เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2445 ไม่เห็นด้วย / ตอนที่ 2446 ได้ยินมาว่า
ตอนที่ 2445 ไม่เห็นด้วย
แต่กลับรู้สึกเหมือนมีเสียงหนึ่งในใจบอกให้เขาไปที่สำนักดาราจักร ตลอดมาเขาได้ยินหยางหยางบอกว่าหลานสาวของเขา าเก่งกาจขนาดไหน แต่เขาไม่เคยเห็นกับตาเลยนี่!
หากเขาไม่ไปหอยาสวรรค์เมืองร้อยนที แต่ไปที่สำนักดาราจักร บางทีอาจฉวยโอกาสนี้ได้เห็นว่านางเก่งกาจขนาดไหนก ก็ได้
ยิ่งคิดก็ยิ่งหวั่นไหว ยิ่งคิดก็ยิ่งอยากไปผสมโรงที่สำนักดาราจักร แต่ก็กลัวว่าหากตนเองเปลี่ยนเส้นทางไปสำนัก กดาราจักร หากระหว่างทางเจอผู้ฝึกวิชามารอะไรอีกจะทำอย่างไรเล่า
ชั่วขณะหนึ่ง เขาลังเลตัดสินใจไม่ได้
เห็นเฟิ่งเยี่ยเอามือสองข้างเท้าคาง ทำหน้ายับจนแทบจะกลายเป็นก้อนเดียวกัน จ้าวหยางที่อยู่ข้างๆ จึงถามขึ้น “เป ป็นอะไรหรือ”
เฟิ่งเยี่ยหันไปมองเขา ถามอย่างครุ่นคิดว่า “หยางหยาง เจ้าว่าพวกเราเปลี่ยนเส้นทางไปผสมโรงที่สำนักดาราจักรดีหรือ อไม่ คนของเผ่ามารสู้กับสำนักดาราจักร สถานการณ์จะต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ พวกเราไปดูหน่อยดีหรือไม่”
จ้าวหยางปั้นดวงหน้าน้อยๆ อย่างเคร่งขรึม เอ่ยว่า “ข้าคิดว่าพวกเราไปเมืองร้อยนทีดีกว่า”
“แต่เจ้าบอกว่าหลานสาวของข้าเก่งกาจมากไม่ใช่หรือ ข้าไม่เคยเห็นกับตนเลย ข้าอยากไปดูนี่นา! อีกอย่าง หากตอน นนี้พวกเราไปเมืองร้อยนที เดาว่านางก็คงไม่อยู่ที่นั่นอยู่ดี”
เฟิ่งเยี่ยรู้ว่าทำอย่างนี้เสี่ยงมาก แต่ถึงอย่างไรเขาก็ยังเป็นเด็ก ภายใต้ความอยากไปผสมโรงเพื่อจะได้เห็นหลาน นสาวที่เล่าลือกันว่าเก่งนักหนาต่อสู้ด้วยตนตนเอง เขาก็ยังขาดการไตร่ตรองอย่างรอบคอบอยู่ดี
จ้าวหยางมองเขา เห็นเขามองมาด้วยสีหน้าคาดหวัง จ้าวหยางรู้ แม้เฟิ่งเยี่ยแด็กกว่าเขา แต่ถ้าหากเป็นเรื่องที่เ เขาตัดสินใจแล้ว แม้ตนเองจะไม่เห็นด้วย เขาก็จะเกลี้ยกล่อมจนเห็นด้วยในที่สุด
เขาก้มหน้าอย่างครุ่นคิดเล็กน้อย เนิ่นนาน จึงเอ่ยว่า “อย่างนั้นทหารรับจ้างสายฟ้าภาคีจะทำอย่างไร ให้พวกเขากลับ ไปตอนนี้? หรือจะให้พวกเขาคุ้มกันเราไปถึงเขตแดนของสำนักดาราจักร”
เฟิ่งเยี่ยได้ยินจ้าวหยางพูดอย่างนั้นดวงตาเป็นประกายขึ้นมา อดยิ้มไม่ได้ “ข้ารู้อยู่แล้วว่าหยางหยางดีที่สุด” ” เขาโอบไหล่จ้าวหยาง กล่าวว่า “ข้าคิดว่าพลังของพวกเขาคุ้มกันเราไปส่งที่เมืองร้อยนทีนั้นได้ แต่ถ้าจะให้ไปส ส่งที่สำนักดาราจักร หากระหว่างทางเจอผู้ฝึกวิชามารอีก อาจไม่โชคดีเหมือนครั้งที่แล้ว ถ้าอย่างไร พวกเราจ่ายค่าค ค้างที่เหลือ ให้พวกเขากลับไปดีหรือไม่ จากนั้นพวกเราก็เดินทางกันเอง?”
“เดินทางกันเอง?” จ้าวหยางขมวดคิ้ว “แต่ว่า…” เขายังคงกังวลอยู่
“เด็กอย่างพวกเราสองคนน่าจะเป็นเป้าหมายที่เล็กกว่า แม้เป็นผู้ฝึกวิชามารก็เดาว่าคงไม่สนใจพวกเรา เจ้าคิดว่า อย่างไร” เฟิ่งเยี่ยพูดอย่างกระตือรือร้น
จ้าวหยางถอนหายใจอย่างเอือมระอา “ก็ได้! ท่านตัดสินใจเถอะ” เขาคัดค้านไปก็ไม่มีความหมาย ในเมื่อเฟิ่งเยี่ยตัดสินใจ จแล้ว ก็ทำตามเขาก็แล้วกัน!
“ได้” รอยยิ้มกระจายทั่วดวงหน้าน้อยๆ อันประณีตของเฟิ่งเยี่ยราวกับดอกไม้บาน เขาหันไปมองเหล่าทหารรับจ้างที่ก กำลังกินข้าวอยู่ด้านหนึ่ง ฉีกยิ้มกว้างและหัวเราะอย่างมีความสุข
สวีเหยียนเห็นเฟิ่งเยี่ยจ้องพวกเขาแล้วยิ้ม ก็อดหันไปมองเขาอย่างประหลาดใจไม่ได้ เห็นเขาสาวเท้าสั้นๆ เดินมา จึงถามว่า “คุณชายน้อย มีอะไรหรือ”
“อืมๆ ท่านลุงสวี พวกเราอยากจะไปผสมโรงที่สำนักดาราจักร ฉะนั้นพวกท่านส่งพวกเราถึงที่นี่ก็พอแล้ว” ขณะเอ่ย เขา หยิบถุงผ้าใส่เหรียญเงินจากห้วงมิติออกมาวางบนโต๊ะ “นี่คือค่าจ้างที่เหลือ พวกท่านกลับไปก่อนเถอะ!”
ได้ฟังอย่างนั้น สวีเหยียนกลับขมวดคิ้ว ทำหน้าไม่เห็นด้วย “พวกเจ้าจะไปสำนักดาราจักร?”
………………………………….
ตอนที่ 2446 ได้ยินมาว่า
“อื้มๆ” เฟิ่งเยี่ยพยักหน้า
“ที่นั่นพักนี้สถานการณ์กำลังวุ่น ไม่เหมาะที่เด็กอย่างพวกเจ้าสองคนจะไป ไหนว่าญาติของพวกเจ้าอยู่ที่เมืองร้อย ยนทีไม่ใช่หรือ อย่างไรพวกข้าก็ไปส่งพวกเจ้าที่เมืองร้อยนทีดีกว่า!”
“ไม่ต้องๆ” เฟิ่งเยี่ยโบกมือปฏิเสธ “พวกข้าไปเองก็ได้ อีกอย่าง พวกข้าไม่คิดจะใช้ถนนหลัก แล้วก็ไม่ได้คิดจะเข้าใกล ล้ แค่ดูอยู่ไกลๆ เท่านั้น ฉะนั้นไม่มีอันตรายแน่นอน”
เห็นเขายืนยันจะไปสำนักดาราจักรให้ได้ สวีเหยียนเงียบไปครู่หนึ่ง เอ่ยว่า “ในเมื่อเป็นอย่างนี้ พวกข้าไปส่งพวกเ เจ้าก็แล้วกัน!”
เฟิ่งเยี่ยกระพริบตาปริบๆ “แต่ว่า…”
“ในเมื่อพวกเรารับภารกิจมาแล้วก็ต้องทำให้เสร็จ แม้พวกเจ้าจะเปลี่ยนสถานที่ ก็ต้องไปส่งพวกเจ้าถึงที่หมายอย่างปลอ อดภัย” สวีเหยียนไม่เปิดโอกาสให้เขาพูด เพียงลุกขึ้น หันไปบอกเหล่าสหายที่อยู่ข้างหลัง
เหล่าทหารรับจ้างพยักหน้าเห็นด้วย ปล่อยให้เด็กสองคนไปที่เขตแดนสำนักดาราจักรแค่สองคน อย่างไรก็ไม่เข้าท่า โดย ยเฉพาะพวกเขายังรับค่าตอบแทนมหาศาลจากคนอื่นเขามาแล้วด้วย
เฟิ่งเยี่ยเห็นอย่างนั้นก็ไม่พูดอะไรอีก มีพวกเขาคอยคุ้มครองย่อมดีกว่าไปกันเองตามลำพัง เพียงแต่เขาเป็นห่วงจริงๆ ๆ ว่าหากเจอผู้ฝึกวิชามารอีกจริงๆ กลุ่มทหารรับจ้างสายฟ้าภาคีพวกนี้จะถูกฆ่าหมด
“จะไปเขตแดนของสำนักดาราจักร ข้ารู้ทางลัดอยู่เส้นหนึ่ง คืนนี้พวกเราพักที่นี่ก่อน พรุ่งนี้ค่อยออกเดินทางแต่เช้ าก็แล้วกัน!” สวีเหยียนกล่าวกับเฟิ่งเยี่ยและจ้าวหยาง
“ได้” เฟิ่งเยี่ยพยักหัว เอ่ยว่า “อย่างนั้นค่าจ้างนี่พวกเจ้าก็เก็บไว้เถอะ!”
สวีเหยียนกลับไม่ปฏิเสธ เขาเก็บค่าจ้างบนโต๊ะ
วันนี้พวกเขาเติมท้องให้เต็มด้วยอาหารแห้งก่อน จากนั้นก็ให้คนไปซื้อยาประเภทรักษาอาการบาดเจ็บไว้ป้องกันตัว ห หลังจากที่พวกเขาพักที่โรงเตี๊ยมหนึ่งคืน วันต่อมาพอฟ้าสางก็ออกเดินทางทันที
ในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วในชุดสีเขียวเรียบง่ายไม่สะดุดตาได้มาถึงเขตแดนของสำนักดาราจักรแล้ว เธอไม่ได้ใช้แกนเค คลื่อนย้ายจี๋กวงมาที่หน้าประตูใหญ่สำนักดาราจักรโดยตรง แต่หลังมาถึง เธอเดินรอบๆ บริเวณนี้รอบหนึ่ง ถือโอกาสร่า ายเขตอาคมและวางค่ายกล
ขณะที่เธอกำลังพักผ่อนอยู่บนต้นไม้ ก็ได้ยินเสียงแว่วๆ
“น่าแปลกจริงๆ แถวๆ นี้ของสำนักดาราจักรของเราไม่ได้มีค่ายกลและเขตอาคมเยอะขนาดนี้นี่นา! ทำไมเราตามอาจารย์ อาออกมาคราวนี้กลับเจอเขตอาคมตั้งหลายที่ หากไม่ใช่ว่ามีอาจารย์อาคอยดูให้ เกรงว่าตอนนี้พวกเราคงหลงอยู่ใ ในค่ายกลแล้ว ไม่รู้ว่าใครวางค่ายกลไว้ ค่ายกลพวกนั้นไม่ได้แก้ได้ง่ายๆ เลยนะ”
“ข้าได้ยินอาจารย์บอกว่าเพื่อการระวังตัว ได้ส่งคนไม่น้อยออกมาลาดตระเวนแถวนี้แล้ว แต่นอกจากค่ายกลและเขตอาค คมที่พวกเราเจอในไม่กี่วันมานี้ ก็ไม่เห็นคนของเผ่ามารเลยนะ!”
“ข่าวผิดพลาดหรือเปล่า คนของเผ่ามารอาจไม่ได้เลือกโจมตีสำนักดาราจักรของเราเป็นที่แรก?”
“เป็นไปไม่ได้ แหล่งข่าวนี้ไม่มีทางพลาด ได้ยินมาว่าภูตหมอเฟิ่งจิ่วแห่งหอยาสวรรค์เมืองร้อยนทีเป็นคนส่งข่าวให ห้สำนักเรา ไม่มีทางพลาดแน่”
“พูดถึงภูตหมอเฟิ่งจิ่ว ข้าได้ยินมาว่านางคือเฟิ่งซิงในคำทำนายของผู้เฒ่าเทียนจี แล้วยังได้ยินมาอีกว่าหากต้อง งสู้กับเผ่ามารจริงๆ อาจมีแค่ภูตหมอเฟิ่งจิ่วคนเดียวที่มีพลังพอจะต่อกรกับเผ่ามารได้”
“แต่ได้ยินมาว่าคนคนนี้เป็นผู้หญิง ผู้หญิงคนหนึ่งแม้จะแกร่งอีกแค่ไหน ก็ไม่มีทางต่อกรกับเจ้าแห่งมารด้วยตัว วคนเดียวได้หรอกกระมัง เจ้าแห่งมารนั่นไม่ได้ออกจากเผ่ามารมาหนึ่งร้อยปีกว่าแล้ว ตอนนี้พอเขาออกมา ใต้หล้าต่าง งลือว่าแผ่นดินใหญ่ผืนนี้กำลังจะเกิดพายุฝนแห่งการนองเลือด”