เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2611 แลกเปลี่ยนประลองกำลัง / ตอนที่ 2612 เฉียดฉิว
ตอนที่ 2611 แลกเปลี่ยนประลองกำลัง
หญิงงามส่ายหน้า “นิสัยนี้ของเจ้าต้องหัดสำรวมเสียบ้าง อยู่ในบ้านก็เรื่องหนึ่ง ออกไปข้างนอกหากยังทำตัวเช่นนี้ จะเกิดปัญหาได้ง่ายๆ”
“ท่านแม่ ข้ามาหาเฟิ่งจิ่ว ข้าไม่พูดกับท่านแล้ว” เซี่ยอวี้ถังบอก หันไปเอ่ยกับเฟิ่งจิ่วที่อยู่ด้านหนึ่ง “เจ้าออกไปกับข้า” เอ่ยจบก็เดินสาวเท้ายาวๆ ออกไปข้างนอก
เฟิ่งจิ่วคารวะหญิงงาม ก่อนจะเดินตามเซี่ยอวี้ถังออกไป ครั้นมาถึงข้างนอก ก็เห็นเซี่ยอวี้ถังหันกลับมา กระซิบเสียงเบาว่า “ลูกหลานทางบ้านหลักนัดข้าไปแลกเปลี่ยนประลองกำลัง เจ้าไปกับ ข้าด้วย อย่าให้ท่านพ่อและท่านแม่ของข้ารู้”
เฟิ่งจิ่วมองเขาแวบหนึ่ง หยิบกระดาษและพู่กันออกมาเขียน บอกเขาว่าเธอจะไปห้องครัวก่อน
“นี่ยังไม่ถึงเวลากินข้าว ไปทำอะไรที่ห้องครัว?” เซี่ยอวี้ถังขมวดคิ้ว เอ่ยอีกว่า “เอาละๆ เจ้าไปเถอะ! ข้าไปรอเจ้าทีประตูใหญ่ เร็วหน่อยเล่า”
เฟิ่งจิ่วมองดูเขาออกไป จากนั้นก็สาวเท้าไปทางครัว หญิงงามบอกว่ามีอาหารบำรุงคอที่ห้องครัว อย่างนั้นไปดูที่ครัวก่อนแล้วค่อยว่ากัน
ระหว่างทางไปห้องครัว เหล่าบ่าวรับใช้หญิงย่อเข่าคารวะ ปากก็ขานเรียกว่าหัวหน้าผู้ดูแลอย่างเคารพ ใช่แล้ว หญิงงามกำชับทุกคนในจวนทั้งบนและล่าง เธอก็คือหัวหน้าผู้ดูแลในจวน ผู ที่ทำหน้าที่ดูแลทุกเรื่องเล็กใหญ่ในจวนแห่งนี้
ที่จริง ก็แค่ดูแลเรื่องของบ่าวรับใช้ในจวนเท่านั้น ส่วนเรื่องอื่น ล้วนอยู่ในการดุแลของหญิงงาม เธอไม่เข้าใจเลย เหตุใดหญิงงามถึงได้ให้ความสำคัญกับเธอขนาดนี้?
ในสายตาเธอ สิ่งที่เธอแสดงออกว่าก็ถือว่าอยู่ในความพอดี ไม่ได้มีอะไรน่าดึงดูดแต่อย่างใด กลับเป็นหญิงงามที่ทำให้เธออ่านใจไม่ออก
เธอที่อยู่ทางนี้กำลังเดินไปทางห้องครัว เซี่ยอวี้ถังที่อยู่ข้างนอกกำลังรอเฟิ่งจิ่วอยู่ที่ประตูใหญ่ เขาคอยชะเง้อมองเป็นระยะ ก็ไม่เห็นเงาร่างของเฟิ่งจิ่ว กระทั่งเริ่มหมดความอ อดทน ขณะคิดจะสั่งให้คนไปดูที่ห้องครัว ก็เห็นเงาร่างสีเขียวเดินออกมา
“เร็วหน่อยๆ รอแต่เจ้านี่แหละ” เขากวักมือเรียก สาวเท้ายาวๆ เดินไปทางเรือนหลักของตระกูลเซี่ย
เฟิ่งจิ่วเดินตามหลังเขาเข้าไปในเรือนหลัก เดินไปจนถึงลานประลองของเรือนหลัก ยังไม่ทันเข้าไปใกล้ ก็เห็นเด็กหนุ่มอายุใกล้เคียงกับเซี่ยอวี้ถังยืนอยู่ตรงนั้นสิบกว่าคน พวกเขาจับ บกลุ่มคุยกัน ครั้นเห็นเซี่ยอวี้ถังเดินมา ก็พากันหันมามอง มองพิจารณาเซี่ยอวี้ถังตั้งแต่หัวจรดเท้า
“เจ้าก็คือเซี่ยอวี้ถัง บุตรสายอ้อมที่เพิ่งย้ายเข้ามาอยู่ในเรือนทิศใต้?” เด็กหนุ่มคนหนึ่งถาม มองเซี่ยอวี้ถังขึ้นๆ ลงๆ ก่อนพูดขึ้นว่า “ข้ายังนึกว่าจะเป็นเด็กหนุ่มที่โดดเด่น ขนาดไหนกันเชียว ที่แท้ก็แค่นี้เอง!”
“เจ้าเป็นใคร!” เซี่ยอวี้ถังมองตาขวาง จ้องเด็กหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่พอใจ
“ท่านปู่ของข้าคือผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลเซี่ย” เด็กหนุ่มเชิดคางอย่างหยิ่งยโส
“พรืด! ข้าก็นึกว่าใคร! ที่แท้ก็หลานชายของผู้อาวุโสสูงสุด” เซี่ยอวี้ถังเอ่ยหยัน ไม่มองเขาอีก เพียงเดินผ่านเขาไปแล้วกล่าวว่า “ไหนว่าจะแลกเปลี่ยนประลองกำลัง? ข้าก็มาแล้วนี่อย ย่างไร”
เหล่าเด็กหนุ่มมองหน้ากันแวบหนึ่ง มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งเผยยิ้ม ก้าวออกมา “ในตระกูลมีกฎห้ามสู้กันเอง ฉะนั้นการแลกเปลี่ยนประลองกำลังของพวกเราจะต้องหยุดเมื่อถึงจุดเกินเลย ห้ามทำ อีกฝ่ายบาดเจ็บ”
“ข้ารู้” เซี่ยอวี้ถังพยักหน้า
“อวี้ถัง คนอื่นในตระกูลต่างก็ค่อนข้างสนิทสนมกัน มีแต่เจ้าที่เพิ่งมาถึงไม่นาน ระหว่างผู้ชายอย่างเรา วิธีที่จะสนิทสนมและเป็นหนึ่งเดียวกันได้เร็วที่สุดก็คือประลองกำลัง ฉะนั้น เจ้าก็อย่าโทษพวกข้าที่ใช้วิธีนี้มาทำความรู้จักกับเจ้าก็แล้วกัน” เด็กหนุ่มคนนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยน ละสายตาจากเซี่ยอวี้ถัง หันไปมองเฟิ่งจิ่ว
………………………………….
ตอนที่ 2612 เฉียดฉิว
เด็กหนุ่มยังไม่ทันเอ่ยปาก เซี่ยอวี้ถังชิงพูดขึ้นก่อน “เขาเป็นเพื่อนร่วมเรียนของข้า ข้าให้เขาตามข้ามา ให้เขาดูอยู่ตรงนั้น”
เด็กหนุ่มได้ยินอย่างนั้นก็ละสายตาออกไป ไม่ได้สนใจเฟิ่งจิ่วอีก แต่สั่งให้เด็กหนุ่มทุกคนเดินมารวมตัวกัน จากนั้นก็หารือกันเรื่องกฎการประลอง
เฟิ่งจิ่วยืนดูอยู่ด้านหนึ่ง เห็นเด็กหนุ่มเหล่านี้ต่างก็ตื่นเต้น สีหน้ากระตือรือร้น เธออดหยักยิ้มมุมปากไม่ได้
อายุเท่านี้พวกเขามีกฎของตระกูลคอยปกป้อง จึงทำอะไรตามใจได้อย่างไร้กังวล แม้เธอเองก็อิสระมากเช่นกัน แต่ศัตรูมีมากเกินไป ปัญหามีมากเกินไป ไม่ได้ทำอะไรตามใจเหมือนเด็กหนุ่มพวก นี้มานานแล้ว
เธอหาที่นั่งแถวๆ นั้นแล้วนั่งลง ล้วงผลไม้ในแขนเสื้อออกมากิน พลางนั่งชมการประลองของเด็กหนุ่มพวกนี้ไปด้วย อืม เป็นอย่างที่พวกเขาว่ากันจริงๆ เมื่อถึงจุดเกินเลยพวกเขาก็หย ยุดการประลอง ไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายบาดเจ็บจริงๆ
กินผลไม้หมด ก็เริ่มรู้สึกเบื่อๆ เพราะอย่างไรในสายตาของเธอ การประลองของพวกเขาเหมือนเด็กกำลังเล่นกันเสียมากกว่า ไม่มีอะไรให้น่าดู
เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเซี่ยอวี้ถังลากเธอมาทำอะไรที่นี่
เห็นว่าที่นี่ไม่มีเรื่องอะไร เธอจึงคิดจะไปหาที่ปลดทุกข์เสียหน่อย ขณะกำลังจะลุกเดินออกไป หางตากลับเหลือบเห็นประกายวาบวับพาดผ่าน เธอหยุดฝีเท้าแล้วหันไปมองทางนั้นทันที
คนที่กำลังประลองกันคือเซี่ยอวี้ถังและเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ส่วนคนอื่นกำลังมองดูกันอยู่ข้างนอก ในมือของเด็กหนุ่มคนหนึ่งถือมีดบินเล่มเล็กๆ ไว้ในมือ มีดบินเล่มนั้นสะท้อนแสงว วาบวับออกมาภายใต้แสงอาทิตย์ นั่นจึงทำให้เฟิ่งจิ่วเห็น
เธอมองเด็กหนุ่มที่ถือมีดบินแวบหนึ่ง จำได้ว่าเป็นเด็กหนุ่มที่บอกว่าเป็นหลานชายของผู้อาวุโสสูงสุด เพียงแต่ในการประลองกำลังเช่นนี้ เขาถือมีดบินไว้คิดจะทำอะไรกัน?
ขณะกำลังคิด ก็เห็นเขายิ้มมุมปากอย่างเหี้ยมเกรียม สายตาชั่วร้ายจับจ้องไปที่เซี่ยอวี้ถังที่อยู่ในสนามประลอง พริบตาต่อมา จู่ๆ เขาก็ถอยหลังไปหนึ่งก้าว ฉวยโอกาสตอนที่ไม่มีใครสังเก กตเห็นถ่ายกลิ่นอายพลังวิญญาณใส่มีดบินในมือแล้วซัดออกไป
มีดบินที่พุ่งออกมากะทันหันบินไปทางเซี่ยอวี้ถัง เด็กหนุ่มที่อยู่รอบๆ ตะลึงงัน พวกเขาร้องด้วยความตกใจ “มีมีดบินได้อย่างไร? เซี่ยอวี้ถังรีบหลบเร็ว!”
เซี่ยอวี้ถังซัดคู่ประลองให้ถอยหลัง ขณะหันกลับไปก็เห็นมีดบินเล่มหนึ่งพุ่งเข้ามา คิดจะหลบโดยสัญชาตญาณ ทว่า ความเร็วในการตอบสนองกลับสู้มีดบินไม่ได้
“ซี้ด! รีบหลบเร็ว!”
เห็นมีดบินพุ่งไปที่จุดอันตรายถึงชีวิตของเขา เด็กหนุ่มที่อยู่รอบๆ ต่างก็หน้าซีด พวกเขาเพียงต้องการประลองกำลังกัน แต่นึกไม่ถึงว่าจะมีคนลอบเล่นงานในที่ลับ หากเซี่ยอวี้ถังถูก กมีดบินโจมตีโดนและตายอยู่ที่นี่ เกรงว่าพวกเขาแต่ละคนล้วนหนีความผิดไม่พ้นแน่!
เห็นมีดบินเล่มนั่นพุ่งตรงไปยังจุดอันตรายถึงชีวิตของเซี่ยอวี้ถัง หลานชายของผู้อาวุโสสูงสุดอดกลั้นหายใจไม่ได้ ที่จริงเขาไม่ได้คิดจะฆ่าเซี่ยอวี้ถัง เขาเพียงต้องการให้บทเรียนกับ เขา ให้เขาได้ลิ้มรสกับความลำบากบ้าง เมื่อกี้ที่ขว้างมีดบินออกไปก็ไม่ได้เล็งไปที่จุดตายของเขา แต่เพราะเซี่ยอวี้ถังขยับตัวหลบเลี่ยงจึงทำให้เป็นเช่นนี้ ตอนนี้ ครั้นเห็นว่า ไม่อาจแก้ไขสถานการณ์ได้อีกแล้ว เขาเองก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ
เฟิ่งจิ่วตวัดมองคนพวกนั้นแวบหนึ่ง สายตากวาดมองผ่านเด็กหนุ่มที่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว รีบรวบรวมกลิ่นอายพลังวิญญาณแล้วดีดออกไป ปัดมีบินเล่มนั้นให้ร่วงลงพื้น
“เกร๊ง!”
เสียงแหลมใสดังขึ้นมา มีดบินแฝงกลิ่นอายรุนแรงที่พุ่งออกมาร่วงตกลงไปต่อหน้าของเซี่ยอวี้ถังในระยะหนึ่งกำปั้นเท่านั้น…