เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2453 ไม่อยู่แล้ว / ตอนที่ 2454 อันตราย
ตอนที่ 2453 ไม่อยู่แล้ว
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองพวกเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะเก็บของเข้าห้วงมิติ พลางเอ่ยว่า “พวกเจ้าเรียกข้าว่าคุณชายจิ่วก็พอ อ”
ทั้งสามชะงัก ก่อนจะขานเรียก “คุณชายเก้า ขอบคุณที่ช่วยชีวิตพวกเราไว้เมื่อครู่”
เก็บข้าวของเสร็จหมดแล้วเธอก็ลุกขึ้น สะบัดชายเสื้อ เอ่ยกับทั้งสามว่า “ในเมื่อมีผู้ฝึกวิชามารเข้ามาแล้ว อย่ างนั้นก็ต้องไม่ได้มีแค่กลุ่มเดียวแน่ พวกเจ้ากลับสำนักไปก่อนเถอะ! ข้ายังต้องไปเดินตรวจสอบอีก”
ชายวัยกลางคนรีบเอ่ย “คุณชายจิ่ว ไม่ทราบว่าให้พวกเราตามไปด้วยได้หรือไม่”
“ตามไป?” เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว
“คืออย่างนี้ พวกเราถูกสำนักส่งมาลาดตระเวน ตอนนี้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น จะหนีกลับไปหลบอยู่ในสำนักได้เช่นไร ใน เมื่อคุณชายจะเดินในป่าผืนนี้อยู่แล้ว พวกเราก็อยากตามคุณชายไปด้วย หากเจอผู้ฝึกวิชามาร บางทีพวกเราอาจลองพยา ายามสู้สุดกำลังได้”
เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก เอ่ยว่า “ก็ได้ ตามก็ตาม! แต่ข้าบอกไว้ก่อนนะ ของที่ได้มาหลังจากฆ่าผู้ฝึกวิชามาร ล้ว วนเป็นของข้า”
“เรื่องนี้แน่นอนอยู่แล้ว ไม่กล้าแย่งกับคุณชายอย่างแน่นอน” พวกเขารีบรับคำ
“ไปกันเถอะ!” เธอเอ่ย สาวเท้าเดินไปข้างหน้า สามคนข้างหลังก็รีบตามมา
เมื่อศิษย์กลุ่มก่อนหน้าที่กลับไปรายงานพาเจ้าเขาสองท่านมาถึงที่นี่ เห็นเพียงศพของผู้ฝึกวิชามารนอนเกลื่อนเต็ มพื้น ส่วนพวกอาจารย์อาของพวกเขา กลับไม่เห็นแม้แต่เงา
“น่าแปลก? ทำไมไม่อยู่ที่นี่เล่า ก่อนหน้านี้พวกอาจารย์อาก็อยู่ที่นี่นี่นา! พวกเจ้าดู บนพื้นยังมีศพของผู้ฝึก กวิชามารด้วย หรือจะไปที่อื่นแล้ว” ศิษย์คนหนึ่งตั้งข้อสงสัย พลางตรวจสอบศพบนพื้น เมื่อเห็นว่าสภาพการตายของผ ผู้ฝึกวิชามารที่มีพลังค่อนข้างสูงตายในการโจมตีเดียว ก็อดตะลึงไม่ได้
“นี่มันตายในการโจมตีเดียว! เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับเซียนเหินขั้นสูงสุด จะตายในการโจมตีเดียวได้อย่างไร”
เจ้าเขาสองท่านเข้ามาดู ต่างก็ขมวดคิ้ว เอ่ยว่า “นี่เป็นการตายจากการถูกพลังทะลุผ่านชีพจรหัวใจ ผู้ฝึกวิชามา ารคนนี้ก่อนตายเบิกตาโพลง สีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ เห็นได้ว่าถูกสังหารโดยคนที่ไม่เป็นที่สังเกต”
เจ้าเขาทั้งสองมองหน้ากันแวบหนึ่ง เอ่ยอีกว่า “หนำซ้ำ พลังของศิษย์น้องหยางก็น่าจะยังทำได้ไม่ถึงขั้นสังหารผู้ แข็งแกร่งระดับเซียนเหินในพริบตา น่าจะมีผู้แข็งแกร่งช่วยพวกเขา”
“ผู้แข็งแกร่ง?” ศิษย์คนหนึ่งอึ้งงัน จู่ๆ ก็ตบหัวตัวเอง “ข้ารู้แล้ว! ต้องเป็นชายหนุ่มชุดเขียวคนนั้นแน่ พลั งของเขาแข็งแกร่งมาก เพียงพลังขุมเดียวของเขาก็สามารถพัดส่งพวกข้าออกไปไกลถึงหลายจั้งได้แล้ว!”
เจ้าเขาทั้งสองนิ่งอึ้ง “อ้อ? มีคนอย่างนี้ด้วยหรือ”
ศิษย์คนนั้นสำรวจแถวๆ นั้นรอบหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “ที่นี่มีเพียงศพของผู้ฝึกวิชามาร ไม่เห็นอาจารย์อากับศิษย์น น้องสองคนและชายชุดเขียวคนนั้นด้วย พวกเขาน่าจะยังมีชีวิตอยู่ เพียงแต่ไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว หรือพวกเขาจะกลับ สำนักไปก่อนแล้ว”
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ พวกเจ้าสองคนกลับไปดูที่สำนักก็แล้วกัน พวกข้าจะไปตรวจสอบดูว่าช่องโหว่ที่ถูกผู้ฝึกวิชาม มารบุกเข้ามาอยู่ที่ไหน” เจ้าเขาสองท่านกำชับ
“ขอรับ” ศิษย์สองคนรับคำ ก่อนจะกลับไปที่สำนักอย่างรวดเร็ว
“ไปกันเถอะ! ไปทางนี้…” เจ้าเขาสองท่านพาคนมุ่งหน้าไปยังอีกทางหนึ่ง
บนถนนภูเขาเส้นหนึ่งที่มุ่งหน้าสู่สำนักดาราจักร เฟิ่งเยี่ยกับหยางหยางและกลุ่มทหารรับจ้างสายฟ้าภาคีเดินทะลุถ ถนนภูเขา เข้ามาในป่าผืนหนึ่ง หลังจากข้ามเขามาหนึ่งลูก พวกเขาก็หยุดพักที่จุดหนึ่งในป่า
“พวกเราพักที่นี่กันก่อนเถอะ!” สวีเหยียนมองเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยาง เอ่ย “แถวนี้ข้ากังวลว่าจะมีผู้ฝึกวิชามาร ฉะนั้นจึงทำได้เพียงเดินเท้าเอาเท่านั้น”
………………………………….
ตอนที่ 2454 อันตราย
“พวกเราเดินทางมาตลอดทางก็ไม่เจอผู้ฝึกวิชามารนี่นา!” เฟิ่งเยี่ยว่า “หรือว่าเส้นทางที่ผู้ฝึกวิชามารใช้จะไม่เหมื อนกับพวกเรา”
“ไม่ว่าอย่างไร การขี่กระบี่บินก็ไม่เหมาะกับพื้นที่บริเวณนี้ กินอะไรหน่อยแล้วค่อยออกเดินทางต่อเถอะ!” เขาเอ่ย กับทั้งสอง จากนั้นก็เดินไปหาสมาชิกในกลุ่มของเขา กำชับพวกเขาสองสามประโยค
เฟิ่งเยี่ยกับหยางหยางนั่งพิงกัน จ้าวหยางหยิบอาหารแห้งออกมายื่นให้เขา “กินหน่อย”
“ข้าไม่หิว” เฟิ่งเยี่ยส่ายหน้า เขาไม่อยากกิน
“อย่างนั้นก็กินผลไม้” เขาเก็บอาหารแห้ง จากนั้นก็ยื่นผลไม้วิญญาณให้
การปีนเขาเดิมก็เหนื่อยและคอแห้งอยู่แล้ว ตอนนี้พอเห็นผลไม้วิญญาณยื่นมาตรงหน้า เฟิ่งเยี่ยเห็นก็ดีใจ รีบรับไ ไปกัดหนึ่งคำ “หยางหยาง ผลไม้นี้กินหมดแล้วไม่ใช่หรือ”
“เหลือลูกสุดท้ายแล้ว” จ้าวหยางว่า ตนเองหยิบน้ำออกมาดื่ม ผลไม้วิญญาณพวกนี้อาจารย์ของพวกเขามอบให้พวกเขา ก่อน นลงเขาเขาตั้งใจเก็บไว้ในห้วงมิติ ตลอดทางนี้ ก็เหลือเพียงผลนี้ผลสุดท้ายแล้ว
ขณะนั่งพักอย่างเงียบๆ บางครั้งก็ได้ยินเหมือนเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังแว่วมา สวีเหยียนสั่งลูกน้องให้ระวังไว้ คอยสังเกตความเคลื่อนไหวรอบๆ ส่วนเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางหลังจากกินอะไรเล็กน้อยแล้วก็กำลังงีบหลับเพื่อเพิ่มพลัง
ดวงอาทิตย์เคลื่อนคล้อยผ่านไป ภายใต้คำสั่งของสวีเหยียน พวกเขาออกเดินทางต่อ ทว่าหลังจากเดินผ่านป่าผืนหนึ่ง จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงต่อสู้กันดังมา
“เก็บซ่อนกลิ่นอายไว้อย่าส่งเสียง!” สวีเหยียนออกคำสั่ง พาคนไปตรวจสอบสถานการณ์คนหนึ่ง
มาถึงด้านหน้า ก็เห็นผู้ฝึกวิชามารกลุ่มหนึ่งกำลังสู้กับฝูงหมาป่า บนพื้นเต็มไปด้วยศพหมาป่าที่ถูกฆ่า กลิ่นคาวเล ลือดรุนแรงมาก เสียงหมาป่าหอนคำรามดังขึ้นเป็นระยะ
เมื่อเห็นอย่างนั้น เขาโบกมือส่งสัญญาณ ถอยกลับไปอย่างเงียบๆ พลังของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นแข็งแกร่งมาก ฝูงหมาป่าย ยี่สิบสามสิบตัวนั้นก็เหลือแค่ไม่กี่ตัวแล้ว หากไม่ไปตอนนี้ แล้วถูกพบเข้าเกรงว่าอยากไปก็คงไปไม่ได้แล้ว
เพียงแต่สิ่งที่นึกไม่ถึงก็คือ ขณะที่พวกเขาถอย สมาชิกที่ตามเขามาไม่ระวังไปเหยียบถูกกิ่งไม้ในพุ่มหญ้าเข้า เกิ ดเป็นเสียงกร๊อบแกร๊บ
สมาชิกคนนั้นตัวแข็งทื่อ หันไปมองฉากการต่อสู้ข้างหน้าโดยสัญชาตญาณ เห็นว่าไม่มีใครสังเกตทางนี้ จึงค่อยผ่อนลมหา ายใจ
สวีเหยียนสีหน้าตึงเครียด วางมือบนไหล่ของสมาชิกคนนั้น ตวาดเสียงต่ำ “ไป!” รีบพาเขาถอยไปอย่างรวดเร็ว พอมาถึงที พักที่พวกเฟิ่งเยี่ยอยู่ ก็รีบเอ่ยว่า “ไปเร็ว! ข้างหน้ามีผู้ฝึกวิชามาร!”
ครั้นได้ยินทุกคนรีบลุกขึ้นเตรียมตัวไปจากที่นี่ แต่ทว่าในขณะที่พวกเขาเตรียมตัวจะไป กลับเห็นผู้ฝึกวิชามารกลุ่มห หนึ่งไม่รู้โผล่มาจากไหน ยืนล้อมพวกเขาไว้ตรงกลาง
“เหอะ! นึกว่าใคร! ที่แท้ก็ทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่งกับเด็กผีสองคน?” ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งหัวเราะหยัน มองพวกเข ขาด้วยสายตาดูแคลนแวบหนึ่ง ท่าทางเหมือนรังเกียจเต็มที่
“มัวพูดมากอะไร ฆ่าพวกมัน!” ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชา เมื่อคำสั่งฆ่าลงมา ก็เห็นผู้ฝึกวิชามา ารจำนวนหนึ่งพุ่งเข้ามา กระบี่ยาวในมือพุ่งแทงมาที่พวกสวีเหยียน
“คุ้มกันเด็กสองคนหนีไป!” สวีเหยียนตะโกนเสียงทุ้ม รีบแบ่งคนออกเป็นสองกลุ่ม กลุ่มหนึ่งโรมรันพันตีกับผู้ฝึก วิชามาร กลุ่มหนึ่งคุ้มกันเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางหนีไป
ที่นี่ถูกปกคลุมไปด้วยไอสังหาร นอกจากกลิ่นคาวเลือดของฝูงหมาป่าที่อยู่ไม่ไกลที่ลอยโชยมา ยังมีกลิ่นอายแห่งความต ตายหนึ่งที่แผ่ปกคลุมพวกเขา…