เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2573 ประเคนตัวเองถึงที่ / ตอนที่ 2574 แพ้ชนะ
ตอนที่ 2573 ประเคนตัวเองถึงที่
“ความมั่นใจ?” คนรอบข้างมองหน้ากันแวบหนึ่ง ก่อนจะหัวเราะเยาะ “ไม่รู้สึกเหมือนว่าเป็นความมั่นใจ เหมือนตกใจจนโง่งมไปแล้วเสียมากกว่า”
คนนอกเขตอาคมยืนดู วิพากษ์วิจารณ์พลางหัวเราะไปด้วย บรรยากาศในเขตอาคมกลับดูตึงเครียด โดยเฉพาะหลิงเทียนอวี่ ยามเห็นเฟิ่งจิ่วที่กำลังหยักยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ เขายิ่งเบิกตากว้าง ถอยหลังไปหนึ่งก้าว
ทำไมคนคนนี้ถึงได้มีรอยยิ้มที่ชวนขนลุกขนชันเช่นนั้น? รอยยิ้มอย่างนี้ เหตุใดจึงได้ปรากฏอยู่บนตัวคนที่หน้าตางดงามเช่นนั้นได้?
เขาพยายามข่มความกลัวและความกระวนกระวายที่อธิบายไม่ถูกนั่น กำแส้ในมือไว้มั่น ขบกรา,เอ่ยว่า “อย่างนั้นข้าจะสั่งสอนเจ้าเอง! ดูสิว่าเจ้าจะมีปัญญาสักแค่ไหนกันเชียว!” เอ่ยจบ เขาขยับเคลื่อนฝีเท้าพุ่งเข้าไป แส้ในมือถูกเหวี่ยงไปที่เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างหน้า
กระแสพลังอันดุดันที่พวยพุ่งออกไปพร้อมกับแส้แหวกผ่านอากาศ ผู้ชมด้านนอกยืนดูอยู่ รู้สึกว่าหากแส้นั้นฟาดลงที่ชายชุดแดง เนื้อหนังจะต้องแตกยับอย่างแน่นอน
ทว่าสิ่งที่ทำให้ผู้คนคาดคิดไม่ถึงก็คือ เสี้ยวนาทีที่แส้ฟาดลงไป เงาร่างสีแดงกลับโฉบหลบการโจมตีของหลิงเทียนอวี่ด้วยความเร็วดุจภูตผี ขณะเดียวกันก็พุ่งเข้าไปเหยียบบนแส้ที่ฟาดลงบนพื้น เหยียบย่างบนแส้ของเขา เงาร่างสีแดงเคลื่อนเข้าใกล้หลิงเทียนอวี่ทีละก้าวๆ บีบเค้นจนหลิงเทียนอวี่จำต้องทิ้งแส้ในมือแล้วถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าไม่ใช่ผู้ฝึกตนระดับปราชญ์เซียน!” เขาหน้าเครียด เอ่ยเสียงรอดไรฟันออกมา เพียงการประมือง่ายๆ เขาก็รู้แล้วว่า วรยุทธ์ของคนคนนี้ไม่ใช่ระดับปราชญ์เซียน แต่แข็งแกร่งกว่านั้น!
บัดซบ! นึกไม่ถึงว่าคนคนนี้ซ่อนพลังไว้! อีกทั้งพลังยังเหนือชั้นกว่าเขาอีกด้วย! นึกถึงการต่อสู้ครั้งนี้เกิดขึ้นเพราะการท้าทายของตนเอง หนำซ้ำผู้แพ้ยังต้องตกเป็นทาศของผู้ชนะ สีหน้าของหลิงเทียนอวี่ยิ่งไม่น่าดูเข้าไปใหญ่
เฟิ่งจิ่วสะบัดข้อเท้า ตวัดเอาแส้ที่ถูกทิ้งขึ้นมากำไว้ในมือ “ข้าบอกเมื่อใดว่าข้าเป็นผู้ฝึกตนระดับปราชญ์เซียน? เจ้าเองก็ไม่เคยถามข้านี่!”
เธอยิ้มๆ มองสีหน้าที่กลายเป็นย่ำแย่ของเขาอย่างหยอกเย้า “เป็นเจ้าที่ส่งคำท้ามาเอง ทั้งที่ข้าก็ไม่ได้อยากจะสู้กับเจ้าแท้ๆ เจ้ากลับมาหาข้าเอง แล้วข้าจะทำอย่างไรได้เล่า?”
เอ่ยจบ เธอตวัดแส้ในมือ แส้ยาวถูกเหวี่ยงออกไป ฟาดลงบนแขนของหลิงเทียนอวี่อย่างแม่นยำไร้ที่เปรียบ
“ซี้ด!”
หลิงเทียนอวี่สูดปาก เจ็บจนแทบกระโดดตัวโยน บัดซบเอ๊ย! ทั้งที่เขาเห็นว่าแส้ยาวพุ่งเข้ามา และเบี่ยงตัวหลบแล้วแท้ๆ ทำไมแส้นั่นยังตีโดนตัวเขาอีก?
“เฮือก!”
ครั้นเห็นเจ้ามืองน้อยที่อยู่ในเขตอาคมถูกแส้ฟาด คนข้างนอกต่างสูดหายใจ จ้องเหตุการณ์ข้างในด้วยสีหน้าเหลือเชื่อ
“สวรรค์! ข้ามองไม่ผิดใช่ไหม? เจ้าหนุ่มนั่นฟาดแส้ใส่เจ้าเมืองน้อย?”
“เจ้าเมืองน้อยกลับยืนนิ่งไม่หลบ? ถูกตีจนโง่งมแล้วหรือ?”
“เจ้าสิโง่! เจ้าไม่เห็นหรือ! พลังของเจ้าหนุ่มชุดแดงอยู่เหนือเจ้าเมืองน้อย!”
“หา? ไม่ใช่กระมัง? อย่างนั้นเจ้าเมืองน้อยก็เป็นแกะน้อยเข้าปากเสือน่ะสิ? หนำซ้ำยังเป็นฝ่ายประเคนตนเองไปหาอีกฝ่ายเองด้วย?”
“พรืด! เจ้าเมืองน้อยเป็นแกะ? ปกติเวลาสั่งสอนคน ต่างก็พูดกันว่าเขาคือปีศาจร้ายไม่ใช่หรือ?”
“ฮ่าๆ ปีศาจร้ายก็มีดาวปราบมารเช่นกัน ดีเหลือเกิน! ให้ดีที่สุดคือเจ้าหนุ่มชุดแดงช่วยสั่งสอนเจ้าเมืองน้อยดีๆ สักครั้ง”
“นั่นสิๆ จริงด้วย! ใครแพ้ต้องกลายเป็นทาสของอีกฝ่ายด้วยนี่!” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งอุทานอย่างนึกขึ้นได้ ทันใดนั้น รอบข้างพลันเงียบสงัด
………………………………….
ตอนที่ 2574 แพ้ชนะ
“หากเจ้าเมืองน้อยแพ้ก็ต้องกลายเป็นทาส? พวกเจ้าคิดว่าเป็นไปได้หรือ? หากเจ้าเมืองรู้เรื่องนี้จะต้องโมโหตายแน่ๆ”
“สถานการณ์อย่างนี้กลับไม่เคยเจอมาก่อน แต่เห็นได้ชัดว่าคราวนี้เจ้าเมืองน้อยพลาดท่าเข้าแล้ว”
“ข้าคิดว่าแม้เจ้าหนุ่มชุดแดงชนะก็ไม่ใช่เรื่องดี” ผู้ฝึกตนคนหนึ่งพูดขึ้นเบาๆ
“ทำไมเล่า?” ผู้ฝึกตนอีกคนถาม
“พวกเจ้าลองคิดดูสิ! เจ้าเมืองหลิงเป็นผู้ปกครองแห่งเมืองหนึ่งเชียวนะ เขาเป็นถึงผู้แข็งแกร่งระดับจักรพรรดิเซียน เขาจะยอมปล่อยให้ลูกชายของตนเองกลายเป็นทาสของคนอื่นหรือ? ข้าเดาว่าหากเจ้าหนุ่มชุดแดงชนะ อีกไม่นานจะต้องถูกเจ้าเมืองฆ่าแน่ๆ”
ได้ยินอย่างนั้น ทุกคนเงียบกริบ รู้สึกว่าเขาพูดมีเหตุผล ชั่วขณะหนึ่ง พวกเขาพากันหันไปมองเฟิ่งจิ่วในชุดแดง รู้สึกว่าไม่ว่าจะแพ้หรือชนะ ล้วนไม่เป็นผลดีต่อเขา
ส่วนเฟิ่งจิ่วที่อยู่ในเขตอาคมไม่ได้สนใจอะไรมาก แส้ในมือของเธอตวัดใส่หลิงเทียนอวี่ราวกับกำลังหยอกเล่นกับลิง แต่ละครั้งที่ฟาดแส้ออกไปล้วนแม่นยำเหมือนจับวางบนตัวของอีกฝ่าย แต่ละแส้ล้วนแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณและกำลังภายใน เมื่อเสียงฟาดดังหนึ่งครั้ง รอยเลือดก็ปรากฏหนึ่งเส้น
“ซี้ด! อ๊าก!”
ถูกแส้ฟาดติดๆ กันหลายครั้งในรวดเดียว พยายามโจมตีระยะประชิดแต่ก็ไม่อาจเข้าใกล้ รู้สึกเพียงแส้ที่ฟาดมาแต่ละครั้งทั้งเจ็บแสบรวดร้าวและทรมาน
“เจ้าเมืองน้อย!”
“เจ้าเมืองน้อย!”
เหล่าองครักษ์ที่อยู่ข้างนอกเห็นเหตุการณ์ก็ร้อนใจนั่งไม่ติด ทว่าในเขตอาคมนั่น ไม่ว่าจะคนที่อยู่ข้างในหรือคนที่อยู่ข้างนอกด้วยเข้าออกไม่ได้
“เฟิ่งจิ่ว กล้าทำอย่างนี้กับข้าเชียวหรือ ข้าไม่ปล่อยเจ้าไปแน่!” หลิงเทียนอวี่คำราม จับจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยดวงตาที่ลุกโชนไปด้วยเพลิงโทสะ
เฟิ่งจิ่วเหลือบมองเขาอย่างไม่สะทกสะท้าน เพียงยิ้มๆ “ทำไมเล่า? แค่นี้ก็ทนไม่ได้แล้ว? ทนไม่ได้เจ้าก็ยอมแพ้สิ! ขอแค่เจ้ายอมแพ้ เขตอาคมนี้ก็หายไปแล้ว ข้าก็จะได้ไม่ต้องฟาดเจ้าอีก”
“ให้ข้ายอมแพ้? ไม่มีทาง!”
เขากัดฟัน ก่อนจะเอาของสิ่งหนึ่งออกมาจากห้วงมิติ ขว้างลงบนพื้นตรงกลางระหว่างทั้งสองคน เห็นเพียงควันขุมหนึ่งกระจายตัวไปทั่ว บดบังการมองเห็นให้เลือนราง
มองดูหมอกควันที่กระจายไปทั่ว เฟิ่งจิ่วหรี่ตา การมองเห็นถูกขัดขวาง เธอจึงปล่อยดวงจิตออกไป ในเวลานี้เอง เธอสัมผัสได้ถึงไอเย็นขุมหนึ่งพวยพุ่งเข้ามาพร้อมกับไอสังหาร รีบเบี่ยงตัวหลบอย่างรวดเร็ว เมื่อใช้ดวงจิตกวาดสำรวจ กลับตรวจสอบไม่เจอตำแหน่งของหลิงเทียนอวี่ เฟิ่งจิ่วสะดุดใจ รู้ว่าอีกฝ่ายจะต้องใช้อาวุธวิเศษอะไรบางอย่างแน่นอน
ด้วยเหตุนี้ เธอรวบรวมสมาธิ ตั้งใจรับมือและป้องกันภัยจากที่มืด
“ชิ้ง!”
คมดาบพาดผ่าน กระแสพลังอันเยือกเย็นพุ่งเข้ามา เธอรู้สึกได้รางๆ ว่าคมดาบนั่นเฉือนผ่านเสื้อคลุมของเธอไป ทำให้เสื้อคลุมของเธอขาดเป็นรอย แต่กลับไม่ได้ทำร้ายจนบาดเจ็บถึงเนื้อหนัง
“ไม่นึกว่าแม้แต่โผล่หน้าออกมาก็ไม่กล้าแล้ว? คิดจะซ่อนตัวแล้วเอาชนะข้าด้วยการลอบโจมตี?” เฟิ่งจิ่วยิ้มเยาะ ขณะเดียวกันก็เงี่ยหูฟังการเคลื่อนไหวรอบด้านไปด้วย
“เอาชนะเจ้าอย่างไรไม่สำคัญ สำคัญคือสุดท้ายข้าชนะก็พอแล้ว!”
เสียงเย็นๆ ของหลิงเทียนอวี่ดังก้องทั่วด้านในเขตอาคม เขาที่ไม่เคยเจอคู่ต่อสู้มาก่อ ครั้งนี้กลับพลาดท่าให้กับเฟิ่งจิ่ว ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใด เขาล้วนรับไม่ได้ทั้งนั้น ยิ่งไม่มีวันยอมรับเรื่องที่ตนเองแพ้แล้วจะต้องกลายเป็นทาสของอีกฝ่ายด้วย!
แต่ทว่า แม้เสียงของเขาจะดังก้องไปทั่ว แต่ก็ยังถูกเฟิ่งจิ่วจับความเคลื่อนไหวได้ เธอเดินวนเวียนอยู่ในหมอกควัน ตั้งใจชะลอฝีเท้า เปล่งเสียงออกไป
ในขณะที่หลิงเทียนอวี่คิดว่าสบโอกาส และถือดาบพุ่งแทงเฟิ่งจิ่วอย่างแรง ทันใดนั้น มือข้างที่ถือดาบพุ่งแทงออกไปกลับถูกคว้าและจับหักลงไปข้างล่าง…
………………………………….