เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2473 ทะลวงขั้นอีกครั้ง / ตอนที่ 2474 จิตใจเหมือนลูกธนูที่หลุดจากแล่ง
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2473 ทะลวงขั้นอีกครั้ง / ตอนที่ 2474 จิตใจเหมือนลูกธนูที่หลุดจากแล่ง
ตอนที่ 2473 ทะลวงขั้นอีกครั้ง
เหล่าผู้ฝึกตนถอยออกไป หงส์ไฟกระพือปีกเข้าไปโจมตี อ้าปากกว้าง เปลวไฟขุมหนึ่งถูกพ่นออกไป เจ้าแห่งมารหลบเลี่ยงไม่ทัน เสื้อคลุมสีดำถูกเผาไหม้ เขาใช้ฝ่ามือแทนดาบฟันชายเสื้อที่ติดไฟทิ้งทันที
ครั้นเห็นเปลวเพลิงที่หงส์ไฟพ่นออกมากลายเป็นกระพลังพุ่งเข้ามา ฝ่ามือของเขามีกลิ่นอายสีดำขุมหนึ่งกระจายออกมา ห่อหุ้มเปลวไฟสายนั้นไว้ จากนั้นก็ซัดเปลวเพลิงลูกนั้นออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้า
“วูบ!”
“ฟิ้ว!”
เปลวเพลิงพุ่งออกไปกลางอากาศ หงส์ไฟเห็นก็รีบหลบ แต่กลับนึกไม่ถึงว่าตอนที่มันคิดจะหลบการโจมตี มือของเจ้าแห่งมารกลับมาถึงตัวมัน และกระชากขนนกของมันไปหนึ่งกำมือ…
“ซี้ด!”
หงส์ไฟสูดปาก เห็นเพียงเจ้าแห่งมารโปรยขนนกของมันทิ้งกลางอากาศ ขนนกไฟลอยละล่องอยู่กลางอากาศ มองดูจนมันตะลึงตาค้าง ก่อนจะเดือดดาลขึ้นมา
“กล้าดึงขนของข้า? มีอย่างนี้เสียที่ไหนกัน!”
หงส์ไฟฉุนเฉียวขึ้นมาแล้ว มันที่ถูกกระตุ้นโทสะพุ่งไปทางเจ้าแห่งมารทันที คนรอบๆ มองดูหนึ่งสัตว์ร้ายหนึ่งจอมมารโรมรันพันตีกันอยู่ตรงนั้นจากที่ไกลๆ ท่ามกลางอากาศ เต็มไปด้วยกระแสพลังของพวกเขาที่ป่วนพล่านอยู่
ขณะที่กำลังสู้กับหงส์ไฟ เจ้าแห่งมารถูกพุ่งชนหลายครั้ง เสื้อคลุมสีดำของเขาค่อยๆ ฉีกขาด เผยให้เห็นเสื้อผ้าข้างใน
เห็นหงส์ไฟสู้กับเจ้าแห่งมาร เฟิ่งจิ่วเม้มปาก พลันบังเกิดความคิด กระบี่คมพยับพุ่งแหวกอากาศกลับมาอยู่ในมือเธออีกครั้ง มือข้างหนึ่งของเธอห้อยข้างลำตัว อีกข้างหนึ่งกระชับกระบี่คมพยับเข้าร่วมการต่อสู้
ครั้งนี้ ไม่มีใครไปห้ามอีก เพียงยืนดูอยู่เงียบๆ แม้ในใจจะเจ็บปวดอย่างมาก
แม้ว่านางจะแกร่งอีกเพียงใด ก็เป็นเพียงหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ตอนนี้ พวกเขากลับต้องให้ผู้หญิงคนหนึ่งมาปกป้องพวกเขา…
แต่ทว่า ไม่นาน พวกเขาก็ค้นพบบางสิ่งที่ผิดปกติ แต่ละคนพลันตื่นตัวขึ้นมา อุทานออกมาว่า “พวกเจ้าดู กลิ่นอายพลังเร้นลับบนตัวเฟิ่งจิ่วเหมือนกำลังเปลี่ยนไป?”
“ไม่เพียงกลิ่นอายพลังเร้นลับ แม้แต่กลิ่นอายพลังวิญญาณก็เหมือนกัน ดูเหมือนนางกำลังจะทะลวงขั้นอีกแล้ว” ฮุ่นหยวนจื่อกระตุกหนวดด้วยความตะลึง จ้องเฟิ่งจิ่วอย่างนิ่งอึ้ง รู้สึกเพียงเหลือเชื่อ
นางเพิ่งเข้าสู่ระดับจักรพรรดิเซียนนานแค่กันเชียว? แล้วนี่จะทะลวงขึ้นอีกแล้ว?
สิ้นเสียงของพวกเขา ก็เห็นชั้นเมฆกลางท้องฟ้าเริ่มแปรปรวน พยับเมฆก้อนหนึ่งบดบังท้องฟ้ากว่าครึ่งผืน เสียงสายฟ้าก่อตัวดังครืนๆ พวกเขาเห็นเพียงกระบี่ยาวในมือเฟิ่งจิ่วชี้ไปบนท้องฟ้า สายฟ้าเส้นหนึ่งฟาดลงไปที่กระบี่คมพยับในมือของเฟิ่งจิ่ว
เมื่อกระบี่พุ่งโจมตีออกไป อานุภาพอันทรงพลังของสายฟ้าเส้นนั้นจู่โจมไปที่เจ้าแห่งมาร เจ้าแห่งมารที่นึกไม่ถึงว่านางจะสามารถดึงพลังของผืนฟ้าและแผ่นดินมาใช้ถูกโจมตีเสียงดังเปรี้ยง คนทั้งคนกระเด็นออกไปไกลหลายจั้ง…
“เปรี้ยง!”
“เปรี้ยง!”
เสียงสายฟ้าฟาดดังขึ้นสองครั้ง ดังกัมปนาทราวกับผ่าลงมาจากสวรรค์เก้าชั้น สะท้านสะท้านจนผืนดินสั่นไหว สายฟ้าสองเส้นนั้นฟาดลงไปมาที่เฟิ่งจิ่วติดๆ กัน กลิ่นอายพลังเร้นลับอันแข็งแกร่งกระจายออกไป เฟิ่งจิ่วที่ตอนแรกกำลังโจมตีเจ้าแห่งมารหลับตาลง ยืนนิ่งกลางอากาศ ทนรับการฝึกฝนอันโหดเหี้ยมจากสายฟ้าอยู่เช่นนั้น
“ซี้ด! นี่นางทะลวงขั้นระหว่างการต่อสู้งั้นหรือ”
คนในสำนักต่างก็สูดหายใจด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด ทว่าสิ่งที่ทำให้ตะลึงยิ่งกว่ากลับเป็นเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้นต่อจากนี้
พอพวกเขาเห็นพลังที่เฟิ่งจิ่วปลดปล่อยออกมาอย่างไร้ขีดจำกัด ก็อดอุทานออกมาไม่ได้ “อัจฉริยะก็คืออัจฉริยะ มีแค่อัจฉริยะระดับนี้เท่านั้นละ ถึงจะมีสิทธิ์ถูกขนานนามว่าภูตหมอเฟิ่งจิ่ว…
………………………………….
ตอนที่ 2474 จิตใจเหมือนลูกธนูที่หลุดจากแล่ง
“นางคือผู้หยั่งรู้บริสุทธิ์ ผู้ฝึกพลังเร้นลับที่ระดับเหนือกว่าเทพนักรบ?” ฮุ่นหยวนจื่อพึมพำอย่างเหลือเชื่อ มองเฟิ่งจิ่วที่ทั่วทั้งตัวเต็มไปด้วยประกายรัศมีอันเจิดจ้า ได้แต่อึ้งงันจนพูดไม่ออก
เวลานี้แม้นางจะสะบักสะบอมไปทั้งตัว เสื้อสีเขียวบนตัวเต็มไปด้วยรอยเลือด ดูจากที่ไกลๆ เหมือนดอกท้อมากมายที่ผลิบาน มือข้างนั้นห้อยลู่ข้างลำตัว แต่ในเวลานี้เอง หลังจากผ่านการฝึกฝนอย่างโหดเหี้ยมจากสายฟ้าเส้นที่สาม กระดูกและเส้นเอ็นทั่วทั้งตัวของเธอราวกับถูกต่อเข้าด้วยกันใหม่อีกครั้ง
แม้แต่แขนข้างที่ถูกหัก เวลานี้ราวกับมีประกายแสงเส้นหนึ่งไล้ผ่านช้าๆ ต่อกระดูกที่หักเข้าด้วยกันใหม่
เฟิ่งจิ่วขยับแขนที่ถูกหัก เธอก้มหน้าเล็กน้อย มองดูประกายแสงเส้นนั้นที่รักษาแขนที่หักของเธอให้หาย ได้ยินเสียงเหมือนกระดูกกำลังสมานตัวกันดังกร๊อบแกร๊บรางๆ
“ข้าไม่เชื่อว่ากระบี่คมพยับในมือข้าจะทำอะไรเจ้าไม่ได้เลยแม้แต่น้อย!”
เมื่อรู้สึกว่ามือสามารถขยับได้ น้ำเสียงอันเย็นชาของเฟิ่งจิ่วดังขึ้นพร้อมกับไอสังหาร เธอจ้องเจ้าแห่งมาร ขว้างกระบี่คมพยับลงไปข้างล่าง พริบตาเดียว กระบี่คมพยับแยกร่างออกไปกลายเป็นกระบี่ที่มีรูปร่างเหมือนกันหลายสิบเล่ม ลอยวนอยู่เหนือศีรษะของเธอ
มือของเธอพลิกหมุนอย่างรวดเร็ว กระบี่ที่หมุนวนอยู่เหนือหัวเธอเหล่านั้นพุ่งออกไปเมื่อเธอตะโกนสั่ง ได้ยินเพียงเสียงวูบ เปลวเพลิงลุกไหม้ กระบี่หลายสิบเล่มผสานกันเป็นค่ายกลกระบี่พุ่งโจมตีเข้าไป
เจ้าแห่งมารขมวดคิ้วเล็กน้อย โบกมือหมายจะใช้พลังสีดำต้านทานไว้ แต่กลับพบว่า เปลวเพลิงที่อาบกระพี่คมพยับพุ่งทะลุผ่านไอพลังสีดำ และเมื่อเปลวเพลิงกับกระบี่คมพยับทะลุผ่าน ไอพลังสีดำเหล่านั้นก็จางหายไปในพริบตา…
เจ้าแห่งมารนึกไม่ถึงว่าเฟิ่งจิ่วจะรับมือยากเพียงนี้ เดิมทีเขายังออมมือ แต่ตอนนี้เมื่อเห็นท่าไม่ดี เขาก็ลงมืออย่างไร้ความปรานี แต่ละกระบวนท่าเต็มไปด้วยจิตสังหาร!
“ในเมื่อเจ้ายืนหยัดจะไม่ไปกับข้า อย่างนั้นข้าก็จะทำให้เจ้าพิการ! และขังเจ้าไว้ทั้งเป็นเสีย!” เสียงอันเย็นเยียบนั่นเต็มไปด้วยเหี้ยมเกรียม มือข้างหนึ่งกลายเป็นกรงเล็บคว้าไปที่เฟิ่งจิ่ว ตั้งใจจะทำให้เฟิ่งจิ่วพิการ และไร้หนทางหนี!
แต่นึกไม่ถึง เฟิ่งจิ่วหลบเลี่ยงได้อย่างรวดเร็ว ทั้งสองปะทะกันกลางอากาศอีกสิบกว่ากระบวนท่า กระทั่งเธอถูกเขาซัดปลิวออกไปเพราะหลบไม่ทัน
“ปึง!”
“พรืด!”
เสียงกระแทกอย่างแรงดังขึ้น เฟิ่งจิ่วกระอักเลือดถลาลอยไปข้างหลังอย่างเสียศูนย์ โชคดีพวกฮุ่นหยวนจื่อที่อยู่ข้างหลังประคองเธอไว้
“สู้ต่อไปไม่ได้แล้ว!”
ฮุ่นหยวนจื่อจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยสีหน้าหนักใจ “หากสู้ต่อไปร่างกายเจ้าจะทนรับไม่ไหว อีกอย่าง สู้ต่อไปอย่างนี้ก็ตัดสินแพ้ชนะไม่ได้อยู่ดี! ตอนนี้เขาหมายตาเจ้า เรื่องสำนักดาราจักรเจ้าไม่ต้องสนใจแล้ว รีบไปเสียเถอะ!”
เดิมทีเขานึกว่าเฟิ่งจิ่วจะต้องรับมือเจ้าแห่งมารได้แน่ แต่นึกไม่ถึงว่าเจ้าแห่งมารที่มีวรยุทธ์ระดับจักรพรรดิเซียนตั้งแต่ร้อยปีก่อน ยามนี้พลังจะแข็งแกร่งขึ้นขนาดนี้
เฟิ่งจิ่วถูกฝ่ามือซัดจนรู้สึกเจ็บที่หน้าอก เธอกุมหน้าอกร้องครวญ เอ่ยว่า “รับไม่ไหวก็ต้องสู้! หากข้าหยุดแค่นี้ เขาจะยิ่งไม่ยอมรามือ!”
สำหรับเจ้าแห่งมาร ความเป็นความตายของคนอื่นไม่เกี่ยวกับเขา แม้ผู้ฝึกวิชามารที่เป็นลูกน้องเขาตายไปก็ไม่ต่างกัน ไม่อาจทำให้เขาสะเทือนได้แม้แต่น้อย
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วที่กำลังสู้กับเจ้าแห่งมารไม่รู้เลยว่า ห่างจากที่นี่ไม่ไกล เงาร่างสีดำร่างหนึ่งกำลังยืนเอามือไขว้หลังอยู่บนกระบี่บิน มุ่งหน้ามาทางนี้
เสื้อคลุมสีดำพลิ้วสะบัด ดวงหน้างดงามแข็งกร้าวแสดงออกถึงจิตใจที่ร้อนรนดั่งลูกธนูที่หลุดจากแล่งอย่างปิดไม่มิด หากเฟิ่งจิ่วเห็น นางจะจำได้ทันทีว่าคนผู้นี้ก็คือเซวียนหยวนโม่เจ๋อ คนที่นางไม่ได้เจอและไร้ข่าวคราวของเขามาหนึ่งปีกว่าแล้วนั่นเอง…
………………………………….