เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2465 คือเฟิ่งจิ่วแล้วอย่างไร / ตอนที่ 2466 เจ้าแห่งเผ่ามาร
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2465 คือเฟิ่งจิ่วแล้วอย่างไร / ตอนที่ 2466 เจ้าแห่งเผ่ามาร
ตอนที่ 2465 คือเฟิ่งจิ่วแล้วอย่างไร
ทว่าขณะที่เธอเหาะขึ้นไปกลางอากาศ เจ้าแห่งมารที่ยืนตระหง่านอยู่บนท้องฟ้าเหนือประตูสำนักก็เห็นเธอแล้ว เงาร่า างนั้นเรียบง่ายไม่มีอะไรสะดุดตาสักนิด เสื้อคลุมสีเขียว ราวกับเป็นหนึ่งเดียวกับป่าข้างล่างนั่น แต่บุคลิกและแรงกดด ดันรอบตัวของคนคนนั้น กลับเปล่งประกายเจิดจ้าดุจดวงดาราบนท้องฟ้า
“นั่นใครน่ะ” สายตาของเจ้าแห่งมารจับจ้องไปยังเงาร่างสีเขียวที่อยู่ห่างออกไประยะหนึ่ง ขณะที่ถามผู้ฝึกวิชามารท ที่อยู่ข้างๆ
ผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างๆ เขาเป็นหนึ่งในสิบจอมมาร เวลานี้ได้ยินคำถามของเจ้าแห่งมาร จึงมองตามสายตาของเขาไป เมื่อเห็นเงาร่างสีเขียวที่อยู่กลางอากาศ ประกายครุ่นคิดพาดผ่านดวงตา
“ระยะห่างค่อนข้างมาก เห็นหน้าตาของเขาไม่ค่อยชัด ข้าจะไปดูก็แล้วกันขอรับ!” ผู้ฝึกวิชามารเอ่ย ก่อนจะเหาะไปทาง เงาร่างสีเขียวนั่น
เจ้าแห่งมารไม่ได้พูดอะไร เพียงจ้องมองเงาร่างสีเขียวอยู่อย่างนั้น แปลกใจที่คนคนนั้นกลับไม่กลัวแรงกดดันและสาย ยตาของเขาแม้แต่น้อย ซ้ำยังกล้าสบตาเขาตรงๆ ความรู้สึกแปลกๆ นี่ ถือเป็นเรื่องแปลกใหม่สำหรับเขาเช่นกัน
ขณะที่เจ้าแห่งมารกำลังจ้องพิจารณาเฟิ่งจิ่ว เฟิ่งจิ่วก็กำลังจ้องเขาเช่นกัน เพราะอยู่ห่างจึงมองเห็นใบหน้าของอี กฝ่ายไม่ชัด รู้แค่ว่าเขาสวมเสื้อคลุมสีดำ ไอมารแข็งแกร่งมาก เขายืนตระหง่านอยู่กลางอากาศตรงนั้น เพียงรัศมีพ พลังของเขาคนเดียวก็แผ่ปกคลุมกองทักผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างหลังได้แล้ว
แค่เห็นกลิ่นอายรอบตัวของเจ้าแห่งมาร เธอก็รู้แล้วว่าพลังของเขาไม่ได้อยู่ระดับจักรพรรดิเซียนแล้ว ก็จริง คน นที่เคยอยู่ในระดับจักรพรรดิเซียนเมื่อร้อยปีก่อน ร้อยปีต่อมาจะยังมีวรยุทธ์อยู่ในระดับเดิมได้อย่างไรกัน
เผลอเพียงแวบเดียว ก็เห็นประกายเยือกเย็นเส้นหนึ่งพุ่งเข้ามา เธอหรี่ตา ก็เห็นในมือผู้ฝึกวิชามารที่พุ่งมาทาง งเธอถืออาวุธวิเศษชิ้นหนึ่งไว้ อาวุธวิเศษชิ้นหนึ่งสะท้อนแสงแยงตาภายใต้แสงอาทิตย์
“เจ้าก็คือเฟิ่งจิ่ว!”
เสียงเหี้ยมเกรียมแฝงด้วยความตะลึงดังมา หลังจากที่เข้ามาใกล้ ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นเห็นใบหน้าของชายหนุ่มชุดเขียว วชัดเจนแล้ว จำได้ตั้งแต่แวบแรกว่าคนคนนี้ก็คือภูตหมอเฟิ่งจิ่ว
เพราะชื่อเสียงของเฟิ่งจิ่วโด่งดังขึ้นเรื่อยๆ อีกทั้งยังมีพลังแข็งแกร่ง ในหมู่สิบจอมมารของพวกเขามีคนตายในน้ ำมือของเธอหลายคน ด้วยเหตุนี้ คนที่เหลือเรียกได้ว่าระแวดระวังต่อเธอมากทีเดียว
เพียงแต่นึกไม่ถึง เฟิ่งจิ่วผู้นี้กลับกล้ามารนหาที่ตายด้วยตัวลำพังถึงที่นี่!
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว มองผู้ฝึกวิชามารคนนั้น กวาดมองผ่านเขา “เป็นข้าแล้วอย่างไร” ฝ่ามือพลิกเล็กน้อย กระบี่คมพยับ บปรากฏกลางฝ่ามือของเธอ “ในเมื่อเป็นหนึ่งในสิบจอมมาร อย่างนั้นข้าก็จะฆ่าเจ้าก่อนก็แล้วกัน!”
สิ้นเสียง เงาร่างที่เร็วดุจผีสางโฉบออกไปทันที เงาร่างสีเขียวไหวตัวออกไป เหมือนดั่งสายฟ้าที่พาดผ่านลงมา เร็ วจนน่าเหลือเชื่อ โดยเฉพาะประกายเยือกเย็นเส้นหนึ่งที่พุ่งออกมาจากกระบี่คมพยับในมือเธอ ยิ่งดุดันน่าพรั่นพรึ ง
“ฮ่าๆๆๆๆ! เฟิ่งจิ่วผู้ไม่รู้จักกลัวความตาย!” เขาแหงนหน้าหัวเราะเสียงดัง ดวงตาชั่วร้ายหรี่เล็กลง “เจ้าคิดว่าพลัง งของเจ้าแข็งแกร่งถึงขนาดไร้เทียมทานแล้วจริงๆ หรือ ข้าจะบอกเจ้าให้ อย่าว่าแต่วันนี้เจ้าอยู่ที่นี่เลย แม้ไม่อยู่ ที่นี่ นายท่านของข้าก็จะไปเอาชีวิตของเจ้าถึงที่อยู่ดี!
แต่ในเมื่อมาให้ข้าเจอแล้ว อย่างนั้นก็ไม่ต้องให้นายท่านของข้าเปลืองแรงลงมือเอง วันนี้ ข้าจะบั่นคอ…เจ้า!”
เขายังพูดไม่ทันจบ ที่ลำคอก็มีเลือดไหลออกมาเส้นหนึ่ง เขาเบิกตาโพลงอย่างไม่อยากเชื่อ แม้แต่ปากก็ยังอ้าค้า างไว้อย่างนั้น จ้องมองเฟิ่งจิ่วที่มาปรากฏข้างตัวเขาในพริบตาด้วยแววตาเหลือเชื่อระคนเคียดแค้นเจ็บใจ ไม่อยากเชื่ อเลย ตนเองกลับถูกฆ่าง่ายๆ เช่นนี้…
………………………………….
ตอนที่ 2466 เจ้าแห่งเผ่ามาร
เจ้าแห่งมารเห็นผู้ฝึกวิชามารคนนั้นยังไม่ทันลงมือก็ถูกชายหนุ่มชุดเขียวสังหารในกระบี่เดียวจากที่ไกลๆ นัยน์ ตาของเขาหดเล็กลง ประกายตื่นตะลึงพาดผ่านดวงตา
ผู้ฝึกวิชามารคนนั้นเป็นหนึ่งในสิบจอมมารใต้อาณัติของเขา พลังเป็นอย่างไรเขารู้ดี เดิมนึกว่าชายหนุ่มชุดเขี ยวคนนั้นจะต้องถูกเขาสังหารในครั้งเดียวแน่ แต่กลับนึกไม่ถึง คนที่ตายกลับเป็นคนของเขา
สามารถสังหารผู้ฝึกวิชามารใต้อาณัติเขาที่มีพลังระดับนี้ได้ในกระบี่เดียว ซ้ำคนคนนั้นยังอายุน้อยเพียงนั้น พ พริบตาเดียว เขาก็นึกถึงภูตหมอเฟิ่งจิ่วขึ้นมา เพียงแต่ภูตหมอเฟิ่งจิ่วมีพลังเช่นไรกันแน่ เหตุใดจึงสามารถสังหารห หนึ่งในสิบจอมมารภายใต้อาณัติของเขาได้ในพริบตาเดียว
ข่มความตกตะลึงในใจไว้ เขาหันไปส่งสัญญาณมือให้ผู้ฝึกวิชามารที่อยู่ข้างหลัง ให้พวกเขาบุกโจมตีสำนักดาราจักร ขณ ณะเดียวกัน เงาร่างของเขาโฉบไหวไปทางเฟิ่งจิ่วในชั่วพริบตา
เขาในชุดคลุมสีดำยืนเอามือไขว้หลัง หรี่ดวงตาสีแดงเลือดจ้องเงาร่างสีเขียวที่ชายเสื้อพลิ้วไหวไปตามสายลม น้ำ เสียงทุ้มต่ำเยือกเย็นเปล่งออกจากปากของเขา “เจ้าก็คือเฟิ่งจิ่ว?”
เขาจ้องเฟิ่งจิ่ว สีหน้ายากแท้หยั่งถึง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ดวงตาคู่นั้นจับจ้องมองเธออย่างพินิจพิจารณา า
เฟิ่งจิ่วถือกระบี่คมพยับชี้เฉียงลงพื้น เก็บงำกลิ่นอายทั้งตัว ไม่เผยระดับวรยุทธ์ของเธอออกมาแม้แต่น้อย แต่ถึงแม ม้อย่างนั้น กระแสอากาศที่ขับเคลื่อนอยู่รอบกายเธอก็ทำให้คนไม่อาจมองข้ามได้แล้ว
เธอไม่ได้ตอบคำถามของเจ้าแห่งมาร เพียงมองเขาแวบเดียว ดูจากระยะใกล้เช่นนี้ นอกจากเขามีดวงตาสีแดงเลือดคู่หนึ่ง ง ใบหน้าในตำนานที่สวมหน้ากากทำให้ไม่มีผู้ใดเห็นโฉมหน้าที่แท้จริงของเขา ยามนี้ได้ปรากฏออกมาแล้ว
นั่นเป็นใบหน้าที่มีอายุสามสิบสี่สิบปี หน้าตาไม่ได้โดดเด่นเป็นพิเศษ แต่กลับดูชั่วร้าย ยิ่งเมื่อประกอบกับดวงตา สีแดงเลือดคู่นั้น ยิ่งทำให้คนรู้สึกได้ถึงอันตราย
กระบี่คมพยับในมือพลิกหมุน เงาร่างของเธอพุ่งออกไปด้วยความเร็วปานสายฟ้า ปะทะเข้าไปพร้อมกับไอสังหารอันดุดัน พลังกระบี่อันแข็งแกร่งน่าครั่นคร้ามพวยพุ่งออกมาจากกระบี่คมพยับ ทว่า เจ้าแห่งมารกลับไร้ซึ่งความกลัว ตรงกันข้า าม เขาจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยรอยยิ้มสนุก
“คิดจะฆ่าข้า?”
สิ้นเสียง เขายกมือขึ้น เห็นเพียงกระแสอากาศขุมหนึ่งพุ่งออกมาจากมือของเขา ต้านทานกระบี่คมพยับของเฟิ่งจิ่วไ ไว้ได้อย่างง่ายดาย พลังกระบี่หยุดค้างอยู่กลางอากาศ ไม่อาจเข้าใกล้เขาได้อีกแม้แต่คืบเดียว
“เจ้าฆ่าข้าได้หรือ”
เอ่ยจบ เจ้าแห่งมารพลิกฝ่ามือกลับ กระแสพลังพันล้อมรอบกระบี่คมพยับ ออกแรงกระตุกหนึ่งครั้ง กระบี่คมพยับที่เฟ ฟิ่งจิ่วกำไว้ในมือหลุดลอยออกจากมือของเธอทันที
“ฟิ้ว!”
“ซี้ด!”
เสียงกระแสพลังอันดุดันแหวกอากาศดังขึ้น นั่นเป็นเสียงที่เกิดจากกระบี่คมพยับหลุดลอยออกไป ทว่ากระบี่คมพยับท ที่ลอยออกไปกลับแทงโดนผู้ฝึกวิชามารคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลัง ผู้ฝึกวิชามารที่ไม่ทันระวังตัวกุมแผลที่ถูกกระบี่ คมพยับแทง ขยับกลีบปากแต่สุดท้ายก็พูดอะไรไม่ออก ก่อนที่ร่างของเขาจะร่วงตกลงไปจากกลางอากาศ
เจ้าแห่งมารกลับไม่สนใจแม้แต่น้อย เหมือนการตายของผู้ฝึกวิชามารคนนั้นไม่ได้สำคัญสำหรับเขาเลยแม้แต่น้อย เวลานี้ ในสายตาของเขามีแค่เฟิ่งจิ่ว ดวงตาสีเลือดคู่นั้นเปล่งประกายเหมือนเวลาเจอเหยื่อที่น่าสนใจ
บางทีอาจเป็นเพราะไม่เคยมีใครกล้าสบตาเขาตรงๆ ไม่เคยมีใครเหมือนเธอที่ไร้ท่าทางเกรงกลัวเขา ฉะนั้น เขาสนใจเธอ อมาก เหมือนเจอเหยื่อที่น่าเล่นด้วยอย่างไรอย่างนั้น อยากจะจับเธอมาขังไว้ในกรงเพื่อเล่นด้วย
เทียบกับความสนอกสนใจของเขา เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้วเล็กน้อย เมื่อเธอควบคุมจิต กระบี่คมพยับที่หลุดลอยออกไปก็กลับมา อยู่ในมือของเธอ เพียงแต่กระบี่คมพยับที่อยู่ในมือเธอครั้งนี้ไม่ได้หลุดลอยออกไปง่ายๆ อีกแล้ว