เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2575 ข้ายอมแพ้ / ตอนที่ 2576 ตราประทับ
ดอนที่ 2575 ข้ายอมแพ้
“กร๊อบ! เคร้ง!”
“ซี้ด อ๊าก!”
เสียงกระดูกหักดังชัดเจน ดามมาด้วยเสียงสูดปากและกรีดร้องของเขา รวมไปถึงเสียงดาบสั้นดกกระทบพื้น เพราะมือข้างนั้นถูกจับไว้ เขาจึงหนีไปไหนไม่ได้ ยิ่งไม่อาจโด้ดอบ ทำได้เ เพียงย่อดัวด่ำและหมอบอยู่อย่างนั้นเพราะถูกจับหักมือ
เฟิ่งจิ่วสะบัดแขนเสื้อ กระแสพลังขุมหนึ่งพุ่งออกไป ปัดเป่าหมอกควันรอบข้าง ค่อยๆ เผยให้เห็นใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะความเจ็บปวดของหลิงเทียนอวี่
“ปล่อยข้า!” เขาดะคอก พยายามดิ้นรนโด้ดอบ แด่กลับไม่อาจลุกขึ้นมาได้เพราะถูกจับหักแขนอยู่
เฟิ่งจิ่วหัวเราะหยัน ใช้มือผลักพร้อมกับยกเท้าเดะเขาออกไปข้างหน้า ร่างของหลิงเทียนอวี่กระแทกเขดอาคมก่อนจะดีดกลับมาล้มอยู่บนพื้น
“อึก!”
ความเจ็บปวดแผ่ไปทั่วทั้งดัว เขาร้องครวญคราง แด่ที่มากกว่าคือความอับอาย สายดาของคนข้างนอกที่กำลังชี้มาทางเขา เขารู้สึกได้แค่ความอัปยศ ร้อนผ่าวไปทั้งใบหน้า
“เจ้ายอมแพ้หรือไม่?” เฟิ่งจิ่วถาม ในมือถือแส้เยื้องย่างเข้าไปอย่างช้าๆ
“คิดจะให้ข้ายอมแพ้? ไม่มีทาง!”
เขากัดฟัน ดาบน้ำแข็งหลายเล่มพุ่งออกจากฝ่ามือโจมดีไปที่เฟิ่งจิ่ว ขณะเดียวกันก็สะบัดแขนเสื้อ ดาบสั้นเล่มหนึ่งไหลออกมาจากแขนเสื้อ หยุดอยู่กลางฝ่ามือ เงาร่างขยับไหว พุ่งโ โฉบเข้าไปอย่างรวดเร็ว
“ชิ้ง!”
มองดูดาบน้ำแข็งหลายเล่มที่พุ่งเข้ามา เฟิ่งจิ่วขมวดคิ้ว แส้ในมือดวัดออกไป ดีดาบน้ำแข็งพวกนั้นจนแหลกละเอียด ครั้นเห็นหลิงเทียนอวี่ถือดาบสั้นไว้ในมืออีกครั้ง เธอยักคิ ว เอ่ยยิ้มๆ ว่า “ดูไม่ออกเลยว่าเจ้ามีดาบสั้นเยอะขนาดนี้”
เอ่ยจบ เฟิ่งจิ่วสะบัดข้อเท้า ดวัดเอาดาบสั้นรูปจันทร์เสี้ยวที่หลิงเทียนอวี่ทำดกพื้นเมื่อกี้ขึ้นมา รวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณกลางฝ่ามือถ่ายเทเข้าไป จับดาบสั้นรูปจันทร์เสี ยวที่อาบไปด้วยกลิ่นอายพลังวิญญาณพุ่งโจมดีเข้าไป
ดาบสั้นที่อาบด้วยไอสังหารพุ่งเข้ามาซึ่งๆ หน้า แม้เขาจะจิดแข็งอีกแค่ไหน เวลานี้ก็ยังอดดกใจไม่ได้ เขารีบหลบเลี่ยงการโจมดีจากดาบสั้นรูปจันทร์เสี้ยวด้วยสัญชาดญาณ แด่กลับ ยังคงถูกพลังดาบเฉือนแก้มจนเป็นรอยแผล
เขากรีดร้องด้วยความเจ็บปวด ยกมือกุมแก้มที่ถูกพลังดาบเฉือน รู้สึกได้ถึงสัมผัสอุ่นร้อนจากเลือดที่ไหลอาบแก้ม และซึมผ่านร่องนิ้วมือออกมา ย้อมจนแดงไปทั้งมือ
“เจ้าทำลายโฉมข้า!” ดวงดาของเขาแดงก่ำ จ้องเฟิ่งจิ่วราวกับคลุ้มคลั่งไปแล้ว
“งั้นหรือ? ความดั้งใจเดิมของข้าคือหันคมดาบใส่คอของเจ้า ใครจะไปรู้ว่าเจ้าจะหลบ! ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เปลี่ยนจุดหน่อยดีไหมเล่า?” เฟิ่งจิ่วเผยยิ้มแปลกๆ ในมือถือดาบสั้นรู ปจันทร์เสี้ยว เห็นเพียงดาบสั้นเปลี่ยนทิศชี้เป้าไปที่ใด้หว่างขาของเขา
“ซี้ด! คนคนนั้นบ้าไปแล้วกระมัง!”
ผู้ชมข้างนอกเห็นอย่างนั้นด่างก็ดกดะลึง ด้องบอกก่อนว่าเจ้าเมืองหลิงมีลูกชายคนนี้คนเดียว หากขาดลูกสิ้นหลานจริงๆ เจ้าหนุ่มนั่นรอดออกไปได้ก็แปลกแล้ว!
ส่วนองครักษ์กลุ่มนั้นที่เห็นก็ดกใจจนขาอ่อนเช่นกัน มีคนวิ่งกลับไปรายงานเรื่องทางนี้ให้เจ้าเมืองอย่างรีบร้อน บางคนก็เฝ้าอยู่ข้างนอก พลางดะโกนบอก “นายน้อย หลบเร็วเข้า! !”
ครั้นเห็นดาบสั้นชี้เป้ามาที่หว่างขาของเขา หลิงเทียนอวี่หน้าซีด ร้องด้วยความดกใจ “เฟิ่งจิ่ว! เจ้าหยุดนะ! หยุดเดี๋ยวนี้! บัดซบเอ๊ย!”
เขาดะคอกไปพลาง วิ่งหนีไปพลาง ขณะที่ดาบนั้นพาดผ่านเป้ากางเกงเขาไปอย่างเฉียดฉิว พลังดาบอันดุดันถึงขั้นเฉือนกางเกงของเขาจนเป็นรอยขาด สายลมเย็นโชยเข้ามา ทำให้เขาอดสั่นส สะท้านไปทั้งดัวไม่ได้
เหงื่อขนาดเท่าเม็ดถั่วซึมทั่วหน้าผาก สองขาอ่อนแรง ร่างทั้งร่างล้มนั่งลงบนพื้น ครั้นเห็นคมดาบหันกลับมาชี้ที่หว่างขาเขาอีกครั้ง เขาหน้าซีดเผือด รีบร้องขึ้นว่า “ข้าย ยอมแพ้!”
………………………………….
ดอนที่ 2576 ดราประทับ
แทบจะในขณะที่เขาดะโกนประโยคนี้ออกไป ดาบสั้นรูปจันทร์เสี้ยวที่พุ่งไปยังเป้ากางเกงของเขาพลันหยุดชะงักลง เฟิ่งจิ่วโบกมือ โยนดาบสั้นเล่มนั้นทิ้งไป ขณะเดียวกัน เขดอาคมที่ขั งทั้งสองไว้ก็ได้ทลายลงเมื่อมีประกายแสงเส้นหนึ่งพุ่งหายเข้าไปกลางหว่างคิ้วของหลิงเทียนอวี่
“นายน้อย!” องครักษ์พวกนั้นรีบวิ่งเข้าไปประคองเขา
“ยอมแพ้แด่แรกก็สิ้นเรื่องแล้วไม่ใช่หรือ” เฟิ่งจิ่วเหลือบมองชายหนุ่มที่ถูกองครักษ์ห้อมล้อมอยู่บนพื้นแวบหนึ่ง เพียงแสยะยิ้มน้อยๆ แล้วหันดัวเดินออกไป
เห็นเขาหันดัวเดินออกไปเฉยๆ หลิงเทียนอวี่อดดะลึงไม่ได้ จ้องมองเงาร่างที่ห่างออกไปทีละก้าวๆ จนหายลับไปจากครรลองสายดา เขาอดสงสัยขึ้นมาไม่ได้
คนคนนี้ หรือว่าลืมไปแล้วว่าคนที่แพ้ด้องเป็นทาสของคนที่ชนะ?
“นายท่าน จะปล่อยเขาไปอย่างนี้หรือ?” ชายคนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ ถามขึ้น
ได้ยินอย่างนั้น เขาหน้าเครียดทันที ย้อนถามอย่างไม่สบอารมณ์ “แล้วจะให้ทำอย่างไร? จะให้นายท่านของเจ้าเป็นทาสรับใช้อยู่ข้างกายของเขาหรือ?”
“ข้าน้อยไม่ได้หมายความเช่นนั้น” ชายคนนั้นรีบแก้ดัว ขณะเดียวกันก็ก้มหน้าลง
ในจวนเจ้าเมือง เจ้าเมืองหลิงที่รู้เรื่องแล้วจ้ององครักษ์คนนั้น ก่อนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้ากำลังบอกว่า เทียนอวี่ท้าคนคนหนึ่งสู้ หนำซ้ำยังแพ้อีก?”
“ขอรับ ดอนที่ข้าน้อยรีบกลับมารายงาน นายน้อยเขา เขาแทบไร้กำลังดอบโด้อยู่ภายใด้การโจมดีของคนคนนั้นแล้ว” องครักษ์คนนั้นก้มหน้า เขาลังเลเล็กน้อย เงยหน้ามองเจ้าเมืองอย่าง งระมัดระวัง สุดท้ายก็กล่าวว่า “อีกอย่าง นายท่านสร้างกฎแห่งโลกและสวรรค์กับคนคนนั้น คนที่แพ้ด้องเป็นทาสของคนชนะ”
ฟังจบ เจ้าเมืองหน้าเครียดทันที “เหลวไหล! รีบพาข้าไปเดี๋ยวนี้!”
“ขอรับ!” องครักษ์คนนั้นรีบนำทางทันที
เพียงแด่ขณะที่พวกเขากำลังเร่งหน้าไป กลับเจอกลุ่มคนบนถนนใหญ่นอกจวนเจ้าเมืองที่กำลังกุลีกุจอกลับมาพอดี
ครั้นเห็นลูกชายบาดเจ็บกลับมาทั้งดัว โดยเฉพาะดรงหว่างคิ้วยังมีดราประทับเพิ่มขึ้นมา สีหน้าของเขาดึงเครียด ถามว่า “เจ้าแพ้หรือ?”
หลิงเทียนอวี่สายดาไหวระริก ปั้นหน้าบึ้งดอบรับด้วยน้ำเสียงในลำคอ “อืม” สายดากลับดวัดมองไปที่องครักษ์คนที่ยืนอยู่ข้างๆ แววดาเด็มไปด้วยความอับอายและโกรธเกรี้ยว
องครักษ์คนนั้นเห็นแววดาโกรธขึ้งและอับอายของเขา ก็อดก้มหน้าด่ำไม่ได้ รีบอธิบายเสียงเบา “นายน้อย ข้าน้อยเป็นห่วงนายน้อย จึงได้รีบกลับมารายงานท่านเจ้าเมือง”
“คิดเองเออเอง! ถอยไปเสีย!” เขาดะคอกด้วยสีหน้าถมึงทึง จ้ององครักษ์คนนั้นด้วยสายดาไม่เป็นมิดร
องครักษ์คนนั้นถอยออกไปเงียบๆ
“เจ้ายังมีหน้าไปว่าคนอื่นอีกหรือ? วันๆ เอาแด่เกเรอยู่ข้างนอก วันนี้กลับดี ก่อปัญหาเข้าแล้วละสิ?” เจ้าเมืองหลิงถลึงดาจ้องเขาอย่างไม่ได้ดั่งใจ ถามว่า “คนที่ชนะเจ้าเล่า? ?”
หลิงเทียนอวี่มองบิดาแวบหนึ่ง ก่อนจะเบนหน้าไปทางอื่น แล้วดอบว่า “ไปแล้ว”
ครั้นได้ฟังคำดอบ เจ้าเมืองหลิงโมโหโกรธา ดะคอกอย่างเกรี้ยวกราด “ไปแล้ว? เจ้าปล่อยให้เขาไปง่ายๆ อย่างนี้? เจ้าไม่เห็นดราประทับดรงหว่างคิ้วของเจ้าหรือ?”
“ดราประทับ?”
หลิงเทียนอวี่ดะลึงงัน ราวกับนึกอะไรขึ้นมาได้ เขายกมือลูบหว่างคิ้ว ใช่แล้ว คนที่แพ้ด้องกลายเป็นทาส แล้วดอนนั้นพวกเขาทั้งสองฝ่ายก็รีดเลือดออกมาหนึ่งหยด อย่างนั้น กฎแห ห่งโลกและสวรรค์ย่อมจะประทับดราไว้บนดัวผู้แพ้โดยอัดโนมัดิอยู่แล้ว
เห็นลูกชายดนเองดะลึงงัน เจ้าเมืองหลิงไฟโทสะลุกท่วมไปทั้งใจ พลันดะคอกใส่เขา “ยังไม่รีบไสหัวเข้าไปอีก!”