เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2561 ล่าอาหาร / ตอนที่ 2562 ลงมือ
ตอนที่ 2561 ล่าอาหาร
ชายชราได้ยินเสียงเคลื่อนไหวก็หันไปมองที่ผิวท้องทะเล เห็นเพียงหัวของแม่นางน้อยโผล่พ้นขึ้นมาเหนือน้ำ เส้นผมเปียกปอนแนบติดพวงแก้ม สภาพไม่จืดเลยทีเดียว เขาอดส่ายหน้าไม่ได้ ก่อนจะหลับตาและไม่มองนางอีก
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วเดินออกมาจากในทะเล ลากเสื้อผ้าที่เปียกโชกมานั่งริมชายหาด จากนั้นก็ไม่รู้ว่ากำลังควานหาอะไรในห้วงมิติ เนิ่นนาน เธอเอาไข่มุกเม็ดหนึ่งออกมา
“หาเจอแล้ว”
เธอหยิบไข่มุกขึ้นมาแล้วยิ้มกว้าง จากนั้นก็กระโดดเข้าไปในทะเลอีกครั้ง ครั้งนี้เธอดำลงไปในน้ำ พอดำลงไปถึงที่ลึก และรู้สึกหายใจลำบาก ก็ถ่ายกลิ่นอายพลังวิญญาณใส่ในไข่มุกก่อนจะขว้างไปในน้ำ
ชั่วพริบตา เห็นเพียงน้ำทะเลแบ่งออกเป็นสองฝั่ง เมื่อไข่มุกเม็ดนั้นจมลงไป น้ำทะเลเบื้องล่างแยกออกเป็นฝั่งซ้ายและขวา พลังวิญญาณพลุ่งพล่าน คลื่นน้ำซัดสาด เสียงดังกึกก้อง
“หืม?”
ชายชราลุกขึ้นมาดู เห็นว่าคลื่นน้ำบนผิวน้ำกระเพื่อมไหว และมีคลื่นของกลิ่นอายพลังวิญญาณปะปนอยู่ด้วย จึงอดไม่ได้ที่จะก้าวเข้าไปดูใกล้ๆ เขาลูบหนวดจ้องผิวน้ำทะเลอย่างครุ่นคิด ผ่านไปครู่หนึ่งก็เอ่ยว่า “ไข่มุกเลี่ยงน้ำหรือ? นึกไม่ถึงว่าจะมีเจ้าสมบัติชิ้นนี้ด้วย? หึๆ ไม่ธรรมดา”
ในทะเล เฟิ่งจิ่วมาถึงก้นบึ้งแล้ว เห็นเพียงปะการังและสาหร่ายหลากสีหลายชนิด ใต้ท้องทะเลนี้สัตว์ทะเลบางตัวกำลังซ่อนตัวอยู่ในทรายก้นทะเล เห็นอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วแย้มยิ้ม รีบเดินเข้าไปเก็บทันที
“นี่ก็คือเม่นทะเล? เจ้าปูตัวนี้ดูอวบอ้วนจริงๆ อืม กุ้งตัวนี้ใหญ่มาก ตัวเดียวพอให้ข้ากินอิ่มแล้ว” เธอพึมพำไปพลาง เดินเก็บสัตว์เทะลใส่ถุงฟ้าดินไปพลาง กระทั่งรู้สึกว่าได้มาพอประมาณแล้ว จึงควบคุมไข่มุกเลี่ยงน้ำให้มาอยู่ข้างๆ และเตรียมตัวกลับขึ้นฝั่ง
ทว่าในเวลานี้เอง เสียงคำรามหนึ่งดังก้องมาจากในน้ำทะเลที่แบ่งออกเป็นสองฝั่ง อีกทั้งยังดังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ด้วย เฟิ่งจิ่วเงี่ยหูฟังและมองไปตามที่มาของเสียง เธอมองเห็นไม่ชัดว่ามันเป็นตัวอะไร รู้เพียงว่ามีขนาดตัวมหึมา
“สัตว์ประหลาด?”
เธอยักคิ้ว ก่อนผูกถุงฟ้าดินที่เอว ขณะเดียวกันก็ดึงดาบสั้นติดมือมาด้วย พลันใดนั้นเห็นเพียงหนวดขนาดเท่าแขนคนพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว ลักษณะของมันเหมือนกับหนวดของปลาหมึก ด้านบนยังมีปุ่มดูดอยู่หลายปุ่มด้วย
หนวดเส้นนั้นพุ่งรัดมาที่ขาของเธอ พยายามจะลากเธอไป เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นกลับไม่คิดหลบ เพียงปล่อยให้ตนเองถูกลากเข้าไปในน้ำทะเล หลังถูกลากเข้าไปในน้ำทะเล ในที่สุดก็เห็นอย่างชัดเจนว่าสัตว์ประหลาดที่ว่าคือปลามึกยักษ์ตัวหนึ่งจริงๆ หนวดแต่ละเส้นของมันขยับส่ายไปมาอยู่ในน้ำ ขณะที่จับขาของเธอและพยายามจะยัดเธอใส่ปากของมัน
อาหารเลิศรสเดินมาหาถึงที่เองแท้ๆ!
เธอหรี่ตาขณะลอบคิดในใจ ‘เจ้าปลาหมึกนี่ตัวใหญ่ขนาดนี้ หากจับมาย่างกินจะต้องอร่อยมากแน่ๆ’ นึกมาถึงตรงนี้ ดาบสั้นในมือของเธอเงื้อขึ้น ตวัดฟันหนวดเส้นที่รัดขาของเธอจนขาด
เมื่อหนวดเส้นนั้นขาด เจ้าหมึกยักษ์กรีดร้องคำราม ขยับส่ายหนวดเส้นอื่นเพื่อโจมตีเธอด้วยความเร็วสูงสุด ท่ามกลางน้ำทะเล ความเร็วของเฟิ่งจิ่วไม่ได้สูงมาก ด้วยเหตุนี้เธอจึงขยับดวงจิต ควบคุมไข่มุกเลี่ยงน้ำให้มาอยู่ข้างกาย
ชั่วพริบตา น้ำทะเลแยกออกเป็นสองฝั่ง ไม่มีแรงช่วยจากน้ำ หนวดของเจ้าหมึกยักษ์ร่วงหล่นบนพื้นทรายในทันที หนวดหมึกขยับดิ้นอยู่บนพื้นทราย ทำท่าจะคลานหนีไป
“คิดจะหนี?” เฟิ่งจิ่วมุมปากกระตุก ในมือพลันปรากฏตาข่ายขนาดใหญ่ผืนหนึ่ง เธอเหวี่ยงตาข่ายใส่เจ้าหมึกยักษ์และลากมันกลับมา ขณะเดียวกัน อีกมือหนึ่งหยิบไข่มุกเลี่ยงน้ำมา รวบรวมพลังและเหาะขึ้นเหนือผิวน้ำทะเล
………………………………….
ตอนที่ 2562 ลงมือ
เสียงโผล่พ้นน้ำดังมาพร้อมกับเสียงกรีดร้องอันแปลกประหลาด ชายชราที่ยืนอยู่ริมชายหาดอดตะลึงไม่ได้ เขาเพ่งมอง กลับเห็นสิ่งมีชีวิตขนาดใหญ่ตัวหนึ่งที่ยังไม่ทันได้มองให้ชัดก็ถูกขว้างเข้ามาแล้ว
“ตัวอะไรเนี่ย!” เขาถอยหลังหลบหลายก้าวโดยสัญชาตญาณ แล้วก็เห็นเจ้าสิ่งนั้นยังคงดิ้นอยู่หลังจากที่ถูกขว้างลงบนพื้นแล้ว
“ซี้ด! เจ้าจับสัตว์ประหลาดกลับมาได้ตัวหนึ่งอย่างนั้นหรือ?” ชายชราถลึงตาจ้องเฟิ่งจิ่วที่กำลังใช้กลิ่นอายพลังวิญญาณกำจัดคราบน้ำบนตัวเหมือนเห็นผี
กลิ่นอายพลังวิญญาณเคลื่อนผ่านร่างกาย เสื้อผ้าที่ตอนแรกเปียกปอนกลับมาแห้งสบายในพริบตา แม้แต่หยดน้ำที่เกาะเส้นผมอยู่ก็หายไปด้วย เส้นผมสีหมึกสยายอยู่กลางหลัง
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองชายชราแวบหนึ่ง พลางใช้เส้นคาดผมรวบอย่างง่ายๆ จากนั้นก็สวมเสื้อคลุม ส่วนรองเท้ากลับไม่ได้ใส่ ยังคงถอดไว้บนทรายเหมือนเดิม ปล่อยให้เท้าที่ขาวดุจหยกเดินย่ำอยู่บนทรายเนื้อละเอียด
“ท่านลุง กินอาหารทะเลหรือไม่?” เธอเผยยิ้มอ่อนๆ วางมาดเหมือนบุตรีจากตระกูลใหญ่ ทว่าชายชราที่เห็นท่าทางของเธอ กลับหนังตากระตุกถี่ๆ
บุตรีจากตระกูลใหญ่ทั่วไปไม่มีทางทำให้ตนเองเปียกปอนไปทั้งตัวเพื่อลงทะเลไปจับสัตว์ประหลาดหรอก อีกอย่าง อย่าว่าแต่บุตรีตระกูลใหญ่เลย เขาเฝ้าทะเลผืนนี้มานานหลายปีแล้ว ยังไม่เคยเห็นใครที่ลงไปจับสัตว์ประหลาดขึ้นมาเลย
“สัตว์ประหลาดนี่กินไม่ได้เสียหน่อย เจ้าจับมันขึ้นมาทำไม?” ชายชราว่า พลางลองแตะตาข่ายที่เหมือนเส้นไหมเงินนั่น ก่อนจะเอ่ยอย่างอดตะลึงไม่ได้ว่า “นี่มันสมบัติล้ำค่าเลยนี่”
“อืม เป็นอาวุธวิเศษอย่างหนึ่ง” เฟิ่งจิ่วว่า ขณะจ้องเจ้าหมึกยักษ์ที่ยังดิ้นขลุกขลักอยู่ในตาข่ายเงิน “เจ้านี่สิอร่อย มีแค่พื้นที่ใกล้เคียงทะเลเท่านั้นถึงจะมีของอย่างนี้ ที่อื่นแม้อยากกินก็หาไม่ได้”
เธอหันไปมองรอบๆ ก่อนจะหันความสนใจมาที่ชายชรา ยิ้มตาหยีแล้วถามว่า “ท่านลุง ท่านอยากกินอาหารทะเลหรือไม่ ของที่ข้าทำอร่อยมากนะจะบอกให้”
ชายชราได้ยินก็ขมวดคิ้ว ถามว่า “มีอะไรก็พูดมา ข้าเป็นคนตรงไปตรงมา ไม่ชอบคนกระมิดกระเมี้ยนหรืออ้อมค้อมไปมา” แม้ว่าแม่นางน้อยตรงหน้าจะไม่มีท่าทางกระมิดกระเมี้ยนเลยแม้แต่น้อยก็ตาม
เธอยิ้มๆ ก่อนจะบอกออกไปตามตรงว่า “รบกวนท่านลุงไปเก็บกิ่งไม้มาที ข้าจะทำของอร่อย”
ชายชราตะลึงค้าง จ้องเธอด้วยดวงตาเบิกกว้าง “จะ เจ้าให้ข้าไปเก็บกิ่งไม้?”
“ท่านลุงบอกว่าเป็นคนตรงๆ ไม่ใช่หรือ? นี่ข้าก็พูดแล้ว ท่านยังไม่อยากจะช่วยอีกรึ?” เธอมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนถามอีกว่า “หรือว่าท่านลุงจะจัดการเจ้าหมึกยักษ์นี่และกุ้งหอยปูปลาพวกนั้น? ข้าบอกไว้ก่อนนะ! ใครไม่ช่วยก็ไม่ได้กินของของข้า”
“เจ้านั่นของเจ้าไม่อร่อยเสียหน่อย ข้าไม่อยากกินหรอก” ชายชราว่า ก่อนจะหันตัวเดินไปนั่งบนพื้นทราย
“ก็ได้! ในเมื่อท่านลุงพูดแล้ว อย่างนั้นข้าทำเองก็ได้” เธอยักไหล่ ท่าทางไม่ยี่หระ
“กลืนเมฆา เสี่ยวไป๋ ออกมา” เธอขานเรียก ไม่นานก็เห็นประกายแสงสองเส้นวาบออกมาจากห้วงมิติ อสูรกลืนเมฆากับเสี่ยวไป๋ปรากฏตัวตรงหน้าเธอ
“นายท่าน” สัตว์ร้ายทั้งสองขานเรียกพร้อมกัน เสี่ยวไป๋เดินเข้ามาถูไถเฟิ่งจิ่วอย่างสนิทสนม
ทางนั้น เมื่อชายชราเห็นว่าเธอมีสัตว์คู่พันธสัญญาอีกสองตัว ก็อดจ้องมองอยู่นานสองนานไม่ได้
“ไป พวกเจ้าเข้าไปเก็บกิ่งไม้ในป่ากลับมาหน่อย อีกเดี๋ยวข้าจะทำของอร่อยให้พวกเจ้ากิน” เฟิ่งจิ่วลูบหัวเสี่ยวไป๋ พลางออกคำสั่ง
………………………………….