เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2491 ไปไหนแล้ว / ตอนที่ 2492 วางใจ
ตอนที่ 2491 ไปไหนแล้ว
เซวียนหยวนโม่เจ๋อนัยน์ตาไหวระริก หันมองเข้าไปในถ้ำ น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยอย่างแช่มช้าว่า “ต่อไปข้าจะอยู่กับนางให้มากๆ”
หนิงหลางเกาหัว เขาไม่ใช่ซ่งหมิง ไม่มีเรื่องให้สนทนามากมายขนาดนั้น โดยเฉพาะกับก้อนน้ำแข็งเช่นนี้ ยิ่งไม่มีอะไรจะคุยด้วย
เขาเงียบ คอยชะเง้อคอมองเข้าไปในถ้ำเป็นระยะ รอนานจนแทบจะขาดใจตายแล้ว ที่แท้การอยู่ตามลำพังกับเจ้าตำหนักยมราชก็น่ากลัวขนาดนี้ ไม่รู้จริงๆ ว่าเฟิ่งจิ่วชอบคนอย่างนี้ได้เช่นไร
“คือว่า อะแฮ่ม ท่านนั่งอยู่นี่ก่อน ข้าไปห้องน้ำสักครู่” เขาลุกขึ้นอย่างเก้ๆ กังๆ รู้สึกว่านั่งต่อไปไม่ไหว บรรยากาศชวนอึดอัดเกินไปแล้ว
เซวียนหยวนโม่เจ๋อไม่มองเขาด้วยซ้ำ เพียงรับคำว่า “ไปเถอะ!”
หนิงหลางพ่นลมหายใจเหมือนยกก้อนหินออกจากอก ก่อนจะรีบจากไปอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่นาน ครั้นเฟิ่งจิ่วเดินออกมาจากถ้ำของตาเฒ่า เห็นเพียงเซวียนหยวนโม่เจ๋อนั่งอยู่ตรงนั้นลำพัง ก็อดประหลาดใจไม่ได้ “หนิงหลางเล่า” เธอหันไปมองรอบๆ ก็ไม่เห็นเงาร่างของหนิงหลาง
“ไปแล้ว” เซวียนหยวนโม่เจ๋อตอบ ลุกขึ้นเดินไปหาเธอ “อาจเพราะนั่งกับข้าแล้วอึดอัด บอกว่าจะไปห้องน้ำ จากนั้นไปแล้วก็ไม่กลับมาอีก” พูดมาถึงตรงนี้ มุมปากของเซวียนหยวนโม่เจ๋อหยักยกเล็กน้อย เขาเองก็รู้สึกขบขันเช่นกัน
เฟิ่งจิ่วได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ “ท่านอย่าว่าไป หนิงหลางก็เป็นคนเช่นนี้แหละ” เธอโอบแขนของเขา พูดว่า “พวกเราไปเดินเล่นในสำนักดาราจักรกันดีกว่า”
“เจ้าคิดจะรอพี่ชายของเจ้าอยู่ที่นี่หรือ” เซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม
“พวกเขาเล่าให้ท่านฟังแล้วหรือ”
เธอยักคิ้ว เห็นเขาพยักหน้าเล็กน้อยก็ยิ้ม เอ่ยว่า “คำนวณเวลาแล้ว ตั้งแต่วันที่เขาหนีออกจากเผ่ามารจนถึงตอนนี้ วันสองวันนี้ก็น่าจะมาถึงสำนักดาราจักรแล้วละ ข้าคิดว่าหากเขาได้ยินข่าวจะต้องมาที่นี่แน่ ในเมื่อเป็นอย่างนี้ ก็รอเขาอยู่ที่นี่สักสองสามวัน ถึงตอนนั้นค่อยกลับไปพร้อมกัน”
“ตอนนี้รู้ว่าเฟิ่งเยี่ยยังมีชีวิตอยู่ เจ้าตั้งใจจะพาเขากลับไปพบท่านผู้เฒ่าเมื่อใด”
“หลังจากพบพี่ชายของข้า ค่อยไปขอบคุณอาจารย์ของเฟิ่งเยี่ยก่อน อย่างไรหากไม่ได้เขาช่วยทั้งสองไว้ ตอนนี้พวกเขาก็คงไม่มีชีวิตอยู่แล้ว บุญคุณใหญ่หลวงที่ช่วยชีวิตไว้ย่อมต้องไปขอบคุณต่อหน้า” เธอคล้องแขนเขา เดินทอดน่องไปตามทางเดินเล็กๆ ในสำนัก
เพราะเป็นยามเช้าตรู่ ยังมีคนไม่มากขนาดนั้น บรรยากาศบนทางเดินเล็กๆ ในสำนักก็ไม่เลว มีศิษย์บางคนที่ตื่นเช้ากำลังฝึกวรยุทธ์อยู่บนสนามหญ้า ครั้นเห็นพวกเขาจากที่ไกลๆ ต่างก็เข้ามาคารวะ ยังมีศิษย์ผู้หญิงบางคนที่จ้องเซวียนหยวนโม่เจ๋ออย่างไม่ละสายตา
ทั้งสองเดินไปพลาง พูดคุยกันไปพลาง ไม่ได้เดินกลับเรือนโดยตรง แต่กลับเดินขึ้นมานั่งบนก้อนหินก้อนใหญ่บนเนินเขาสูงแห่งหนึ่งที่สามารถมองเห็นทิวทัศน์ทั่วทั้งสำนักได้
“ท่านไปคราวนี้ไปนานขนาดนี้ เจออะไรมาบ้าง เล่าให้ข้าฟังบ้างสิ!” เธอพิงไหล่เขา มองทิวทัศน์เบื้องหน้า
“ได้” เซวียนหยวนโม่เจ๋อรับคำ ก่อนจะเล่าเรื่องที่เขาเจอนอกมหาสมุทรให้เธอฟัง…
ครั้นพูดคุยกัน ทั้งสองก็ลืมคนที่กำลังรอพวกเขาอยู่ที่เรือนเสียจนสนิท ส่วนคนในเรือน ครั้นรออยู่ทั้งเช้าก็ยังไม่เห็นทั้งสองกลับมา เห็นเพียงหนิงหลางคนเดียว พวกเขาจึงเดินเข้าไปหา
“หนิงหลาง ทำไมเจ้ากลับมาแค่คนเดียว เฟิ่งจิ่วกับเจ้าตำหนักยมราชเล่า”
ครั้นถูกถามเช่นนี้ หนิงหลางชะงัก “หา พวกเขายังไม่กลับมาอีกหรือ เมื่อครู่ข้าไปดูที่หน้าถ้ำของท่านเซียนฮุ่นหยวน พวกเขาไม่อยู่ที่นั่นแล้ว”
………………………………….
ตอนที่ 2492 วางใจ
ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนชะงัก “เจ้าไม่ได้ไปกับพวกเขาหรอกหรือ ทำไมไม่รู้ว่าพวกเขาไปที่ใด”
“เรื่องนี้…”
เขายิ้มแห้งๆ “เฟิ่งจิ่วเข้าไปเยี่ยมท่านเซียนฮุ่นหยวน จากนั้นข้านั่งอยู่กับเจ้าตำหนักข้างนอก พวกเจ้าก็รู้ เจ้าตำหนักเย็นชาเช่นนั้น ข้านั่งกับเขาแล้วอึดอัด ฉะนั้น ฉะนั้นข้าก็เลยออกมาก่อน ข้านึกว่าพวกเขากลับมาแล้ว เลยคิดจะมาดูหน่อย นึกไม่ถึงว่า…”
ซ่งหมิงที่อยู่ด้านหนึ่งยิ้มเอ่ย “พวกเขาสองคนไม่ได้เจอกันนานขนาดนี้ จะต้องมีเรื่องพูดคุยกันมากมายแน่นอน อาจไปหาที่คุยกันเพียงลำพัง ไม่ต้องห่วง อยู่ในสำนักไม่มีปัญหาอะไรหรอก ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยพลังของพวกเขาไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แล้ว”
ขณะเอ่ย เขาอ้าปากหาวกว้างๆ กล่าวว่า “ตอนแรกตั้งใจว่าจะรอพวกเขากลับมาแล้วหารือกันเรื่องเผ่ามาร ในเมื่อพวกเขาไม่อยู่ อย่างนั้นข้าจะกลับไปนอนต่ออีกหน่อยดีกว่า” เอ่ยจบ ก็โบกมือแล้วจากไป
“อย่างนั้นข้าก็จะกลับไปนอนต่ออีกหน่อยเช่นกัน” ต้วนเยี่ยกับลั่วเฟยก็จากไปเช่นกัน มีเพียงไป๋เสี่ยวกับเฟิ่งเยี่ยและจ้าวหยางที่ยังอยู่
หนิงหลางเองก็หมายจะไปเช่นกัน แต่กลับถูกไป๋เสี่ยวเรียกไว้ก่อน
“เจ้าอย่าเพิ่งไปสิ! เจ้ารู้จักสำนักดาราจักรดีไม่ใช่หรือ ในเมื่อว่างไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว อย่างนั้นก็พาพวกข้าไปเดินเล่นรอบๆ ดีหรือไม่” ไป๋เสี่ยวกล่าว หันไปมองเฟิ่งเยี่ยกับจ้าวหยาง รวมถึงเหล่าสัตว์คู่พันธสัญญาของเฟิ่งจิ่ว “พวกเจ้าคิดว่าอย่างไร”
“ดีเลย!” เฟิ่งเยี่ยรับคำ เบิกดวงตาอันเป็นประกายกว้าง
เหล่าไป๋ฉีกยิ้ม ร่างกายที่ตอนแรกเป็นมังกรเมื่อสะบัดไปมาก็กลายร่างกลับไปเป็นม้าเหมือนเมื่อก่อน มันสะบัดหาง ถามด้วยท่าทางน้ำลายไหล “ในสำนักนี้มีศิษย์ผู้หญิงสวยๆ หรือไม่”
ได้ยินอย่างนั้น ไป๋เสี่ยวส่ายหน้าอย่างเอือมระอา “เหล่าไป๋ ทำไมเจ้ายังไม่เปลี่ยนนิสัยอีก อย่าหาว่าข้าไม่เตือนเจ้านะ เจ้าตำหนักอยู่ที่นี่ หากเจ้าทำให้เขาเห็นท่าทางเจ้าชู้ประตูดินเช่นนี้เข้า ไม่แน่วันใดเขาอาจจะจับเจ้าตอนเสียก็ได้”
เหล่าไป๋ตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างราวกับตกตะลึงอย่างมาก “ข้าไม่เอาด้วยหรอกนะ!” ขณะเอ่ยก็ถอยหลังไปหลายก้าว
“เอาละ! ในเมื่อพวกเจ้าอยากไปเดินเล่น อย่างนั้นข้าจะพาไปเอง ไปเดินเล่นที่ภูเขาด้านหลังสำนักก็แล้วกัน!” หนิงหลางเอ่ย “ที่นั่นมีต้นผลไม้ที่สำนักเราปลูกไว้ ยังมีสัตว์ร้ายตัวเล็กๆ บางส่วน พวกเราไปเดินเล่นแล้วก็เด็ดผลไม้กินที่นั่นก็ได้”
“ดี!”
เฟิ่งเยี่ยปรบมือด้วยความตื่นเต้น ถามว่า “พวกเราเดินไปหรือขี่สัตว์ร้ายไป” พูดจบ กลับเดินมาหยุดข้างอสูรกลืนเมฆาแล้วลูบขนของมัน “ข้าอยากขี่อสูรกลืนเมฆามาก”
“อย่างนั้นก็ขึ้นมาเถอะ!” อสูรกลืนเมฆาเอ่ย หมอบตัวต่ำให้เขาขึ้นมา สำหรับคนของตระกูลเฟิ่ง มันสามารถปฏิบัติอย่างแตกต่างจากคนอื่นได้
“เย้! ดีจริงๆ!” เขากระโดดขึ้นไปขี่หลังอสูรกลืนเมฆาด้วยความตื่นเต้น จากนั้นก็หันไปพูดกับจ้าวหยาง “หยางหยาง เจ้าก็ขี่เหล่าไป๋เถอะ!”
จ้าวหยางส่ายหัว “ข้าจะเดิน”
“อย่างนั้นก็เดินไปกับข้าก็แล้วกัน!” หนิงหลางยิ้ม พาพวกเขาเดินไปที่ภูเขาด้านหลัง
ขณะเดียวกันบนถนนภูเขาที่อยู่ห่างจากสำนักดาราจักรค่อนข้างไกล กวนสีหลิ่นพาเยี่ยจิงนั่งกินอาหารที่ใต้ต้นไม้ “ข้าได้ยินว่าผู้ฝึกวิชามารของเผ่ามารต่างถอยทัพไปหมดแล้ว หนำซ้ำยังได้ยินว่าตอนนั้นมีชายไว้หนวดคนหนึ่งปรากฎตัวด้วย จากที่ได้ยินคนพวกนั้นคุยกัน เป็นไปได้มากว่าจะเป็นเซวียนหยวนโม่เจ๋อ”
เยี่ยจิงเอ่ยว่า “หากมีเขาอยู่ คนของเผ่ามารทำอะไรเฟิ่งจิ่วไม่ได้แน่”
“ตอนแรกข้าก็ยังเป็นห่วงอยู่ กลับนึกไม่ถึงว่าเซวียนหยวนโม่เจ๋อจะกลับมาทันเวลา หนำซ้ำยังทำให้เจ้าแห่งมารบาดเจ็บได้ด้วย”
………………………………….