เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2419 เฟิ่งเยี่ยเจ้าเล่ห์ / ตอนที่ 2420 แก่แดดแก่ลม
ตอนที่ 2419 เฟิ่งเยี่ยเจ้าเล่ห์
“พวกเราแค่แอบไปดูแวบเดียว ไม่เป็นอะไรหรอก” เฟิ่งเยี่ยทำปากยู่ ทำหน้าไม่ยินยอม
“ไม่ได้” จ้าวหยาวมีความหนักแน่นในตนเอง เขาดึงเฟิ่งเยี่ยเดินจากไปอย่างไม่หวั่นไหว “รีบไป ที่นี่อยู่นานไม่ได้”
เห็นอย่างนั้น เฟิ่งเยี่ยทำได้เพียงเก็บความอยากรู้อยากเห็นไว้ในใจ เดินตามจ้าวหยางจากไปอย่างรวดเร็ว แม้จะสงสัยมา าก แต่ก็รู้ดี ด้วยพลังต่อสู้ของพวกเขาสองคนช่วยอะไรไม่ได้จริงๆ เทียบกับการไปยุ่งเรื่องของคนอื่น ที่สำคัญ กว่าคือปกป้องตนเองให้ดี ให้ตนเองมีชีวิตอยู่ต่อไป
ทั้งสองยิ่งเดินยิ่งเร็ว ไม่นาน พวกเขาก็ไม่ได้ยินเสียงต่อสู้แล้ว พวกเขาเดินไปตามทางเดินเล็กๆ ก่อนฟ้าจะมืดก็ สู้อุตส่าห์เจอหมู่บ้านเล็กๆ หมู่บ้านหนึ่งจนได้
“พวกเราไปขออาศัยกันเถอะ! พรุ่งนี้ค่อยไป” เฟิ่งเยี่ยมองหมู่บ้านเล็กๆ ท่าทางดีอกดีใจ
“พวกเราเอากระโจมเล็กมาด้วย” จ้าวหยางว่า เทียบกับหมู่บ้านเล็กๆ อะไรเหล่านั้น เขาขอนอนในกระโจมเล็กๆ ของตนเอ องดีกว่า
“หยางหยาง ที่นั่นคือหมู่บ้านเล็กๆ ไม่มีอันตรายอะไรหรอก ไปเถอะๆ!” เฟิ่งเยี่ยรู้ว่าเขากำลังกังวลอะไรอยู่ จึงดึ งเขาวิ่งไปที่หมู่บ้านเล็กๆ นั้น
“ท่านลุง พวกเราขออาศัยสักคืนได้หรือไม่” เฟิ่งเยี่ยถามชายฉกรรจ์ที่มาเปิดประตูด้วยท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย
ชายฉกรรจ์ที่เปิดประตูอึ้งไปเล็กน้อย มองเด็กสองคนตรงหน้า ก่อนจะมองข้างหลังพวกเขา ถามว่า “พวกเจ้ามากันแค่สอง คน? ผู้ปกครองของพวกเจ้าเล่า”
เฟิ่งเยี่ยยิ้มตาหยี มองชายฉกรรจ์ตรงหน้า ตอบว่า “ท่านลุง พวกเรามากันแค่สองคน ผู้ใหญ่ไม่ได้ตามมาด้วย”
“อย่างนี้เองหรือ! อย่างนั้นก็เข้ามาเถอะ!” ชายฉกรรจ์นัยน์ตาไหวระริก เปิดประตูให้ทั้งสองเข้าไป
จ้าวหยางเห็นนัยน์ตาของชายฉกรรจ์ไหวระริก เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กลับไม่พูดอะไรเพียงเดินตามเฟิ่งเยี่ยเข้าไปข้า างใน พอเข้าไป เขาก็สังเกตรอบๆ ด้วยความระมัดระวัง เห็นว่าเป็นเรือนเรียบง่ายเชื่อมต่อกันหน้าหลัง คล้ายว่ามีเพ พียงชายฉกรรจ์คนนี้อาศัยอยู่คนเดียว
“ท่านลุง บ้านท่านมีของกินหรือไม่ ทำให้พวกข้าหน่อยได้หรือไม่ พวกข้าจะจ่ายเงินให้ท่าน”
เฟิ่งเยี่ยถามขึ้น นั่งเหยียดหลังตรงอยู่ข้างโต๊ะ วางท่าเหมือนผู้ใหญ่ในคราบเด็ก ยิ้มตาหยีมองชายฉกรรจ์ที่พอไ ได้ยินคำว่าเงินก็ตาเป็นประกายขึ้นมา ถามอีกว่า “ท่านลุง บ้านท่านมีแค่ท่านคนเดียวหรือ”
ชายฉกรรจ์พอได้ยินว่ามีเงิน ก็เตรียมสุราและเนื้อหมักซีอิ๊วที่ตนเองเตรียมไว้ยกมาให้ จากนั้นก็ตักข้าวสวยมาใ ให้พวกเขาอีกสองด้วย รวมถึงต้มน้ำแกงใสให้พวกเขาอีกหนึ่งชาม
นั่งอยู่ข้างๆ ชายฉกรรจ์ลอบมองพิจารณาเด็กสองคนเงียบๆ โดยเฉพาะยามสายตาจับจ้องไปที่เฟิ่งเยี่ย ยิ่งฉายแววสอดส่อง งชัดเจนขึ้น “พวกเจ้าเป็นคนที่ไหน ทำไมเด็กสองคนจึงเดินทางกันโดยลำพัง”
“ท่านลุง พวกเราไม่ได้เดินทางกันตามลำพัง” เฟิ่งเยี่ยเอ่ยด้วยสีหน้าไร้พิษภัย “ท่านพ่อบอกว่าให้พวกเราออกมาเจอ อความยากลำบากข้างนอกบ้าง แต่ข้าจะบอกท่านให้”
เขาลดเสียงเบาลง ชะโงกหน้าเข้าไปใกล้ชายฉกรรจ์ด้วยท่าทางมีลับลมคมใน “ท่านพ่อของข้าส่งคนที่ยอดเยี่ยมมากมาคุ้ มกันข้า พวกเขากำลังจับตาดูอยู่ในที่ลับ”
ชายฉกรรจ์ได้ฟังก็ตกใจผงะ ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ หันไปมองรอบๆ ด้วยความลนลาน แต่กลับไม่เห็นอะไรเลย
เดิมทีเขาก็เป็นคนที่เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่ออยู่แล้ว ปกติไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เห็นเด็กสองคนนี้ปรากฏตัวที่น นี่ รูปร่างหน้าตาก็ประณีตงดงาม จับไปขายน่าจะได้เงินไม่น้อย แต่นึกไม่ถึงว่า…
คำพูดที่ไม่ใส่ใจของเด็กคนนี้ กลับทำให้เขาตกใจจนเหงื่อท่วม เกือบไปแล้วๆ โชคดีที่เขาแค่คิด ยังไม่ได้ลงมือท ทำอะไร…
………………………………….
ตอนที่ 2420 แก่แดดแก่ลม
เห็นท่าทางแตกตื่นลนลานของชายฉกรรจ์ เฟิ่งเยี่ยหันไปขยิบตาให้จ้าวหยาง ก่อนจะยกชามข้าวขึ้นมากินข้าวต่อ จากนั้น ก็คีบเนื้อหมักซีอิ๊วกินคู่กับน้ำแกงใส กินอาหารแกงร้อนจนอิ่มหนำสำราญไปหนึ่งมื้อ
ภายใต้การดูแลต้อนรับของชายฉกรรจ์ ทั้งสองมาพักที่ห้องข้างหลังห้องหนึ่ง กระทั่งเฟิ่งเยี่ยกับจ้างหยายังเข้าไป ในห้องพักแล้ว ชายฉกรรจ์ก็ยังคงมองไปรอบๆ อยากดูว่าคนในที่ลับซ่อนตัวอยู่ที่ไหนกันแน่
ไม่แปลกที่เขาจะเชื่อคำพูดของเด็กสองคนนั้น นั่นเพราะเด็กสองคนนั้น คนโตกว่าหน่อยใส่เสื้อผ้าสีเขียวไม่สะดุดตา า ท่าทางธรรมดาเหมือนบ่าวรับใช้ประจำตัวมากกว่า ส่วนคนเล็ก รูปร่างหน้าตาประณีตงดงาม วัสดุเสื้อคลุมบนตัวล้วนเป็ นของดีเยี่ยมที่สุด อีกทั้งอายุยังน้อยก็มีราศีสูงส่งอย่างนั้นแล้ว น่าจะเป็นลูกหลายของตระกูลผู้ดีแน่ๆ
เด็กอายุน้อยสองคนออกมาอย่างนี้ไม่มีผู้ใหญ่คอยเฝ้าคุ้มกัน ใครจะเชื่อ จะต้องเป็นเหมือนที่เด็กคนนั้นพูดแน่ๆ พ่อของเขาอยากให้เขาออกมาฝึกฝนต่อความยากลำบาก จึงได้ให้คนแอบคุ้มกันพวกเขาอย่างลับๆ
นึกมาถึงตรงนี้ เขาลอบปาดเหงื่อ ถอยออกไปเงียบๆ ไม่กล้าหมายหัวทั้งสองอีก
ค่ำคืนนี้ เด็กสองคนนอนหลับสนิทมาก หลังจากพักผ่อนเต็มที่ เช้าตรู่วันต่อมาทั้งสองก็ลุกจากเตียงเตรียมตัวออกเด ดินทางต่อ
ออกมาถึงข้างนอกเห็นชายฉกรรจ์ย่างเกี๊ยวกินอยู่ ทั้งสองนั่งลงข้างโต๊ะ หยิบขึ้นมากินคนละชิ้น
ชายฉกรรจ์มองทั้งสอง ถามว่า “คุณชายน้อย พวกเจ้าจะไปเมื่อใด”
“อีกเดี๋ยวก็ไปแล้ว” เฟิ่งเยี่ยตอบ กัดเกี๊ยวหนึ่งคำ กลืนลงไปแล้วถามว่า “ท่านลุง ที่นี่อยู่ห่างจากตลาดไกลห หรือไม่”
“ไม่ไกลแล้ว หากพวกเจ้ากินเสร็จแล้วจะไป เดาว่าประมาณเที่ยงก็ถึงตลาดแล้ว” ชายฉกรรจ์หยิบเกี๊ยวขึ้นมากินอีกหนึ งชิ้น ไม่ลืมที่จะเอ่ย “คุณชายน้อย เจ้าเคยบอกแล้วนะว่าจะจ่ายเงินให้ข้า”
“อืม ข้าไม่ลืม” เฟิ่งเยี่ยยื่นเหรียญเงินเหรียญหนึ่งที่เตรียมไว้ให้เขา “นี่ให้ท่าน”
เห็นว่าเป็นเหรียญเงินหนึ่งเหรียญ ชายฉกรรจ์ตาเป็นประกาย ยิ่งเชื่อเข้าไปใหญ่ว่าสองคนนี้เป็นลูกหลานตระกูลผู้ด ดี ไม่อย่างนั้น เด็กธรรมดาที่ไหนจะเอาเหรียญเงินออกมาได้ง่ายๆ อย่างนี้
เขาฉีกยิ้มกว้าง ตาเล็กหยี “ดีๆๆ เกี๊ยวย่างนี้พวกเจ้ากินเต็มที่ ไม่พอก็ยังมีอีก ข้าไปย่างให้พวกเจ้าอีก” เอ่ยจบ ก็เก็บเหรียญเงินอย่างมีความสุข
ดวงหน้าเยาว์วัยงดงามของเฟิ่งเยี่ยแต่งแต้มด้วยรอยยิ้มบริสุทธิ์ เอ่ยกับชายฉกรรจ์ว่า “ท่านลุง ไม่ต้องแล้ว อีก เดี๋ยวพวกเราก็จะไปแล้ว”
ชายฉกรรจ์ไม่ได้พูดอะไรมาก เพียงมองพวกเขาสองคน เอ่ยว่า “คุณชายน้อย อีกเดี๋ยวข้าจะไปซื้อของที่ตลาดในเมือง ถ้าอย่างไร ข้าพาพวกเจ้าไปด้วยดีหรือไม่”
เฟิ่งเยี่ยดวงตาเป็นประกาย “ท่านมีรถม้าหรือ”
“ระ รถม้า? หึๆ ถือว่าใช่กระมัง!” เขายิ้มแห้งๆ
เฟิ่งเยี่ยหันไปมองหยางหยาง “หยางหยาง พวกเรานั่งรถของท่านลุงไปในเมืองกันเถอะ!”
“อืม” จ้าวหยางพยักหน้ารับ กินเกี๊ยวย่างหมด ก็หยิบผ้าออกมาเช็ดปาก
“ได้ อย่างนั้นพวกเจ้านั่งอยู่นี่ก่อน ดื่มน้ำสักนห่อย ข้าไปลากรถออกมา” ชายฉกรรจ์บอก จากนั้นก็ออกไปก่อน
ผ่านไปไม่นาน เฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางเดินออกมา เห็นรถม้าที่พูดถึง มุมปากกระตุกสองสามครั้ง นั่นเป็นรถวัวลากคั นหนึ่ง วัวแก่ตัวหนึ่งลากกระดานไม้เรียบแบนสองล้อ ช่างดูเรียบง่ายจนไม่รู้จะเรียบง่ายอย่างไรแล้ว
“หยางหยาง พวกเราเดินไปเองดีกว่า!” เฟิ่งเยี่ยพูดด้วยสีหน้าจริงจัง
“อืม” จ้าวหยางรับคำ ทั้งสองเดินเคียงไหล่หันเดินออกไปอีกทาง
ชายฉกรรจ์เห็น ก็ตะโกนเรียก “อ้าว คุณชายน้อย พวกเจ้าไม่นั่งรถหรือ”