เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2463 คิดหาหนทาง / ตอนที่ 2464 ในที่สุดก็มา
ตอนที่ 2463 คิดหาหนทาง
เมื่อมองไปยังเหล่าผู้ฝึกวิชามารที่อยู่เหนือท้องฟ้า ผู้นำคือเจ้าแห่งมารของเผ่ามารผู้นั้น กองทัพทั้งกองทัพอ อุกอาจฮึกเหิม บรรดาศิษย์ในสำนักดาราจักรหน้าเปลี่ยนสีครั้งใหญ่
พวกเขารีบสาวเท้าวิ่งเข้าไปข้างใน ไปรายงานอาจารย์ของพวกเขา รวมถึงเหล่าอาวุโสในสำนักให้ทราบถึงสถานการณ์ข้างนอก ขณะเดียวกันพวกเขาก็เตรียมพร้อมรับศึกอย่างรวดเร็ว
ผู้ฝึกตนระดับเจ้าเขาขึ้นไปในสำนัก ทยอยกันมารวมตัวที่ยอดเขาของเจ้าสำนัก
“เจ้าสำนัก เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! เจ้าแห่งมารนำกองทัพมารขนาดใหญ่มาบุกสำนักดาราจักรของเราด้วยตนเอง ตอนนี้พวกมัน ล้อมด้านนอกของเราไว้จนมิด ศิษย์ในสำนักเราออกไปไม่ได้แล้ว!”
เจ้าเขาท่านหนึ่งรายงานด้วยความลนลาน “บนท้องฟ้ายังถูกเจ้าแห่งมารนั่นร่ายเขตอาคมอันแข็งแกร่งไว้ชั้นหนึ่งด้วย ย บนท้องฟ้า หน้าประตูสำนัก เสียงตีรันฟันแทงดังไม่ขาดสาย เจ้าสำนัก ตอนนี้พวกเราจะทำอย่างไรดี ได้โปรดตัดสินใจด้ วย!”
เจ้าสำนักดาราจักรได้ยินรายงานก็ขมวดคิ้ว เขาถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด “ท่านเซียนฮุ่นหยวนออกไปนอกสำนักแล้วไม่ใ ใช่หรือ หรือพวกท่านไม่เจอเขา พวกท่านบอกว่าคนของเผ่ามารล้อมด้านหน้าสำนักของเราไว้หมดแล้ว และร่ายเขตอาคม เหนือท้องฟ้าด้วย อย่างนั้นท่านเซียนฮุ่นหยวนไปไหนเล่า”
ก่อนหน้านี้ฮุ่นหยวนจื่อบอกว่าจะไปรับเฟิ่งจิ่ว นี่ก็ไปนานแล้ว เหตุใดยังไม่กลับมาอีก
เหล่าเจ้าเขาอึ้ง เอ่ยว่า “ไม่เจอเลย ไม่เห็นเงาร่างของท่านเซียนฮุ่นหยวนนอกสำนักเลย เขาไม่ได้อยู่นอกสำนักแต ต่อย่างใด”
เจ้าสำนักสีหน้าตึงเครียดเล็กน้อย เรียวคิ้วขมวดเข้าหันกันแน่น หรือว่าท่านเซียนไปตามหาภูตหมอเฟิ่งจิ่วในป่าแล้ว วหรือ ไม่อย่างนั้นเหตุใดจึงไม่เห็นเขาอยู่ข้างนอกนั่นเลยเล่า
ในอีกด้านหนึ่ง เซียนฮุ่นหยวนเข้าไปตามหาเฟิ่งจิ่วในป่าแล้วจริงๆ เพียงแต่สิ่งที่เขาคาดไม่ถึงก็คือ ขณะที่เขาเ เข้าไปตามหาเฟิ่งจิ่วในป่า กลับเห็นผู้ฝึกวิชามารล้อมสำนักไว้จนมิด
ครั้นเห็นสถานการณ์ไม่สู้ดี เขารู้สึกว่าควรตามหาเฟิ่งจิ่วให้เจอก่อน เพียงแต่นึกไม่ถึงว่าขณะที่อยู่ในป่า เขาไ ไม่เจอเฟิ่งจิ่วหรือศิษย์ในสำนัก ตรงกันข้าม เขากลับเจอการซุ่มโจมตีจากผู้ฝึกวิชามาร
หลังจากจัดการพวกผู้ฝึกวิชามารที่ซุ่มโจมตีเขา เขาสบถเสียงต่ำว่า “นางหนูคนนี้วิ่งไปไหนแล้ว มาถึงก็ไม่เข้าไป ในสำนัก ทำเอาข้าต้องตามหาอยู่ในนี้อยู่ครึ่งวันก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา”
ขณะกำลังบ่นพึมพำ ก็ได้ยินเสียงต่อสู้ดังแว่วมาจากข้างหน้า เขาย่องเท้าเบาๆ โฉบร่างไปสำรวจข้างหน้านั่น เมื่อเ เห็นเงาร่างสีเขียวอันคุ้นเคยนั่น รอยยิ้มแห่งความดีใจพลันยกยิ้มไปทั่วใบหน้าทันที
“เฟิ่งจิ่ว! ดีเหลือเกินที่เจ้าอยู่ที่นี่! ข้าหาเจ้าอยู่ตั้งนาน” เขารีบสาวเท้าวิ่งเข้าไป พลางช่วยจัดการเหล่า ผู้ฝึกวิชามารที่ล้อมโจมตีพวกเขาไปด้วย รวดเร็วดุจผีสาง รวดเร็วจนทำให้คนเหลือเชื่อ
ได้ยินเสียงของตาเฒ่า เฟิ่งจิ่วหันกลับไปมอง เห็นเขาโฉบเข้ามาด้วยความเร็วปานสายฟ้า สังหารผู้ฝึกวิชามารพวกนั้น นในพริบตา ศพแต่ละศพล้มลงไปหลังจากเลือดกระฉูดกลางอากาศ
เธอยักคิ้วมองเขา “ท่านมาได้อย่างไร”
“เจ้ายังมีหน้ามาถามข้าอีก! เจ้ายังไม่รู้สินะว่าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว! คนของเผ่ามารล้อมสำนักไว้จนมิดแล้ว ตอนแร รกข้าได้ยินว่าเจ้าอยู่ในป่า แต่รออยู่นอกสำนักนานแล้วก็ยังไม่เห็นเจ้าไปเสียที จึงได้เข้ามาตามหาเจ้าในป่า แต่ นึกไม่ถึงพอเข้ามาในป่าก็เจอผู้ฝึกวิชามารซุ่มโจมตี”
เขาถลึงตาทำหน้าตาโมโห ยกมือขึ้นลูบหนวด ทว่ามือหนักไปหน่อย เขาจึงสูดปากด้วยความเจ็บปวด
………………………………….
ตอนที่ 2464 ในที่สุดก็มา
“เจ้ารีบคิดหาทางเร็วเข้า เจ้าแห่งมารนั่นนำทัพใหญ่มา เกรงว่าคนในสำนักเซียนของเราไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาแน่! ดีไม่ดีสำนักอาจล้มได้ นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ เลยนะ”
เฟิ่งจิ่วเผยยิ้ม “ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าวางแผนไว้แต่แรกแล้ว”
รอยยิ้มที่กลีบปากของเธอแลดูมีลับลมคมใน ทำให้ตาเฒ่าเดาไม่ถูกว่าแผนที่เธอพูดถึงคืออะไรกันแน่
“แต่ว่าตอนนี้แม้แต่จะเข้าสำนักก็ทำไม่ได้แล้ว เจ้าว่าจะทำอย่างไรดี” ตาเฒ่าถามเธอ
เฟิ่งจิ่วเงยหน้ามองท้องฟ้า มองเพียงแวบแรกก็เห็นเงาร่างสีดำที่ยืนตระหง่านอยู่หน้าทัพมารผ่านกิ่งไม้อันบางตา าแล้ว
เหยียบย่ำอยู่บนกระบี่บินเหนืออากาศ เสื้อคลุมสีดำปลิวไหวไปตามสายลมที่กรีดพัด ไอมารแผ่กระจายรอบตัว น่าพรั่น นพรึงยิ่งนัก คนคนนั้น ก็คือเจ้าแห่งมารของเผ่ามาร หรือก็คือผู้ฝึกวิชามารที่อาจมีวรยุทธ์เหนือระดับจักรพรรดิ เซียนไปนานแล้ว!
เพียงแวบเดียว เจ้าแห่งมารผู้นั้นราวกับสัมผัสได้ เขาหันมามองยังทิศที่เธออยู่จากบนท้องฟ้า เธอรีบเก็บซ่อนก กลิ่นอายแล้วพูดกับตาเฒ่า “พลังของเจ้าแห่งมารคนนี้แข็งแกร่งเกินไป แม้แต่ข้าก็ไม่มีความมั่นใจว่าจะสู้ชนะเขาได้ อีกอย่างคนที่เขาพามาก็แข็งแกร่งมาก นอกจากนี้ จำนวนของผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นก็มากจนไม่อาจมองข้ามได้”
ได้ฟังเช่นนั้น ตาเฒ่าเบิกตากว้าง “เจ้าอย่าบอกข้านะว่าแม้แต่เจ้าก็ไร้หนทาง?”
เฟิ่งจิ่วส่ายหัว “ก็ไม่ถึงกับไร้หนทาง เพียงแต่นี่จะต้องเป็นการต่อสู้ที่ได้พอๆ กับเสียอย่างแน่นอน แม้จะขับไล่ พวกเขากลับเผ่ามารไปได้ เกรงว่าพวกเราก็คงต้องมีคนตายนับไม่ถ้วนเหมือนกัน”
ตาเฒ่าสีหน้าหนักอึ้งจมดิ่ง เขานิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียดเล็กน้อย “แม้จะต้องมีคนตายนับไ ไม่ถ้วน พวกเราก็ต้องสู้สุดชีวิต! หากปล่อยให้เผ่ามมารทำลายสำนักดาราจักรของเราลงได้ เกรงว่าใต้หล้านี้จะต้อง งเกิดภัยครั้งใหญ่แน่”
เห็นสีหน้าตาเฒ่าหนักอึ้งตึงเครียด เฟิ่งจิ่วเอ่ยปลอบใจ “ท่านอย่ากังวลเกินไป ข้าบอกแล้วอย่างไรว่าข้าวางแผนไว้แ แล้ว เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้รอไปก่อน”
“ยังรออีกหรือ”
ตาเฒ่าถลึงตา ดึงหนวดของตนเองเบาๆ เอ่ยว่า “หากยังรอต่อไป ศิษย์ในสำนักดาราจักรจะต้องถูกฆ่าหมดแน่! เจ้ายังไม ม่รู้ว่าผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นกำลังพังประตูอยู่ ตอนนี้ท้องฟ้าเหนือสำนักถูกเจ้าแห่งมารร่ายเขตอาคมไว้แล้ว เขต ตอาคมเช่นนั้นแม้แต่ข้าก็ยังทลายไม่ได้”
เฟิ่งจิ่วยักหัวไหล่ เธอเองก็จนใจเช่นกัน “นั่นก็ช่วยไม่ได้ ท่านดูสิ ข้าตัวคนเดียว ข้าเองก็สู้ชนะคนมากมายขน นาดนั้นไม่ได้นี่นา! โดยเฉพาะพลังของเจ้าแห่งมารแม้ข้าจะทุ่มสุดแรงก็ยังไม่มั่นใจว่าจะเอาชนะเขาได้”
“อย่างนั้นทำเช่นไรดี”
ตาเฒ่าเริ่มร้อนใจ และกังวลขึ้นมาบ้างแล้ว เขาคิดว่าเฟิ่งจิ่วมีหนทางมาตลอด แต่พอได้ยินเฟิ่งจิ่วบอกว่านางเอง ก็ไร้หนทางเช่นกัน หัวใจของเขาเริ่มกระสับกระส่ายรุ่มร้อนขึ้นมาแล้ว
รอต่อไปเช่นนี้จะดีหรือ จะทำให้พลาดโอกาสสู้รบที่ดีที่สุดไปหรือไม่ ยิ่งประวิงเวลาออกไปนานเท่าใด เสียงของผู้ฝึ กวิชามารก็ยิ่งดังก้อง เมื่อถึงเวลาเกรงว่ายังไม่ทันรบ เหล่าลูกศิษย์ในสำนักคงหน้าซีดจนไม่มีแม้แต่ความกล้าใน นการรบแล้ว!
พวกเขาหารือกันอยู่ในป่า แต่จู่ๆ กลับได้ยินเสียงดังกัมปนาท ผู้ฝึกวิชามารพวกนั้นพังประตูสำนักเข้าไปแล้ว เสียง งคำรามอันกระหายเลือดดังกึกก้อง ในสำนัก เสียงกรีดร้องด้วยความตกใจของเหล่าลูกศิษย์ดังระงม พวกเขาถอยร่นไปข้างหลัง …
ได้ยินเสียงเคลื่อนไหวในสำนัก เฟิ่งจิ่วลอยตัวขึ้นไปกลางอากาศ ยืนตระหง่านเหนือท้องฟ้า
สายตาของเธอตวัดมองกลางอากาศ ราวกับกำลังมองหาอะไรบางอย่าง กะทั่งเห็นแผ่นดินลอยฟ้ากำลังลอยเข้ามาจากที่ไกลๆ ด ดวงตาพลันประกายเจิดจ้า
ในที่สุดก็มาแล้ว!