ่งจิ่วเหล่มองเขาแวบหนึ่ง “เรื่องใหญ่อย่างนี้ ย่อมไม่สามารถฟังความจากเจ้าฝ่ายเดียวได้” เอ่ยจบ เธอก็สาวเท้ าเดินต่อ
อี้ซิวหร่านแค่นเสียงในลำคอ เดินตามเธอไปเรื่อยๆ ชวนคุยเป็นระยะ กระทั่งเดินมาถึงหน้าเรือนเห็นเธอหยุดเดินกะ ะทันหัน ก็อดถามขึ้นไม่ได้ “มีอะไรหรือ”
เฟิ่งจิ่วมองเขาแปลกๆ ก่อนเอ่ยว่า “ข้าสิควรถามเจ้า? ข้าจะไปอาบน้ำ หรือเจ้ายังคิดจะตามไปด้วย”
ได้ยินอย่างนั้นอี้ซิวหร่านทำสีหน้าอิหลักอิเหลื่อ ภายใต้สายตาแปลกๆ ของเธอ เขากระแอมเบาๆ จ้องเธอด้วยสายตารุ มร้อม เผยสีหน้าหยอกล้อ เอ่ยว่า “หากเจ้าเชื้อเชิญข้า ข้าก็ไม่ถือสาที่จะ…โอ๊ย! เจ้าทำอะไรเนี่ย!”
เขายังพูดไม่ทันจบ ก็ถูกอีกฝ่ายถีบกระเด็นออกไปแล้ว ร่างกายของเขาลอยออกไปไกลหลายจั้ง
“เฝ้าไว้ หากคนคนนี้กล้าบุกเข้ามา ก็ตัดข้างล่างของเขาทิ้งเสีย” เฟิ่งจิ่วสั่งด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น เอ่ยจบก็ หมุนตัวเดินเข้าไปในเรือน เหลือไว้เพียงผู้ฝึกตนสองคนเฝ้าอยู่นอกเรือน
สายตาของผู้ฝึกตนสองคนที่เฝ้าประตูอยู่จับจ้องไปที่อี้ซิวหร่าน ก่อนจะเลื่อนลงข้างล่างช้าๆ หยุดอยู่ตรงเป้าก กางเกงของเขา ทั้งสองถามว่า “เจ้าจะลองบุกเข้าไปหรือไม่”
สีหน้าของพวกเขา เหมือนกำลังคาดหวังอยู่หลายส่วน
อี้ซิวหร่านมุมปากกระตุก หยัดยืนอย่างมั่นคง จากนั้นก็สะบัดชายเสื้อ “ข้าจะไปรอที่เรือนหน้า จะลองพวกเจ้าก็ไ ไปลองเองเถอะ!”
ตัดข้างล่างทิ้งเสีย? จิ๊ๆ ผู้หญิงคนนี้พูดจาไม่ระวังปากบ้างเลย อย่างไรนางก็เป็นผู้หญิงไม่ใช่หรือ
………………………………….