เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2555 ป้ายดำขนาดเล็ก / ตอนที่ 2556 ในทะเลไม่มีปลา
ตอนที่ 2555 ป้ายดำขนาดเล็ก
มองดูผู้ฝึกตนระดับปราชญ์เซียนที่ล้มอยู่ข้างเท้า เฟิ่งจิ่วเม้มปาก จ้องคนที่ตายไปแล้วอยู่ครู่หนึ่ง เลี้ยงดูผู้แข็งแกร่งระดับปราชญ์เซียนเป็นทหารหน่วยกล้าตาย? กลุ่มอำนาจ นี้เป็นกลุ่มอำนาจแบบใดกันแน่? แข็งแกร่งยิ่งกว่าเผ่ามารอีกงั้นหรือ?
หวนนึกถึงปัญหาที่เธอเคยเกี่ยวข้องด้วย แต่ละเรื่องล้วนเหมือนไม่จบไม่สิ้น ไอพิฆาตในใจเธอก็พวยพุ่งขึ้นมา ย่อกายลงไปตรวจค้นบนศพ
“นี่คืออะไร?”
นอกจากแหวนห้วงมิติที่อยู่บนตัวปราชญ์เซียนผู้นี้ กลับยังมีก้อนดินเหนียวปั้นกลมๆ ก้อนหนึ่งที่เคลือบด้วยสีเหลืองอยู่ลูกหนึ่ง เพราะตอนนี้การมองเห็นไม่ดีนัก อีกอย่างคนข ข้างในนี้ก็กำลังตามหาเธอ ฉะนั้นจึงไม่ได้ดูอย่างละเอียด เพียงเก็บก้อนดินเหนียวปั้นที่เอาออกมาจากห้วงมิติของผู้ฝึกตนคนนั้นเก็บกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นก็เก็บใส่ห้วงมิติ ของเธอทีเดียว
เธอใช้ยาจัดการศพ ไม่ทิ้งร่องรอยไว้แม้แต่น้อย จากนั้นจึงค่อยหายตัวเข้าไปในป่าอีกครั้ง ท่ามกลางความมืด เสียงร้องของแมลงดังไม่ขาดสาย สายลมกลางคืนพัดผ่าน ใบไม้เสียดสีกันดังสวบ บสาบ
ที่นึกไม่ถึงก็คือ หลังจากนั้นเฟิ่งจิ่วไม่เจอคนพวกนั้นอีกเลย เมื่อท้องฟ้ายามราตรีค่อยๆ มืดขึ้นเรื่อยๆ เฟิ่งจิ่วได้ยินเสียงสัญญาณลับดังขึ้นแว่วๆ…
ค่ำคืนผ่านไป ท้องฟ้าเริ่มสว่าง เฟิ่งจิ่วที่พักผ่อนในห้วงมิติมาหนึ่งคืนแล้วกำลังตรวจสอบแหวนห้วงมิติที่ค้นเจอบนศพของผู้ฝึกตนที่ถูกฆ่าคนนั้น
“ทำไมจึงเป็นลูกดินเหนียวปั้น? ในนี้มีอะไรกันนะ?” เธอมองลูกดินเหนียวปั้นอย่างประหลาดใจ เอามันขึ้นมาโยนใส่พื้น เมื่อลูกดินเหนียวปั้นสีเหลืองแตกกระจาย ป้ายสีดำขนาดเล็กที อยู่ข้างในก็ปรากฏออกมา
“มีอะไรอยู่จริงๆ ด้วย”
เธอหยิบป้ายสีดำขนาดเล็กขึ้นมาพิจารณา แล้วก็เห็นว่าเป็นสัญลักษณ์แสดงตัว นอกจากลวดลายที่ซับซ้อนก็ไม่มีอะไรอย่างอื่นอีก นอกจากนี้ ในห้วงมิติยังมีสิ่งของที่ใช้ส่งสารและสมบ บัติอยู่จำนวนหนึ่ง
หลังจากจัดระเบียบของเสร็จ เธอหยิบแผนที่ออกมาดู พบว่าเพราะต้องการล่อให้คนพวกนั้นตามเธอมา เพื่อไม่ให้พวกนั้นรู้เส้นทางที่เธอจะไป ทำให้ตอนนี้เธอออกนอกเส้นทางมาไกลมาก แล้ว
“กลืนเมฆา เจ้าพักอยู่ที่นี่เถอะ!” เธอลูบขนเจ้ากลืนเมฆาที่นอนหมอบมองเธออยู่ข้างๆ บอกให้มันอยู่ในห้วงมิตินี้ ส่วนตนเองก็หายตัวออกจากห้วงมิติไป
สิบวันต่อมา
เฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงยืนอยู่เบื้องหน้ามหาสมุทรอันกว้างใหญ่ที่มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด มองดูคลื่นที่ซัดกระทบชายฝั่ง ส่งเสียงซู่ซ่า คลื่นด้านหลังผลักคลื่นด้านหน้าให้กระทบชายฝั่ง ลมเค็มๆ ของน้ำมหาสมุทรพัดเข้ามาปะทะใบหน้าพร้อมกับคลื่น เธอหันไปมองรอบๆ จากนั้นก็ก้มหน้ามองเส้นทางบนแผนที่ในมือ
“ไม่ใช่กระมัง? ยังต้องข้ามทะเลนี้ไปอีก? ทะเลนี้กว้างใหญ่ขนาดไหนกัน? จะข้ามไปได้หรือ?” เธอยืนพึมพำอยู่ด้านหนึ่ง จากนั้นก็มองแผนที่ในมืออีกครั้ง สุดท้ายก็อดถอนหายใจไม่ ได้
“หากรู้ว่าข้ามเกาะนี้ไปแล้วจะเจอกับอะไรก็ว่าไปอย่าง อย่างน้อยก็รู้ว่าทะเลผืนนี้กว้างใหญ่ขนาดไหน แต่พอมาถึงที่นี่แผนที่ตรงนี้กลับไม่มีเส้นทางบอกแล้ว อย่างนี้ไม่ใช่ปั นหัวข้าแล้วเรียกว่าอะไร?” เธอถอยหลังไปสองสามก้าว จากนั้นก็นั่งลงบนก้อนหินก้อนหนึ่งข้างชายหาด ยกมือข้างหนึ่งชันคางจ้องมองมหาสมุทรตรงหน้า
พอปล่อยใจให้เหม่อลอยไปแวบเดียว เวลาก็ค่อยๆ ผ่านไปอย่างช้าๆ แล้ว สิ่งที่ทำให้เธอคาดคิดไม่ถึงก็คือ มหาสมุทรผืนนี้กว้างใหญ่ขนาดนี้ กลับมองไม่เห็นเรือแม้แต่ลำเดียว
พอท้องส่งเสียงร้องโครกคราก เธอจึงฉุกคิดได้ว่าตนเองไม่ได้กินอะไรมาทั้งวันแล้ว! แต่ว่าที่นี่จะมีอะไรอร่อยๆ กินเสียที่ไหน?
เธอหันไปจับจ้องในมหาสมุทรอันกว้างใหญ่ผืนนี้ ท้องทะเลกว้างใหญ่ขนาดนี้ ในนั้นน่าจะมีอาหารทะเลอยู่ไม่น้อยกระมัง? นึกมาถึงตรงนี้ เธออดกลืนน้ำลายไม่ได้
………………………………….
ตอนที่ 2556 ในทะเลไม่มีปลา
“ตัดสินใจแล้ว กินอาหารทะเลนี่แหละ!” เธอยิ้มตาหยีก่อนจะลุกขึ้น ม้วนแขนเสื้อแล้วเดินไปที่ขอบน้ำทะเล ขับเคลื่อนกลิ่นอายพลังวิญญาณ เขย่งปลายเท้ากระโดดเหยียบผิวน้ำ
เธอมาถึงจุดที่น้ำค่อนข้างลึกแล้วมองลงไปในน้ำ น่าแปลก กลับมองไม่เห็นปลาว่ายอยู่ในน้ำเลย ด้วยเหตุนี้ เธอจึงรวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณซัดออกไป น้ำทะเลสาดกระเซ็นบนผิวน้ำ ย ยังคงไม่มีสิ่งมีชีวิตที่สามารถกินได้ปรากฏออกมา
“น่าแปลก? แม้น้ำใสจะไม่มีปลา แต่ที่นี่คือทะเลนี่นา! เป็นไปไม่ได้ที่จะไม่มีอาหารกินนี่นา!” เธอพึมพำด้วยความแปลกใจ ก่อนจะลองดูอีกครั้ง ก็ยังคงไม่มีกุ้งหรือปลาโผล่มาให้เห็น นอยู่ดี
“ฮะ แม่นางน้อย เจ้าอย่ามัวเสียเวลาอยู่ที่นี่เลย ที่นี่ต่างจากที่อื่น แม้จะซัดน้ำอีกกี่ครั้ง เจ้าก็ไม่ได้ปลาสักตัวหรอก”
ขณะที่เฟิ่งจิ่วกำลังสับสนและหงุดหงิดอยู่นั้น จู่ๆ ก็ได้ยินเสียงชราหนึ่งดังกลั้วเสียงหัวเราะขึ้นมา เธอหันไปมอง เห็นชายชราผมขาวทั้งหัวถือไม้เท้าเดินเข้ามา พลางโบกมือตะ ะโกนบอกเธอ
เฟิ่งจิ่วเขย่งปลายเท้าเหาะผ่านผิวน้ำ กลับไปที่ชายหาด เธอเดินไปหาชายชรา ถามว่า “ท่านลุง เหตุใดที่นี่จะหาปลาไม่ได้? ในมหาสมุทรผืนใหญ่นี่น่าจะมีอาหารทะเลไม่น้อยเลยนี่นา !”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ!”
ชายชราลูบหนวดหัวเราะเสียงดัง “ได้ยินเจ้าพูดอย่างนี้ก็รู้ว่าเจ้ามาจากต่างถิ่นใช่หรือไม่? ข้าจะบอกเจ้าให้! มหาสมุทรผืนนี้น่ะ ไม่เคยมีใครคิดว่าจะจับอาหารทะเลหรืออะไรจากใน นนี้ได้หรอก แต่หากเป็นสัตว์ประหลาดนั้นกลับมีไม่น้อย”
เฟิ่งจิ่วชะงักงัน “สัตว์ประหลาด? สัตว์ประหลาดอะไร?”
“สัตว์ประหลาดอะไรนั้นไม่เคยเห็น แต่ถึงอย่างไรก็คือมีรูปร่างใหญ่โต หนำซ้ำยังเป็นสัตว์ประหลาดที่กินคนได้ด้วย กุ้งหอยปูปลาในทะเลผืนนี้เข้าไปอยู่ในท้องของสัตว์ประหลาดพวก กนั้นหมดแล้ว ยังเหลือมาถึงมือของพวกเราอีกเสียที่ไหน!” ชายชราหัวเราะ เดินมานั่งบนชายหาดที่คลื่นซัดไม่ถึง
“ที่นี่ปกติจะมีคนมาน้อยมาก เจ้าเป็นแค่แม่นางน้อยคนหนึ่ง ทำไมถึงได้มาที่นี่?” ชายชราลูบหนวดขณะถาม ยามดวงตาที่ยิ้มหยีจับจ้องมาที่เฟิ่งจิ่ว เขาอดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “เจ้า ากลับงดงามโดดเด่นมาก ข้าเคยเห็นผู้หญิงที่โดดเด่นมาก็ไม่น้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เจอคนรูปร่างหน้าตาเช่นเจ้า”
เฟิ่งจิ่วยิ้มๆ “ขอบคุณท่านลุงที่ชม ข้ากำลังหิว คิดว่าใกล้ๆ มีทะเลผืนใหญ่อยู่ ในนั้นน่าจะมีของกินไม่น้อย นึกไม่ถึงกลับไม่เห็นแม้แต่ปลาสักตัว”
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะจับจ้องที่ชายชรา และถามว่า “ข้าเห็นว่าบริเวณนี้ไม่มีบ้านคนเลย ท่านลุงมาจากไหน? มาทำอะไรที่นี่?”
“ใครว่าไม่มีบ้านคน? เจ้าเดินไปทางนั้นแล้วหรือ?” ชายชรายกมือชี้ออกไปยังเนินเขาด้านหนึ่ง
เฟิ่งจิ่วตะลึง มองไปทางนั้นก็เห็นหลังคาบ้านโผล่พ้นชั้นเมฆออกมารางๆ เฟิ่งจิ่วอดประหลาดใจไม่ได้ เธอขี่กระบี่บินมาที่นี่ เมื่ออยู่บนที่สูงก็จะมองเห็นทุกอย่างบริเวณนี้ แต่ เพราะไม่เห็นว่าแถวนี้มีบ้านคนอยู่ จึงได้พูดออกไปเช่นนั้น แต่ตอนนี้ เหตุใดบนเนินเขาไกลๆ นั่นจึงมีหลังคาบ้านโผล่ขึ้นมาได้? เธอกล้ามั่นใจได้เลย ว่าตนเองไม่มีทางมองพลาด ดไปได้แน่
“เมื่อกี้ตอนข้าดู ที่นั่นไม่มีบ้านคนอยู่จริงๆ ทำไมตอนนี้ถึงได้…” เธอพึมพำด้วยความสับสน ละสายตากลับมาจากที่ไกลๆ หันมามองชายชรา แต่กลับเห็นว่าเวลานี้ชายชราได้ปักไม้เท ท้าลงในดินทรายข้างหน้า ส่วนตนเองนั่งขัดสมาธิ เหมือนกำลังหลับ แต่ก็เหมือนฝึกวรยุทธ์ด้วย
“ท่านลุง?” เธอขานเรียก