เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2597 ไม่สงบ / ตอนที่ 2598 ช่วยเหลือ
ตอนที่ 2597 ไม่สงบ
เด็กสาวกระพริบตาปริบๆ ยิ้มกว้างขณะถามเฟิ่งจิ่ว
เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นจึงเขียนคำว่าเฟิ่งจิ่วลงบนโต๊ะ
“เฟิ่งจิ่ว? ชื่อของเจ้าเรียบง่ายดีจริงๆ แต่แซ่เฟิ่งนั้น เหมือนข้าจะไม่เคยได้ยินมาก่อน” เด็กสาวว่า นางหันไปมองชายชรา “ท่านปู่เคยได้ยินแซ่เฟิ่งบ้างหรือไม่?”
“แซ่เฟิ่งพบได้ไม่มากนัก” ชายชราตอบ หันมองเฟิ่งจิ่ว “เจ้าเป็นคนที่ไหน? แล้วนี่จะไปที่ใด?”
เฟิ่งจิ่วเขียนคำว่าผู้ฝึกตนไร้สำนักเดินทางท่องโลกลงบนโต๊ะ
“เจ้าน่ะหรือผู้ฝึกตนไร้สำนัก? อ่อนแอกว่าข้าเสียอีก” เซี่ยอวี้ถังมองเฟิ่งจิ่วด้วยหางตา พึมพำเบาๆ “ท่องโลก นั่นคือคนที่ไม่มีบ้านให้กลับ ไม่น่าเล่าถึงได้กางกระโจมนอนข้ างนอกอย่างนั้น”
เฟิ่งจิ่วที่นั่งรถม้าไปกับพวกเขาค่อยๆ หลับไประหว่างที่ถามคำตอบคำ เธอนั่งพิงอยู่ตรงมุมของรถม้า ครั้นหลับลึก ร่างกายก็โงนเงนไปมากระทั่งเอนตัวนอนลงไป
เมื่อท้องฟ้าเริ่มมืด พี่น้องคู่นั้นก็หลับไปด้วย มีเพียงชายชราที่ลืมตาขึ้นหลังจากที่พวกเขาลืม สายตาปราดเปรื่องจับจ้องไปที่เฟิ่งจิ่ว
หลังได้พูดคุยกัน และสังเกตการณ์แล้ว ด้วยประสบการณ์ของเขา เด็กหนุ่มคนนี้เป็นคนธรรมดาไม่สะดุดตาอะไร ในเมื่อไม่มีภัยคุกคามต่อพวกเขา เขาก็จะไม่ใส่ใจอีก ชายชราคิดได้ดังนั้น ก็พิงรถม้าก่อนจะหลับพักผ่อน
ส่วนเฟิ่งจิ่วแม้จะหลับตาและหายใจอย่างเป็นจังหวะสม่ำเสมอ แต่กลับไม่ได้นอนหลับ เธอกำลังครุ่นคิดอยู่ ประการแรกคือเธอไม่คุ้นเคยกับที่นี่ จะตามหาใจกลางเกาะแห่งนั้นก็เดาว่าคง งไม่ง่าย
ประการที่สองคือบังเอิญได้เจอคนจากตระกูลเซี่ยพอดี ได้ยินพวกเขาพูดเหมือนว่ากำลังจะเดินทางไปยังใจกลางเกาะ แทนที่จะตามหาด้วยตนเอง ไม่สู้ติดตามพวกเขาไป จากนั้นก็ค่อยหาโอกาส ไปต่อจะสะดวกกว่าหรือไม่
โดยเฉพาะ บันไดสู่แดนเซียนนั่นลึกลับยากคาดเดาขนาดนั้น เธอเองก็อยากจะถือโอกาสนี้สืบเรื่องเกี่ยวกับบันไดสู่แดนเซียนเพิ่มอีกสักหน่อย รวมถึงทำความรู้จักกับเกาะเซียนเฝิงไหลแ แห่งนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้จึงคิดว่าติดตามคนของตระกูลเซี่ยเป็นทางเลือกที่ไม่เลวนัก
ที่สำคัญกว่าก็คือ เธอถูกชะตาคนตระกูลเซี่ยนัก
ม้าวิญญาณเมื่อเริ่มวิ่งก็รวดเร็วอย่างมาก เสียงกุบกับดังลั่นไปทั่วบริเวณ ท่ามกลางค่ำคืนราวกับท่วงทำนองเพลงกล่อมนอนอย่างไรอย่างนั้น ทำให้คนในรถม้าที่ได้ยินต่างก็หลับใหลอย ย่างสนิท
หนึ่งคืนผ่านไป ยังนับว่าสงบสุข เพียงแต่ยามฟ้าใกล้สาง จู่ๆ ม้าวิญญาณก็เหมือนถูกอะไรกระแทกเข้า รถม้าหยุดกะทันหัน เพราะแรงเหวี่ยงทำให้คนในรถม้าเสียหลักล้มถลาไปข้างหน้า
“กรี๊ด! เกิดอะไรขึ้น?” เซี่ยซือซือกรีดร้องด้วยความตกใจ หลังจากประคองร่างได้ก็ชะโงกหน้าออกไปทางหน้าต่างรถ
ทว่าเฟิ่งจิ่วช้อนตามองออกไปแวบหนึ่ง เห็นประกายเย็นเยียบเส้นหนึ่งพุ่งเข้ามา จึงรีบยื่นมือดึงนางทันที
“ระวัง!”
ชายชราตะโกนเสียงต่ำ หัวใจราวกับตึงเกร็งไปชั่วขณะ เขาเห็นกระบี่คมเล่มนั้นพาดผ่านหน้าต่างรถม้าด้วยตาตนเอง เหงื่อผุดพรายอย่างควบคุมไม่ได้
เมื่อกี้หากไม่ได้เฟิ่งจิ่วดึงไว้ เกรงว่าหัวของหลานสาวของเขาคงถูกตัดไปแล้ว
เซี่ยซือซือที่ล้มนั่งอยู่บนรถม้าหน้าซีด “เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้ข้าเหมือนถูกตรึงร่างไว้ ขยับตัวไม่ได้เลย” นางพูดอย่างหวาดกลัวไม่หาย พลางตบหน้าอกตนเองไปด้วย
เซี่ยอวี้ถังได้สติ เขาบอกว่า “พวกเจ้าฟังดู ข้างนอกเหมือนจะต่อสู้กันแล้ว?”
เขารีบเปิดม่านขึ้นเพื่อมองออกไป ค้นพบว่าคนขับรถม้านอนล้มอยู่ด้านหนึ่ง และด้านหน้ารถม้า ยังมีคนชุดดำกลุ่มหนึ่งกำลังต่อสู้กับองครักษ์ตระกูลเซี่ยที่ปรากฏตัวออกมาจากใน มุมมืด
………………………………….
ตอนที่ 2598 ช่วยเหลือ
“ท่านปู่ คนขับรถถูกฆ่าแล้วขอรับ!” เซี่ยอวี้ถังพูดด้วยสีหน้าที่ดูย่ำแย่ เขาลุกขึ้นจากนั้นก็กระโดดลงจากรถม้าทันที เตรียมตัวจะเข้าร่วมการต่อสู้
“กลับมา! อย่าวิ่งเพ่นพ่าน!” ชายชราตวาดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด แต่กลับเห็นหลายชายกระโดดลงไปแล้ว เขาจึงรีบดึงเซี่ยซือซือลงจากรถม้าทันที
เฟิ่งจิ่วที่ยังอยู่ในรถม้าเห็นก็รีบตามลงไป สายตากวาดมองรอบๆ พบว่าคนชุดดำที่โจมตีคนตระกูลเซี่ยมีประมาณยี่สิบกว่าคน ส่วนองครักษ์ที่คอยคุ้มกันอย่างลับๆ ระหว่างการเด ดินทางมีเพียงสิบกว่าคนเท่านั้น แม้พลังจะสูสีกัน แต่อีกฝ่ายมีจำนวนคนมากกว่า หากเป็นเช่นนี้สถานการณ์ไม่สู้ดีแน่
โดยเฉพาะเมื่อนอกจากองครักษ์พวกนั้น ในรถม้าสองคันคนที่มีพลังค่อนข้างแข็งแกร่งก็มีเพียงชายชรากับชายวัยกลางคนเท่านั้น ตอนนี้ชายชราปกป้องหลานชายและหลานสาวของเขาอยู่ ส่วน นชายวัยกลางคนยังต้องปกป้องภรรยาที่ไร้พลังต่อสู้ในอ้อมแขนอีก
เห็นหญิงงามหลบอยู่ข้างกายชายวัยกลางคน ทั้งที่หวาดกลัวมาก แต่กลับไม่พูดอะไรสักคำ เฟิ่งจิ่วลอบประหลาดใจ ตระกูลเซี่ยฟังดูแล้วก็เป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง เหตุใดจึงแต่งงานกั บผู้หญิงที่ไร้วรยุทธ์ได้? นับว่าน่าแปลก
“ซี้ด อ๊าก!”
เซี่ยอวี้ถังหลบไม่ทัน ถูกพลังจากกระบี่ยาวในมือคนชุดดำคนหนึ่งฟันแขนเข้า เลือดทะลักไหลออกมา ทำให้เขากรีดร้องออกมาโดยสัญชาตญาณ ฝีเท้าเซถอยไปข้างหลัง ทว่าในเวลานี้เอง กร ระบี่ยาวของคนชุดดำพุ่งแทงเข้ามา เล็งไปที่จุดตายของเขา คล้ายต้องการจะปลิดชีพเขาในกระบี่เดียว
“อวี้ถัง!”
“อวี้ถัง ระวัง!”
ชายชรากำลังปกป้องหลานสาวจึงไม่อาจเข้าไปช่วย ส่วนชายวัยกลางคนก็กำลังปกป้องหญิงงามจึงไม่อาจปลีกตัว เห็นกับตาว่าเซี่ยอวี้ถังกำลังจะถูกฆ่า ชายทั้งสองดวงตาแดงก่ำ ไอพิฆาตพวยพ พุ่ง กระบี่ยาวที่ฟาดฟันสังหารยิ่งเพิ่มความดุดันและรุนแรง ทั้งสองล้วนอยากเข้าไปช่วยเขา
แต่ทว่าในเวลานี้เอง เฟิ่งจิ่วที่ยืนอยู่ข้างรถม้าขยับฝีเท้า เงาร่างโฉบไหว รีบพุ่งเข้าไปดึงคอเสื้อของเซี่ยอวี้ถัง จากนั้นก็กระชากเขาถอยไปข้างหลัง
ดาบนั้นแทงเข้ามาในเวลาเดียวกัน พลังกระบี่อันดุดันพาดผ่าน ทำเอาเซี่ยอวี้ถังตกใจหน้าถอดสี การเคลื่อนไหวก็ชะงักค้างตามไปด้วย
หลังจากเห็นเขาหลบกระบี่ที่โจมตีจุดตายนั้นไปได้ คนของตระกูลเซี่ยถอนหายใจ พวกเขาพยายามรวมกลุ่มกัน ปกป้องคนอ่อนแอไว้ตรงกลาง
เฟิ่งจิ่วดึงเซี่ยอวี้ถังหลบการโจมตีจากคนพวกนั้น เพราะเซี่ยอวี้ถังตกใจมาก การตอบสนองจึงช้าไปครึ่งก้าว จนกระทั่งดาบในมือของคนชุดดำคนหนึ่งฟันลงมาตรงกลางระหว่างพวกเขาสอง คน ทั้งสองก็แยกจากกัน ยืนห่างกันในระยะหนึ่ง
เห็นคนชุดดำสองคนโจมตีเข้ามา เฟิ่งจิ่วนัยน์ตาไหวระริก
หากใช้พลังย่อมหลบหลีกได้อย่างง่ายดาย กระทั่งสังหารคนชุดดำสองคนนั้นได้ แต่สถานการณ์จะบังคับให้เธอต้องแสดงวรยุทธ์ออกมา หากถูกเปิดโปง เดาว่าคงจะตีสนิทคนของตระกูลเซี่ย ยไม่ได้ง่ายๆ แล้ว
นึกมาถึงตรงนี้ เธอสะดุดใจเล็กน้อย ครั้นเห็นคนชุดดำสองคนพุ่งโจมตีเข้ามา เธอโถมตัวกระโดดไปข้างหน้า คว้าเอาตัวเซี่ยอวี้ถังก่อนจะกลิ้งไปทางชายชรา
เพียงแต่ขณะที่ทั้งสองคนกลิ้งไป เฟิ่งจิ่วเห็นประกายเย็นเยียบสะท้อนแสงเส้นหนึ่งพุ่งเข้ามา เดิมทีตั้งใจจะหลบตามสัญชาตญาณ แต่จู่ๆ กลับมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เธอยกมือขึ้นปัด ป้อง
พลังกระบี่พาดผ่าน เฉือนแขนของเธอจนเป็นรอยแผลหนึ่งเส้น เซี่ยอวี้ถังเห็นเลือดสาดกระเซ็น เขาตะลึงค้างไปทันที มองเฟิ่งจิ่วอย่างไม่อยากเชื่อ ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะยอมเจ็บตัว ขนาดนี้เพื่อช่วยชีวิตตนเอง…