เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2469 สู้เจ้าแห่งมารไม่ได้ / ตอนที่ 2470 สู้ไม่ได้
ตอนที่ 2469 สู้เจ้าแห่งมารไม่ได้
“เฟิ่งซิง? เจ้าแห่งหงส์ไฟ?”
ดวงตาสีเลือดคู่นั้นจ้องเฟิ่งจิ่วคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม เอ่ยว่า “หากเจ้าเป็นเฟิ่งซิง อย่างนั้นข้าก็คือตี้ซิง! สักวันใต้หล้านี้ต้องตกอยู่ในกำมือของข้า แม้แต่เจ้าก็เช่นกั น!”
สิ้นเสียง เขาโถมพุ่งเข้าไป การโจมตีของเขาไม่ได้หมายเอาชีวิต แต่เหมือนต้องการจับตัวเฟิ่งจิ่วมากกว่า แต่ทว่า เพราะเขาไม่ได้โจมตีด้วยกระบวนท่าสังหาร ทำให้เฟิ่งจิ่วที่ปะทะก กับเขาไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด เพียงแต่ยากจะทำให้เขาบาดเจ็บได้
ทั้งสองสู้กันไปสู้กันมา เพราะความต่างของพลัง เมื่อนานไปเฟิ่งจิ่วเริ่มตกเป็นรอง ครั้นเห็นเฟิ่งจิ่วเริ่มเป็นฝ่ายเสียเปรียบ ฮุ่นหยวนจื่อไม่รู้โผล่มาจากที่ใด เริ่มลอบโจมตีจา ากข้างหลัง
เจ้าแห่งมารสัมผัสได้ถึงไอสังหารที่พุ่งมาจากข้างหลัง หลบโดยสัญชาตญาณพร้อมกับซัดฝ่ามือออกไป ครั้นเห็นว่าเป็นชายชราคนหนึ่ง ดวงตาสีเลือดหรี่เล็ก เอ่ยเย้ยหยันด้วยน้ำเสียงเ เย็นเยียบ “เป็นถึงสำนักเซียนแต่กลับลอบโจมตี?”
“หึๆ ลอบโจมตีแล้วทำไม กับมารอย่างเจ้า ขอแค่สบโอกาสสังหารเสียก็ถือเป็นการกำจัดภัยใหญ่หลวงให้กับใต้หล้านี้!” ฮุ่นหยวนจื่อแค่นยิ้ม สองฝ่ามือหมุนวนอยู่กลางอากาศ ภาพกร ระดานฟ้าดินแปดทิศปรากฏกลางฝ่ามือ เขาหันไปตะโกนบอกเฟิ่งจิ่ว “แม่หนูเฟิ่ง พวกเราร่วมมือกัน! หายากที่เจ้าตัวประหลาดจะออกจากรัง วันนี้แม้จะฆ่าเขาไม่ได้ ก็ต้องตัดแขนเขาทิ้งส สักข้างให้ได้!”
ได้ยินอย่างนั้น ดวงตาของเฟิ่งจิ่วส่องประกาย เธอไม่ได้พูดอะไร เพียงลงมือโดยตรง ขณะที่กระบี่ยาวในมือกวัดแกว่ง ไม่มีใครสังเกตเห็น และไม่มีใครรู้สึกได้ ผงสีขาวกระจายออกไปกล ลางอากาศตามแขนเสื้อของเธอที่สะบัดไหวไปตามลม…
เฟิ่งเยี่ยที่ตามหลังไป๋เสี่ยวมามองดูการต่อสู้ในสำนักเซียนเบื้องล่างนั่น ก่อนจะหันไปดูเฟิ่งจิ่วที่กำลังสู้กับเจ้าแห่งมาร ดวงตาเล็กๆ ขมวดเข้าหากันเป็นก้อนเดียว
“เจ้าแห่งมารผู้นั้นแข็งแกร่งขนาดนั้น หลานสาวของข้าจะสู้เขาได้ที่ไหน หากถูกจับจะทำอย่างไร”
มนุษย์ตัวน้อยทำหน้ากังวล เขาดูไม่ออกว่าวรยุทธ์ของทั้งสองอยู่ในระดับใด แต่ไป๋เสี่ยวที่อยู่ข้างๆ บอกว่าวรยุทธ์ของหลานสาวของเขาอยู่ในระดับจักรพรรดิเซียนแล้ว ต้องรู้ว ว่าสำหรับเขาระดับจักรพรรดิเซียนถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว แต่ไป๋เสี่ยวยังบอกอีกว่า พลังของเจ้าแห่งมารนั่นแข็งแกร่งยิ่งกว่า อยู่เหนือระดับจักรพรรดิเซียน ครั้นได้ยินอย่างนั้น สีหน้าของเขาก็ดูแย่ลงทันที
เจ้าแห่งมารมีดวงตาสีแดงเลือด ไอมารและไอสังหารทั้งตัวรุนแรงมาก แม้แต่เขาที่ดูอยู่จากที่ไกลๆ ยังสัมผัสได้ถึงไอมารที่ทำให้รู้สึกอึดอัดนั่น แต่หลานสาวของเขากลับต้องสู กับเจ้าแห่งมารโดยตรง เวลานี้เขาอดกังวลไม่ได้ หากแพ้แล้วจะทำอย่างไรดี
ไป๋เสี่ยวก็กังวลเช่นกัน เพียงแต่เพื่อไม่ให้เฟิ่งเยี่ยเป็นห่วง เขาได้แต่ปลอบว่า “ไม่ต้องเป็นห่วง เฟิ่งจิ่วยังมีสัตว์เทวะโบราณที่เก่งกาจมากอยู่อีกหนึ่งตัว อีกอย่าง นางย ยังเคยสังหารผู้แข็งแกร่งข้ามระดับได้ภายในพริบตา แม้จะแพ้เจ้าแห่งมาร เจ้าแห่งมารนั่นก็ต้องไม่ได้ดีไปกว่ากันมากอย่างแน่นอน”
“พูดถึงที่สุดแล้วอย่างไรก็อาจจะแพ้ใช่หรือไม่” เฟิ่งเยี่ยขมวดใบหน้าน้อยๆ มองทั้งสามคนที่กำลังสู้กันอยู่กลางอากาศ ชายชราที่เข้าไปร่วมวงด้วยทีหลังดูเหมือนจะมีพลังแข็งแกร่ง มากเช่นกัน เพียงแต่ ทั้งสองคนร่วมมือกันก็ยังไม่อาจพลิกกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบ เขาอดเป็นห่วงไม่ได้ สุดท้ายผลจะออกมาเป็นอย่างไรกันแน่
“เอ่อ…”
ไป๋เสี่ยวอ้าปากค้าง ไม่รู้จะพูดอย่างไรกับเขาดี แน่นอนว่าเขาไม่ก็ไม่อยากให้เฟิ่งจิ่วแพ้เจ้าแห่งมาร แต่ดูจากสถานการณ์แล้วกลับยากจะตัดสินนัก
โดยเฉพาะยิ่งเมื่อเขารู้ว่าท่ามกลางคนทั้งหมดที่นี่ คนเดียวที่สามารถสู้กับเจ้าแห่งมารได้ ก็มีแค่นางคนเดียว ไม่ใช่ทุกคนจะเหมือนกับฮุ่นหยวนจื่อที่เข้าไปช่วยโดยไม่ห่วงชีวิต ตของตนเองเช่นนั้น
เวลานี้ เขาอดคิดไม่ได้ หากเซวียนหยวนโม่เจ๋ออยู่ที่นี่ก็คงดี…
………………………………….
ตอนที่ 2470 สู้ไม่ได้
สำนักดาราจักรพลิกสถานการณ์กลับมาเป็นฝ่ายชนะได้เพราะมีผู้ฝึกตนกลุ่มนั้นเข้ามาช่วย ตอนนี้พวกเขาสามารถควบคุมสถานการณ์ได้แล้ว ทว่าทางเฟิ่งจิ่วกับฮุ่นหยวนจื่อ แม้ทั้งสองจะร่ วมมือกันก็ยังไม่อาจพลิกเป็นฝ่ายได้เปรียบ โดยเฉพาะเจ้าแห่งมารเหมือนกำลังปั่นหัวพวกเขาเล่น ทั้งที่สามารถใช้กระบวนท่าสังหารได้ แต่กลับไม่ทำ ดูจนคนที่เหลือไม่เข้าใจว่าเขา ต้องการอะไรกันแน่
ชางฉิงเมื่อเห็นทางเฟิ่งจิ่วเริ่มสู้เจ้าแห่งมารไม่ได้ รีบเหาะเข้าไปหมายจะช่วยเหลือ แต่เขายังไม่ทันเข้าใกล้เจ้าแห่งมาร ก็เห็นเจ้าแห่งมารที่เดิมทีกำลังจ้องเฟิ่งจิ่วหรี่ตา หันกลับมาซัดฝ่ามือมาทางชางฉิง ครั้นฝ่ามือพลิกหมุน กระแสพลังสีดำขุมหนึ่งกลายเป็นหมอกควันสีดำรูปหมาป่า พาเอาพลังอันดุดันแข็งแกร่งโถมกระโจนใส่ชางฉิง
ขณะเดียวกัน ไอสังหารท่วมท้นและแรงกดดันอันแข็งแกร่งแผ่ปกคลุมออกไป ตรึงร่างของชางฉิงที่กำลังพุ่งเข้ามาให้แน่นิ่งอยู่กลางอากาศ
“ระวัง!”
เฟิ่งจิ่วตะโกน เห็นการโจมตีของเจ้าแห่งมารเต็มไปด้วยไอสังหารท่วมท้น เธอรู้ว่าหากชางฉิงโดนโจมตีครั้งนี้ เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน!
แต่ทว่า เธอที่อยู่ทางนี้หากคิดจะไปช่วยเขาก็คงไม่ทันแล้ว หนึ่งเพราะความเร็วไม่พอ สองเพราะแม้จะพุ่งเข้าไปก็เกรงว่าจะต้านทานพลังนั้นไม่ไหว
ด้วยเหตุนี้ เธอจึงตะโกนเสียงเกรี้ยว “หงส์ไฟ!”
เสียงเย็นใสแฝงไว้ด้วยแรงกดดันเทวะโบราณเปล่งออกมาในเวลานี้ สิ่งที่ปรากฏตัวออกมาพร้อมกับเสียงของเธอก็คือสัตว์เทวะโบราณหงส์ไฟ หงส์ไฟที่ออกมาจากห้วงมิติของเธอส่งเสียงหวี ดร้อง สยายปีกกระพือขึ้นกลางอากาศ มันไม่ได้พุ่งเข้าไป เพียงแต่กระพืออยู่กลางท้องฟ้า สายลมแรงเส้นหนึ่งพุ่งออกไป ต้านทานการโจมตีของเจ้าแห่งมารไว้ได้อย่างทันท่วงที
ขณะเดียวกัน ชางฉิงที่ถูกตรึงร่างแน่นิ่งก็ถูกมันกระพือปีกพัดร่างให้ลอยห่างออกไปหลายจั้ง เพื่อหลบแรงกดดันของเจ้าแห่งมารด้วย
“อึก!”
ชางฉิงร้องครวญ รู้สึกถึงรสชาติเค็มฝาดในลำคอ กลิ่นคาวเลือดสายหนึ่งกระจายไปทั่วปาก เขาหยัดยืนอย่างมั่นคงก่อนจะยกมือขึ้นกุมหน้าอก เงยหน้ามองหงส์ไฟที่อยู่กลางอากาศแวบหนึ่ง ก่อนจะหันไปมองเจ้าแห่งมารที่ไอสังหารพวยพุ่งด้วยสีหน้าหนักอึ้ง ในใจราวกับมีคลื่นลูกใหญ่ซัดโถมอย่างรุนแรง
หากไม่ได้สัตว์เทวะโบราณตัวนั้นผลักเขาออกมา เกรงว่าหากเขาถูกหมาป่าสีดำที่เจ้าแห่งมารซัดใส่เขาโจมตีเข้า เขาจะต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยแน่นอน
นึกถึงว่าด้วยพลังของเขากลับไม่อาจขยับตัวได้สักนิดเมื่อตกอยู่ภายใต้แรงกดดันของเจ้าแห่งมาร หัวใจของเขาตะลึงพรึงเพริด สมแล้วที่เป็นเจ้าแห่งมารของเผ่ามาร พลังของเขาเหนือ อกว่าทุกคนที่อยู่ที่นี่ไปไกลมาก
แม้ว่าตอนนี้มีเหล่าผู้ฝึกตนหลายคนคอยคุ้มกันสำนักดาราจักรอยู่ แต่ขอเพียงอีกฝ่ายกมีใจจะทำลาย ด้วยระดับวรยุทธ์ของเขา แม้จะมีผู้ฝึกตนอย่างพวกเขามาช่วยอีกกลุ่มก็เกรงว่าจะ ะไม่อาจหยุดยั้งเจ้าแห่งมารไม่ให้ทำลายสำนักเซียนได้
ครั้นเห็นชางฉิงถูกหงส์ไฟช่วยให้หลบการโจมตีถึงชีวิตครั้งนั้นได้ เฟิ่งจิ่วลอบถอนหายใจ นัยน์ตาสุกใสจับจ้องไปที่ชางฉิง เอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เจ้าไม่ต้องเข้ามา คนอื่นล้ วนไม่ต้องเข้ามา พวกเจ้าล้วนไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา”
เธอรู้ดี ไม่ว่าใครเข้ามาก็ล้วนเหมือนกัน เหล่าผู้ฝึกเซียนของเธอไม่ได้มีพลังมากพอจะสู้กับเจ้าแห่งมารได้ หากเข้ามาช่วย เดาว่ามีแต่จะต้องพบกับจุดจบแห่งความตายเท่านั้น
“แค่ผู้ฝึกตนธรรมดาคนหนึ่ง เจ้าก็เป็นห่วงความเป็นความตายของเขาขนาดนี้เชียว?” เจ้าแห่งมารได้ยินคำพูดของเฟิ่ง และเห็นท่าทางเป็นห่วงของเธอ จึงมองเธออย่างประหลาดใจ นัยน์ตาสี เลือดมีประกายมืดหม่นพาดผ่าน สีหน้าแปลกๆ ไม่รู้กำลังคิดสิ่งใดอยู่