เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2545 บาดแผล / ตอนที่ 2546 เกิดอะไรขึ้น
ตอนที่ 2545 บาดแผล
“อืม ไม่เหมือนที่ผ่านมาจริงๆ แต่ใส่ยาไปแล้ว น่าจะไม่เป็นไร” เธอบอกด้วยน้ำเสียงเนิบช้า ไม่พูดถึงแผลกลับไม่รู้สึกอะไร พอพูดถึงแผลก็รู้สึกว่าปวดแสบปวดร้อนขึ้นมาทันที แผลอักเสบหรือ เป็นไปไม่ได้กระมัง
เธอครุ่นคิดอย่างเหม่อลอยเล็กน้อย ลืมไปชั่วขณะว่าโม่เฉินยังยืนอยู่ข้างเตียง
เขาสังเกตเห็นการเปลี่ยนแปลงทางสีหน้าของเธอ โม่เฉินมองเซวียนหยวนโม่เจ่อแวบหนึ่ง ก่อนถามว่า “ท่านดูแผลแล้วหรือ มีอะไรผิดปกติหรือไม่”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อสะดุดใจเล็กน้อย เขามองเฟิ่งจิ่วแวบหนึ่ง ก่อนตอบโม่เฉินว่า “ร่างกายของนางต่างจากคนทั่วไป มีพลังสามารถรักษาบาดแผลเองได้ แต่ครั้งนี้กลับรักษาแผลเองไม่ได้”
เงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เขาจะเอ่ยต่อว่า “ตอนนี้ใส่ยาไปแล้ว รอดูพรุ่งนี้เถอะ! พรุ่งนี้ตอนเปลี่ยนยาน่าจะรู้แล้ว”
ได้ยินทั้งสองต่างก็พูดเช่นนี้ โม่เฉินจึงไม่ได้พูดอะไรอื่นอีก เพียงพยักหน้า “อย่างนั้นข้ากลับก่อนแล้ว พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมนางใหม่”
เขาหันไปทางเฟิ่งจิ่ว มองดูนางที่เหมือนกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ จึงบอกลาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “เจ้าพักผ่อนให้ดี พรุ่งนี้ข้าค่อยมาเยี่ยมเจ้าใหม่”
“อืม” เฟิ่งจิ่วได้สติ ตอบรับเขาหนึ่งคำ ก่อนจะเห็นเขาหันตัวเดินออกไป
“เจ้านอนก่อน ข้าออกไปสั่งงานสักหน่อย”
เซวียนหยวนโม่เจ๋อบอก ก่อนจะออกไปกำชับอิ่งอีให้สั่งคนไปสืบเรื่องนี้ให้แน่ชัด ครั้นเขากลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เห็นนางหลับไปแล้ว จึงไปอาบน้ำก่อน หลังจากเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดเสร็จ จึงกลับมาในห้อง ถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วนอนลงข้างกายนาง
ยามจื่อผ่านพ้นไป ค่ำคืนดึกสงัด จู่ๆ เซวียนหยวนโม่เจ๋อกลับลืมตาแล้วมองเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในอ้อมแขน “อาจิ่ว? อาจิ่ว? เจ้าเป็นอะไรไป”
ในห้องไม่ได้ใช่เทียนไขเพื่อให้ความสว่าง แต่ใช้ไข่มุกราตรี แสงสว่างนุ่มนวลไม่แยงตา เวลานี้ ท่ามกลางแสงสว่างนวลตาของไข่มุกราตรีที่ส่องสว่างอยู่ เขาเห็นเฟิ่งจิ่วมีเหงื่อซึมเต็มหน้าผาก สีหน้าแดงเรื่อ กลีบปากกลับซีดขาว
เขารีบลุกขึ้น สวมเสื้อคลุมแล้วตะโกนออกไปข้างนอก “อิ่งอี! ไปเรียกโม่เฉินมา!”
อิ่งอีที่เฝ้าอยู่ข้างนอกได้ยินก็รีบรับคำสั่งทันที “ขอรับ!” อิ่งอีโฉบกาย มุ่งหน้าไปยังจวนน่าหลันทันที
ในลานบ้านอีกแห่งหนึ่งของจวน ตอนนี้อสูรกลืนเมฆารู้สึกไม่ค่อยสบายตัว มันเกลือกกลิ้งร่างกายไปกับพื้น ปากก็เปล่งเสียงร้องครวญคราง ทำให้คนในจวนแตกตื่น
พวกเหลิ่งหวากับตู้ฝานรีบมาดู เห็นมันเกลือกกลิ้งกับพื้นและร้องโหยหวน จึงรีบถาม “อสูรกลืนเมฆา เจ้าเป็นอะไรไป”
“แผล เจ็บแผลมาก…” มันนอนหมอบกับพื้นแน่นิ่งไม่ขยับ ราวกับไม่มีแรงแล้ว แม้แต่ดวงตาก็ปิดลง ทำได้เพียงส่งเสียงครางเป็นระยะ
เห็นอสูรกลืนเมฆาเป็นอย่างนี้ หัวใจของพวกเขาหนักอึ้งจมดิ่ง ฟ่านหลิ่นหนึ่งในหัวหน้าองครักษ์เฟิ่งทั้งแปดรีบสาวเท้าเข้าไป เขาตรวจอาการให้อสูรกลืนเมฆา เมื่อเขาเปิดผ้าพันแผลบนตัวอสูรกลืนเมฆาออก แล้วเห็นว่ามีรอยสีดำอยู่รอบแผลก็พลันตะลึงไป
“ทำไมเป็นเช่นนี้!”
สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปครั้งใหญ่ ราวกับนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ รีบหันไปทางพวกเหลิ่งหวา “พวกเจ้าเฝ้าอสูรกลืนเมฆาอยู่ที่นี่ ข้าจะดูนายท่านหน่อย!” นายท่านได้รับบาดเจ็บ นางจะเป็นอย่างอสูรกลืนเมฆาที่แผลกลายเป็นสีดำหรือไม่
“พิษหรือ” เหลิ่งซวงถามด้วยความเป็นห่วง พลางตามเขาไปที่เรือนหลัก
“ไม่เหมือนพิษ” ฟ่านหลินตอบ พลางเร่งฝีเท้า
ในอีกด้านหนึ่ง โม่เฉินที่นอนอยู่ในห้องได้ยินเสียงเคลื่อนไหวบนหลังคา เขาลุกขึ้นจากเตียงอย่างเงียบๆ…
………………………………….
ตอนที่ 2546 เกิดอะไรขึ้น
ขณะที่สวมเสื้อคลุมเสร็จตั้งใจจะลงมือ กลับได้ยินเสียงอันคุ้นเคยดังเข้ามา
“คุณชายโม่เฉิน ข้าคืออิ่งอี นายท่านของข้าเชิญท่านให้รีบไปหาเดี๋ยวนี้” อิ่งอีเขย่งปลายเท้ากระโดดจากหลังคาลงมาอยู่นอกห้องของเขา กดเสียงให้ต่ำก่อนจะตะโกนบอกโม่เฉิน
ได้ยินอย่างนั้น โม่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาดีดนิ้วจุดไฟในห้อง สวมใส่เสื้อผ้าให้เรียบร้อย จากนั้นรวบผมสีหมึกลวกๆ แล้วเปิดประตูเดินออกมา คนข้างนอกเป็นอิ่งอีดังจริงๆ
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น” เขาถาม ก่อนจะรวมพลังเขย่งปลายเท้าเหาะขึ้นไปกลางอากาศ จากนั้นก็กระโดดเหยียบหลังคามุ่งหน้าไปทางจวนเฟิ่ง
อิ่งอีตามหลังเขาไปติดๆ เอ่ยว่า “เหมือนว่าจะเกิดเรื่องกับภูตหมอแล้ว รายละเอียดเป็นอย่างไรข้าก็ไม่แน่ใจ”
ในห้องส่วนตัวเรือนหลักของจวนเฟิ่ง เซวียนหยวนโม่เจ๋อเปิดแผลจุดหนึ่งของเฟิ่งจิ่วเพื่อตรวจสอบดู ครั้นเห็นว่าแผลที่ใส่ยาแล้วแต่ก็ยังไม่หาย ตรงกันข้ามยิ่งบวมและกลายเป็นสีดำ หัวใจของเขาสะท้านไปทั้งดวง
ใบหน้าของเขาเย็นชา กลีบปากเม้มแน่น จ้องเฟิ่งจิ่วที่ร่างกายร้อนรุ่มไม่ได้สติ เขาลุกขึ้นออกไปตักน้ำสะอาดที่ห้องด้านนอก ใช้ผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กชุบน้ำบิดหมาดเช็ดเหงื่อบนหน้าผากของนาง จากนั้นก็แช่น้ำเย็นวางไว้บนหน้าผากของนางเพื่อลดอุณหภูมิ
เสียงฝีเท้าดังมาจากข้างนอก ตามมาด้วยน้ำเสียงร้อนใจของกวนสีหลิ่น
“เซวียนหยวน เสี่ยวจิ่วเป็นอย่างไรบ้าง ร้ายแรงหรือไม่ ทางอสูรกลืนเมฆาอาการไม่ค่อยดี ตอนนี้เสี่ยวจิ่วเป็นอย่างไรบ้างแล้ว”
“เข้ามาเถอะ!” เสียงของเซวียนหยวนโม่เจ๋อดังมา กลุ่มคนข้างนอกเดินตามกวนสีหลิ่นเข้ามา
ชั่วพริบตา ในห้องเบียดเสียดไปด้วยคนมากมาย หัวหน้าองครักษ์เฟิ่งทั้งแปด รวมถึงพวกเหลิ่งหวาและตู้ฝาน ยังมีกวนสีหลิ่นกับเยี่ยจิง ทั้งหมดสิบคนรุมล้อมเข้ามา
บนเตียง เฟิ่งจิ่วห่มผ้าห่มไว้ บนหน้าผากมีผ้าเย็นวางทับ สีหน้าแดงเรื่อเพราะพิษไข้ กลีบปากกลับซีดขาว พวกเขาเข้ามากันมากมายขนาดนี้ นางก็ยังไม่ลืมตา เพียงขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าดูทุกข์ทรมานหลายส่วน
“ข้าดูหน่อย”
ฟ่านหลินที่รู้วิชาแพทย์เข้าไปตรวจชีพจรให้เฟิ่งจิ่ว จากนั้นก็ตรวจสอบบาดแผลให้นาง ผ่านไปครู่หนึ่ง ขาเอ่ยกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อด้วยสีหน้าหนักอึ้ง “เหมือนกับอสูรกลืนเมฆา ไม่มีร่องรอยถูกพิษ แต่บาดแผลบวม มีกลิ่นอายสีดำกระจายอยู่รอบปากแผล ความรู้ของข้าตื้นเขิน ไม่รู้ว่ากลิ่นอายสีดำคืออะไร ด้วยเหตุนี้จึงไม่อาจใช้ยาให้ถูกอาการได้”
“ดูท่าแล้วต้องเป็นเพราะกลิ่นอายสีดำที่อยู่รอบปากแผลนี้แน่ๆ” กวนสีหลิ่นว่า “แต่ก่อนเสี่ยวจิ่วแม้จะได้รับบาดเจ็บ ก็จะหายอย่างรวดเร็ว เป็นครั้งแรกที่เจอเหตุการณ์เช่นนี้”
“อย่างนั้นจะทำอย่างไรดี แผลของนางแย่ลงเรื่อยๆ หากไม่รักษา…” เยี่ยจิงกังวล หากเฟิ่งจิ่วมีสติก็ยังดี แต่ตอนนี้เห็นได้ชัดว่านางไร้สติสัมปชัญญะไปแล้ว ถ้ายังเสียเวลาต่อไปจะยิ่งร้ายแรงขึ้นเรื่อยๆ หรือไม่
“โม่เฉินติดตามผู้เฒ่าเทียนจี แล้วยังชำนาญการแพทย์ ข้าให้อิ่งอีไปเชิญเขามาแล้ว” เซวียนหยวนโม่เจ๋อบอก สายตาหันไปจับจ้องใบหน้าของเฟิ่งจิ่วที่อยู่บนเตียง เห็นนางขมวดคิ้วอย่างทรมาน เขาจึงหยิบผ้ามาแช่น้ำเย็น และวางลงบนหน้าผากของนางอีกครั้ง
เหลิ่งซวงเห็นดังนั้นจึงเดินเข้าไปยกอ่างน้ำออกไปเปลี่ยนน้ำเข้ามาใหม่ เห็นนายท่านเป็นอย่างนี้ นางเองก็ไม่รู้จะช่วยอย่างไร ทำได้เพียงยืนเฝ้าเงียบๆ อยู่ด้านหนึ่ง
“นายท่าน คุณชายโม่เฉินมาแล้ว”
เสียงของอิ่งอีดังมาจากหน้าห้อง ทุกคนหันไปมองเป็นตาเดียว ก็เห็นโม่เฉินสาวเท้าเดินเข้ามา
โม่เฉินเห็นทุกคนต่างก็อยู่ในห้อง มองพวกเขาแวบหนึ่ง ก่อนจะถามว่า “เกิดอะไรขึ้น”
………………………………….