เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 243 กล้าฆ่าหรือไม่ + ตอนที่ 2
ตอนที่ 243 กล้าฆ่าหรือไม่?
“อ๊าก!”
ชายชุดผ้าแพรอุทานขึ้น ร่างกายแข็งทื่อ เพราะคอถูกหนุ่มน้อยชุดแดงบีบไว้แน่น แรงอันหนักหน่วงนั้น คล้ายแค่เพิ่มกำลังอีกก็สามารถบิดหักคอได้ ทำให้เขาตกใจไม่สิ้นสุด
“ไม่ได้นะขอรับคุณชาย!”
ชายวัยกลางคนร้องตกใจ หากคุณชายตระกูลหลิ่วมาตายที่นี่ ไม่เพียงทำให้หอเมฆาทรงเกียรติเขามีปัญหา แม้แต่หนุ่มน้อยชุดแดงผู้นี้ก็ยากจะแบกรับไฟโทสะของตระกูลหลิ่ว
“ซี๊ด! เขาจะทำอะไร? คงจะไม่คิดฆ่าคุณชายตระกูลหลิ่วผู้นั้นกระมัง?”
“เป็นไปไม่ได้หรอก เขาไม่กล้าขนาดนั้น หากฆ่าเขา? ตัวเองก็ไม่อาจมีชีวิตรอดแล้ว”
ผู้คนนอกสนามพูดคุยกัน ต่างตกใจกับการกระทำของหนุ่มน้อยชุดแดง แต่พวกเขาล้วนคิดว่าเขาไม่กล้าฆ่าคุณชายตระกูลหลิ่ว อันที่จริง การฆ่าลูกชายของตระกูลในเมืองลิ่วเต้า นั่นคือการท้าทายวงศ์ตระกูลอย่างโจ่งแจ้ง เขาเป็นเพียงคนต่างถิ่น จึงคิดว่าเขาไม่อาจหาญเพียงนั้น
ไม่ใช่แค่คนนอกสนามที่คิดเช่นนั้น แม้แต่คุณชายตระกูลหลิ่วที่โดนเฟิ่งจิ่วบีบคอไว้ก็คิดเช่นกัน หลังจากผ่านความตื่นกลัวก็สงบลง มองเฟิ่งจิ่วด้วยสายตาที่มีความปลุกปั่น
“จะฆ่าข้า? เจ้ากล้ารึ? ออกไปถามไถ่ในเมืองลิ่วเต้านี้เสียหน่อยเถอะว่ามีใครไม่รู้จักตระกูลหลิ่วเราบ้าง?”
มีเพียงชายวัยกลางคนของหอเมฆาทรงเกียรติข้างๆ ที่รู้ ว่าหนุ่มน้อยชุดแดงมีใจคิดจะฆ่ากันจริงๆ และไม่ได้คิดว่าเขาไม่กล้าลงมือสังหารคุณชายหลิ่วผู้นี้ สุดท้ายแล้ว คนหนุ่มนั้นช่างเลือดร้อน บางครั้งก่อเรื่องอะไรจะไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาเลย
เฟิ่งจิ่วหรี่ดวงตาลง มุมปากยกขึ้นเบาๆ กล่าวเสียงสบายๆ “ตระกูลหลิ่ว? เก่งกาจนักรึ?”
มือที่บีบคอเขาค่อยๆ รัดแน่น เพราะเธอยกแขนขึ้น ด้วยเหตุนี้ คุณชายหลิ่วจึงหอบหายใจอย่างยากลำบาก เขย่งเท้าขึ้นเพื่อบรรเทาความรู้สึกหายใจลำบากนั้นลงอย่างอดไม่ได้
หน้าค่อยๆ ขึ้นสีม่วงตามมา ทำไม่ได้แม้แต่จะพูดออกมา มองเด็กหนุ่มชุดแดงตรงหน้า พลันในใจก็มีความเสียขวัญและหวาดกลัวเล็กน้อย
เห็นชายชุดผ้าแพรที่ใช้สองมือกอดเกี่ยวแขนเธอไว้แน่นหนาอยากจะดิ้นรนออกไปด้วยใบหน้าที่ค่อยๆ ขึ้นสีม่วง ก็เผยรอยยิ้มอันตรายที่แทบจะแปลกๆ ตา
“คนก่อนที่ทำใบหน้าข้าเป็นแผล ก็ตายไปแล้ว เดาว่าศพคงถูกสัตว์ร้ายรุมทึ้งไม่เหลือแม้แต่ซาก เจ้าว่า จะตายเช่นไรดีเล่า?”
เห็นภาพเช่นนี้ ชายวัยกลางคนก็ยากจะปริปาก เพราะรู้ว่า หากเขาเอ่ยปากเกลี้ยกล่อม จะทำให้เด็กหนุ่มชุดแดงสังหารคุณชายตระกูลหลิ่วได้เร็วยิ่งขึ้น เห็นสถานการณ์ไม่ค่อยสู้ดีนัก ขณะกำลังคิดว่าเบื้องบนจะออกหน้ามาแก้ปัญหาหรือไม่ ก็ได้ยินเสียงตะโกนดังลอยมา
“ปล่อยคุณชายเราซะ!”
ทหารอารักขาเดิมทีเฝ้าอยู่ด้านนอก เพราะได้ยินว่าคุณชายพวกเขาเกิดเรื่อง คนหนึ่งจึงกลับจวนไปรายงานข่าวอย่างรวดเร็ว นอกนั้นอีกสามคนก็เข้ามาตรงดูด้วยความว่องไว
เห็นคุณชายพวกเขาโดนหนุ่มน้อยชุดแดงจับคอไว้และบีบเสียจนท่าทางจวนจะขาดใจดังคาด โดดข้ามกรงเหล็กรอบๆ กระโจนลงมาทันที
เฟิ่งจิ่วตอนนี้ยังไม่รู้ ว่าในห้องปีกของแขกผู้มีเกียรติในหอเมฆาทรงเกียรติ เจ้าเมืองเมืองลิ่วเต้ากำลังต้อนรับ ‘ภูตหมอ’ ที่ใส่ชุดแดงสวมหน้ากากไว้ เพราะการเคลื่อนไหวในสนามนี้ดึงดูดซึ่งความสนใจทั้งสองภายในห้อง เจ้าเมืองกับ ‘ภูตหมอ’ ผู้นั้นจึงสนอกสนใจเฟิ่งจิ่วยิ่งนัก
เจ้าเมืองเห็นภูตหมอสนใจหนุ่มน้อยชุดแดงด้านล่างเอามากๆ จึงพูดยิ้มๆ ว่า “ดูท่าทางจะเป็นลูกชายตระกูลชนชั้นสูง แต่ไม่ค่อยรู้ความอะไรเท่าไหร่ หยิ่งจองหองเกินไปทั้งที่อายุยังน้อย ครานี้หากฆ่าคุณชายตระกูลหลิ่ว หนุ่มน้อยนั่นก็ไม่ต้องคิดจะมีชีวิตรอดออกไปจากเมืองลิ่วเต้าไปได้”
………………………………………………….
ตอนที่ 244 จับเขามาไว้ในมือ!
“หนุ่มน้อยผู้นี้หน้าตาโดดเด่น รูปโฉมงดงามเห็นได้ยากยิ่ง”
บุรุษในชุดสีแดงสวมหน้ากากลายดอกลำโพงจ้องเฟิ่งจิ่วที่ด้านล่าง สายตามีความเร่าร้อนบางส่วน
เจ้าเมืองที่ได้ยินคำพูดนี้ดวงตาฉายแววเล็กน้อย เอ่ยยิ้มว่า “ใต้เท้าภูตหมออาจไม่ทราบ ในเมืองลิ่วเต้ามีตรอกหนุ่มงาม รูปโฉมบุรุษที่นั่นก็โดดเด่นมากเช่นกันนะขอรับ”
“บุรุษในตรอกหนุ่มงาม จะสง่างามและร้ายกาจเช่นหนุ่มน้อยผู้นี้ได้เช่นไร? ต้องคนนี้สิถึงจะดีที่สุด!”
แววตาเร่าร้อนของ ‘ภูตหมอ’ จับจ้องบนข้อมือขาวราวหิมะของเฟิ่งจิ่วด้านล่าง สายตาเคลื่อนตามไปด้านบน กวาดผ่านคองามระหง และใบหน้างดงามหล่อเหลาที่มีกลิ่นอายชั่วร้ายก็ตกสู่สายตา ยิ่งมองในใจยิ่งกระสับกระส่าย
เจ้าเมืองเมืองลิ่วเต้าได้ยินคำพูดนี้ก็ถึงกับพูดไม่ออก
เหมือนเขาจะไม่เคยได้ยินว่าภูติเป็นพวกชอบผู้ชายด้วยกัน? ทว่าตามที่เขาคลุกคลีกับภูตหมอผู้นี้มา กลับพบว่าเขาไม่สนใจสาวงามอะไร กลับค่อนข้างสนใจหนุ่มหล่อเสียอย่างนั้น
แต่หากเป็นคนดีๆ ทั่วไป อันที่จริงบุรุษที่ต้องการแบบใดกันที่จะไม่มีในตรอกหนุ่มงาม? แต่พอนึกถึงเด็กหนุ่มชุดแดงด้านล่าง เขากลับลังเลอยู่บ้าง
แม้เขาอยากจะขอพวกยาจากภูตหมออีก จึงต้องคอยประจบเขาทุกวิถีทาง ทว่า ในฐานะเจ้าเมืองเมืองลิ่วเต้า จะประพฤตินอกลู่นอกทางเกินไปนักไม่ได้ มิเช่นนั้น ผลกระทบก็มากเหลือเกิน
แต่ในขณะที่เขาโลเล ก็ได้ยินเสียงภูตหมอลอยมา
“เจ้าเมืองฉาง หากท่านสามารถช่วยข้าจับเด็กหนุ่มผู้นี้ได้ เช่นนั้น ข้าจะปฏิบัติกับท่านอย่างดีแน่นอน”
ได้ยินเช่นนี้ ท่านเจ้าเมืองก็ตกใจ มองภูตหมอข้างกาย คำพูดนี้เทียบเท่าคำมั่นสัญญา สำหรับเขาแล้ว นี่ถือเป็นโอกาส
“ขอรับ! ข้าจะลองคิดหาวิธี” เขาพยักหน้าขานรับ ก็เห็น ‘ภูตหมอ’ ข้างกายมองไปด้านล่างอย่างประหลาดใจ เห็นเช่นนี้ เขาก็หันหน้าไปมอง
หลังทหารอารักขาสามนายนั้นที่กระโจนลงไปในสนามพุ่งไปด้านหน้า ก็ตวัดมีดโจมตีหนุ่มน้อยชุดแดง คิดจะบังคับให้ปล่อยมือที่จับอยู่ กลับนึกไม่ถึงว่าเขาจะหันตัวพาร่างคุณชายตระกูลหลิ่วมาขวางต้านไว้ ทำให้เขารับหนึ่งมีดจากทหารอารักขาของตนไปเสียดื้อๆ
“อ๊าก!”
“คุณ คุณชาย!”
ทหารอารักขาผู้นั้นตกใจ สีหน้าขาวซีด ตื่นตระหนกเสียจนสั่นเทิ้มไปทั่วร่าง และในเวลานี้เองก็ถูกเฟิ่งจิ่วกระโดดเตะเข้าที่หัวเสียจนเป็นลมสลบไป
สองคนนอกนั้นคิดจะเข้าไป กลับไม่กล้าใช้มีดอีก ด้วยกลัวว่าจะทำคุณชายบาดเจ็บ แต่ไม่นานนักก็โดนเฟิ่งจิ่วโจมตีกระเด็นไป ครวญครางอยู่บนพื้นอย่างไม่อาจลุกยืนได้
สีหน้าคุณชายหลิ่วยามนี้ซีดเผือดไร้สีเลือด แผ่นหลังที่รับมีดหนึ่งไว้มีเลือดไหลออกมาเปื้อนเสื้อคลุม เจ็บเสียจนเหงื่อออกท่วม แต่กลับกลายเป็นว่าคอยังถูกบีบไว้อย่างไร้หนทางที่จะดิ้นหลุด
ตอนนี้ เฟิ่งจิ่วจ้องมองคุณชายตระกูลหลิ่วที่กำลังสั่นเทาเพราะรับรู้ถึงความน่ากลัว น้ำเสียงเฉื่อยชามีกลิ่นอายกระหายเลือด บอกว่า “จะบีบคอให้ตายเช่นนี้เจ้าก็ได้เปรียบเกินไปหน่อย หรือเราจะเปลี่ยนวิธีกันดีกว่า?”
“เจ้า เจ้าจะทำอะไรกันแน่? เจ้าต้องรู้ไว้ หาก หากฆ่าข้าเจ้าก็ไม่มีชีวิตรอดหรอก!” คุณชายตระกูลหลิ่วพูดเสียงสั่นเครือ
“งั้นให้เจ้าลองลิ้มรสชาติของการตายทั้งเป็นบ้างล่ะเป็นไง?”
น้ำเสียงกลั้วหัวเราะเบาๆ ของเฟิ่งจิ่วเปล่งออกมาอย่างมีความเย็นเยียบ สิ้นสุดน้ำเสียง ก็หมุนมือมาดึงสองแขนเขาขึ้นทันใด พลิกตัวเขาหันหลังแล้วบิดสองแขนมาด้านหลัง จุดที่ถูกสองมือเธอสัมผัสเพียงได้ยินเสียงกระดูกลั่นดังกร๊อบตามมาด้วยเสียงกรีดร้องรุนแรงที่ดังกว่าดังขึ้นทีละเสียงๆ
จนกระทั่งเธอหยุดมือลง เมื่อเห็นคุณชายตระกูลหลิ่วบนพื้น ทุกคนต่างก็พากันสูดลมหายใจ!
………………………………………………….