เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2435 ข่าวคราว / ตอนที่ 2436 ชำเลืองมอง
ตอนที่ 2435 ข่าวคราว
“อีกไม่นานก็หายแล้ว”
เฟิ่งเยี่ยบอก สาวเท้าสั้นๆ เดินไปหาพวกเขา “ถึงแม้จะให้พวกเจ้ากินยาไปแล้ว แต่ก็ยังไม่ดีขึ้นในทันที ถึงอย่างไร พวกเขาก็ตายแล้ว พวกเจ้าพักหน่อยก็ได้”
ได้ฟังอย่างนั้น เหล่าทหารรับจ้างต่างรู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา เหตุการณ์เมื่อครู่ทำให้พวกเขารู้สึกอะไรบางอย่าง เด็กส สองคนนี้ไม่จำเป็นต้องให้พวกเขาคอยตามคุ้มกันเลย ด้วยฝีมือและความฉลาดของพวกเขา มากพอที่จะปกป้องตัวเองได้แล้ ว
“หยางหยาง ไม่ได้บาดเจ็บใช่หรือไม่” เฟิ่งเยี่ยถามหยางหยาง จ้องพิจารณาหยางหยางตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ไม่” จ้าวหยางส่ายหัวตอบ
“หยางหยาง ยาของพวกเรายังมีอีกเท่าไร” เฟิ่งเยี่ยดึงเขามาที่ด้านหนึ่ง เด็กสองคนกำลังกระซิบกระซาบคุยกันอยู่ ทางนั้น
“ยาที่ท่านใช้เมื่อกี้ไม่มีแล้ว กลับเป็นยารักษาภายในและภายนอกยังมีอยู่บ้าง”
จ้าวหยางตอบเสียงเบา ยาที่เฟิ่งเยี่ยใช้เมื่อครู่ล้วนเป็นยาที่เฟิ่งจิ่วเคยมอบไว้ให้เขาใช้ป้องกันตัว เพียงแต ต่หลังเกิดเหตุไม่คาดคิดก็มีโอกาสได้ใช้น้อยมาก ครั้งนี้ลงจากเขาเขาจงใจมอบยาให้เฟิ่งเยี่ยเอาไว้ใช้ป้องกันตัว นึกไม่ถึงว่าจะได้ใช้แล้ว
“ไม่เป็นไร รอหาหลานสาวของข้าเจอเมื่อไร พวกเราขอนางเพิ่มอีกหน่อยก็ได้แล้ว” เฟิ่งเยี่ยยิ้มตาหยีขณะเอ่ย
ทั้งสองพูดคุยกัน ขณะที่เหล่าทหารรับจ้างสายฟ้าภาคีนั่งพักอยู่ทางนั้น กระทั่งฤทธิ์ยาในตัวพวกเขาคลายหมดแล้ว วจึงค่อยลุกขึ้นมา
“คุณชายน้อย”
สวีเหยียนเดินมาหยุดตรงหน้าเขา ประสานมือคารวะเขาอย่างนอบน้อม “ขอบคุณคุณชายน้อยมาก หากไม่ได้ความเฉลียวฉลาดของ คุณชายน้อย เกรงว่าพวกข้าคงต้องตายอยู่ในมือผู้ฝึกวิชามารพวกนี้แล้ว”
“ไม่เป็นไร นี่ก็สายมากแล้ว ในเมื่อพวกเจ้าพักผ่อนแล้ว พวกเราก็รีบออกเดินทางกันเถอะ!” เฟิ่งเยี่ยกะพริบดวงตาไ ไร้เดียงสาปริบๆ ขณะกล่าว
“ได้” ถึงแม้ไม่รู้ว่าเหตุใดทั้งสองจึงต้องการการคุ้มกันจากพวกเขา แต่ในเมื่อรับภารกิจมาแล้ว พวกเขาย่อมจะทำอย่ างสุดความสามารถ ส่งทั้งสองไปถึงเมืองร้อยนที
ถึงแม้จะสงสัยว่าทั้งสองใช้ยาอะไร ที่ถึงขั้นทำให้ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินล้มลงไปได้ แต่ทั้งสองไม่พูด พวกเข ขาก็ไม่สะดวกถามให้มากความ เรื่องนี้จึงผ่านไปทั้งอย่างนี้ เพียงแต่หลังจากเหตุการณ์นี้ ทุกคนไม่ได้เห็นทั้งสองเป ป็นแค่เด็กทั่วไปอีกแล้ว
ขอถามหน่อย เด็กทั่วไปจะเหมือนอย่างพวกเขาเสียที่ไหน คนหนึ่งฝึกวรยุทธ์ถึงระดับหลอมแก่นพลังขั้นแรก ส่วนอีกคน ก็ถึงระดับสร้างรากฐานขั้นกลางแล้ว?
กลุ่มคนออกเดินทางอีกครั้ง แม้เห็นเด็กทั้งสองได้ของมีค่าของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นไป ก็ไม่มีใครคิดไม่ซื่อ
ในอีกด้านหนึ่ง กวนสีหลิ่นมาหยุดพักเท้าที่เมืองแห่งหนึ่ง เขาในสภาพสะบักสะบอมสวมเสื้อคลุมสีดำ ในมือถือดาบ ใหญ่ เพียงแต่หนวดยาวๆ กลับบดบังใบหน้าของเขาไปถึงเจ็ดแปดส่วน ดูโฉมหน้าที่แท้จริงของเขาไม่ออก
รู้เพียงว่า กลิ่นอายพลังรอบกายเขาแข็งแกร่งมาก และเต็มไปด้วยกลิ่นอายสังหารอันรุนแรง แม้ไม่ต้องลงมือ เพียงก้าว วเดิน ไอพิฆาตบนตัวก็ทำให้ผู้คนถอยห่างได้แล้ว
มาถึงโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่งในเมือง ครั้นเขาเข้าประตูไป เสี่ยวเอ้อร์รีบเข้ามาต้อนรับ “ท่านต้องการเข้าพักหรือ”
“อืม ห้องบนหนึ่งห้อง สุราอีกหนึ่งกา กับแกล้มสองสามอย่าง” เขาเดินเข้าไปในโรงเตี๊ยม มานั่งลงที่ข้างหน้าต่าง
“ได้เลย โปรดนั่งรอสักครู่” เสี่ยวเอ้อร์บอก รินชาให้เขาก่อนจะถอยออกไป ผ่านไปไม่นาน สุราอาหารก็ถูกยกมาวาง
“ได้ยินแล้วหรือยัง เจ้าแห่งมารของเผ่ามารนำทัพมารไปล้อมโจมตีสำนักดาราจักรด้วยตนเอง ได้ยินว่าหลังจากทำลายสำ ำนักดาราจักรก็จะทำลายอีกสามสำนักที่เหลือด้วย ทำเอาทุกคนตื่นตระหนกหวาดระแวงไปหมด ได้ยินว่าพลังของเจ้าแห่งมาร ของเผ่ามารแม้แต่สี่สำนักเซียนใหญ่ยังทำอะไรเขาไม่ได้เลย”
………………………………….
ตอนที่ 2436 ชำเลืองมอง
ข้างหน้าต่างนั้น มือที่ถือแก้วสุราของกวนสีหลิ่นสะดุดเล็กน้อยเมื่อได้ยินบทสนทนานั่น หันไปมองคนกลุ่มหนึ่ง ที่อยู่โต๊ะนั้น เห็นว่าพวกเขาเป็นผู้ฝึกตน กำลังกระซิบกระซาบคุยกันเบาๆ
“พลังของเจ้าแห่งมารแข็งแกร่งเกินไป ไม่รู้ว่าจะมีใครกำราบเขาได้หรือไม่ หากไม่สามารถกำราบเขาได้ เกรงว่าแผ่นด ดินใหญ่ผืนนี้จะต้องโกลาหลวุ่นวายแน่ๆ” ผู้ฝึกตนอีกคนกล่าว พลางส่ายหน้าอย่างทอดถอนใจ
“ใครจะกำราบได้ บนแผ่นดินกว้างใหญ่ไพศาลนี้แม้แต่คนของสี่สำนักใหญ่ยังกำราบเขาไม่ได้ แล้วจะมีใครกำราบเขาได้ อีก”
“ยังมีอีกข่างลือหนึ่ง เจ้ายังไม่ได้ยินอีกหรือ”
อีกคนหนึ่งกระซิบเบาๆ “ได้ยินมาว่าปีนั้นผู้เฒ่าเทียนจีเคยเอ่ยคำทำนายไว้หลายประโยค ‘ดาวหงส์ปรากฏ วิญญาณต่าง โลกมาเยือน เขามาจากฟากฟ้าอื่น ผ่านเคราะห์กรรมสวรรค์ทั้งแปด กลายเป็นเจ้าแห่งใต้หล้า’ ประโยคเหล่านี้พวกเจ้าเคย ยได้ยินหรือไม่”
“เฟิ่งซิง? ก็เหมือนจะเคยได้ยินมาบ้าง เฟิ่งซิงที่ผู้เฒ่าเทียนจีพูดถูง หมายถึงไป๋ชิงเฉิง คุณหนูใหญ่จากตระกูลไป๋ใช่ หรือไม่ ได้ยินว่าผู้หญิงคนนี้เกิดมาท้องฟ้าก็มีปรากฏการณ์แปลกประหลาด อีกทั้งต่อมายังถูกสำนักดาราจักรรับเป็น ศิษย์ ฐานะไม่ธรรมดา”
“ไป๋ชิงเฉิง คุณหนูใหญ่จากตระกูลไป๋? ผิดแล้วๆ”
ชายอีกคนส่ายหัว “ตระกูลไป๋ถูกทำลายล้างไปเมื่อไม่นานมานี้เอง ได้ยินมาว่าฆ่ายกตระกูลเชียวนะ ส่วนไป๋ชิงเฉิงนั่น ได้ยินมาว่าแพ้เดิมพันให้กับภูตหมอเฟิ่งจิ่วแห่งหอยาสวรรค์ กลายเป็นหญิงรับใช้ติดตามอยู่ข้างกายภูตหมอเฟิ่ง งจิ่ว นางจึงได้รอดชีวิตไปได้ แล้วนางจะเป็นเฟิ่งซิงได้อย่างไร เฟิ่งซิงเป็นคนมีบุญวาสนา”
“ฟังจากที่เจ้าพูด เจ้ารู้ว่าเฟิ่งซิงคือใคร” ผู้ฝึกตนอีกคนถาม ท่าทางสงสัยอย่างมาก
“แน่นอนอยู่แล้ว” ผู้ฝึกตนคนนั้นสีหน้าย่ามใจเล็กน้อย กระซิบบอกเสียงเบาว่า “ได้ยินมาว่า เฟิ่งซิงที่ผู้เฒ่าเทีย ยนจีทำนายถึงไม่ใช่ใครอื่น ก็คือภูตหมอเฟิ่งจิ่วแห่งหอยาสวรรค์นี่แหละ ครั้งนี้คนของเผ่ามารโจมตีสี่สำนักเซียน นใหญ่ สี่สำนักเซียนใหญ่ล้วนส่งคนไปขอให้ภูตหมอเฟิ่งจิ่วช่วยเหลือ”
“จริงหรือ” พวกเขาตกตะลึง
“แน่นอนว่าจริง ข้ามีลุงคนหนึ่งอยู่ในสี่สำนักเซียนใหญ่ พวกเจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้ชื่อเสียงของภูตหมอเฟิ่งจิ่ว แห่งหอยาสวรรค์โด่งดังแค่ไหน? ยาที่ออกมาจากที่นั่นเรียกได้ว่าทำลายกฎสวรรค์กันเลยทีเดียว ขอเพียงขอยาจาก กภูตหมอเฟิ่งจิ่วได้ แม้เป็นคนที่ตายแล้วภูตหมอเฟิ่งจิ่วก็ช่วยให้ฟื้นคืนชีพได้”
ผู้ฝึกตนคนนั้นเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเล่าต่อว่า “อีกอย่าง ข้ายังได้ยินมาอีกว่า เพราะครั้งนี้เจ้าแห่งมารนำทั พมารไปโจมตีสำนักเซียนด้วยตนเอง เป้าหมายแรกก็คือสำนักดาราจักร สำนักดาราจักรส่งคนไปเชิญภูตหมอให้มาช่วยคุ้มคร รองสำนัก ข้าจะบอกพวกเจ้าให้ ภูตหมอเฟิ่งจิ่วผู้นี้ไม่ได้มีแค่ความสามารถในด้านการแพทย์และการกลั่นยาที่ยอดเย ยี่ยม แม้แต่ระดับวรยุทธ์ก็ยังล้ำเลิศจนเรียกได้ว่าทำลายกฎสวรรค์เลยทีเดียว เดาว่าคงมีแค่นางคนเดียวแล้วที่ สามารถสู้กับเผ่ามารได้”
“จะเป็นไปได้อย่างไร จากที่ได้ยินมาภูตหมอเฟิ่งจิ่วเป็นผู้หญิงนี่ อีกอย่าง แค่นางคนเดียว จะสู้กับเผ่ามารได้อ อย่างไร”
ฟังบทสนทนาของพวกเขา กวนสีหลิ่นกินข้าวดื่มสุราไปพลาง สายตาทอดมองออกไปยังถนนใหญ่เบื้องนอกที่ผู้คนสัญจรไปมา ไ ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่
ทันใดนั้น หางตาเหลือเห็นทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งกำลังเดินผ่านถนนไป และท่ามกลางทหารรับจ้างกลุ่มนั้น มีเงาร่างหน นึ่งที่ทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างแปลกๆ เขานึกสงสัยในใจ หยิบเหรียญเงินออกมาวางบนโต๊ะ จากนั้นก็ถือดาบใหญ่เ เดินออกไป
เสี่ยวเอ้อร์เดินเข้ามา เห็นว่าสุราอาหารบนโต๊ะยังถูกกินไปไม่เท่าไร แขกคนนั้นก็จากไปแล้ว จึงตะโกนเรียก “ลูก กค้า? ลูกค้า…”
กวนสีหลิ่นที่ออกจากโรงเตี๊ยมสาวเท้าเร็วๆ มายังจุดที่ทหารรับจ้างกลุ่มนั้นเดินผ่านไป แต่กลับไม่เห็นร่องรอยแล้ ว ซ้ำข้างหน้ายังเป็นทางสามแยกอีก ไม่รู้ว่าทหารรับจ้างพวกนั้นเดินไปทางไหน