เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2489 เลือกวันกลับบ้าน / ตอนที่ 2490 เจ้าใส่ใจมาก
ตอนที่ 2490 เจ้าใส่ใจมาก
เหล่าไป๋ที่ออกมาจากห้วงมิติเห็นไป๋เสี่ยวก็รีบพ่นจมูกอย่างรังเกียจรังงอน มันกระโจนขึ้นสูงหมายจะไปหาเฟิ่งจิ่ว ทว่า ยังไม่ทันเข้าใกล้ก็ถูกเซวียนหยวนโม่เจ๋อกระชากหางโยนออ อกไปก่อนแล้ว
“เจ้าสารเลวคนไหน…” คำด่ายังพูดไม่ทันจบ ครั้นหันกลับไปก็เห็นใบหน้าเย็นชาจับใจของเจ้าตำหนักยมราชผู้นั้น มันตกใจจนต้องหดตัว รีบกระโดดไปหลบข้างหลังไป๋เสี่ยวทันที
“เสี่ยวไป๋ๆ ไม่ได้เจอกันนานเลย” มันฉีกยิ้มอย่างเก้อๆ เผยให้เห็นแถบฟันสีขาวเรียงสวย
เซวียนหยวนโม่เจ๋อตวัดมองมันแวบหนึ่ง ก่อนจะไม่สนใจมันอีก แต่หันไปมองเฟิ่งจิ่ว “จะไปเยี่ยมฮุ่นหยวนจื่อไม่ใช่หรือ ข้าไปกับเจ้าก็แล้วกัน!”
“ดี” เธอยิ้ม หันไปบอกพวกเขาประโยคหนึ่ง ให้หนิงหลางนำทางเพียงคนเดียว ส่วนที่เหลือก็อยู่ที่นี่
ฮุ่นหยวนจื่อถูกเจ้าแห่งมารทำร้ายจนบาดเจ็บไม่น้อย โชคดีที่ยาของเฟิ่งจิ่วรักษาชีพจรหัวใจของเขาไว้ได้ กอปรกับการรักษาของนักปรุงยาในสำนัก ผ่านไปหนึ่งคืน แม้ยังนอนอยู่ บนเตียง แต่อย่างน้อยก็ไม่มีอันตรายถึงชีวิตแล้ว
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเดินมาหยุดอยู่ด้านหน้าถ้ำของฮุ่นหยวนจื่อพร้อมกับเฟิ่งจิ่ว “เจ้าเข้าไปเถอะ! ข้ารอเจ้าอยู่ข้างนอก”
“ได้” เฟิ่งจิ่วรับ ก่อนพูดกับหนิงหลางว่า “เจ้านั่งเป็นเพื่อนเขาสักครู่ อีกเดี๋ยวข้าก็ออกมาแล้ว” เอ่ยจบ ก็เดินเข้าไปข้างใน
“ตาเฒ่า ข้ามาเยี่ยมท่านแล้ว” เฟิ่งจิ่วเดินเข้ามาในถ้ำแล้วตะโกนเรียก ก่อนที่จะได้ยินเสียงร้องโอดครวญดังขึ้นในถ้ำที่เดิมทีเงียบกริบไร้เสียง
“โอย เจ็บจะตายอยู่แล้ว โอย กระดูกแก่ๆ ของข้าจะหลุดออกจากกันอยู่แล้ว”
ฮุ่นหยวนจื่อที่อยู่บนเตียงร้องครวญคราญอยู่บนเตียงในสภาพหมดแรง แอบเหลือบมองข้างนอกเป็นระยะ พอเห็นเฟิ่งจิ่วเดินเข้ามา ก็รีบหลับตาแล้วร้องครวญต่อ
ได้ยินเสียงนั้น เฟิ่งจิ่วยิ้ม “เอาละ ไม่ต้องร้องแล้ว ข้าได้ยินหนิงหลางบอกว่าท่านดีขึ้นมากแล้ว” เธอเดินมาที่ข้างเตียง จับชีพจรให้เขา ไม่นานก็วางลง ยิ้มเอ่ยว่า “ข้า รู้อยู่แล้วว่าท่านไม่ตายง่ายๆ หรอก พักฟื้นสักช่วงก็กลับมากระโดดโลดเต้นและออกไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นได้เหมือนเดิมแล้ว”
ตาเฒ่าถลึงตา “หมายความว่าอย่างไรที่ว่าออกไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น ข้าเคยไปสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นเสียที่ไหน แม่หนูปากเสียอย่างเจ้านี่ ข้าบาดเจ็บจนต้องนอนติดเตียง งขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้จักพูดจาดีๆ เพื่อปลอบขวัญข้าสักนิด ช่างแล้งน้ำใจยิ่งนัก”
“เอาละๆๆ ข้าแล้งน้ำใจเอง” เธอยิ้ม ก่อนหยิบยาขวดหนึ่งออกมา “คนแล้งน้ำใจเอายามาให้ท่านแล้ว ท่านจะเอาหรือไม่เอาล่ะ”
ตาเฒ่าเห็นก็รีบยื่นมือไปรับมาซ่อนไว้ใต้ผ้าห่ม “ไม่เอาก็เสียเปล่าสิ!” พูดจบ เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนกล่าวอีกว่า “ข้ายังมีเรื่องจะถามเจ้า”
เฟิ่งจิ่วพยักหน้า “ท่านถามมาเถอะ!”
สองคนในถ้ำกำลังพูดคุยกัน ด้านนอก แม้หนิงหลางจะนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดียวกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อหน้าถ้ำ แต่ก็ไม่ได้สั่งให้ศิษย์ชั้นล่างยกน้ำชาหรือขนมว่างมากินฆ่าเวลาแต่อย่าง งใด ทั้งสองนั่งเฉยๆ อยู่อย่างนั้น โดยเฉพาะเมื่อต้องนั่งอยู่ต่อหน้าคนที่มีราศีแข็งแกร่งอย่างเซวียนหยวนโม่เจ๋อ ทำให้เขานั่งไม่สุขจริงๆ
หนิงหลางเห็นว่าพวกเขาสองคนนั่งอยู่เฉยๆ อย่างนี้ ไม่พูดคุยอะไรกันแม้แต่ครึ่งประโยค จึงถามขึ้นว่า “เจ้าตำหนัก ธุระที่นอกมหาสมุทรสะสางเสร็จแล้วหรือ ต่อไปยังต้องไปอีกหรือไ ไม่”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนถามด้วยน้ำเสียงเฉยชา “เจ้าใส่ใจมาก?”
“ฮะๆ…”
หนิงหลางยิ้มแห้งๆ รีบโบกมือ “ก็ไม่ใช่อย่างนั้น เพียงแต่ข้าเห็นว่าท่านออกเดินทางทีก็ไปนานมาก หากไม่ต้องเดินทางไปไกลบ่อยๆ และอยู่กับเฟิ่งจิ่วมากๆ ได้ก็คงดี”