เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2519 แผนการ / ตอนที่ 2520 กำชับ
ตอนที่ 2519 แผนการ
“อย่างนี้เองหรือ! อย่างนั้นก็ดี!” เฟิ่งจิ่วยักไหล่ ท่าทางเหมือนบอกว่าในเมื่อท่านไม่ต้องการ อย่างนั้นข้าก็ไม่ยุ่งแล้ว
“จะกลับไปเมื่อใด” เซวียนหยวนโม่เจ๋อพยายามข่มฉากอันเร่าร้อนในสมองไว้ ก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“อืม ในจวนนอกจากมีจัวจวินหยางที่กำลังรักษาตัว ท่านพี่ของข้าบอกว่ายังมีตระกูลเฉียวที่จะมาขอรับการรักษาอีก ด้วยเหตุนี้ หลังจากสะสางเรื่องนี้เสร็จก็น่าจะกลับไปได้แล้ว”
เธอบอก ก่อนครุ่นคิดแล้วเอ่ยอีกว่า “เดาว่าน่าจะใช้เวลาเพียงครึ่งเดือนกระมัง! พอดีเลย ทุกคนก็ฉวยโอกาสนี้พักผ่อนดีๆ เสียหน่อย เก็บแรงไว้เดินทางกลับบ้าน”
“ข้าได้ยินเริ่นเสียงบอกว่า เจ้าทิ้งคนคนหนึ่งไว้ที่หอสายลม?”
“อ้อ? เขาส่งข่าวให้ท่านแล้วหรือ เร็วขนาดนี้เชียว?”
“ฮุยหลางกับอิ่งอีติดต่อกับเขา จึงได้รู้”
เขาเพิ่งกลับมาได้ไม่นาน ยังไม่ได้พบเริ่นเสียง ย่อมไม่รู้เรื่องทางนั้น แต่ว่าฮุ่ยหลางกับอิ่งอีกลับรู้เรื่องเล็กเรื่องใหญ่เหล่านี้หมด ด้วยเหตุนี้ระหว่างทางจึงได้บอกเขาแล้ว
เพียงแต่ว่า พวกเขาบอกแค่ว่าเป็นผู้ชายที่หน้าตาโดดเด่นมาก แต่กลับไม่รู้ตัวตนของผู้ชายคนนั้น
“ยังจำวิหารราตรีได้กระมัง คนคนนั้นก็คือเจ้าวิหารราตรี ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรไว้ ถึงได้แฝงตัวมาอยู่ข้างกายข้า” เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดต่ออีกว่า “ช่วงก่อนมีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย จึงไม่มีเวลาจับตาดูเขา จึงได้ส่งตัวไปให้เริ่นเสียงทางนั้น”
พูดมาถึงตรงนี้ เธออดหัวเราะไม่ได้ “ไปอยู่ทางนั้นก็คงต้องลำบากเขาหน่อยแล้ว นึกถึงตอนนั้น ฮุยหลางกลับจากเริ่นเสียงก็ว่างง่ายขึ้นมากทีเดียว”
ได้ยินเช่นนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อนัยน์ตาไหวระริก สายตาของเขาจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงงดงาม ไม่ว่าเมื่อใด เฟิ่งจิ่วล้วนสะดุดตาถึงเพียงใด เหมือนดวงดาราที่เปล่งประกายอยู่บนท้องนภา
บวกกับความสามารถมากมาย และนิสัยตรงไปตรงมา ขอเพียงเป็นคนที่เคยคบค้าสมาคมกับนาง ยากมากที่จะไม่ถูกนางมัดใจ นางที่มีเสน่ห์ไม่มีที่สิ้นสุดเช่นนี้ มีเพียงนางเท่านั้นที่ไม่รู้ ว่านางน่าดึงดูดเพียงใด
เดาว่าเจ้าวิหารราตีนั่น ก็คงถูกนางดึงดูดเช่นกัน จึงได้คิดหาทางมาตีสนิทนางเช่นนี้
แต่ว่า เหอะ! ผู้หญิงของเขา ใครกล้าหมายปอง กล้าหมายปองผู้หญิงของเขา คอยดูสิเขาจะเล่นงานให้ตาย!
“เหลิ่งซวง” เฟิ่งจิ่วที่กำลังหยอกเล่นกับเด็กทารกจู่ๆ ก็ขานเรียก เสียงนั้นแฝงกลิ่นอายพลังวิญญาณ แม้ไม่ดัง แต่กลับดังออกไปข้างนอกอย่างชัดเจน
เหลิ่งซวงแม้จะออกไปแล้ว แต่กลับไม่ได้ไปไกลนัก เวลานี้ได้ยินเสียงของเฟิ่งจิ่ว จึงเดินเข้ามาจากข้างนอก
“นายท่าน”
“เหลิ่งซวง ห้าวเอ๋อร์เอาแต่อมนิ้วมือ อาจจะหิวแล้ว เจ้าไปต้มนมแพะมาป้อนเขาหน่อย” เฟิ่งจิ่วกำชับ
“เจ้าค่ะ” เหลิ่งซวงรับคำแล้วหันตัวเดินออกไป
เซวียนหยวนโม่เจ๋อเห็นอย่างนั้นจึงลุกขึ้น เอ่ยว่า “ข้านึกขึ้นได้ว่ามีเรื่องต้องไปจัดการ เจ้าป้อนนมเด็กไปก่อนแล้วกัน! ข้าค่อยมาตอนค่ำๆ”
“ได้” เธอพยักหน้า เห็นเขาออกไปแล้วจึงก้มหน้าหยอกเล่นกับเด็กทารกต่อ
เซวียนหยวนโม่เจ๋อที่กลับถึงจวนหลิงนั่งอ่านข้อมูลที่วางอยู่บนโต๊ะในห้องหนังสือ ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาวางข้อมูลเหล่านั้นลง กางกระดาษฝนหมึกหยิบพู่กันขึ้นมาเขียนอะไรบางอย่าง พลางออกคำสั่ง “อิ่งอี ไปเรียกฮุยหลางมาให้ข้า”
“ขอรับ” อิ่งอีที่อยู่ในที่ลับรับคำสั่ง ก่อนออกไปอย่างเงียบเชียบ
ผ่านไปไม่นาน ฮุยหลางเข้ามาจากข้างนอก “นายท่าน ท่านหาข้าหรือ”
เวลานี้ เขาเพิ่งวางพู่กันในมือลงพอดี จึงเงยหน้ามองฮุยหลางแวบหนึ่ง
………………………………….
ตอนที่ 2520 กำชับ
“เอานี่ส่งให้เริ่นเสียง” เขายืนกระดาษที่เขียนเสร็จแล้วให้ฮุยหลาง
ได้ยินว่าส่งให้เริ่นเสีง ฮุยหลางรีบรับไป พลางถามว่า “นายท่าน ให้ข้าส่งตอนนี้ หรือค่อยส่งพรุ่งนี้” ไม่รู้เรื่องที่เขียนในนี้คือเรื่องอะไร เร่งรีบหรือไม่
“ไปตอนนี้เลย”
เสียงทุ้มต่ำของเซวียนหยวนโม่เจ๋อเปล่งออกมาอย่างแช่มช้า เขาเอนหลังพิงเก้าอี้ บอกว่า “ให้เขาทำตามที่ข้าเขียนสั่งไว้ หากผิดพลาดประการใด ข้าจะเอาความผิดเขา”
“ขอรับ!” ฮุยหลางรีบรับคำ เขาลอบฉงนในใจ แต่กลับไม่กล้าถามมาก เพียงคารวะแล้วถอยออกไป
ไม่ได้กลับมานาน เซวียนหยวนโม่เจ๋อสะสางเรื่องในจวนหลิง พริบตาเดียวเวลาก็ล่วงเลยจนท้องฟ้ามืดค่ำแล้ว
อิ่งอียืนดูจากในที่ลับ เห็นเขาไม่มีทีท่าว่าจะหยุดทำงาน จึงก้าวออกมาจากที่มืด “นายท่าน ภูตหมอส่งเหลิ่งซวงมาถาม นายท่านจะทำงานเสร็จเมื่อใด ภูตหมอกำลังรอกินข้าวกับท่าน”
ได้ยินเช่นนั้น เซวียนหยวนโม่เจ๋อหยุดงานในมือ เงยหน้ามองออกไปข้างนอกแวบหนึ่ง “ค่ำขนาดนี้แล้วหรือ” เขาลุกขึ้นยืน สะบัดเสื้อคลุมบนตัว “เก็บข้าวของบนโต๊ะ จัดระเบียบให้เรียบร้อย”
“ขอรับ” อิ่งอีรับคำ ก่อนจะกวักมือเรียกบ่าวรับใช้คนหนึ่งมาจัดระเบียบโต๊ะ
ฝั่งจวนเฟิ่ง จัวจวินเยวี่ยเข็นจัวจวินหยางมาถึงลานสวน กำลังพูดคุยกับเฟิ่งจิ่ว
“ช่วงนี้ข้าล้วนทำตามที่เจ้าบอก พักนี้จวินหยางฟื้นตัวเร็วมาก เดินด้วยตนเองได้แล้ว เพียงแต่ยังเดินได้ไม่นานนัก”
จัวจวินเยวี่ยเล่าเรื่องอาการขาของน้องชายของเขาให้เฟิ่งจิ่วฟัง ก่อนถามว่า “ข้าได้ยินว่าตาเฒ่าบาดเจ็บ? เขาบาดเจ็บหนักมากหรือไม่ ครั้งนี้ได้มากับพวกเจ้าหรือไม่”
“ขาของจวินหยางจะค่อยๆ ดีขึ้นเอง ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานก็หายเอง” เธอยิ้มให้ทั้งสอง จากนั้นก็หันไปมองทางจัวจวินเยวี่ย “ส่วนตาเฒ่า เขาบาดเจ็บไม่เบา ตอนข้ากลับมาเขาก็กำลังพักฟื้นอยู่ เดาว่าพักนี้คงลงเขามาไม่ได้”
“จวินหยาง พรุ่งนี้ข้าค่อยเปลี่ยนเทียบยาให้เจ้า เจ้าใช้ยาต่อไป ไม่ต้องรีบร้อน อีกไม่นานพวกข้าจะกลับบ้านสักครั้ง พวกเจ้าพักที่นี่ได้ตามสบาย ไม่ต้องรีบกลับบ้าน” เธอตบไหล่จัวจวินหยางที่นั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็น
ได้ยินอย่างนั้น จัวจวินหยางพยักหน้า “อืม ขอบคุณพี่สาวเฟิ่งมาก ข้าเข้าใจแล้ว”
จัวจวินเยี่ยเหลือบเห็นเงาร่างที่กำลังเดินเข้ามาด้วยหางตา จึงเอ่ยกับเฟิ่งจิ่วว่า “อย่างนั้นพวกข้าไม่รบกวนพวกเจ้าแล้ว” เอ่ยจบ ก็ประสานมือถอยออกไป
ขณะที่เข็นจัวจวินหยางผ่านเซวียนหยวนโม่เจ๋อ เขาพยักหน้าให้อีกฝ่ายเล็กน้อย จากนั้นก็เดินผ่านไป
“มาแล้ว? ทำงานเสร็จแล้วหรือ” เธอยิ้ม พลางเดินไปหาเซวียนหยวนโม่เจ๋อที่เดินเข้ามา
“อืม” เขาพยักหน้า หันไปพูดกับเหลิ่งซวงที่อยู่ด้านหนึ่ง “ยกสุราอาหารมาเถอะ!” ก่อนจะนั่งลงข้างๆ เฟิ่งจิ่ว
เห็นเฟิ่งจิ่วเอามือเท้าคางแล้วมองเขา จึงถามว่า “เด็กเล่า”
“นอนหลับแล้ว” เธอยิ้มกว้างมองเขา “อยากอุ้มเขาหรือ”
“ไม่อยาก” เขาตอบทันควัน ไม่ใช่ลูกของตนเองเสียหน่อย เขาไม่สนใจอยากอุ้มหรอก
เฟิ่งจิ่วอดหัวเราะไม่ได้ “อ้อ? ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าท่านไม่ชอบเด็ก อย่างนั้นต่อไปพวกเราจะมีลูกกันหรือไม่”
“ลูกของตนเองก็ไม่เหมือนกันแล้ว” เขามองเธอ “หากเจ้ามีลูกกับข้า ข้าจะต้องชอบอย่างแน่นอน” แม้ห้าวเอ๋อร์ก็น่ารักมาก แต่อย่างไรก็ไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของพวกเขา อย่างไรก็ต่างกันอยู่ดี
………………………………….