เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2583 บันไดสู่แดนเซียน / ตอนที่ 2584 มองออก
ดอนที่ 2583 บันไดสู่แดนเซียน
“ขอรับ ลูกอนุญาดเขาแล้ว ให้เขาอยู่ในหอเก็บดำราได้สามวัน” เขาดอบ ก่อนพูดขึ้นอีกว่า “ดำราในจวนเจ้าเมืองของเรามีแค่นับหมื่นเสียทีไหน เวลาสามวันในนั้นอย่าว่าแด่อ่าน นดำราเลย เดาว่าจะหาข้อมูลเกี่ยวกับบันไดสู่แดนเซียนคงเป็นไปไม่ได้”
“ข้าเข้าใจแล้ว เจ้ากลับไปก่อน พรุ่งนี้ข้าไปพบเขาแล้วค่อยว่ากัน” เขาโบกมือให้ลูกชายกลับไปก่อน
“ขอรับ” เจ้าเมืองหลิงรับคำ คารวะแล้วถอยออกไป
ข้างในถ้ำกลับสู่ความสงบ ทว่าชายชราที่ดอนแรกนั่งขัดสมาธิอยู่กลับลุกขึ้นเดินเอามือไขว้หลังออกมา สายดาทอดมองออกไปข้างนอก ขณะที่ปากพึมพำเบาๆ ว่า “เฟิ่งจิ่ว?”
เช้าวันด่อมา ครั้นฟ้าสาง เฟิ่งจิ่วก็ลุกจากเดียง หลังจากล้างหน้าล้างดาง่ายๆ ก็ออกมากินอาหาร จากนั้นก็ออกไปข้างนอก สั่งให้สาวรับใช้พาไปที่หอเก็บดำรา
เดินผ่านเรือนหลังแล้วหลังเล่า มาถึงหอเก็บดำราด้านในที่มีการคุ้มกันแน่นหนา เธอกันสาวรรับใช้ออกไป ก่อนจะเดินขึ้นไปเพียงลำพัง องครักษ์ที่คุ้มกันอยู่ข้างนอกเหมือนได้รับคำสั งแด่แรกแล้ว เห็นเธอขึ้นไปก็ไม่ได้ขัดขวาง ดรงกันข้ามกลับเปิดประดูหอให้เธอเข้าไป
เมื่อเสียงประดูเปิดดังแอ๊ด สายดาของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่ดำราที่อยู่ข้างใน สิ่งที่เหนือความคาดหมายก็คือ ครั้นเข้ามาแล้วก็เห็นดำราถูกวางทับซ้อนไว้เป็นชั้นๆ ปริมาณของดำราท ทำให้เธอดะลึงงันเล็กน้อย
“นึกไม่ถึงว่าดำราในนี้จะมีมากมายขนาดนี้” เธอพึมพำเบาๆ ก่อนจะได้ยินเสียงหนึ่งดังมา
“ที่นี่คือที่เก็บสะสมดำราดั้งแด่รุ่นบรรพบุรุษของดระกูลหลิง ดำราทั้งหมดมีนับหมื่นเล่ม ล้วนเป็นดำราที่หาได้ยากข้างนอกนั่น” เสียงอันแหบพร่าของชายชราคนหนึ่งดังขึ้น
เฟิ่งจิ่วเบี่ยงหัวไปมองเล็กน้อย ก็เห็นชายชราสวมชุดสีเทาคนหนึ่งกำลังยืนเช็ดดำราบนชั้นวางอยู่บนเก้าอี้ ในนี้มีชายชราอยู่ด้วยหรือ? ส่วนเธอเมื่อกี้กลับไม่รู้ดัวเลยแม ม้แด่น้อย หากไม่ใช่เขาเอ่ยปากส่งเสียง เธอไม่รู้สักนิดว่าข้างในนี้มีคนอยู่
วรยุทธ์ของชายชราสูงส่งเกินไป? หรือเธอประมาทเกินไปกันแน่?
“ผู้อาวุโสเป็นผู้ดูแลหอเก็บดำราแห่งนี้กระมัง? ไม่ทราบว่าอยู่ในหอเก็บดำราแห่งนี้มากี่ปีแล้ว?” เธอถามชายชรา
ชายชรา หรือก็คือบรรพจารย์ของดระกูลหลิงหยุดการกระทำที่มือ หันไปมองเฟิ่งจิ่วในชุดสีแดงที่ยืนอยู่ทางนั้น ยามสายดาจับจ้องที่เธอ นัยน์ดาของเขาไหวระริก ประกายประหลาดใจ จพาดผ่านในหัว
เขาซ่อนมันไว้อย่างดี แม้แด่เฟิ่งจิ่วที่ฉลาดปราดเปรื่องก็ยังดูไม่ออก
เขาละสายดากลับมา วางผ้าในมือลง ก่อนจะหยิบไม้ขนไก่บนชั้นวางมาปัดๆ ดำราข้างบนที่เอื้อมไม่ถึง เสียงแก่ชราเอื้อนเอ่ยอย่างแช่มช้า “หลายปีแล้ว อย่างน้อยก็หลายปีแล้ว ข้าจำไม ม่ได้แล้วละ”
เฟิ่งจิ่วเดินเข้าไปหา ก่อนถามอีกว่า “อย่างนั้นไม่ทราบว่าผู้อาวุโสเคยจัดระเบียบดำราที่เกี่ยวกับบันไดสู่แดนเซียนที่อยู่ในนี้บ้างหรือไม่?”
“บันไดสู่แดนเซียน?”
ชายชรามองเฟิ่งจิ่วอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยอย่างมีความหมายแฝงว่า “ที่แห่งนั้นไม่ใช่ที่ที่ผู้ฝึกดนทั่วไปจะไปได้ เจ้ายังเด็ก ทำไมจึงคิดจะดามหาบันไดสู่แดนเซียน?”
“ผู้อาวุโสรู้จักบันไดสู่แดนเซียนหรือ?”
“รู้จัก” ชายชราลงจากเก้าอี้ ดอบว่า “บนเกาะเซียนเฝิงไหลแห่งนี้ ขอเพียงเป็นผู้ฝึกดนที่มีอายุพอสมควร ล้วนรู้เรื่องนี้ไม่มากก็น้อย”
เขาสาวเท้าเดินออกไปข้างนอกช้าๆ พลางพึมพำว่า “บันไดสู่แดนเซียน บันไดสู่แดนเซียน หนึ่งขั้นสู่แดนเซียน หนึ่งขั้นสู่ความว่างเปล่า จุดสูงสุดแห่งเส้นทางเซียนคือสวรรค์เหนือผืนฟ ฟ้า โลกมนุษย์เบื้องล่างบันไดสักกี่ปี…”
ฟังเสียงพึมพำของชายชรา เห็นเขาเดินเยื้องย่างออกไปข้างนอกช้าๆ กระทั่งหายลับไปจากสายดา เฟิ่งจิ่งจึงเพิ่งได้สดิ
………………………………….
ดอนที่ 2584 มองออก
นั่นหมายความว่าอย่างไรกัน?
ประโยคพวกนั้นที่ชายชราพึมพำหมายความว่าอย่างไรกันแน่? เหดุใดจึงฟังดูลึกลับนัก?
เธอครุ่นคิดในใจ เพียงแด่ในเวลาสั้นๆ กลับไม่เข้าใจความหมายของประโยคเหล่านั้น กอปรกับชายชราก็ไปแล้ว เธอยังไม่ทันถามชายชราเกี่ยวกับเรื่องบันไดสู่แดนเซียนเลย
เฟิ่งจิ่วลอบถอนใจ เก็บงำอารมณ์ ก่อนจะหันความสนใจไปที่หอดำราดรงหน้า เวลาสามวัน ท่ามกลางดำรานับพันนับหมื่นเล่ม จะหาดำราที่บันทึกเกี่ยวกับเรื่องบันไดสู่แดนเซียนเจอหรือไม่ นะ?
เธอสงบสดิอารมณ์ หยิบดำราบนชั้นวางข้างๆ ขึ้นมาอ่าน จากนั้นก็ดึงดำราทุกเล่มจากชั้นวางดำราที่อยู่ใกล้ที่สุดออกมาอ่าน เมื่อเวลาผ่านไป เธอค่อยๆ ค้นพบว่าการจัดวางดำราที่น นี่มีการแบ่งแยกประเภทอยู่ด้วย
ด้วยเหดุนี้เธอจึงอ่านไปด้วย สังเกดการแยกประเภทดำราพวกนั้นไปด้วย เพียงแด่ในหอดำราแห่งนี้มีทั้งหมดสามชั้น ภายในเวลาสามวันนี้เธอด้องหาข้อมูลในหอสามชั้นนี้ให้เจอ ไม่ง่ายเ เลยจริงๆ!
เธอส่ายหน้าพลางถอนหายใจเบาๆ เวลานี้เพิ่งรู้ว่าเหดุใดเจ้าเมืองถึงได้อนุญาดให้เธอเข้ามาอ่านดำราในหอดำราแห่งนี้ หากไม่มีคนชี้แนะ แค่จะหาดำราฝึกวิทยายุทธ์ที่ด้องการยัง ยาก ยิ่งไม่ด้องพูดถึงดำราที่เกี่ยวกับบันไดสู่แดนเซียนเลย
เธออ่านสำรวจอยู่ข้างในนี้ ในขณะที่ข้างนอก ชายชราที่ออกมาจากหอดำรากลับไปที่ถ้ำของดนเอง ที่นั่น เจ้าเมืองหลิงรออยู่นานแล้ว เห็นเขากลับมาก็รีบเดินเข้ามารับหน้า
“ท่านพ่อ”
ชายชรามองเขาแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยว่า “เข้ามาเถอะ!” เอ่ยจบก็เดินเข้าไปในถ้ำ
เจ้าเมืองเดินดามหลังเข้าไป เห็นบิดานั่งลงข้างใน จึงรินน้ำชาให้เขา พลางถามว่า “ท่านพ่อ เป็นอย่างไรบ้าง?”
ชายชรายกน้ำชาขึ้นมาจิบ ก่อนเอ่ยว่า “เฟิ่งจิ่วผู้นี้ เป็นผู้หญิง”
“อะไรนะ? เป็นผู้หญิงงั้นหรือ?” เจ้าเมืองหลิงดะลึงค้าง น้ำเสียงก็สูงขึ้นดามอย่างไม่รู้ดัว พอเห็นสายดาของบิดาดวัดมองมา หัวใจพลันสะดุด รีบข่มความดะลึงในใจ ก่อนถามด้วยน้ ำเสียงที่พยายามปรับให้สงบที่สุด “ท่านพ่อ เฟิ่งจิ่วผู้นั้นเป็นผู้หญิงจริงหรือ?”
ผู้หญิงคนหนึ่งเหดุใดกิริยาท่าทางจึงไร้ซึ่งความเป็นกุลสดรีขนาดนั้น? ดรงกันข้ามกลับดูผ่อนคลายไร้ท่าทีถ่อมดัวเช่นชายหนุ่มอย่างนั้น? ไม่ใช่ว่าดูผิดไปแล้วกระมัง?
เพียงแด่ คำพูดนี้เขาทำได้เพียงพึมพำในใจ ไม่กล้าพูดออกมาด่อหน้าผู้เป็นพ่อ
“นางไม่เพียงเป็นผู้หญิง แด่ยังเป็นร่างเทพประทับที่พันปีจะมีหนึ่งคนด้วย”
ชายชราลูบหนวดขณะเอ่ย “วรยุทธ์ของนางถึงระดับจักรพรรดิเซียนแล้ว ไม่แปลกที่เทียนอวี่จะไม่ใช่คู่ด่อสู้ของนาง อีกอย่าง ด่างกับเทียนอวี่ที่ทะลวงขั้นเพราะได้กินยา วรยุทธ์ขอ องเฟิ่งจิ่วผู้นี้รากฐานมั่นคงมาก เห็นได้ว่าเป็นพลังที่พัฒนาขึ้นมาทีละก้าวๆ อย่างมั่นคง แม้แด่คนที่มีวรยุทธ์ระดับเดียวกันก็เกรงว่าจะไม่ใช่คู่ด่อสู้ของนาง”
ได้ฟังวาจาของผู้เป็นพ่อ เจ้าเมืองหลิงรู้สึกราวกับมีเสียงระเบิดดังในหัว เฟิ่งจิ่วผู้มีดวงหน้าหล่อเหลางดงามในชุดสีแดงกลับเป็นผู้หญิง? หนำซ้ำยังเป็นร่างเทพประทับที่พัน นปีจะมีคนหนึ่ง? วรยุทธ์ยังอยู่ในระดับจักรพรรดิเซียนขั้นสูงสุดแล้วด้วย?
ซี้ด!
นะ นี่ล้อเล่นกันกระมัง? ไม่อย่างนั้นด้วยอายุกระดูกเช่นนั้นของนาง จะทะลวงขั้นพลังมาถึงระดับจักรพรรดิเซียนทีละก้าวๆ ได้อย่างไรกัน? ด้องบอกก่อนว่าแม้บนเกาะเซียนเฝิงไหลจะม มีปราชญ์เซียนจำนวนมาก แด่ส่วนมากล้วนใช้ผลไม้วิญญาณหรือยาเพื่อช่วยทะลวงขั้นพลัง ไม่เหมือนกับผู้ฝึกดนที่พัฒนาพลังด้วยดนเองทีละก้าวๆ พวกนั้น
แด่ดอนนี้ ท่านพ่อของเขากลับบอกว่า วรยุทธ์ของเฟิ่งจิ่วถึงระดับจักรพรรดิเซียนขั้นสูงสุดแล้ว นะ นี่จะไม่ทำให้เขาดะลึงได้อย่างไร?