เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2455 นักคุมสัตว์ / ตอนที่ 2456 เจ้าเป็นใคร
ตอนที่ 2455 นักคุมสัตว์
แต่ทว่า บนยอดเขาที่อยู่ไม่ห่างจากที่นี่นัก ชายคนหนึ่งที่นั่งขัดสมาธิอยู่บนก้อนหินเห็นเบื้องล่างมีผู้ฝึกวิชา มารกำลังโจมตีทหารรับจ้างกลุ่มหนึ่ง และเด็กสองคน ด้วยเหตุนี้ เขาจึงหยิบขลุ่ยที่เหน็บเอวออกมาเป่า
เสียงอันเอื่อยเฉื่อยสบายหูดังกระจายออกไปพร้อมกับจังหวะขึ้นลงของนิ้วมือของเขา เสียงขลุ่ยนั้นไพเราะจับใจราว วกับไข่มุกตกกระทบจานหยก ขณะเดียวกันก็เหมือนเสียงธารใสไหลเอื่อย เพียงแต่ท่วงทำนองของเพลงนั้นกลับไม่ใช่ท่วงทำนอ องที่ธรรมดา
แวบแรกที่ได้ยินทำนองที่ดังกระจายไปในอากาศ เหล่าผู้ฝึกวิชามารที่ตอนนี้กำลังบาดเจ็บเหนื่อยล้าพลันตะลึงงัน ใน นสถานที่เช่นนี้ ทำไมจึงมีคนเป่าขลุ่ยด้วย
พวกเขาอดไม่ได้ที่จะหยุดโจมตี พยายามมองหาคนเป่าขลุ่ย ทว่าเสียงขลุ่ยกระจายอยู่ในอากาศ ดังก้องทั่วท้องฟ้า แต่ก กลับไม่อาจหาที่มาได้
ทันใดนั้น จู่ๆ พวกเขารู้สึกได้ว่าพื้นดินกำลังสั่นสะเทือนรางๆ ราวกับมีสิ่งชีวิตขนาดใหญ่เหยียบย่ำผืนดินจนสั่นสะเทื อน ในขณะที่พวกเขากำลังตกตะลึง กลับได้ยินเสียงคำรามของสัตว์ร้ายดังไปทั่วป่า
“ทำไมแถวนี้ถึงได้มีสัตว์ร้าย”
ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งหันไปมองรอบๆ อย่างตกใจ ฟังจากเสียง เป็นเสียงของสัตว์ร้ายจริงๆ เพราะเสียงคำรามนั้นยังแฝ ฝงไว้ด้วยแรงกดดันของสัตว์ร้ายด้วย ย่อมไม่เหมือนสัตว์ป่าทั่วไปอยู่แล้ว
“ฟังจากเสียง เหมือนจะมากันไม่น้อยด้วย?” ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งเอ่ย อดขมวดคิ้วไม่ได้
“ไม่ต้องสนใจอะไรมากแล้ว! ฆ่าพวกมันก่อน!”
เสียงตะโกนอันเกรี้ยวกราดของผู้ฝึกวิชามารดังขึ้น พวกเขาโจมตีทหารรับจ้างสายฟ้าภาคีอีกครั้ง เฟิ่งเยี่ยกับจ้าวห หยางถูกคุ้มกัน บนตัวมีเพียงรอยถลอกเล็กน้อยเท่านั้น แต่สวีเหยียนกับเหล่าสมาชิกกลับไม่เหมือนกัน แต่ละคนบาดเจ็บ เลือดท่วมตัว มีทั้งถูกฟันถูกแทง เพียงแต่ยังไม่มีใครล้มลงไป
เฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยางเวลานี้เริ่มกังวลขึ้นมาแล้ว นึกไม่ถึงว่าผู้ฝึกวิชามารกลุ่มนี้ไม่พูดพร่ำทำเพลงก็คิดจะฆ่า าพวกเขาทันที ดูท่าทางแล้ว วันนี้คงหนีไม่รอดแล้ว
ทว่าในเวลานี้เอง เสียงคำรามของสัตว์ร้ายยิ่งอยู่ก็ยิ่งใกล้เข้ามา แม้แต่ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นก็ไม่อาจเมินเฉยต ต่อพวกมันได้ ทันใดนั้น สัตว์ร้ายตัวหนึ่งไม่รู้โผล่มาจากที่ใด พุ่งกระโจนเข้าใส่ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งราวกับพยั คฆ์ตะครุบเหยื่อ อ้าปากกว้างกัดคอของผู้ฝึกวิชามารคนนั้นจนหัก เลือดสีแดงสดสาดกระเด็นใส่คนข้างๆ ในพริบตา
“อ๊าก! สัตว์ร้าย!”
ผู้ฝึกวิชามารอีกคนกรีดร้องด้วยความตกใจ ไม่นาน เห็นเพียงสัตว์ร้ายสิบกว่าตัวโถมกระโจนเข้ามา ไล่กัดพวกเขาไปทั่ ว นอกจากสัตว์ร้ายสิบกว่าตัวนี้ ข้างหลังยังวิ่งตามมาอีกฝูง ก่อนจะวิ่งมาล้อมทุกคนไว้จนมิด แม้แต่ผู้ฝึกวิชาม มารพวกนั้นที่อยากฆ่าพวกสวีเหยียนก็ยังไม่มีเวลามาสนใจพวกสวีเหยียนอีก ได้แต่ตั้งสมาธิรับมือกับสัตว์ร้ายพวกน นั้น
“คุ้มกันพวกเขาหนีไปก่อน!” สวีเหยียนตะโกนสั่ง ไม่สนใจเลือดที่ท่วมตัว คิดแค่คุ้มกันจ้าวเย่กับจ้าวหยาง ทว่าไม ม่นานเขาก็พบสถานการณ์ไม่ค่อยปกติ
เห็นเพียงสัตว์ร้ายเหล่านั้นโจมตีแค่ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น แต่กับพวกเขา พวกมันกลับไม่ชายตามองด้วยซ้ำ โดยเฉพาะเ เมื่อสัตว์ร้ายผ่านพวกเขา แม้จะอยู่ในระยะใกล้ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะโจมตีพวกเขา
“สัตว์ร้ายพวกนี้ทำไมไม่โจมตีพวกเรา” สมาชิกกลุ่มทหารรับจ้างอึ้งงัน แต่ละคนต่างก็ไม่อยากเชื่อ พวกเขาไม่เคยเจอ เรื่องอย่างนี้มาก่อน
“เป็นสัตว์ที่ถูกคุม” เฟิ่งเยี่ยดวงตาเป็นประกาย ฟังเสียงขลุ่ยในอากาศ กอปรกับเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า ก็นึกถึงสัตว ว์ถูกคุมขึ้นมาทันที
………………………………….
ตอนที่ 2456 เจ้าเป็นใคร
ได้ยินคำว่าสัตว์ถูกคุม แววตะลึงพาดผ่านดวงตาของสวีเหยียน สัตว์ถูกคุมงั้นหรือ ใช่แล้ว หากไม่ใช่สัตว์ถูกคุม ม แล้วใครจะสามารถควบคุมสัตว์ร้ายที่กระหายเลือดพวกนี้ให้โจมตีแค่ผู้ฝึกวิชามารแต่ไม่โจมตีพวกเขากันเล่า
เพียงแต่เป็นใครกันแน่ที่กำลังคุมสัตว์พวกนี้อยู่ ใครกำลังช่วยพวกเขาอยู่
กระเรียนขาวขนาดใหญ่ตัวหนึ่งกระพือปีกทิ้งตัวลงบนยอดเขา ข้างกายชายที่กำลังเป่าขลุ่ยคนนั้น ชายคนนั้นลุกขึ้น ค่อยๆ นั่งลงบนหลังของกระเรียนขาวแล้วบินออกไป
เมื่อกระเรียนขาวปรากฏตัว คนบนหลังกระเรียนขาวก็ปรากฏตัวท่ามกลางสายตากลุ่มคนเบื้องล่างด้วย
“ฆ่าผู้คุมสัตว์คนนั้นเสีย!” ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งตัวท่วมเลือด ตะโกนสั่งเสียงเหี้ยม เมื่อสิ้นเสียงคำสั่งของ เขา ก็มีผู้ฝึกวิชามารสองคนถือกระบี่เหาะขึ้นไปกลางอากาศ
ทว่า ในขณะที่ผู้ฝึกวิชามารสองคนนั้นเหาะขึ้นไปหาคนบนหลังกระเรียนขาว ทันใดนั้น นกเหยี่ยวตัวหนึ่งบินเข้ามาพ พร้อมกับเสียงกรีดร้อง โน้มตัวบินพุ่งใส่หนึ่งในผู้ฝึกวิชามารอย่างดุดัน ครั้นกางกรงเล็บออก ผู้ฝึกวิชามารอีกคน นถูกคว้าไป กรงเล็บสองข้างฉีกทึ้ง เสียงกรีดร้องดังก้อง เลือดและเศษเนื้อกระจายลงมาจากบนอากาศ…
“ซี้ด! แม้แต่สัตว์ร้ายระดับสัตว์เทวะก็ยังคุมได้! คนคนนี้เป็นนักคุมสัตว์ที่โผล่มาจากที่ไหนกันแน่เนี่ย!”
ผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างล่างเห็นนกเหยี่ยวฉีกทึ้งร่างผู้ฝึกวิชามารคนนั้น และพุ่งชนผู้ฝึกวิชามารอีกคนจนร่ว วงตกลงมาเหมือนว่าวที่เชือกขาด เมื่อเห็นเหตุการณ์ที่น่าทึ่งนั่น พวกเขารู้สึกเพียงสะท้านไปทั้งใจ
“ถอย! รีบถอยเร็ว!”
ผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งร้องตะโกน เห็นว่าภายใต้การโจมตีของฝูงสัตว์ร้ายมีผู้ฝึกวิชามารตายเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำได้ เพียงตะโกนบอกให้ผู้ฝึกวิชามารที่ยังมีชีวิตอยู่รีบถอยหนี
เมื่อได้รับคำสั่งให้ถอย ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นรีบหนีไปอย่างหมดสภาพ สัตว์ร้ายพวกนั้นเองก็ไล่ตามไปพร้อมกับเสีย ยงคำรามภายใต้เสียงขลุ่ยนั่น
นกเหยี่ยวที่อยู่กลางอากาศตัวนั้นกรีดร้องเสียงหนึ่ง บินวนอยู่เหนือท้องฟ้ารอบๆ กระเรียนขาวตัวนั้น ส่วนคนบนกร ระเรียนขาวก็บินลงมาหยุดอยู่เหนือหัวพวกเฟิ่งเยี่ยในระยะห่างประมาณสามจั้ง
“พวกเจ้ามาทำอะไร เหตุใดจึงมาอยู่แถวนี้ได้” ชายบนหลังกระเรียนขาวถาม จ้องพิจารณากลุ่มคนแปลกประหลาดข้างล่าง
กลุ่มทหารรับจ้างที่มีพลังธรรมดา พาเด็กน้อยรูปร่างหน้าตาประณีตงดงามมาด้วยสองคน ช่างเป็นกลุ่มที่แปลกจริงๆ
“ท่านเป็นนักคุมสัตว์หรือ” เฟิ่งเยี่ยกระพริบดวงตาที่กำลังเปล่งประกาย มองชายบนหลังกระเรียนขาวด้วยสายตาแปลกใหม ม่ “ท่านชื่ออะไร ทำไมท่านยอดเยี่ยมขนาดนี้”
“คุณชายน้อย”
สวีเหยียนอดทนต่อบาดแผลบนร่างเรียกเฟิ่งเยี่ยไว้ เป็นเชิงบอกเขาว่าอย่าได้เสียมารยาท ก่อนจะประสานหมัดคารวะ “ข ขอบคุณคุณชายที่ช่วยเหลือ พวกข้าคือกลุ่มทหารรับจ้างสายฟ้าภาคี คุ้มกันคุณชายน้อยสองท่านนี้มาส่งที่สำนักดาราจัก กร นึกไม่ถึงว่าจะเจอผู้ฝึกวิชามารระหว่างทาง” นี่ถือเป็นคำตอบสำหรับคำถามก่อนหน้าของชายบนหลังกระเรียนขาว
“อ้อ? พวกเจ้าจะไปสำนักดาราจักรหรือ” ชายที่นั่งอยู่บนหลังกระเรียนขาวมองเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยาง อดไม่ได้ที่จะหย ยุดมองเฟิ่งเยี่ยครู่หนึ่ง รู้สึกว่าหว่างคิ้วของเด็กน้อยคนนี้ให้ความรู้สึกที่คุ้นเคยอยู่บ้าง
“ใช่ พวกเราจะไปสำนักดาราจักร แต่ได้ยินว่าค่ายกลคุ้มกันสำนักของสำนักดาราจักรถูกเปิดใช้งานแล้ว คิดว่าพวกเราคง งขึ้นไปไม่ได้ ฉะนั้นจึงคิดจะหาจุดที่สูงหน่อย จุดที่สามารถมองเห็นการต่อสู้ของคนจากสำนักดาราจักรและเผ่ามารได ด้ยิ่งดี” เฟิ่งเยี่ยยิ้มตาหยีขณะตอบ ดวงตาหมุนกลอกไปมา จับจ้องไปที่เหยี่ยวตัวผู้ตัวนั้น
เขากำลังคิดว่า หากสามารถนั่งบนหลังเหยี่ยวตัวผู้ตัวนั้นได้ เมื่อถึงเวลาจะต้องสามารถเห็นหลานสาวของเขาสู้กับ บคนของเผ่ามารแน่ๆ
เห็นสายตาเด็กน้อยจ้องไปที่ข้างหลังเขา ชายคนนั้นอดยิ้มขึ้นมาไม่ได้…