เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2527 ฟื้นแล้ว / ตอนที่ 2528 วิชาแพทย์
ตอนที่ 2527 ฟื้นแล้ว
ได้ยินเช่นนั้น กวนสีหลิ่นหันไปพยักหน้าให้เฉียวอี้นั่วหนึ่งที ก่อนจะเดินออกไป
เฉียวอี้นั่วเห็นดังนั้นจึงออกไปพร้อมกับผู้อาวุโสทั้งสอง เหลือเพียงเหลิ่งหวากับผู้อาวุโสสามที่อยู่ในห้อง
“ประคองคนขึ้นมา ถอดเสื้อตัวบนของเขาออก” เฟิ่งจิ่วกำชับ เธอไล้นิ้วมือผ่านเข็มเงินทั้งหมดของเธอ สุดท้ายก็ดึงเข็มเงินที่เล็กและยาวเล่มหนึ่งออกมา
เหลิ่งหวาประคองคนขึ้นมา ภายใต้การช่วยเหลือของผู้อาวุโสสาม พวกเขาถอดเสื้อตัวบนของผู้เฒ่าเฉียวออก เผยให้เห็นร่างกายที่ผอมแห้ง
ผู้อาวุโสสามเห็นเฟิ่งจิ่วเอาเข็มเงินแทงไปที่จุดลมปราณบนแผ่นหลังของท่านผู้เฒ่า เมื่อเข็มที่หนึ่งแทงลงไป เข็มที่สองและเข็มที่สามก็ตามลงไปติดๆ เมื่อเห็นเธอใช้เข็มเงินแ แทงไปที่จุดลมปราณแห่งความตาย หัวใจของเขาบีบรัด อยากจะห้ามแต่กลับไม่ทันแล้ว
หัวใจของเขาเต้นโครมคราม เหงื่อบนหน้าผากผุดซึม แม้แต่สีหน้าก็ซีดเผือดไปด้วย แต่ในขณะที่เขาคิดว่าเข็มเงินที่แทงไปยังจุดลมปราณแห่งความตายแล้วจะเกิดปัญหา กลับเห็นเธอจับ บตัวท่านผู้เฒ่าพลิกหมุน หันหน้าไปทางด้านนอกเตียงแล้วจับในท่ากึ่งกด ก่อนจะใช้ฝ่ามือตบลงที่หน้าอกของเขา
“ท่าน…”
เขาเพิ่งจะอ้าปาก ก็เห็นท่านผู้เฒ่ากระอักเลือดออกมา ในนั้นยังมีลิ่มเลือดรวมอยู่ด้วย สีของเลือดเป็นสีเข้ม ดูราวกับติดอยู่ในร่างกายนานมากแล้ว
เฟิ่งจิ่วชำเลืองมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะละสายตาออกมาอย่างเรียบเฉย จากนั้นก็หยิบเข็มเงินขึ้นมาอีกหนึ่งเล่ม ครั้งนี้ เข็มเงินของเธอไม่ได้แทงลงไปบนตัวของเขาอีก แต่แทงไป ปที่หัวของเขา
ผู้อาวุโสสามยังไม่ทันตั้งสติ เขายืนตัวแข็งทื่ออยู่ด้านหนึ่ง เบิกตากว้างจ้องเหตุการณ์ตรงหน้า
เข็มเงินแต่ละเล่มแทงลงไปบนจุดลมปราณแห่งความตาย แต่ก็เป็นจุดลมปราณแห่งชีวิตเช่นกัน วิธีการฝังเข็มเช่นนั้นกลับไม่เคยพบเห็นมาก่อน แม้แต่เขาที่เรียนวิชาแพทย์มาหลายสิบปี ก็ไม่กล้าพูดว่าสามารถแทงเข็มเงินเข้าไปข้างๆ จุดลมปราณแห่งความตายได้อย่างแม่นยำเช่นนั้น
ต้องรู้ว่าหากผิดพลาดไปแม้แต่นิดเดียว อย่างนั้นหากแทงเข็มลงไปก็จะถึงแก่ชีวิตแล้วจริงๆ
และสิ่งที่ทำให้เขาเหลือเชื่อยิ่งกว่าก็คือ เข็มเงินสองสามเล่มที่แทงอยู่บนหัวของท่านผู้เฒ่ามีควันสีขาวลอยออกมาจางๆ เมื่อควันพวกนั้นลอยขึ้นมา หน้าผากของท่านผู้เฒ่าก็ม มีเหงื่อซึม ใบหน้าที่ซีดขาวในตอนแรกก็ค่อยๆ แดงระเรื่อขึ้นมา
ไม่รู้ว่าเขาคิดไปเองหรือเปล่า เขาราวกับมองเห็นท่านผู้เฒ่าที่หมดสติมานานสองปีขมวดคิ้วแวบหนึ่ง…
เวลาค่อยๆ ผ่านไป เฟิ่งจิ่วง่วนอยู่กับการฝังเข็ม และขับเคลื่อนลมปราณเพื่อกระตุ้นเลือดผ่อนคลายเส้นเอ็นให้เขา ส่วนเหลิ่งหวาคอยเป็นลูกมืออยู่ข้างๆ มีเพียงผู้อาวุโสสามที่มองดู จนตะลึงค้าง ได้แต่ยืนนิ่งไม่ไหวติงอยู่ที่ท้ายเตียง ราวกับท่อนไม้ท่อนหนึ่งก็ไม่ปาน สีหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น
“อึก!”
เสียงร้องครวญดังออกจากปากของท่านผู้เฒ่า นั่นยิ่งทำให้อาวุโสสามเบิกตากว้าง ราวกับไม่อยากเชื่อว่าตนเองได้ยินเสียงจากปากของท่านผู้เฒ่าที่หมดสติมาสองปีอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากได้ยินเสียงร้องครวญของท่านผู้เฒ่า เฟิ่งจิ่วเริ่มดึงเข็มเงินเหล่านั้นออกทีละเล่ม สุดท้ายเธอให้เหลิ่งหวาใส่เสื้อให้ชายชราและประคองเขานอนลง จากนั้นก็จับชีพจรให้ เขาเพื่อตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้ง
บนเตียง คิ้วของท่านผู้เฒ่าขยับเล็กน้อย ผ่านไปไม่นาน เขาค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา แววตาอันเลื่อนลอยและสับสนมองไปที่เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงที่อยู่ข้างเตียง เขาไม่รู้จักเธอ แต่กลับจ จำผู้อาวุโสสามที่ยืนอยู่ตรงท้ายเตียงได้
“ทะ ท่านผู้เฒ่า? ทะ ท่านฟื้นแล้ว?” อาวุโสสามอุทานออกมาอย่างแทบไม่เชื่อสายตาตนเอง มองดูท่านผู้เฒ่าที่ลืมตาขึ้นมา รู้สึกเพียงหัวใจสะท้านไปทั้งดวงด้วยความเหลือเชื่อ
………………………………….
ตอนที่ 2528 วิชาแพทย์
“เจ้าสาม ข้าเป็นอะไรไป” เขาจำไม่ได้แล้วว่าตนเองเป็นอะไรไป รู้สึกเพียงตอนที่เพิ่งลืมตาหนังตาหนักอึ้ง และอยากนอนหลับต่อมาก
อาวุโสสามทำท่าจะเอ่ยปาก กลับได้ยินเสียงของเฟิ่งจิ่วดังมาก่อน
“ร่างกายของเขากำลังอ่อนแอ ท่านอย่าทำให้เขาเปลืองแรงโดยใช่เหตุเลย ปล่อยให้เขาหลับสักครู่” เฟิ่งจิ่วเอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ดึงมือกลับมาก่อนจะเก็บเข็มเงินที่เหลิ่งหวา าจัดระเบียบเรียบร้อยแล้วใส่ห้วงมิติ ขณะเดียวกันก็สกัดจุมลมปราณให้ท่านผู้เฒ่านอนหลับอย่างเต็มที่
เห็นท่านผู้เฒ่าที่เพิ่งลืมตาพูดหลับไปอีกครั้ง อาวุโสสามอดถามไม่ได้ “ภูตหมอ นี่ท่านผู้เฒ่าของเรา…”
“ต้องพักฟื้นช่วงหนึ่ง ร่างกายจะดีขึ้นมาเอง” เธอลุกขึ้น มองเขาแวบหนึ่ง “เรื่องการดูแลช่วงพักฟื้นท่านทำได้ไม่เลว ฉะนั้นการพักฟื้นของท่านผู้เฒ่าก็มอบหมายให้เป็นหน้าที่ขอ องท่านก็แล้วกัน”
“นะ นี่หมายความว่า ท่านผู้เฒ่าของเราหะ หายแล้ว?” เขาถามอย่างเหลือเชื่อ
เฟิ่งจิ่วยักคิ้ว ก่อนย้อนถามว่า “ท่านก็เห็นเขาฟื้นแล้วไม่ใช่หรือ”
อาวุโสสามอึ้งงัน ไม่นานก็ได้สติ เขาอุทานเบาๆ “ดีเหลือเกินๆ!” รีบสาวเท้าเร็วๆ เดินออกไปข้างนอก อยากจะเอาข่าวดีไปบอกเฉียวอี้นั่วและอาวุโสทั้งสองที่รออยู่ข้างนอก
ประตูห้องเปิดออก คนข้างนอกหันไปมอง ก็เห็นอาวุโสสามเดินออกมาด้วยใบหน้าตื่นเต้น
“คุณชายใหญ่ ท่านผู้เฒ่าฟื้นแล้ว ท่านผู้เฒ่าฟื้นแล้ว!” เขาจับมือทั้งสองข้างของเฉียวอี้นั่วด้วยความตื้นตัน “เมื่อกี้ท่านผู้เฒ่ายังลืมตาและพูดกับข้าด้วย! เขาฟื้นแล้วจริ งๆ!”
ได้ยินอย่างนั้น เฉียวอี้นั่วรวมถึงผู้อาวุโสทั้งสองคนตะลึงงัน ก่อนจะดีอกดีใจกันยกใหญ่ “จริงหรือ ดีเหลือเกิน ข้าเข้าไปดูหน่อย!” เขาสาวเดินไปที่ห้องด้านใน ทว่า ยังไม่ทันเข ข้าไป ก็เห็นเฟิ่งจิ่วกับเหลิ่งหวาเดินออกมาก่อน พวกเขาจึงหยุดเดิน
“ภูตหมอ ท่านปู่ของข้าฟื้นแล้วจริงหรือ เขาไม่เป็นไรแล้วจริงๆ หรือ”
“ฟื้นแล้ว แต่ร่างกายอ่อนแอเกินไป ข้าสกัดจุดลมปราณเพื่อให้เขาหลับต่ออีกสักพัก พวกเจ้าพยายามอย่าไปรบกวนเขาก็พอ” เฟิ่งจิ่วอธิบายเสียงแช่มช้า หลังจากเดินออกจากห้องก็เอ่ยอ อีกว่า “ส่วนการพักฟื้นหลังจากนี้มอบหมายให้เป็นหน้าที่ของอาวุโสสามก็พอ”
ฟังจบ นอกจากกวนสีหลิ่นที่มีสีหน้าเป็นปกติ เหล่าคนตระกูลเฉียวต่างตื่นตะลึงชระคนยินดี ไม่อยากเชื่อว่านี่เป็นความจริง
“ท่านพี่ พวกเรากลับกันเถอะ!” เฟิ่งจิ่วเอ่ยขณะเดินไปหยุดอยู่ข้างกวนสีหลิ่น
กวนสีหลิ่นจึงหันไปพูดกับเฉียวอี้นั่ว “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นพวกข้าก็กลับก่อนละ”
“ข้าส่งพวกท่านเอง” เฉียวอี้นั่วได้สติกลับมา ทว่าสีหน้ายังคงแสดงออกถึงความตื่นเต้นอย่างปิดไม่มิด
“ไม่ต้องแล้ว” เฟิ่งจิ่วตอบ ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับกวนสีหลิ่นและเหลิ่งหวา
แม้เฟิ่งจิ่วจะบอกว่าไม่ต้องส่ง แต่เฉียวอี้นั่วก็ยังเดินตามพวกเขามาเพื่อส่งแขก กระทั่งพอเดินมาถึงประตูใหญ่ เขาจึงมอบแหวนห้วงมิติวงหนึ่งให้กับเฟิ่งจิ่ว
“ภูตหมอ ในนี้เป็นของขวัญแทนคำขอบคุณที่ท่านพ่อของข้าเตรียมไว้ แม้จะไม่ใช่ของมีค่าอะไรมากมาย แต่ก็เป็นน้ำใจของพวกเรา ภูตหมอโปรดรับไว้”
เฟิ่งจิ่วมองเฉียวอี้นั่วแวบหนึ่ง เธอชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะให้เหลิ่งหวารับมา ขณะเดียวกันก็ทิ้งยาน้ำขวดหนึ่งไว้ให้ด้วย
“นี่เป็นยาน้ำ คืนนี้ให้ท่านปู่ของเจ้าดื่มเสียเถอะ!” เมื่อยื่นยาขวดนั้นให้เขาเสร็จ เธอก็หมุนตัวจากไป
เฉียวอี้นั่วที่ย้อนกลับมาที่เรือนด้านหลังถามอาวุโสสามซ้ำแล้วซ้ำเล่า จึงค่อยมั่นใจว่าท่านปู่ของเขาฟื้นแล้วจริงๆ เขาจึงสั่งให้คนเอาข่าวนี้ส่งกลับไปที่ตระกูลเพื่อแจ้งให้ท ท่านพ่อทราบทันที…
ในอีกด้านหนึ่ง เฟิ่งจิ่วกับกวนสีหลิ่นที่ออกจากบ้านตระกูลเฉียวมาแล้วกำลังเดินด้วยกันบนทางกลับบ้าน…