เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2581 แขกคนสำคัญ / ตอนที่ 2582 คนคนนี้ไม่ธรรมดา
ตอนที่ 2581 แขกคนสำคัญ
ชั่วขณะหนึ่ง เธอเงียบงัน นั่งขมวดคิ้วนิ่งๆ อยู่อย่างนั้น
“คุณชายเฟิ่ง? คุณชายเฟิ่ง?”
เห็นเฟิ่งจิ่วนั่งเงียบๆ เจ้าเมืองจึงขานเรียกสองครั้ง กระทั่งเห็นเขาค่อยๆ ได้สติ จึงเอ่ยว่า “ไม่ทราบคุณชายเฟิ่งยังมีเรื่องอะไรอยากถามอีกหรือไม่? หากเป็นเรื่องที่ข้ารู้จะไ ไม่บ่ายเบี่ยงแน่นอน”
ได้ยินอย่างนั้น เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง ก่อนตอบว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ อย่างนั้นข้าขอถามท่านเจ้าเมืองหน่อย ให้ข้าหาข้อมูลในหอเก็บตำราของจวนเจ้าเมืองหน่อยได้หรือไม่? ?”
เจ้าเมืองชะงักไปเล็กน้อย “เรื่องนี้…”
เขามองเฟิ่งจิ่วอย่างลังเลเล็กน้อย ก่อนจะหันไปมองลูกชายตนเอง สุดท้ายก็ตอบว่า “ขอเพียงคุณชายเฟิ่งยินยอมแก้พันธสัญญาทาส ข้าจะให้คุณชายเฟิ่งอยู่ในหอเก็บตำราของจวนเจ้าเมือ องเป็นเวลาสามวัน เพียงแต่หลังจากสามวัน ไม่ว่าคุณชายเฟิ่งจะหาข้อมูลที่ต้องการเจอหรือไม่ ก็ต้องไปจากที่นี่”
หลิงเทียนอวี่ที่อยู่ด้านหนึ่งเห็นบิดาเขาตอบรับคำร้องขอของเขา ก็อดไม่ได้ที่จะขยับปากทำท่าจะพูด แต่สุดท้ายก็ไม่รู้จะพูดอะไร หรือจะปฏิเสธ? จากนั้นก็ให้เขาเป็นทาสของ เฟิ่งจิ่วงั้นหรือ?
นึกมาถึงตรงนี้ เขากัดฟัน จ้องเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงด้วยสายตาไม่เป็นมิตรแวบหนี่ง ก่อนแค่นเสียงแล้วเบนหน้าไปทางอื่น
เฟิ่งจิ่วเองก็ไม่ได้สนใจหลิงเทียนอวี่ แต่หลังจากได้ยินเงื่อนไขของเจ้าเมือง เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปากน้อยๆ “ได้”
ด้วยประการฉะนี้ เจ้าเมืองและหลิงเทียนอวี่ลั่นคำสาบานต่อฟ้าดินต่อหน้าเฟิ่งจิ่ว สาบานว่าหากเฟิ่งจิ่วแก้พันธสัญญาทาสแล้ว พวกเขาจะไม่ตามรังควาน และไม่ส่งคนไปสังหารเขา หรือหา าเรื่องเขาอีก
สุดท้าย เฟิ่งจิ่วลบตราประทับทาสตรงหัวคิ้วของหลิงเทียนอวี่ แก้พันธสัญญาทาสระหว่างทั้งสองคน
เมื่อเห็นดังนั้น เจ้าเมืองถอนหายใจโล่งอก เผยรอยยิ้มออกมา “คุณชายเฟิ่ง คืนนี้พักผ่อนที่นี่ก็แล้วกัน! พรุ่งนี้เช้าข้าจะให้คนพาท่านไปที่หอเก็บตำรา”
“อย่างนั้นก็รบกวนแล้ว” เฟิ่งจิ่วคารวะเจ้าเมือง เริ่มมีมารยาทขึ้นมา
“ไม่รบกวน” เจ้าเมืองยิ้มๆ เรียกพ่อบ้านเข้ามา ให้เขาพาเฟิ่งจิ่วไปพักผ่อน
หลังจากที่เฟิ่งจิ่วกลับไป หลิงเทียนอวี่ก็เดินมาหาบิดา ถามด้วยน้ำเสียงหงุดหงิดว่า “ท่านพ่อ จะให้จบอย่างนี้จริงหรือ?”
เจ้าเมืองที่ยืนเอามือไขว้หลังมองเขาด้วยหางตา ใบหน้าเคร่งขรึมมีแววเดือดดาล “หากไม่ใช่เพราะเจ้าที่วันๆ เอาแต่ทำตัวเหลวไหลอยู่ข้างนอก ก่อเรื่องสร้างปัญหา ข้าที่เป็นถึงเจ้า าเมืองมีหรือที่ต้องลดตัวขอร้องผู้อื่นเช่นนี้? ยังต้องอนุญาตให้เขาอยู่ในหอเก็บตำราถึงสามวัน? เหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาที่เจ้าก่อ ยามนี้แม้แต่คำพูดที่ว่าจะไม่หาเรื่องเขาอีกก ก็พูดออกไปแล้ว ทำไม? หรือเจ้าจะกลับคำพูด?”
เขาจ้องหน้าลูกชาย เอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ข้าขอเตือนเจ้า ระหว่างนี้ให้เจ้าฝึกวรยุทธ์เงียบๆ อยู่ในบ้าน หากข้ารู้ว่าเจ้าออกไปทำตัวเหลวไหลอยู่ข้างนอกอีก ดูว่าข้าจะตีเ เจ้าให้ขาหักหรือไม่!” สิ้นเสียงเตือน เจ้าเมืองหลิงสะบัดแขนเสื้อสาวเดินออกไป ทิ้งหลิงเทียนอวี่ให้ยืนอยู่ในห้องโถงใหญ่คนเดียว
เฟิ่งจิ่วถูกจัดให้ไปพักที่เรือนหลังหนึ่งในจวนเจ้าเมือง ถูกปฏิบัติราวกับแขกคนหนึ่ง เพียงแต่คนในจวนเจ้าเมืองต่างก็รู้ดี เป็นเพราะเจ้าเมืองน้อยของพวกเขาที่พ่ายแพ้ให้กั บเขา เจ้าเมืองจึงได้เชิญเขามาที่จวนเช่นนี้
หากไม่มีเจ้าเมือง เดาว่าเจ้าเมืองน้อยคงต้องกลายไปเป็นทาสของคนผู้นี้แล้ว นึกถึงว่าชายหนุ่มชุดแดงยังอายุน้อยก็มีพลังแข็งแกร่งขนาดนี้แล้ว บรรดาคนในจวนเจ้าเมืองทั้งใน ที่ลับและในที่แจ้งต่างก็จ้องมองเขาอย่างพินิจพิจารณาอย่างเงียบๆ
โดยเฉพาะสาวรับใช้ในจวนเจ้าเมือง เมื่อเห็นใบหน้างดงาม บุคลิกโดดเด่นของเขา ก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะคาดเดา คุณชายชุดแดงผู้นี้เป็นใครมาจากไหนกันแน่? ถึงขั้นทำให้เจ้าเมืองน้อ อยของพวกเขาพลาดท่าได้ สุดท้ายยังกลายมาเป็นแขกคนสำคัญของท่านเจ้าเมืองได้อีก ช่างไม่ธรรมดาจริงๆ
………………………………….
ตอนที่ 2582 คนคนนี้ไม่ธรรมดา
ได้พักในจวนเจ้าเมือง เฟิ่งจิ่วเองก็ไม่ได้เกรงใจพวกเขา ทันทีที่เข้าพักก็สั่งให้สาวรับใช้ไปทำอาหารมาสองสามอย่าง พร้อมกับยกสุรามาด้วย จากนั้นก็นั่งกินที่ลานสวน
เวลานี้เอง หลิงเทียนอวี่เดินเข้ามาจากข้างนอก เห็นเขาถึงขั้นทำตัวตามสบายอยู่ในจวนของตนเอง ไร้ท่าทีเกรงอกเกรงใจ ก็อดแค่นเสียงเย็นชาไม่ได้ “เจ้ากลับสบายอกสบายใจนัก ทำ จนเหมือนบ้านข้าจะเป็นบ้านของเจ้าเองอยู่แล้ว!”
เฟิ่งจิ่วมองเขาด้วยหางตา “ทำไม? เจ้าเมืองน้อยก็จะมาดื่มด้วยหรือ?”
หลิงเทียนอวี่ใบหน้าเคร่งขรึม จ้องมองเฟิ่งจิ่ว ก่อนจะตวาดถามเสียงต่ำ “เฟิ่งจิ่ว! เจ้าเป็นใครกันแน่? แล้วเจ้าจะตามหาบันไดสู่แดนเซียนไปทำไม?”
เฟิ่งจิ่วที่ได้ยินคำถามเผยยิ้ม เธอหมุนถ้วยสุราในมือเล่น มองดูสุราในถ้วยไหลไปตามมือของเธอเบาๆ ก่อนยิ้มตอบว่า “ข้าเป็นใครเจ้าก็รู้แล้วไม่ใช่หรือ? ส่วนเรื่องที่ข้า จะตามหาบันไดสู่แดนเซียนทำไม นั่นก็เรื่องของข้า ไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้ากระมัง?”
เธอเงียบไปครู่หนึ่ง นัยน์ตาสุกใสจับจ้องไปที่เขา ยิ้มเอ่ยว่า “อีกอย่าง ตอนนี้พันธสัญญาทาสบนตัวเจ้าก็แก้แล้ว ทำไมยังเตร่ไปเตร่มาต่อหน้าข้าอยู่ได้?”
“ข้าเตร่ไปเตร่มาต่อหน้าเจ้า?” เสียงของเขาสูงขึ้นเล็กน้อย เหมือนสัตว์ตัวน้อยที่ถูกเหยียบหางอย่างไรอย่างนั้น รีบคัดค้านทันที “เป็นเจ้าที่มาพักอยู่ในบ้านข้า ไม่ใช่ข้ามาเตร ร็ดเตร่อยู่ต่อหน้าเจ้า!”
“ตอนนี้ข้าเป็นแขกในจวน เจ้าที่เป็นเจ้าเมืองน้อยปฏิบัติต่อแขกเช่นนี้หรือ?” เธอยักคิ้วมองเขา “ไม่ทราบว่าท่านเจ้าเมืองรู้หรือไม่ว่าเจ้าเมืองน้อยมาหาข้าที่นี่?”
หลิงเทียนอวี่ได้ฟังก็ชะงักงัน เขาจ้องเฟิ่งจิ่วด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม แค่นเสียงขึ้นจมูกหนึ่งที ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อแล้วจากไป
เวลานี้ เฟิ่งจิ่วหยักยิ้มมุมปาก ไม่ได้สนใจเขาแต่อย่างใด เพียงกินข้าวเสร็จแล้วก็เดินเล่นในลานสวนสักครู่หนึ่ง จากนั้นก็สั่งให้คนเตรียมน้ำร้อนอาบ อาบเสร็จก็เข้านอนพักผ่อนแ แต่หัวค่ำ
กลางคืน ณ จวนเจ้าเมือง
เจ้าเมืองออกมาที่หลังเขาเพียงลำพัง หลังจากผ่านเขตอาคมและค่ายกล ก็เข้าไปในถ้ำแห่งหนึ่ง เมื่อมาถึงข้างในก็คารวะอย่างนอบน้อม “ท่านพ่อ”
“เข้ามา” ในห้องศิลาห้องหนึ่งในถ้ำ มีชายชราผู้หนึ่งนั่งขัดสมาธิฝึกวรยุทธ์อยู่ ครั้นได้ยินเสียงจากข้างนอก เขาลืมตามองออกไป
ได้ยินเสียงตอบรับ เจ้าเมืองจึงเข้าไปข้างใน เดินมาหยุดยืนต่อหน้าชายชรา “ท่านพ่อ ลูกมารบกวนท่านกลางดึก ได้โปรดอภัยด้วย”
“มีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ?” ชายชราถามเสียงขรึม
“เมื่อกลางวันอวี่เอ๋อร์ทำเรื่องเหลวไหลเรื่องหนึ่งข้างนอก…” เจ้าเมืองเล่าเรื่องทั้งหมดคร่าวๆ สุดท้ายก็เอ่ยว่า “ประเด็นสำคัญคือ ลูกได้ยินเฟิ่งจิ่วนั่นพูดถึงบันไดสู่แดนเซียน จ จึงรู้สึกเหนือความคาดหมายอยู่บ้าง”
เขาเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนเอ่ยอีกว่า “ข้าจำได้ท่านพ่อเคยบอกว่า บันไดสู่แดนเซียนเป็นสะพานทอดสู่อีกหนึ่งดินแดน มีเพียงมีวรยุทธ์ถึงระดับจักรพรรดิเซียนจึงจะมีคุณสมบัติขึ้นบัน นไดนั่น และจำได้ท่านพ่อเคยบอกว่า บันไดสู่แดนเซียนมีทั้งหมดเก้าหมื่นเก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้าขั้น แต่ละขั้นล้วนเต็มไปด้วยอันตราย เปลี่ยนแปลงยากคาดเดา”
ชายชราได้ฟังก็ลูบหนวด ก่อนจะถามว่า “เฟิ่งจิ่วผู้นี้เป็นใคร? แล้วรู้เรื่องบันไดสู่แดนเซียนได้อย่างไร?”
เจ้าเมืองครุ่นคิด ตอบว่า “คนคนนี้สวมชุดสีแดง ใบหน้าหล่อเหลางดงาม ดูท่าทางอายุประมาณยี่สิบกว่า แม้จะซ่อนกลิ่นอายพลัง แต่บารมีของผู้แข็งแกร่งนั่นลูกกลับยังคงสัมผัสได้ เพ พียงแต่คนคนนี้ลึกล้ำยากคาดเดา ไม่ธรรมดานัก แต่เรื่องประวัติความเป็นมานั้น พวกข้ากลับไม่รู้อะไรเลย”
ได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของชายชรามีประกายลึกล้ำพาดผ่าน เขาถามด้วยน้ำเสียงแช่มช้า “หมายความว่า พรุ่งนี้เขาจะไปที่หอเก็บตำรา?”
………………………………….