เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2449 กลิ่นอายความตาย / ตอนที่ 2450 เขาเป็นใคร
ตอนที่ 2449 กลิ่นอายความตาย
“คนของสำนักดาราจักรกล้าวางค่ายกลอย่างนั้นรอพวกเรา! ดี! ดีมาก!” หนึ่งในนั้นเอ่ยด้วยน้ำเสียงเหี้ยมเกรียม สายตากระหายเลือดจับจ้องกลุ่มคนที่อยู่ข้างหน้า
เฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่ข้างหลังสังเกตเห็นแล้ว นอกจากชายวัยกลางคนที่มีวรยุทธ์ระดับเซียนเหินที่ยังนับว่าใจเย็นอยู่บ้าง ศิษย์สองคนที่อยู่ข้างๆ กลับยืนเกร็งเพราะความตื่นตระหนก มือที่จับกระบี่คลายและกำแน่นซ้ำแล้วซ้ำเล่า เม้มปากเป็นระยะ เสื้อข้างหลังก็เปียกชื้นเพราะเหงื่อ
เธอยิ้มๆ ละสายตาจากพวกเขา หันไปจ้องผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น นอกจากผู้ฝึกวิชามารข้างหน้าไม่กี่คนนั้น ข้างหลังยังมีผู้ฝึกวิชามารอีกเจ็ดแปดคนที่เดินตามออกมาในสภาพบาดเจ็บ เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดเจ็บจากในค่ายกลนั้น
นอกจากผู้ฝึกวิชามารเจ็ดแปดคนที่บาดเจ็บข้างหลังนั้น พวกคนข้างหน้าล้วนมีพลังอยู่ในระดับเซียนเหินขั้นกลางไปจนถึงขั้นสูงสุด ความห่างชั้นด้านพลังนี้ยิ่งทำให้สามคนจากสำนักดาราจักรสีหน้าตึงเครียดขึ้น
“อาจารย์อา เกรงว่าแม้เราจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไป ศิษย์ที่อยู่แถวๆ นี้ก็คงยากจะต้านทานผู้ฝึกวิชามารพวกนี้ได้”
ศิษย์สองคนนั้นแม้สีหน้าหนักอึ้งจมดิ่ง แต่ก็ยังดูสถานการณ์ออก รู้ว่าแม้จะขอความช่วยเหลือจากหน่วยลาดตระเวนแถวๆ นี้ หากพวกเขามาก็มีแต่จะเพิ่มจำนวนคนตายให้มากขึ้นเท่านั้น
“สู้เถอะ! แม้จะต้องสู้จนตัวตายก็ต้องสู้! ไม่ต้องส่งสัญญาณแล้ว พวกนั้นล้วนมีพลังอยู่ในระดับเซียนเหิน กระทั่งยังมีขั้นสูงสุดรวมอยู่ด้วย ส่วนพวกข้างหลังนั่นก็มีพลังระดับกำเนิดวิญญาณ นอกจากคนระดับเจ้าเขาและอาวุโสในสำนักมาช่วย ไม่อย่างนั้น ศิษย์ทั่วไปมาก็มีแต่ต้องสังเวยชีวิตเท่านั้น”
เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหลังพวกเขายักคิ้ว มุมปากยกยิ้ม คนของสำนักดาราจักรไม่เลวเลยนี่!
เธอยืนนิ่งไม่ขยับ เพียงยืนมองผู้ฝึกวิชามารพวกที่ยืนข้างหน้าซึ่งมีพลังระดับเซียนเหินโจมตีเข้ามาอย่างรวดเร็ว ในมือของผู้ฝึกวิชามารสี่คนที่พุ่งเข้ามาไม่ปรากฏอาวุธให้เห็น เพียงงอมือเป็นกรงเล็บเพื่อโจมตีเข้ามา
บางทีสำหรับพวกเขา คนพวกนี้อาจไม่คู่ควรให้พวกเขาใช้อาวุธมาสังหารก็ได้กระมัง! ก็จริง หากมีแค่สามคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าเธอ ด้วยพลังของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น จะฆ่าพวกเขานั้นง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ หนำซ้ำ เมื่อแรงกดดันของผู้แข็งแกร่งพวยพุ่งออกมา แม้พวกเขาอยากจะสู้ก็ไม่มีโอกาส
แต่นี่ก็มีเธออยู่ไม่ใช่หรือ อย่างนั้นทุกอย่างก็อาจไม่เหมือนกันแล้ว
รอยยิ้มที่มุมปากค่อยๆ คลี่ออก ประกายมืดมนพาดผ่านดวงตา เห็นผู้ฝึกวิชามารสี่คนนั้นปล่อยแรงกดดันอันแข็งแกร่งแผ่ปกคลุมสามคนตรงหน้า จากนั้นก็หมายจะใช้มือบีบคอพวกเขาให้หัก เธอพลิกฝ่ามือบีบอากาศ กระแสพลังในอากาศรวมตัวกันกลางระหว่างนิ้วมือทั้งห้าของเธอ เมื่อสี่คนนั้นเข้าใกล้ เธอพลิกฝ่ามือ กระแสพลังระหว่างนิ่วมือแบ่งออกเป็นสี่สาย พุ่งออกไปหาผู้ฝึกวิชามารสี่คนนั้นด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
ชายวัยกลางคนรวมถึงศิษย์สองคนนั้นหน้าเปลี่ยนเป็นซีดเผือดในพริบตา มาถึงตอนนี้พวกเขาถึงเพิ่งรู้ตัวว่าความคิดที่จะสู้ตัวตายนั้นเพ้อเจ้อเพียงใด! พลังของอีกฝ่ายเหนือชั้นกว่าพวกเขามาก พอแรงกดดันอันแข็งแกร่งแผ่ปกคลุมลงมา ราวกับภูเขาลูกใหญ่กดทับลงมา ทำให้พวกเขาขยับตัวไม่ได้ ยังจะสามารถไปสู้ตายกับพวกนั้นได้อีกที่ไหน
ครั้นเห็นสี่คนนั้นพุ่งโฉบเข้ามาราวกับวิญญาณ นิ้วมือทั้งห้าที่งอเข้าหากันเป็นกรงเล็บพุ่งมาที่ลำคอพวกเขา บ้างก็พุ่งมาที่หัวของพวกเขา กลิ่นอายแห่งความตายครอบงำพวกเขาในพริบตา ทำให้พวกเขารู้สึกได้ถึงความสิ้นหวังอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่กลับได้ยินกระแสพลังขุมหนึ่งพุ่งเฉียดหูพวกเขาไป…
………………………………….
ตอนที่ 2450 เขาเป็นใคร
พวกเขาสามคนเห็นเพียงผู้ฝึกวิชามารสี่คนที่ราวกับกำลังจะเข้ามาปลิดชีพพวกเขาในพริบตา ร่างกายแข็งทื่อไปทันที ดวงตาเบิกโพลง แววตาราวกับไม่อยากเชื่อ จ้องมองไปข้างหน้าอย่างตื่นตะลึง
พวกเขาสามคนอึ้งงัน รู้สึกเหมือนได้ยินแค่เสียงหัวใจที่เต้นโครมคราม เสียงนั้นดังชัดมาก ราวกับดังอยู่ข้างหูอย่างไรอย่างนั้น กระทั่งเห็นสี่คนนั้นล้มลงไปบนพื้น เลือดไหลออกจากปาก ร่างกายกระตุกสั่น พวกเขาถึงเพิ่งได้สติกลับคืนมา จ้องร่างสี่คนนั้นที่กำลังเลือดไหลอยู่บนพื้น…
ปลิดชีพในการโจมตีเดียว!
พลังสี่สายที่พุ่งเฉียดพวกเขาไปโจมตีจุดตายของผู้ฝึกวิชามารสี่คนนั้นในครั้งเดียว! ความเร็วนั่น เรียกได้ว่าเป็นความเร็วแสงเลยทีเดียว! แม้แต่ผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดก็ยังไม่สามารถหลบการโจมตีนั้นได้!
เมื่อสี่คนนั้นตาย แรงกดดันที่ปกคลุมพวกเขาสลายไป พวกเขารีบหันกลับมา มองชายหนุ่มชุดสีเขียวเรียบง่ายที่ยืนอยู่ข้างหลังพวกเขา
ขะ ขะ เขา…เป็นเขาที่ฆ่าผู้ฝึกวิชามารพลังระดับเซียนเหินสี่คนตายในพริบตา!
เขาเป็นใครกันแน่ เหตุใดเก่งกาจถึงเพียงนี้
ชั่วขณะนี้ ในใจของพวกเขาราวกับมีคลื่นแห่งความตื่นตะลึงซัดโถม พวกเขาตะลึงจนพูดอะไรไม่ออกแม้แต่ครึ่งประโยค ได้แต่มองเด็กหนุ่มที่ยามนี้สีหน้าเรียบเฉย ท่าทางเฉื่อยชาเกียจคร้านคนนั้นอย่างไม่อยากเชื่อ
ส่วนผู้ฝึกวิชามารเจ็ดแปดคนที่เดินตามมาเมื่อเห็นผู้ฝึกวิชามารสี่คนข้างหน้าถูกฆ่า ก็อดตะลึงไม่ได้ ฝีเท้าของพวกเขาชะงัก จ้องชายวัยกลางคนชุดเทาอย่างหวาดระแวง
ในสายตาของพวกเขา คนที่สามารถสู้กับผู้ฝึกวิชาระดับเซียนเหินได้ก็มีแค่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเหินชุดเทาคนนี้ แต่ใบหน้าที่ค้างเติ่งของเขานั่นมันอะไรกัน เขามองชายหนุ่มชุดเขียวข้างหลังนั่นด้วยหน้าตาตกตะลึงทำไมกัน
มีเพียงผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหินขั้นสูงสุดที่เหลือเพียงคนเดียวที่เมื่อเห็นเหตุการณ์ ก็ผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าว จ้องชายชุดเขียวที่ยืนอยู่ข้างหลังอย่างระแวดระวัง ถามด้วยน้ำเสียงเย็นเยือก “เจ้าเป็นใคร!”
เพราะตรงนั้นมีกันแค่สี่คน เขาจึงไม่ได้ลงมือด้วย แต่กลับนึกไม่ถึง ผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหินสี่คนทันทีที่โจมตีก็ถูกเด็กหนุ่มคนนั้นฆ่าแล้ว! พลังระดับนี้ ฝีมือระดับนี้ ไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน!
“พวกเจ้ายังมัวยืนอึ้งอะไรอยู่ จะสู้กับพวกเขาไม่ใช่หรือ” เฟิ่งจิ่วไม่สนใจผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหินคนนั้น เพียงหันไปเอ่ยกับสามคนข้างหน้าที่ยังตะลึงไม่หาย
พอพวกเขาได้ยินก็รีบตั้งสติ จากนั้นก็ขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณในตัวกระชับกระบี่ในมือพุ่งเข้าไป พวกเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหินคนนั้น ด้วยเหตุนี้ ศิษย์สองคนโฉบไหวผ่านผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหินไปยังผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างหลัง ส่วนชายวัยกลางคนชุดเทาก็สู้กับผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหิน
ทั้งสามสู้กับคนพวกนั้น เฟิ่งจิ่วไม่ขยับ แต่กลับคอยช่วยอยู่ข้างหลัง ในตอนที่ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งเงื้อกระบี่จะฟันศิษย์คนหนึ่ง เห็นเพียงพลังสายหนึ่งพุ่งเข้ามา พริบตาเดียวผู้ฝึกวิชามารคนนั้นก็ล้มลงไป
มีความช่วยเหลือจากเฟิ่งจิ่ว ทั้งสามเรียกได้ว่าไม่ได้รับบาดเจ็บเลยแม้แต่น้อยก็สามารถจัดการเจ็ดแปดคนนั้นได้อย่างง่ายดาย ส่วนผู้ฝึกวิชามารระดับเซียนเหินขณะที่คิดจะหนี ก็ถูกเฟิ่งจิ่วสังหารด้วยเช่นกัน
มองดูศพบนพื้น ทั้งสามอารมณ์พลุ่งพล่าน ขณะกำลังจะหันกลับไปพูดกับชายหนุ่ม กลับเห็นเขากำลังก้มเก็บสิ่งของมีค่าบนตัวผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นมาจนเกลี้ยง
เห็นอย่างนั้นพวกเขาก็อดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะรีบช่วยกันเก็บของมีค่าบนตัวผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นด้วย
………………………………….